คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ARC 1 :: 11. [ Don’t tell someone about my secret ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
อัพตอนสมบูรณ์ ; 28 April 2021
แก้ไขย่อหน้า ; 9 June 2021
ARC 1 :: 11. [ Don’t tell someone about my secret ]
คาบเรียนพื้นฐานฮีโร่ของออลไมท์จบลงไปแล้ว ซาจิตะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ เธอกลับไปใส่ชุดเครื่องแบบยูเอย์เหมือนเดิม เก็บคอสตูมใส่ในกล่องหมายเลขสิบสองให้เรียบร้อย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นดี เด็กสาวก็ตรงกลับไปที่ห้องเรียน เข้าเรียน จดเลคเชอร์ไปเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร จนเวลาล่วงเลยมาถึงคาบสุดท้าย กริ่งหมดเวลาดัง สภาวะของห้องเรียนถูกทำลายลงหลังอาจารย์เดินออกจากห้องไป
"นี่ มิโดริยะไม่กลับมาเรียนทั้งคาบบ่ายเลยนะ"
"สงสัยคงเพราะยังไม่ฟื้นน่ะค่ะ"
เธอตอบ - ซาจิตะพอเข้าใจดีว่ารีคัพเวอร์รี่เกิร์ลจะไม่ปล่อยกลับมาถ้าเขายังไม่ตื่น
ภายในห้องมีความวุ่นวายเกิดขึ้น บาคุโกกำลังจะกลับ มีนักเรียนบางส่วนของห้องพยายามรั้งเขาเอาไว้ แต่สุดท้ายด้วยความเอาแต่ใจและความโวยวายก็ทำให้เด็กหนุ่มอัตลักษณ์ระเบิดเดินหนีกลับบ้านไปได้
ความหงุดหงิด ความไม่สบอารมณ์
ซาจิตะสังเกตเห็น
ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในคลาสของออลไมท์แล้ว
"ฉันเองก็ขอตัวกลับบ้างนะคะ"
เธอบอกทุกคน ดวงตาสีฟ้าอ่อนไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมามายมาก ใบหน้าเรียบนิ่ง ซาจิตะยกกระเป๋าเป้ของตนเองขึ้นสะพายหลัง เดินตามหลังคนที่หิ้วเป้ออกไปจากห้อง มีเสียงบอกลาว่า เจอกัน ชิโอริ ไล่ตามหลังมา
เพราะกลับบ้านทำให้เธอต้องเดินตามหลังเขาไปในทางเดียวกัน ขณะหนึ่งที่บาคุโกหยุดเดิน เขาโวยวายใส่ซาจิตะ
"จะตามมาทำไม หา!? ยัยยาฆ่าเชื้อ"
เด็กสาวผมสั้นถอนหายใจกับคำของเพื่อนร่วมห้อง "ฉันจะกลับบ้านค่ะ"
"ไม่ต้องมากลับทางเดียวกับฉันเลยนะ!"
"อ้อ…" หล่อนไม่พอใจเท่าไร ซาจิยืนนิ่ง ปรายตามองคนที่อยู่บนขั้นบันไดที่ต่ำกว่าตัวเอง เธอกอดอก "ทำตัวเป็นเด็กๆที่แพ้แล้วพาลอยู่เหรอคะ?"
"ใครมันแพ้แล้วพาลกัน!?"
"เอาเป็นว่าถ้าไม่ให้ฉันเดินทางนี้ ฉันจะเดินไปอีกทางก็ได้ค่ะ"
"เออ เรื่องของเธอสิ!"
