ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #13 : ARC 1 :: 11. [ Don’t tell someone about my secret ]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64



     


     


     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)
     

     อัพตอนสมบูรณ์ ; 28 April 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 9 June 2021



     

    ARC 1 :: 11. [ Don’t tell someone about my secret ]

     




     

    คาบเรียนพื้นฐานฮีโร่ของออลไมท์จบลงไปแล้ว ซาจิตะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ เธอกลับไปใส่ชุดเครื่องแบบยูเอย์เหมือนเดิม เก็บคอสตูมใส่ในกล่องหมายเลขสิบสองให้เรียบร้อย

    เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นดี เด็กสาวก็ตรงกลับไปที่ห้องเรียน เข้าเรียน จดเลคเชอร์ไปเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร จนเวลาล่วงเลยมาถึงคาบสุดท้าย กริ่งหมดเวลาดัง สภาวะของห้องเรียนถูกทำลายลงหลังอาจารย์เดินออกจากห้องไป


    "นี่ มิโดริยะไม่กลับมาเรียนทั้งคาบบ่ายเลยนะ"


    "สงสัยคงเพราะยังไม่ฟื้นน่ะค่ะ"

    เธอตอบ - ซาจิตะพอเข้าใจดีว่ารีคัพเวอร์รี่เกิร์ลจะไม่ปล่อยกลับมาถ้าเขายังไม่ตื่น 

    ภายในห้องมีความวุ่นวายเกิดขึ้น บาคุโกกำลังจะกลับ มีนักเรียนบางส่วนของห้องพยายามรั้งเขาเอาไว้ แต่สุดท้ายด้วยความเอาแต่ใจและความโวยวายก็ทำให้เด็กหนุ่มอัตลักษณ์ระเบิดเดินหนีกลับบ้านไปได้


    ความหงุดหงิด ความไม่สบอารมณ์

    ซาจิตะสังเกตเห็น

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในคลาสของออลไมท์แล้ว


    "ฉันเองก็ขอตัวกลับบ้างนะคะ"


    เธอบอกทุกคน ดวงตาสีฟ้าอ่อนไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมามายมาก ใบหน้าเรียบนิ่ง ซาจิตะยกกระเป๋าเป้ของตนเองขึ้นสะพายหลัง เดินตามหลังคนที่หิ้วเป้ออกไปจากห้อง มีเสียงบอกลาว่า เจอกัน ชิโอริ ไล่ตามหลังมา

    เพราะกลับบ้านทำให้เธอต้องเดินตามหลังเขาไปในทางเดียวกัน ขณะหนึ่งที่บาคุโกหยุดเดิน เขาโวยวายใส่ซาจิตะ


    "จะตามมาทำไม หา!? ยัยยาฆ่าเชื้อ"


    เด็กสาวผมสั้นถอนหายใจกับคำของเพื่อนร่วมห้อง "ฉันจะกลับบ้านค่ะ"


    "ไม่ต้องมากลับทางเดียวกับฉันเลยนะ!"


    "อ้อ…" หล่อนไม่พอใจเท่าไร ซาจิยืนนิ่ง ปรายตามองคนที่อยู่บนขั้นบันไดที่ต่ำกว่าตัวเอง เธอกอดอก "ทำตัวเป็นเด็กๆที่แพ้แล้วพาลอยู่เหรอคะ?"


    "ใครมันแพ้แล้วพาลกัน!?"


    "เอาเป็นว่าถ้าไม่ให้ฉันเดินทางนี้ ฉันจะเดินไปอีกทางก็ได้ค่ะ"


    "เออ เรื่องของเธอสิ!"


