ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #5 : ARC 0 :: 3. [ Get past ]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64



     

     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)

    อัพตอนสมบูรณ์ ; 7 January 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021


     

    ARC 0 :: 3. [ Get past ]

    warning - hurt/comfort








     

         ซาจิตะอยู่บ้านใหม่มาราวๆสามเดือนได้แล้ว เธอยังคงเก็บตัวอยู่เงียบๆ เรียกได้ว่าหากไม่ถาม - ก็จะไม่ได้ตอบอะไรออกไปเลยสักคำ

         วันนี้ตอนเช้าผู้ปกครองของเธอก็แค่ทักทาย ตามมารยาท ซาจิตะจึงตอบกลับไปว่าอรุณสวัสดิ์เช่นเดียวกัน เด็กหญิงสิบขวบฟังและตอบคำถามในสิ่งที่เขาถาม จนท่าทางของเธอดูเหมือนใบ้… ซาจิตะรู้แค่ว่าชายหนุ่มคนนั้นออกไปทำงานและจะกลับช้ากว่าปกติ บ้านหลังนี้จึงมีเพียงแค่เธออยู่คนเดียว

         เด็กหญิงนั่งอยู่บนโซฟาในเวลาบ่าย เธอนั่งมองโทรทัศน์ที่กำลังฉายรายการตลก ดวงตาสีฟ้าหม่นที่มองมัน ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบทุกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเอื้อมมือไปกดช่องไหนให้ทีวีเปลี่ยน


         ถ้าเป็นเวลาแบบนี้ เมื่อสามปีก่อนตอนอายุเจ็ดขวบ ซาจิตะคงหาวิธีฆ่าตัวตายเป็นแน่แท้…แต่เพราะตอนนี้เด็กหญิงรู้ว่ามันคือการสร้างปัญหา เธอจึงอยู่เฉย


         เธอกอดเข่า

         เขารู้จักแม่ของเธอ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ซาจิตะยังนั่งอยู่ตรงนี้

         กว่าจะรู้ตัวจากบ่ายก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเวลาเย็นค่ำ จากรายการตลกก็เป็นรายการข่าวประจำวัน ภาพของความโกลาหลวุ่นวายที่ฉากอยู่ในหน้าจอสร้างความตระหนกให้เด็กหญิง ดวงตาสีฟ้าเบิกตากว้างยามเห็นว่าสิ่งที่ปรากฎบนด้านหลังของผู้ประกาศข่าวภาคสนาม มีวิลเลินและกลุ่มของฮีโร่กำลังปราม หนึ่งในนั้น - ชุดเดียวกับที่ผู้ปกครองของเธอใส่ออกไป

         ตาของเธอเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น

         ซาจิตะรู้ว่าก้อนเนื้อในอกที่กำลังเต้น หมายความว่าอะไร - กลัว ความกลัว กลัว กลัวไปหมด

         เด็กหญิงผมสีเทาคว้ารีโมทบนโต๊ะ ออกแรงกดปุ่มปิดไม่ให้เห็นภาพ


     

         "ไม่...ไม่นะ ได้โปรด"


     


     


     


     


     


     

         อย่าได้พรากใครไปจากเธออีกเลยนะ

         อย่าได้เป็นอันตรายเลย

         ขอร้องนะ ขอร้อง - ได้โปรด

         ไม่อยากอีกแล้ว ไม่เสียเขาไปได้ไหม


     


     


     


     


     


     

         เด็กหญิงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางมือลงบนอก ความรู้สึกกลัวเกิดขึ้น จนน้ำตาขึ้นมาคลอ ชิโอริ ซาจิตะพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเอง สูดลมหายใจเข้าช้าๆ และถอนลมหายใจออกให้เป็นจังหวะเดียวกัน ความเครียดกำลังรุมเร้าเด็กหญิง เธอบอกตัวเองว่าเธอจะเครียดไม่ได้ ไม่งั้นสิ่งที่ทำมาตลอดสามเดือนที่ผ่านมาจะหมดความหมาย  - ในสามเดือนที่ผ่านมาหลังออกจากสถานรับเลี้ยง ซาจิตะได้รับการเข้าพบแพทย์ ได้รับการรักษาด้วยยา

         มันเป็นครั้งแรกที่ซาจิตะเข้าใจว่าอัตลักษณ์ของตนเองมีเงื่อนไขอะไร ตอนที่กลืนยาลงไป ร่างกายของเธอตอบสนองต่อยาพวกนั้น จนเกิดอาการแพ้ และเขาก็ช่วยเธอด้วยอัตลักษณ์ของเขาที่ช่วยหยุดยีนส์อัตลักษณ์ของเธอไม่ให้ทำงานระหว่างที่เด็กหญิงกำลังกินยา