ซาจิส่ายหัวคล้ายเอือมระอา เธอถอนหายใจเดินแยกทางกับบาคุโก จะอะไรกันนัก ก็แค่เดินกลับทางเดียวกันเพราะประตูทางออกมันอยู่ฝั่งนี้ใกล้กว่าอีกฝั่ง เด็กสาวผมสีเทาควันบุหรี่หยักศกเดินถอยไป เตรียมเดินตรงไปอีกฝั่ง หากแต่ร่างที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาของคนคุ้นเคยวิ่งผ่านตัวของเธอไปด้วยความเร่งรีบ
วิ่งทั้งๆที่แขนถูกดามไว้
วิ่งแบบไม่ระมัดระวัง ไม่คิดชีวิตเลย
"อิซึคุ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ"
เธอส่งเสียงไล่หลังขณะที่กำลังวิ่งตาม หากแต่ระยะของเธอกับเด็กหนุ่มไม่ได้ลดน้อยลงเลย เด็กสาวยังคงแผดเสียงออกมาจากลำคอของตัวเอง แม้ว่าตัวเธอจะไม่ชอบการส่งเสียงดัง
"ฉันบอกให้หยุดไงคะ!"
ทางนั้นไม่ได้ปรายตากลับมาเหลียวมองเธอเลย เขาเร่งฝีเท้าขึ้นมากกว่าเดิม แต่เสียงของมิโดริยะ อิซึคุก็ตะโกนบอกเธอกลับมา
"ขอโทษนะครับ! แต่ผมหยุดตอนนี้ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆครับ ซัจจัง!"
เราวิ่งผ่านบันได วิ่งผ่านตู้ล็อคเกอร์ที่เก็บรองเท้า เราสองคนวิ่งผ่านร่างของเด็กผู้หญิงที่กำลังสวมใส่รองเท้า หากแต่ฝีเท้าทั้งสองคู่ของเธอกับเด็กหนุ่มก็ไม่หยุดวิ่ง จนกระทั่งมาสุดทางออก ร่างของบาคุโก คัตสึกิ - แผ่นหลังของเขาปรากฎให้เห็นอยู่ข้างหน้า
"คัตจัง!!"
อิซึคุตะโกน มิวายยังพยายามวิ่งออกไปให้ใกล้อีกฝ่ายมากกว่านี้ "คัตจัง!!"
ร่างกายที่กำลังขยับเดินหยุดนิ่งหลังถูกเอ่ยเรียกซ้ำ นัยน์ตาสีโกเมนหันกลับมา ตวัดสายตาไม่เป็นมิตรใส่ - ซาจิตะเบนสายตามองไปยังเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างกายเขากำลังสูดลมหายใจเข้าปอด "มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ผมต้องให้นายรู้"
เธอขมวดคิ้ว
"อัตลักษณ์ของผมได้มาจากคนอื่น!"
ความสงสัยแคลงใจเข้ามาในความคิด ซาจิตะไม่สามารถเข้าใจในคำพูดของเด็กหนุ่มที่กำลังอธิบาย และเธอก็มั่นใจว่าแม้แตาคู่สนทนาของอิซึคุตอนนี้ก็ไม่อาจเข้าใจมันได้ เพราะเขาก็ส่งเสียงออกมาอย่างฉงน
"หา!?"
"แต่เรื่องที่ได้รับมาจากใคร ผมคงบอกไม่ได้!"
แม้น้ำเสียงจะสั่นกลัว แต่ก็ยังคงพยายามอธิบายออกมา "บอกไม่ได้...ถึงเรื่องพวกนี้จะเหมือนกับในพวกคอมมิค แต่มันคือเรื่องจริงครับ"
คำพูดจริงใจ และ สายตาสีมรกตที่ซาจิตะกำลังมองท่าทางในตอนพูด มันแสดงออกมาว่าจริงใจไม่มีถ้อยคำโกหกปะปนอยู่ในประโยคแต่อย่างไร และมันก็ทำให้เธอนึกไปถึงเรื่องในอดีตเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา
แม้แต่คนคนไร้อัตลักษณ์แบบผม…ก็เหมือนกันงั้นเหรอครับ?
ตอนนั้นที่เราชนกัน - อิซึคุบอกกับเธอว่าเขาไร้อัตลักษณ์
และเขาก็ถามถึงเรื่องพวกนี้
ถ้าแบบนั้น - ตอนนี้ อัตลักษณ์ในตอนนี้ของเขา มันคืออะไรกัน?