    ซาจิส่ายหัวคล้ายเอือมระอา เธอถอนหายใจเดินแยกทางกับบาคุโก จะอะไรกันนัก ก็แค่เดินกลับทางเดียวกันเพราะประตูทางออกมันอยู่ฝั่งนี้ใกล้กว่าอีกฝั่ง เด็กสาวผมสีเทาควันบุหรี่หยักศกเดินถอยไป เตรียมเดินตรงไปอีกฝั่ง หากแต่ร่างที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาของคนคุ้นเคยวิ่งผ่านตัวของเธอไปด้วยความเร่งรีบ


    วิ่งทั้งๆที่แขนถูกดามไว้

    วิ่งแบบไม่ระมัดระวัง ไม่คิดชีวิตเลย


    "อิซึคุ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ"


    เธอส่งเสียงไล่หลังขณะที่กำลังวิ่งตาม หากแต่ระยะของเธอกับเด็กหนุ่มไม่ได้ลดน้อยลงเลย เด็กสาวยังคงแผดเสียงออกมาจากลำคอของตัวเอง แม้ว่าตัวเธอจะไม่ชอบการส่งเสียงดัง


    "ฉันบอกให้หยุดไงคะ!"


    ทางนั้นไม่ได้ปรายตากลับมาเหลียวมองเธอเลย เขาเร่งฝีเท้าขึ้นมากกว่าเดิม แต่เสียงของมิโดริยะ อิซึคุก็ตะโกนบอกเธอกลับมา


    "ขอโทษนะครับ! แต่ผมหยุดตอนนี้ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆครับ ซัจจัง!"


    เราวิ่งผ่านบันได วิ่งผ่านตู้ล็อคเกอร์ที่เก็บรองเท้า เราสองคนวิ่งผ่านร่างของเด็กผู้หญิงที่กำลังสวมใส่รองเท้า หากแต่ฝีเท้าทั้งสองคู่ของเธอกับเด็กหนุ่มก็ไม่หยุดวิ่ง จนกระทั่งมาสุดทางออก ร่างของบาคุโก คัตสึกิ - แผ่นหลังของเขาปรากฎให้เห็นอยู่ข้างหน้า


    "คัตจัง!!"


    อิซึคุตะโกน มิวายยังพยายามวิ่งออกไปให้ใกล้อีกฝ่ายมากกว่านี้ "คัตจัง!!"


    ร่างกายที่กำลังขยับเดินหยุดนิ่งหลังถูกเอ่ยเรียกซ้ำ นัยน์ตาสีโกเมนหันกลับมา ตวัดสายตาไม่เป็นมิตรใส่ - ซาจิตะเบนสายตามองไปยังเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างกายเขากำลังสูดลมหายใจเข้าปอด "มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ผมต้องให้นายรู้"


    เธอขมวดคิ้ว


    "อัตลักษณ์ของผมได้มาจากคนอื่น!"


    ความสงสัยแคลงใจเข้ามาในความคิด ซาจิตะไม่สามารถเข้าใจในคำพูดของเด็กหนุ่มที่กำลังอธิบาย และเธอก็มั่นใจว่าแม้แตาคู่สนทนาของอิซึคุตอนนี้ก็ไม่อาจเข้าใจมันได้ เพราะเขาก็ส่งเสียงออกมาอย่างฉงน


    "หา!?"


    "แต่เรื่องที่ได้รับมาจากใคร ผมคงบอกไม่ได้!"


    แม้น้ำเสียงจะสั่นกลัว แต่ก็ยังคงพยายามอธิบายออกมา "บอกไม่ได้...ถึงเรื่องพวกนี้จะเหมือนกับในพวกคอมมิค แต่มันคือเรื่องจริงครับ"


    คำพูดจริงใจ และ สายตาสีมรกตที่ซาจิตะกำลังมองท่าทางในตอนพูด มันแสดงออกมาว่าจริงใจไม่มีถ้อยคำโกหกปะปนอยู่ในประโยคแต่อย่างไร และมันก็ทำให้เธอนึกไปถึงเรื่องในอดีตเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา


    แม้แต่คนคนไร้อัตลักษณ์แบบผม…ก็เหมือนกันงั้นเหรอครับ?


    ตอนนั้นที่เราชนกัน - อิซึคุบอกกับเธอว่าเขาไร้อัตลักษณ์

    และเขาก็ถามถึงเรื่องพวกนี้

    ถ้าแบบนั้น - ตอนนี้ อัตลักษณ์ในตอนนี้ของเขา มันคืออะไรกัน?


