ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #10 : ARC 1 :: 8. [ The distance between you and me decreases as we call each other's names ]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64



     


     

     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)

    อัพตอนสมบูรณ์ ; 22 April 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 9 June 2021


     

    ARC 1 :: 8. [ The distance between you and me decreases as we call each other's names ]





     


    มิโดริยะ อิซึคุ ก้าวไปหลังถึงตาทดสอบของตัวเอง เขาเกร็ง เขาเครียดไปหมดแล้วหลังเพื่อนร่วมห้องสาวคนนั้นทำได้อนันต์ ท่าทางลนลานดูแพนิคแบบนั้น ทำให้ซาจิตะรู้สึกเครียดตามกับท่าทางของอีกฝ่าย เด็กสาวกอดอกของตัวเองขึ้นมาและมองด้วยท่าทางนิ่งๆตามแบบฉบับของเจ้าตัว


    "ตัวเอง"


    เสียงทักพร้อมอ้อมแขนที่วางลงมาที่ไหล่ ซาจิตวัดตามองเจ้าของน้ำหนักที่ทิ้งลงมาโอบไหล่ตัวเธอ "อะไรของเธอ โคซากุระ"


    "แหม เย็นชาจังเลยน้า"


    ยังคงส่งเสียงปั่นประสาทออกมาให้ได้ยิน ดวงตาสีชมพูมาเจนต้ามองกลับไปที่สนามชี้ไม้ชี้มือไป "เมื่อกี้คุยอะไรกับเขางั้นเหรอ?"


    "อยากรู้เหรอ?"


    "แน่นอนสิ! เค้าอยากรู้มากเลยแหละ ตัวเองงง"


    ซาจิเผยรอยยิ้มเรียบๆ พลางตอบกลับไป "ไม่ยุ่งเนอะ เรื่องชาวบ้าน"


    คำตอบที่ไม่ยืดเยื้อทำให้หน้าคนได้รับคำตอบเหวอ พร้อมกับเสียงหลุดหัวเราะจากคนข้างๆดังขึ้นมา เจ้าของผมทองพร้อมอัตลักษณ์ไฟฟ้าหลุดหัวเราะ นั่นทำให้เด็กสาวที่มาวุ่นวายกับซาจิหันไปแว้ดใส่

    ซาจิตะกลับมาสนใจตรงหน้า ตอนนี้ลูกบอลอยู่ในมือของมิโดริยะแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ปาออกไป เป็นท่าทางที่ดูชักช้าจนน่าเป็นกังวลเลย เธอขยับตัวเดินไปรวมกลุ่มกับอีดะและอุรารากะ อาโอยามะ ถัดไปอีกหน่อยก็มีบาคุโก


    "มิโดริยะคุงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ท่าจะแย่นะ"


    "เธอก็เห็นเหมือนฉันใช่ไหม อีดะคุง?"


    ซาจิตะถามเสียงแผ่วกลับไปหาคนที่กำลังกอดอกมองและเพ่งสายตามอง แต่เสียงของเด็กหนุ่มผมฟางที่โวยวายขึ้นมาก็ตะโกนท่ามกลางการใช้ความคิดของเธอกับอีดะ


    "มันก็ต้องแย่แหงๆอยู่แล้วสิฟะ ก็มันเป็นไอ้กระจอกที่ไร้อัตลักษณ์นี่หว่า!"


    ซาจิตะคิดอะไรขึ้นมาได้ เธอนิ่งไป - ตอนนั้นมิโดริยะ อิซึคุก็ถามเธอนี่ว่าเขาที่ไร้อัตลักษณ์จะเป็นฮีโร่ได้ไหม? งั้นแล้วเขาทำได้ยังไง เขาผ่านการทดสอบเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร โอกาสเหล่านั้นมันน้อยมากจนแทบจะกลายเป็นศูนย์เลยด้วยซ้ำ


    "ไร้อัตลักษณ์!? นี่นายไม่ได้รู้เลยเหรอว่าเขาทำอะไรตอนสอบเข้าน่ะ!?"อีดะแย้งใส่บาคุโกที่พูดขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เด็กสาวอัตลักษณ์ฮีลลิ่งด้วยยารักษายิ่งขมวดคิ้วของเธอ


    "หา!?"


    "พอได้แล้ว ทั้งคู่เลย"ซาจิตะขัด "จะถึงเวลาแล้ว"


    เด็กสาวผมสั้นมองไป คล้ายว่ามิโดริยะ อิซึคุสะกดกลั้นความกลัวลงไปได้แล้ว เขาง้างแขนที่กำลังจับลูกเหวี่ยงแขนออกไป คล้ายจะใช้พลังจนสุดแรง ซาจิตะตั้งใจดูลูกบอลที่หลุดจากมือมันกลิ้งไป - และตกในระยะทางที่แสนสั้น


    "46 เมตร"


    เขาร้อนรน ท่าทางดูหวาดหวั่น จนทำให้ซาจิตะหันสายตาของเธอไปยังอาจารย์ที่ปรึกษา ซาจิตะพ่นลมหายใจยามที่สอดประสานสายตากับอีกฝ่าย จนเผลอเธอหลุดปากออกมา "ซวยจริงๆเลยนะ หมอนั่น"


    "เอ๊ะ? ชิโอริจังหมายความว่ายังไงเหรอ?"