         ใช้เวลาพักใหญ่กว่าลมหายใจจะค่อยๆกลับมาเป็นการผ่อนเข้าผ่อนออกอย่างปกติ

         ใบหน้าของเด็กหญิงก้มมองหน้าขาของตนเองที่มีรอยเล็บจิกเป็นรอยขึ้นเด่นชัด ความเจ็บของมันค่อยๆถูกบรรเทาด้วยฤทธิ์ของอัตลักษณ์ อัตลักษณ์ของเธอ...ฮีลลิ่ง เป็นอัตลักษณ์ที่สามารถฟื้นฟูร่างกาย บาดแผล ซึ่งแลกมากับการแพ้ยาทุกชนิดที่ร่างกายได้รับเข้าไป สารเคมีที่เข้ามาในร่างกายจะทำให้เลือดของเธอเป็นพิษ


     

         "ใจเย็น...ใจเย็นๆไว้ ซาจิตะ"


     

         เธอปลอบตัวเอง มองไปที่นาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว เด็กหญิงลุกจากโซฟา ตรงไปยังครัว ค่อยๆจัดการทำมื้อเย็นอย่างเชื่องช้า แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ของง่ายๆ อย่างการหุงข้าวและการทอดไข่เจียวธรรมดาๆใบหนึ่ง

         ซาจิตะตักข้าวใส่จาน และ ใช้ตะหลิวค่อยๆยกไข่เจียวที่ถูกเจียวจนสุกแล้วเล็งใส่จานที่มีข้าวเปล่า เด็กหญิงถือจานกลับไปวางบนโต๊ะ… มีท่าทีลังเลคล้ายไม่มั่นใจเลยว่าจะตักมันใส่ปากดีไหม

         ซาจิตะรู้ รู้ว่าเธอกำลังรอเขา

         หม่าม๊าเคย...เคยบอกว่าตอนกินข้าวด้วยกันมันอร่อยที่สุด


     

         เธอลุกขึ้นไปเจียวไข่อีกใบและนำจานอีกใบมาวางตรงข้ามที่นั่งของตัวเอง ปล่อยให้เวลาผ่านไป จากหกโมงเย็นค่อยๆเข้าสู่ทุ่มหนึ่ง ล่วงเลยจนถึงสองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม เสียงออดที่ดังขึ้นก็ทำให้ซาจิตะลุกจากเก้าอี้ เด็กหญิงวิ่งออกไป

         คนตรงหน้ากลับมาพร้อมสภาพที่ชุดสีดำมีรอยเลือดเปรอะเปื้อน ถึงเห็นไม่ชัดนะ แต่กลิ่นของสนิมที่โชยออกมาก็ทำให้ซาจิตะนิ่งค้าง


     

         "ทำไมยังไม่นอนอีก ฉันบอกแล้วไงว่า…" ท้ายหางเสียงของคนอายุมากกว่าเงียบลง เขาตาเบิกกว้าง หลังจากที่เด็กหญิงตัวสั่น รู้อีกทีมันเป็นอีกครั้ง อีกครั้งที่เขาเห็นเธอร้องไห้ "ซาจิตะ…"


     

         "ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณที่ไม่เป็นอะไร"


     

         เธอรำพัน มือพยายามปาดของเหลวที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ "หนูกลัว กลัวมากๆ"


     

         ไอซาวะ โชตะ ถลาเข้ามาหาตัวเด็กหญิง เขานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าและกอดร่างเล็กเอาไว้ น้ำเสียงเนือยเป็นเอกลักษณ์พยายามปลอบประโลม "ไม่เป็นไรๆ - อย่ากลัว ใจเย็นๆ"

         เขาไม่เก่งเลยเรื่องแบบนี้

         แต่เขาก็พยายามเต็มที่กับมัน


     

         "หนูกลัว…"


     

         "ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว อย่ากลัวเลย"


     

         "คุณไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?"


     

         "ฉันสบายดี"


     

         ไอซาวะตอบลูกสาวบุญธรรม เขากอดร่างเล็ก มือก็ขยับขึ้นลูบกลุ่มผมสีเทาควันบุหรี่หยักศกที่ตัดสั้น "ไม่เป็นไร"


     

         ร่างกายในอ้อมกอดยังสั่นและร้องไห้ออกมา

         เหมือนเมื่อสามเดือนก่อนที่เขาไปพาเธอออกมา


     

         แต่ครั้งนี้ - เป็นครั้งแรกที่เธอยอมพูด


     

         "คุณเจ็บตรงไหนไหมคะ...บาดเจ็บรึเปล่า? หนู หนูช่วยคุณได้นะ คิดว่าได้ หนูจะพยายามช่วยรักษาคุณนะคะ"


     

         เขาดีดเหม่งของเธอไปทีเป็นการเรียกสติ


     

         "ฉันไม่เป็นอะไรหรอก"


     

         มันเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้ม

         และมันก็เป็นครั้งแรกที่ซาจิตะยอมพูดยาวขนาดนี้


     

         เขาเกลี่ยน้ำตาให้


     

         "กินข้าวเย็นรึยัง?"