    "แล้วตอนนี้ผมก็ยังควบคุมมันไม่ได้เลย มันเลยยังไม่ใช่ของผม เป็นของที่ยืมมาใช้ เพราะงั้นผมถึงอยากเอาชนะนายให้ได้ โดยที่ไม่ใช้มัน แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวผมต้องพึ่งพามันจนได้ ผมน่ะไม่เอาไหนเลยสักนิดครับ"


    คำพูดอธิบายแปลกๆยืดยาวที่ชวนให้ไม่เข้าใจหลั่งไหลออกจากริมฝีปากของเจ้าของผมสีเย็นตาผู้บาดเจ็บที่กำลังตะโกนออกไปเพราะต้องการส่งถ้อยคำเหล่านี้ให้ถึงเจ้าของผมสีฟาง - ซาจิตะสังเกตเห็นเด็กสาวคนเดิมที่ตอนแรกสวมใส่รองเท้าแถวล็อคเกอร์ตัดสินใจจะเดินหลบออกไปจากสถานการณ์กระอักกระอ่วนอย่างกล้าๆกลัวๆ

    และเธอก็หยุดเดินเพราะเสียงตะโกนหนักแน่นของอิซึคุ


    "เพราะงั้น...สักวันหนึ่งผมจะทำให้มันเป็นอัตลักษณ์ของผมเอง แล้วใช้พลังนี้ก้าวข้ามนายไปให้ได้!!"


    "แกพูดอะไรของแก?"


    น้ำเสียงหนักแน่น ถูกโต้ตอบด้วยน้ำเสียงโกรธที่กดต่ำลงจากบาคุโกที่กำลังไม่พอใจ "ของที่ยืมมา? แกพูดอะไรไร้สาระของของแก ไอ้เนิร์ดเวร"


    เขาเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่คล้ายกลับว่าในใจมีความรู้สึกแย่อยู่เต็มอก "มาหยามหน้ากันซ้ำสองแบบนี้ คิดจะทำอะไรกันแน่? หา? ก็แล้วมันยังไงกันล่ะ? วันนี้ฉันแพ้แกไปแล้ว! มันก็เท่านั้น มันก็เท่านั้น!" บาคุโกกัดฟันของตัวเอง "พอเห็นไอ้น้ำแข็งนั่น อยู่ๆก็คิดว่าคงสู้ไม่ไหวแน่ๆ! โธ่เว้ย! แล้วก็ยังยอมรับไอ้ที่ยัยผมหางม้านั่นพูดอีก!"


    ปากของบาคุโกสั่นเกร็ง ทำให้ตาสีฟ้าอ่อนของซาจิตะไหววูบตามไปยามเห็นความอ่อนแอของคนตรงหน้าที่กำลังระบายออกมา


    "โธ่เว้ย! โธ่เว้ย! โธ่เว้ย!!"


    ระบายออกมาโดยไม่มีคำพูดใดมาอธิบายความรู้สึกได้นอกจากคำสบถ


    "แกก็เหมือนกัน เดกุ จากนี้ไปจะเป็นฉัน เป็นฉันต่างหาก! ได้ยินรึเปล่า?! จะเป็นฉันที่จะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด! แกจะไม่มีวันเอาชนะฉันได้อีกครั้งแน่ ไอ้บ้าเอ้ย!"


    ถ้อยคำเหล่านั้นมีพลัง แต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยานที่ไม่ต้องการแพ้ใคร เป็นคำทิ้งท้ายที่แม้แต่อิซึคุที่เป็นฝ่ายพูดอยู่ตลอดก็ต้องนิ่งสงบลง แม้ว่าตอนนี้บาคุโกจะหันหลังเดินออกจากตรงนี้ก็ตาม

    แต่นั่นก็เพราะซาจิตะไม่ได้สังเกตเห็นน้ำตาของเพื่อนร่วมห้องคนนั้น และเด็กสาวตาบอดที่กำลังจะเดินออกไปเป็นฝ่ายสังเกตเห็นมันแม้ว่านางจะตาบอด อีกฝ่ายดูพยายามจะช่วยบาคุโก - แต่การปรากฎตัวของออลไมท์ก็ทำให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ในบรรยากาศเดิมที่ตึงเครียด


    "เจอตัวแล้ว! หนุ่มน้อยบาคุโก!"