"แล้วตอนนี้ผมก็ยังควบคุมมันไม่ได้เลย มันเลยยังไม่ใช่ของผม เป็นของที่ยืมมาใช้ เพราะงั้นผมถึงอยากเอาชนะนายให้ได้ โดยที่ไม่ใช้มัน แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวผมต้องพึ่งพามันจนได้ ผมน่ะไม่เอาไหนเลยสักนิดครับ"
คำพูดอธิบายแปลกๆยืดยาวที่ชวนให้ไม่เข้าใจหลั่งไหลออกจากริมฝีปากของเจ้าของผมสีเย็นตาผู้บาดเจ็บที่กำลังตะโกนออกไปเพราะต้องการส่งถ้อยคำเหล่านี้ให้ถึงเจ้าของผมสีฟาง - ซาจิตะสังเกตเห็นเด็กสาวคนเดิมที่ตอนแรกสวมใส่รองเท้าแถวล็อคเกอร์ตัดสินใจจะเดินหลบออกไปจากสถานการณ์กระอักกระอ่วนอย่างกล้าๆกลัวๆ
และเธอก็หยุดเดินเพราะเสียงตะโกนหนักแน่นของอิซึคุ
"เพราะงั้น...สักวันหนึ่งผมจะทำให้มันเป็นอัตลักษณ์ของผมเอง แล้วใช้พลังนี้ก้าวข้ามนายไปให้ได้!!"
"แกพูดอะไรของแก?"
น้ำเสียงหนักแน่น ถูกโต้ตอบด้วยน้ำเสียงโกรธที่กดต่ำลงจากบาคุโกที่กำลังไม่พอใจ "ของที่ยืมมา? แกพูดอะไรไร้สาระของของแก ไอ้เนิร์ดเวร"
เขาเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่คล้ายกลับว่าในใจมีความรู้สึกแย่อยู่เต็มอก "มาหยามหน้ากันซ้ำสองแบบนี้ คิดจะทำอะไรกันแน่? หา? ก็แล้วมันยังไงกันล่ะ? วันนี้ฉันแพ้แกไปแล้ว! มันก็เท่านั้น มันก็เท่านั้น!" บาคุโกกัดฟันของตัวเอง "พอเห็นไอ้น้ำแข็งนั่น อยู่ๆก็คิดว่าคงสู้ไม่ไหวแน่ๆ! โธ่เว้ย! แล้วก็ยังยอมรับไอ้ที่ยัยผมหางม้านั่นพูดอีก!"
ปากของบาคุโกสั่นเกร็ง ทำให้ตาสีฟ้าอ่อนของซาจิตะไหววูบตามไปยามเห็นความอ่อนแอของคนตรงหน้าที่กำลังระบายออกมา
"โธ่เว้ย! โธ่เว้ย! โธ่เว้ย!!"
ระบายออกมาโดยไม่มีคำพูดใดมาอธิบายความรู้สึกได้นอกจากคำสบถ
"แกก็เหมือนกัน เดกุ จากนี้ไปจะเป็นฉัน เป็นฉันต่างหาก! ได้ยินรึเปล่า?! จะเป็นฉันที่จะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด! แกจะไม่มีวันเอาชนะฉันได้อีกครั้งแน่ ไอ้บ้าเอ้ย!"
ถ้อยคำเหล่านั้นมีพลัง แต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยานที่ไม่ต้องการแพ้ใคร เป็นคำทิ้งท้ายที่แม้แต่อิซึคุที่เป็นฝ่ายพูดอยู่ตลอดก็ต้องนิ่งสงบลง แม้ว่าตอนนี้บาคุโกจะหันหลังเดินออกจากตรงนี้ก็ตาม
แต่นั่นก็เพราะซาจิตะไม่ได้สังเกตเห็นน้ำตาของเพื่อนร่วมห้องคนนั้น และเด็กสาวตาบอดที่กำลังจะเดินออกไปเป็นฝ่ายสังเกตเห็นมันแม้ว่านางจะตาบอด อีกฝ่ายดูพยายามจะช่วยบาคุโก - แต่การปรากฎตัวของออลไมท์ก็ทำให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ในบรรยากาศเดิมที่ตึงเครียด
"เจอตัวแล้ว! หนุ่มน้อยบาคุโก!"