     

         "หนูรออยู่"


     

         "ทำอะไรกินล่ะ?"


     

         "ไข่เจียว"


     

         "อื้อ ไปกินด้วยกันนะ"


     

         เขาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่ม เมื่อเห็นว่าลูกสาวบุญธรรมหยุดร้องไห้แล้ว ไอซาวะที่คิดจะผละออก ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเด็กหญองในอ้อมกอดยังไม่ปล่อยมือ


     

         "อยู่แบบนี้ก่อนได้ไหมคะ…"


     

         เธอขอ


     

         "คุณพ่อ"


     

         มันเป็นครั้งแรก

         ที่ลูกสาวบุญธรรมวัยสิบขวบ

         ยอมเปิดใจให้เขา

         เป็นสัญญาณที่ดีที่เธอคิดจะก้าวผ่านอดีต













     

         "ห้างเหรอคะ…?"


     

         "อื้อ"


     

         ไอซาวะจูงมือลูกสาวบุญธรรมออกมาเดินห้างในวันหยุด เมื่อเธอถามเขาก็ตอบรับไป อาจเพราะคนเป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างเขาเอาคำแนะนำของเพื่อนร่วมงานมาใช้ให้เป็นประโยชน์ก็ได้ จึงพาเธอออกมาเที่ยวเล่นในช่วงวันหยุดบ้างเพื่อไม่ให้รู้สึกหม่นอยู่ในบ้านเพียงลำพัง

         เธอมองไปรอบๆ


     

         "หนูไม่ได้มานานแล้ว ดูเปลี่ยนไปเยอะเลย…"


     

         "อยากได้อะไรก็บอก"


     

         "ขอบคุณค่ะ…"


     

         เธอตอบรับพร้อมยิ้มเจื่อนบางๆ เป็นรอยยิ้มที่เห็นแล้วสร้างความสงสัยกับพ่อบุญธรรม แต่เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้เด็กผู้หญิงที่ตัวเองกำลังจับมืออยู่ ตัวเขาพาเธอเดินไปในแผนกต่างๆของห้างสรรพสินค้า ทั้งเสื้อผ้า เครื่องเขียน และ ขนม ของกิน เครื่องใช้ต่างๆ


     

         "หนูไม่ได้มานานแล้วจริงๆนะ"


     

         เธอเอ่ยย้ำบอก


     

         "ถ้าอยากมาอีก จะพามาบ่อยๆ"


     

         "ขอบคุณนะคะ…"


     

         เขายีเส้นผมสีเทาควันบุหรี่ ตอนนี้หลังจากเลือกซื้อของเสร็จแล้ว คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อก็ฝากของให้ลูกสาวบุญธรรมนั่งเฝ้าอยู่ที่ม้านั่ง เดินตรงไปที่ร้านขนม ก่อนจะสั่งซอฟท์ครีมวนิลาใส่โคนกรอบมาให้คนที่นั่งรออยู่

         ตาสีฟ้าอ่อนที่เหมือนกับรุ่นพี่คนนั้นมองมาที่เขาอย่างสงสัยยามที่หนุ่มผมสีมะเกลือยื่นมันไปข้างหน้าเธอ


     

         "ซอฟท์ครีม…?"


     

         "ฉันซื้อให้"เขาบอก "กินสิ"


     

         หลังประโยคนั้นจบมือเล็กก็ยื่นมาตรงหน้า ไอซาวะไล่สายตามองบนฝ่ามือที่มีรอยคล้ายแผลเป็นอะไรสักอย่างอยู่บนนั้น


     

         "แผลเป็นเหรอ?"


     

         "อ่า...ค่ะ"


     

         เธอตอบด้วยน้ำเสียงเบาหวิวคล้ายไม่อยากจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟังว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เด็กหญิงอัตลักษณ์ฮีลลิ่งใช้ลิ้นแลบเลียเนื้อของเย็นเชื่องช้าอย่างไม่รีบร้อน "มันได้มาตอนอยู่ในที่รับเลี้ยงค่ะ"


     

         "เดี๋ยวมันก็หายนะ"


     

         เขาไม่ได้หมายถึงแผล

         แต่เขาแค่หวังว่าเธอจะก้าวข้ามผ่านเรื่องทั้งหมดไปได้ - เขาอยากให้กำลังใจเธอให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


     

         "หม่าม๊าเคยพูดว่า...หม่าม๊าเคยอยากเป็นฮีโร่"


     

         เธอค่อยๆพูดออกมา ไอซาวะตั้งใจฟังเธอ


     

         "คุณพ่อก็...เป็นฮีโร่เหมือนกันใช่ไหมคะ?"