    ออลไมท์กอดคอบาคุโกเอาไว้ "ฉันขอแนะนำอะไรหน่อยนะ บอกไว้เลยว่าความหยิ่งผยองก็สำคัญ เธอมีความสามารถที่จะเป็นโปรที่ดีได้เลยล่ะ จากนี้ไปเธอน่ะ ---"


    "ปล่อยได้ไหม ออลไมท์ ผมเดินไม่ได้"


    น้ำเสียงไม่พอใจตัดบทออลไมท์ คนที่หยิ่งผยองพองตนที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองสะบัดตัวออกหลังออลไมท์ปล่อย เขาเตรียมที่จะเดินหนีไป หากแต่ก็ยังทิ้งท้ายคำพูดให้กับอันดับหนึ่ง


    "ไม่ต้องบอกหรอก เพราะยังไงเป้าหมายของผมก็คือการก้าวข้ามคุณไปให้ได้"


    ออลไมท์นิ่งไปแล้ว ร่างสองร่างจากพื้นที่ตรงนี้ไปแล้ว ดวงตาสีฟ้าอ่อนกะพริบตาของตนเอง ซาจิตะพ่นลมหายใจหลังทุกอย่างสงบลงไปแล้ว

    จากการตอบสนองของเพื่อนร่วมห้องผมบลอนด์คนนั้น


    ออลไมท์รู้ตัวแล้วว่าในฐานะอาจารย์ - ตอนนี้เขาสอบตก


    "หนุ่มน้อยมิโดริยะ แม่หนูชิโอริ" เขาหันมาหาพวกเธอ เพ่งความสนใจมาที่ซาจิตะกับคนที่กำลังบาดเจ็บ "เมื่อกี้พวกเธอคุยอะไรกับหนุ่มน้อยบาคุโกเหรอ?"


    "อ...เอ่อ…"


    ท่าทางลำบากใจตะกุกตะกักที่ดูมีพิรุธ


    "ค่ะ พวกเราคุยกับบาคุโก" เป็นซาจิตะที่ตัดสินใจพูดจาลองเชิงคนเป็นผู้ใหญ่ - ตอนนี้เธอพยายามลองสันนิษฐานเอาจากข้อมูลที่ตัวเองมีจากการตั้งใจฟังบทสนทนาของคนสองคนเมื่อครู่


    เธอกำลังเดาว่าที่อิซึคุกำลังตะกุกตะกัก - เพราะเรื่องสำคัญเกี่ยวกับออลไมท์


    "อืม...ฉันอยากรู้รายละเอียดจัง เธอพอบอกฉันได้ไหม?"


    ซาจิตะยิ้มบางๆบนใบหน้าของตัวเอง


    "จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีคะ?" เด็กสาวยกมือขึ้นกอดอกของตัวเอง ตาสีฟ้าอ่อนตวัดตามองทั้งอิซึคุและออลไมท์


    "เริ่มจากที่...ออลไมท์ คุณทำยังไงให้คนไร้อัตลักษณ์มีอัตลักษณ์ได้ยังไงก่อนก็แล้วกันค่ะ"









    เด็กสาวตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ออลไมท์ฟังว่าเธอได้ยินอะไรที่อิซึคุพูดกับบาคุโกไปบ้าง ใบหน้าของเธอเรียบนิ่ง ขณะที่ใบหน้าที่มักประดับรอยยิ้มของฮีโร่อันดับหนึ่งดูตึงเครียด ออลไมท์หันไปหามิโดริยะหลังฟังทุกคำที่เด็กสาวเล่าจบ


    "บอกหนุ่มน้อยบาคุโกไปแล้วงั้นเหรอ?"