ออลไมท์กอดคอบาคุโกเอาไว้ "ฉันขอแนะนำอะไรหน่อยนะ บอกไว้เลยว่าความหยิ่งผยองก็สำคัญ เธอมีความสามารถที่จะเป็นโปรที่ดีได้เลยล่ะ จากนี้ไปเธอน่ะ ---"
"ปล่อยได้ไหม ออลไมท์ ผมเดินไม่ได้"
น้ำเสียงไม่พอใจตัดบทออลไมท์ คนที่หยิ่งผยองพองตนที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองสะบัดตัวออกหลังออลไมท์ปล่อย เขาเตรียมที่จะเดินหนีไป หากแต่ก็ยังทิ้งท้ายคำพูดให้กับอันดับหนึ่ง
"ไม่ต้องบอกหรอก เพราะยังไงเป้าหมายของผมก็คือการก้าวข้ามคุณไปให้ได้"
ออลไมท์นิ่งไปแล้ว ร่างสองร่างจากพื้นที่ตรงนี้ไปแล้ว ดวงตาสีฟ้าอ่อนกะพริบตาของตนเอง ซาจิตะพ่นลมหายใจหลังทุกอย่างสงบลงไปแล้ว
จากการตอบสนองของเพื่อนร่วมห้องผมบลอนด์คนนั้น
ออลไมท์รู้ตัวแล้วว่าในฐานะอาจารย์ - ตอนนี้เขาสอบตก
"หนุ่มน้อยมิโดริยะ แม่หนูชิโอริ" เขาหันมาหาพวกเธอ เพ่งความสนใจมาที่ซาจิตะกับคนที่กำลังบาดเจ็บ "เมื่อกี้พวกเธอคุยอะไรกับหนุ่มน้อยบาคุโกเหรอ?"
"อ...เอ่อ…"
ท่าทางลำบากใจตะกุกตะกักที่ดูมีพิรุธ
"ค่ะ พวกเราคุยกับบาคุโก" เป็นซาจิตะที่ตัดสินใจพูดจาลองเชิงคนเป็นผู้ใหญ่ - ตอนนี้เธอพยายามลองสันนิษฐานเอาจากข้อมูลที่ตัวเองมีจากการตั้งใจฟังบทสนทนาของคนสองคนเมื่อครู่
เธอกำลังเดาว่าที่อิซึคุกำลังตะกุกตะกัก - เพราะเรื่องสำคัญเกี่ยวกับออลไมท์
"อืม...ฉันอยากรู้รายละเอียดจัง เธอพอบอกฉันได้ไหม?"
ซาจิตะยิ้มบางๆบนใบหน้าของตัวเอง
"จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีคะ?" เด็กสาวยกมือขึ้นกอดอกของตัวเอง ตาสีฟ้าอ่อนตวัดตามองทั้งอิซึคุและออลไมท์
"เริ่มจากที่...ออลไมท์ คุณทำยังไงให้คนไร้อัตลักษณ์มีอัตลักษณ์ได้ยังไงก่อนก็แล้วกันค่ะ"
เด็กสาวตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ออลไมท์ฟังว่าเธอได้ยินอะไรที่อิซึคุพูดกับบาคุโกไปบ้าง ใบหน้าของเธอเรียบนิ่ง ขณะที่ใบหน้าที่มักประดับรอยยิ้มของฮีโร่อันดับหนึ่งดูตึงเครียด ออลไมท์หันไปหามิโดริยะหลังฟังทุกคำที่เด็กสาวเล่าจบ
"บอกหนุ่มน้อยบาคุโกไปแล้วงั้นเหรอ?"