     

         ถามพร้อมเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาสีฟ้าอ่อนที่เหมือนชิโอริ ซาโตมิ อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

         ท่าทางแบบนั้นทำให้เขาเผลอลูบหัวเธอ


     

         "อื้อ เป็นฮีโร่" เขาบอกไป "พ่อเป็นฮีโร่"


     

         "ดีจัง เป็นถึงฮีโร่เลย"


     

         "ลูกก็เป็นได้เหมือนกัน"


     

         เขาหลุดปากพูดออกไป - แต่ก็ตัดสินใจที่จะพูด "เพราะลูกคือของขวัญจากแม่ของลูก - เป็นคำอวยพรของแม่ที่อวยพรให้มาตลอด"


     

         ไอซาวะพูดในสิ่งที่ตนคิดว่ารุ่นพี่สาวจะพูดกับลูกสาวของเธอ เขาหลับตาลงและตัดสินใจพูดต่อ


     

         "จงมีแต่ความสุข ซาจิตะ"


     

         แม้ว่าดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจะไม่อาจส่องประกายได้ดั่งวัยเยาว์ แต่เขาก็ขอพรจากฟ้า

         ว่าอย่าให้มันได้หมองและเจ็บปวดไปมากกว่านี้


     

         "คุณพ่อ…"


     

         "หือ?"


     

         "อยากได้ตุ๊กตา…"


     

         น้ำเสียงดูเล็กลงกว่าเดิมเป็นการบอกว่าต้องการในสิ่งที่กำลังอยากได้อย่างแท้จริง อ่า - จะว่าไป เด็กผู้หญิง จะชอบตุ๊กตาก็คงจะไม่แปลกอะไร


     

         "หนู...เคยสัญญากับหม่าม๊าไว้ว่าจะมาดูตัวใหม่ด้วยกัน"


     

         เธอบอกเล่า ใบหน้าดูสลดลงยามนึกถึงคนเป็นแม่


     

         "มันเป็นครั้งแรกเลย...ที่หม่าม๊าผิดสัญญา…"


     

         ไอซาวะลูบหัวก่อนจะค่อยๆดึงแขนลูกสาวบุญธรรม "ลุกสิ เราจะไปดูตุ๊กตากัน"


     

         "แต่ว่า…"


     

         "ไปเลือกตุ๊กตาด้วยกันสิ"


     

         เขาชวนเธอ


     

         ภายในร้านตุ๊กตาที่มีตุ๊กตาเรียงรายไปหมด แม้เพียงแค่ชั่วขณะเดียว ความสุขก็ปรากฎในตาคู่หมองหม่น

         ซาจิตะเดินรอบร้านมองตุ๊กตาแต่ละตัว ก่อนจะไปสะดุดกับตุ๊กตาที่ถูกชะตามากที่สุด เป็นเพียงตุ๊กตาที่ไม่ต่างจากอะไรจากตัวอื่นเลย


     

         ไอซาวะจ่ายเงินค่าตุ๊กตาที่อยู่ในอ้อมกอดของเด็กหญิง


     

         เขารู้ดีว่าเวลาสามเดือนที่ผ่านมา ไม่อาจช่วยเด็กคนนั้นให้กลับมามีดวงตาที่เป็นประกายได้เลย

         แต่ว่า


     

         "คุณพ่อคะ"


     

         เธอเรียกเขา

         ตาสีนิลกาฬหันมองเด็กหญิงที่กำลังกอดตุ๊กตาอยู่


     


     


     


     


     


     

         เธอกำลังยิ้ม

         ยิ้มจนตาปิด

         ถึงแม้...จะไม่เห็นแววตาใต้รอยยิ้ม

         แต่การที่ยิ้มจนตาปิดแบบนี้ได้


     


     


     


     


     


     

         เพราะเด็กคนนี้ก็กำลังสู้อยู่

         สู้อยู่เหมือนกัน

         สู้เพื่อจะสามารถมีความสุข


     


     


     


     


     


     

         "ขอบคุณนะคะ"


     


     


     


     


     


     

         ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งอย่างเลย

         เธอเองก็หวังว่าจะผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปหมดให้ได้

         แม้เพียงสักนิด…











     

    |||||


     

    Talk with มาวว ♡

    เปงช่วงคึกมากในการอัพฟิคค่ะ แง

    เดี๋ยวไปนอนแล้ว 5555

    ยังไงก็ตาม ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ


     


     


     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×