    ไม่มีคำปฏิเสธ

    เขาถอนหายใจและหันมาสบตาของซาจิ


    "ถูกแบบที่เธอสันนิษฐานไว้ทั้งหมดเลย แม่หนูชิโอริ"


    "มันเป็นความบังเอิญน่ะค่ะ"เด็กสาวบอก "ถ้าฉันไม่เคยเจออิซึคุมาก่อน ฉันก็คงไม่มั่นใจและมองว่าเขาประหลาดที่พูดอะไรเพ้อฝันแบบนั้นออกมา"


    "ขอโทษครับ"


    เป็นคำสามคำจากปากของคนที่เงียบอยู่นาน "กับแม่...ผมก็ไม่ได้บอกอะไร แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้ผมเลือกที่จะบอกคัตจัง…"


    เรื่องของอิซึคุกับออลไมท์เข้าใจยาก

    เรื่องของอิซึคุกับบาคุโกก็ไม่ต่างกัน


    "ผมต้องขอโทษจริงๆครับ"


    ออลไมท์ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาจ้องหน้าของซาจิตะแทน และตัดสินใจเล่าเรื่องพลังให้เธอฟัง เล่าเรื่องของวันฟอร์ออล ที่มาที่ไป และ เล่าว่าทำไมตอนนี้ผู้ถือครองมันถึงเป็นอิซึคุ เมื่อได้ฟังทุกอย่างจบลงแล้ว ซาจิก็ได้รับรู้ว่านี่มันเป็นความลับจริงๆ

    ความลับที่มีเพียงแค่คนไม่กี่คนที่รับรู้


    "โชคยังดีที่หนุ่มน้อยบาคุโก คิดว่าเธอเพ้อเจ้อ"คราวนี้หันกลับไปพูดกับผู้สืบทอดของตนที่ทำให้ความลับยิ่งใหญ่นี้แตก "โชคดีที่ยังเป็นแม่หนูชิโอริที่คุ้นเคย"


    "ฉันไม่ได้คุ้นเคยกับคุณนะคะ"


    "เอาน่า"เขาตอบเธอส่งๆ ก่อนจะมองหน้าลูกศิษย์ที่เงยมอง "แต่คราวหลังไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ" พร้อมเอ่ยเตือน "ช่วยคิดถึงความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อพลังนี้ด้วยทีเถอะ เพราะถ้ายิ่งมีคนรู้เข้า ก็ย่อมมีคนที่ต้องการอยากได้และหาทางชิงพลังของเธอแน่ๆ ที่อยากให้เก็บเป็นความลับก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายในสังคมแล้วก็เพื่อตัวเองด้วย"


    ซาจิรู้ว่าออลไมท์เป็นห่วงอิซึคุ

    แต่ขณะเดียวกัน

    เขากำลังกดดันและบังคับให้เด็กอายุสิบห้าคนหนึ่งต้องแบกรับชะตากรรมและความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง


    "ครับ…"


    "มันหนักเกินไปนะคะ"


    ซาจิแย้งออกไป


    "มันไม่หนักเกินไปที่เด็กคนหนึ่งจะรับมันไว้เหรอคะ ออลไมท์"


    ซาจิตะไม่ได้ขวางโลกหรือมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป

    แต่พวกเราก็เป็นแค่เด็ก

    เด็กที่กำลังไล่ตามความฝัน

    ไม่ใช่ - เด็กที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง


    "ฉันเข้าใจที่เธอต้องการจะบอกนะ แม่หนูชิโอริ แต่ว่า…"


    แม้แต่ออลไมท์ก็ยังอึกอักเมื่อซาจิตะสวนออกไป - นั่นทำให้อิซึคุยิ่งแอบหวาดหวั่นกับเด็กสาวเพื่อนร่วมห้องคนนี้ที่กล้าเผชิญหน้าเถียงกับโปรฮีโร่อันดับหนึ่ง เด็กสาวถอนหายใจ


    "มันใหญ่เกินไปนะคะ"


    "ฉันเข้าใจ"


    "ค่ะ ฉันก็เข้าใจเหมือนกัน"ซาจิตะถอนหายใจ "เพราะฉันเข้าใจ ฉันถึงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปตามที่คุณต้องการ"


    อิซึคุลอบมองทั้งสองคน

    ซัจจัง - ดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่

    เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขา


    "ฉันคิดว่าฉันคงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ"


    "เธอช่วยเก็บมันเป็นความลับทีเถอะนะ อย่าบอกใครเกี่ยวกับความลับของฉันได้ไหม?"