ไม่มีคำปฏิเสธ
เขาถอนหายใจและหันมาสบตาของซาจิ
"ถูกแบบที่เธอสันนิษฐานไว้ทั้งหมดเลย แม่หนูชิโอริ"
"มันเป็นความบังเอิญน่ะค่ะ"เด็กสาวบอก "ถ้าฉันไม่เคยเจออิซึคุมาก่อน ฉันก็คงไม่มั่นใจและมองว่าเขาประหลาดที่พูดอะไรเพ้อฝันแบบนั้นออกมา"
"ขอโทษครับ"
เป็นคำสามคำจากปากของคนที่เงียบอยู่นาน "กับแม่...ผมก็ไม่ได้บอกอะไร แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้ผมเลือกที่จะบอกคัตจัง…"
เรื่องของอิซึคุกับออลไมท์เข้าใจยาก
เรื่องของอิซึคุกับบาคุโกก็ไม่ต่างกัน
"ผมต้องขอโทษจริงๆครับ"
ออลไมท์ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาจ้องหน้าของซาจิตะแทน และตัดสินใจเล่าเรื่องพลังให้เธอฟัง เล่าเรื่องของวันฟอร์ออล ที่มาที่ไป และ เล่าว่าทำไมตอนนี้ผู้ถือครองมันถึงเป็นอิซึคุ เมื่อได้ฟังทุกอย่างจบลงแล้ว ซาจิก็ได้รับรู้ว่านี่มันเป็นความลับจริงๆ
ความลับที่มีเพียงแค่คนไม่กี่คนที่รับรู้
"โชคยังดีที่หนุ่มน้อยบาคุโก คิดว่าเธอเพ้อเจ้อ"คราวนี้หันกลับไปพูดกับผู้สืบทอดของตนที่ทำให้ความลับยิ่งใหญ่นี้แตก "โชคดีที่ยังเป็นแม่หนูชิโอริที่คุ้นเคย"
"ฉันไม่ได้คุ้นเคยกับคุณนะคะ"
"เอาน่า"เขาตอบเธอส่งๆ ก่อนจะมองหน้าลูกศิษย์ที่เงยมอง "แต่คราวหลังไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ" พร้อมเอ่ยเตือน "ช่วยคิดถึงความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อพลังนี้ด้วยทีเถอะ เพราะถ้ายิ่งมีคนรู้เข้า ก็ย่อมมีคนที่ต้องการอยากได้และหาทางชิงพลังของเธอแน่ๆ ที่อยากให้เก็บเป็นความลับก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายในสังคมแล้วก็เพื่อตัวเองด้วย"
ซาจิรู้ว่าออลไมท์เป็นห่วงอิซึคุ
แต่ขณะเดียวกัน
เขากำลังกดดันและบังคับให้เด็กอายุสิบห้าคนหนึ่งต้องแบกรับชะตากรรมและความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง
"ครับ…"
"มันหนักเกินไปนะคะ"
ซาจิแย้งออกไป
"มันไม่หนักเกินไปที่เด็กคนหนึ่งจะรับมันไว้เหรอคะ ออลไมท์"
ซาจิตะไม่ได้ขวางโลกหรือมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป
แต่พวกเราก็เป็นแค่เด็ก
เด็กที่กำลังไล่ตามความฝัน
ไม่ใช่ - เด็กที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง
"ฉันเข้าใจที่เธอต้องการจะบอกนะ แม่หนูชิโอริ แต่ว่า…"
แม้แต่ออลไมท์ก็ยังอึกอักเมื่อซาจิตะสวนออกไป - นั่นทำให้อิซึคุยิ่งแอบหวาดหวั่นกับเด็กสาวเพื่อนร่วมห้องคนนี้ที่กล้าเผชิญหน้าเถียงกับโปรฮีโร่อันดับหนึ่ง เด็กสาวถอนหายใจ
"มันใหญ่เกินไปนะคะ"
"ฉันเข้าใจ"
"ค่ะ ฉันก็เข้าใจเหมือนกัน"ซาจิตะถอนหายใจ "เพราะฉันเข้าใจ ฉันถึงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปตามที่คุณต้องการ"
อิซึคุลอบมองทั้งสองคน
ซัจจัง - ดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่
เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขา
"ฉันคิดว่าฉันคงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ"
"เธอช่วยเก็บมันเป็นความลับทีเถอะนะ อย่าบอกใครเกี่ยวกับความลับของฉันได้ไหม?"