    เขาขอร้อง

    ขอร้องให้มันเป็นความลับ


    ออลไมท์ขอร้องซาจิตะ เด็กสาวขยับตัว


    "เรื่องแบบนั้น มันก็แน่อยู่แล้วสิคะ"


    เธอทำเสียงดุ


    "ฉันจะเก็บมันเป็นความลับเองค่ะ"


    ซาจิตะพูดอย่างจริงจัง

    และหันมามองที่อิซึคุ


    นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั้นไม่ได้ตำหนิติเตียนแบบทุกครั้ง แต่เป็นแววตาที่อ่อนลง


    "นอกจากเก็บเป็นความลับ - ไอ้ความรับผิดชอบของเขา ฉันจะช่วยแบกรับมันเองค่ะ"


    ซาจิตะพูดออกไป เด็กสาวเลือกที่จะแบกรับความรับผิดชอบ

    แบกรับความรับผิดชอบของผู้สืบทอด

    แบกรับความใหญ่หลวงจากอิซึคุ - แบกรับมันเป็นเพื่อนเขา


    ออลไมท์นิ่งไป ลมอ่อนๆพัดกระทบกับแก้มของเขา

    ผู้ใหญ่อย่างเขารู้ดี


    ว่าภาระที่มาพร้อมกับพลังมันหนักขนาดไหน

    แต่ว่า

    ถ้าเป็นสองคนนี้ - คงไม่เป็นอะไร

    ถ้าหนุ่มน้อยมิโดริยะ มีแม่หนูชิโอริ ทั้งคู่คงจะไม่เป็นนอะไร


    "ฝากพวกเธอด้วยนะ"







    |||||

    Talk with มาวว ♡

    ยังคงมาต่อเรื่อยๆค่ะ แต่ก็แอบๆคิดเสมอว่ายังมีใครตามอ่านอยู่ไหมนะ 5555555 มันอาจเป็นฟิคที่ดำเนินเรื่องช้า ไม่บันเทิงเท่าไร บรรยากาศดูเนิบๆไปจริงๆ

    แต่ก็ยังคงขอบคุณทุกคนที่รักและติดตามกันเสมอนะคะ

    ทุกกำลังใจ ทุกความเห็นมันมีคุณค่าต่อเรามากเลยค่ะ

    บางครั้งเราก็คิดว่าเราเหนื่อย เราท้อ ต้องยอมรับเลยว่าฟีดแบ็กเป็นสิ่งที่ฉุดเราขึ้นมาจากความรู้สึกแย่ๆในหลายครั้ง

    และเราก็หวังว่ามันจะดึงเราขึ้นมาในทุกครั้งที่เรากดอัพค่ะ 555

    บ้าบอมาก ขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดอะไรที่ดูเพ้อๆแบบนี้

    ก่อนอื่นก็ ต้องขอขอบคุณสำหรับแฟนอาร์ตจากคูม sayme ami มากๆเลยค่ะ ที่วาดfa ประกอบฟิคให้เรา TT 

    สานฝันมากเลยค่ะ

    ซัจจังชุดฮีโร่ บวกอิเนอจี้ตอนจับฉลากใน

    ตอน Arc1 9. [ Basic Hero Class ]

    เห็นภาพแล้วจะร้องไห้เลยค่ะ งานดีมากๆๆ TT

    ขอบคุณนะคะ รักมากๆเลยค่ะ ❤



    Very Thx. Artist ; Sayme ami

     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×