เขาขอร้อง
ขอร้องให้มันเป็นความลับ
ออลไมท์ขอร้องซาจิตะ เด็กสาวขยับตัว
"เรื่องแบบนั้น มันก็แน่อยู่แล้วสิคะ"
เธอทำเสียงดุ
"ฉันจะเก็บมันเป็นความลับเองค่ะ"
ซาจิตะพูดอย่างจริงจัง
และหันมามองที่อิซึคุ
นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั้นไม่ได้ตำหนิติเตียนแบบทุกครั้ง แต่เป็นแววตาที่อ่อนลง
"นอกจากเก็บเป็นความลับ - ไอ้ความรับผิดชอบของเขา ฉันจะช่วยแบกรับมันเองค่ะ"
ซาจิตะพูดออกไป เด็กสาวเลือกที่จะแบกรับความรับผิดชอบ
แบกรับความรับผิดชอบของผู้สืบทอด
แบกรับความใหญ่หลวงจากอิซึคุ - แบกรับมันเป็นเพื่อนเขา
ออลไมท์นิ่งไป ลมอ่อนๆพัดกระทบกับแก้มของเขา
ผู้ใหญ่อย่างเขารู้ดี
ว่าภาระที่มาพร้อมกับพลังมันหนักขนาดไหน
แต่ว่า
ถ้าเป็นสองคนนี้ - คงไม่เป็นอะไร
ถ้าหนุ่มน้อยมิโดริยะ มีแม่หนูชิโอริ ทั้งคู่คงจะไม่เป็นนอะไร
"ฝากพวกเธอด้วยนะ"
|||||
Talk with มาวว ♡
ยังคงมาต่อเรื่อยๆค่ะ แต่ก็แอบๆคิดเสมอว่ายังมีใครตามอ่านอยู่ไหมนะ 5555555 มันอาจเป็นฟิคที่ดำเนินเรื่องช้า ไม่บันเทิงเท่าไร บรรยากาศดูเนิบๆไปจริงๆ
แต่ก็ยังคงขอบคุณทุกคนที่รักและติดตามกันเสมอนะคะ
ทุกกำลังใจ ทุกความเห็นมันมีคุณค่าต่อเรามากเลยค่ะ
บางครั้งเราก็คิดว่าเราเหนื่อย เราท้อ ต้องยอมรับเลยว่าฟีดแบ็กเป็นสิ่งที่ฉุดเราขึ้นมาจากความรู้สึกแย่ๆในหลายครั้ง
และเราก็หวังว่ามันจะดึงเราขึ้นมาในทุกครั้งที่เรากดอัพค่ะ 555
บ้าบอมาก ขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดอะไรที่ดูเพ้อๆแบบนี้
ก่อนอื่นก็ ต้องขอขอบคุณสำหรับแฟนอาร์ตจากคูม sayme ami มากๆเลยค่ะ ที่วาดfa ประกอบฟิคให้เรา TT
สานฝันมากเลยค่ะ
ซัจจังชุดฮีโร่ บวกอิเนอจี้ตอนจับฉลากใน
ตอน Arc1 9. [ Basic Hero Class ]
เห็นภาพแล้วจะร้องไห้เลยค่ะ งานดีมากๆๆ TT
ขอบคุณนะคะ รักมากๆเลยค่ะ ❤
Very Thx. Artist ; Sayme ami
ความคิดเห็น