    อุรารากะถามเธอ เด็กสาวแก้มกลมดูประหลาดใจกับคำพูดของซาจิ และคนถูกถามก็เลือกจะตอบคำถามนั้นด้วยการพยักเพยิดให้มองสถานการณ์ต่อไป


    "ฉันจัดการลบอัตลักษณ์นั่นเอง"


    เขากำลังโมโห


    "ว่าก็ว่าเถอะไอ้การสอบนั่นน่ะ...มันไร้ซึ่งความสมเหตุสมผลสิ้นดี เพราะงั้นถึงได้ปล่อยให้มีคนอย่างแกเข้ามาเรียนได้"


    "ห...หรือว่า ฮีโร่นักลบ อีเรเซอร์เฮด!"


    มิโดริยะร้องอุทานออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายคือใคร นั่นทำให้เสียงของเหล่านักเรียนที่มองดูอยู่ห่างๆเริ่มส่งเสียงออกมา


    "อีเรเซอร์? ไม่เคยได้ยินเลยแหะ"


    "ถ้าแค่ชื่อล่ะก็เคยเห็นอยู่นะ! เป็นฮีโร่ใต้ดินน่ะ"


    "แถมยังเกลียดการออกสื่อที่สุดในโลก เพราะว่ามันเกะกะงาน"เธอเสริมออกไปในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ


    แม้เสียงพูดคุยเรื่องของอาจารย์ที่ปรึกษาจะไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น แต่ดวงตาสีฟ้ายังไม่ละสายตาจากภาพตรงหน้า อาจารย์ไอซาวะกำลังก้าวเข้าไปหามิโดริยะ พร้อมคำพูดที่พูดใส่เขา "เท่าที่ดู...ยังควบคุมอัตลักษณ์ไม่ได้ล่ะสิท่า? แล้วยังไง? จะให้ตัวเองหมดสภาพแล้วรอให้ใครมาช่วยอีกรึไง?"


    "ผ ผมไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นนะ"


    "ไม่ว่าจะตั้งใจแบบไหน"ผ้าจับกุมที่พันอยู่รอบคอถูกใช้รัดตัวของนักเรียนในห้องอย่างมิโดริยะ "ผลก็คือแกทำให้คนรอบข้างต้องเข้ามาช่วยแกอย่างช่วยไม่ได้อยู่ดี"


    ซาจิตะคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

    เพราะเขาเป็นอาจารย์ที่แนะนำคนอื่นได้เก่งมากๆ

    แม้ว่าท่าทางของเขาจะเป็นแบบนั้น

    อีกอย่าง - คงเพราะเธอแอบเชื่อว่ามิโดริยะจะเข้าใจในทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับโอกาสครั้งที่สองในการปาลูกบอลในครั้งนี้


    "เหมือนไปให้คำแนะนำอะไรนะ"


    อีดะกุมคางแล้วเอ่ย


    "ไปประกาศคัดชื่อมันทิ้งต่างหากล่ะสิไม่ว่า"


    "แหมๆ นี่ก็จ้องจะให้ตัดอย่างเดียวเลยน้า"เสียงหวานแหลมดังขึ้นมาโต้ตอบบาคุโกไป โคซากุระเข้ามากอดคอของซาจิตะอีกครั้ง "ว่าไงคะ คุณแม่ คิดว่ายังไงเหรอคะ?"


    "ใครแม่เธอ?"


    "แล้วเป็นแม่เค้าไม่ดีตรงไหน?"


    "ทุกตรง"


    "โอ๊ย เจ็บนะ!"


    ยังจะมาทำท่าทางกุมใจสะดีดสะดิ้งอีก


    ซาจิตะหลุบตาของเธอลง


    เธอรู้จักอาจารย์ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน


    เขากำลังพิสูจน์มิโดริยะ


    "มิโดริยะไม่น่าเป็นห่วงหรอก"


    ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ยามที่เห็นการตั้งท่าและปลายนิ้วที่ใช้แรงดันลูกบอลลูกนั้น ซาจิตะก็หลุดปากเอ่ยออกไป ลูกบอลที่ลอยสูงลิ่วผ่านอากาศ เขาไม่ได้เหวี่ยงโดยสักแต่ใช้พลังของตัวเอง

    และทำให้ผู้ที่กำลังทดสอบหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็น


    "อาจารย์...ผมยังขยับได้อยู่ครับ!"


    "ไอ้เจ้านี่.."


    "เย้! ทำสถิติที่สมกับเป็นฮีโร่ได้แล้วล่ะ"อุรารากะส่งเสียงของเธอออกมาเป็นเสียงที่ดูยินดีเป็นอย่างยิ่ง


    "นิ้วบวมเลยไม่ใช่เหรอ ตอนที่สอบก็เหมือนกัน เป็นอัตลักษณ์ที่แปลกจริงๆ"อีดะดันแว่นของตนขึ้น


    "ไม่สมาร์ทซะเลยเนอะ"


    "อย่างน้อยก็ไม่สมาร์ทฮาร์ทน้า"


    อาโอยามะกับโคซากุระก็ตบมุกกัน ขณะเดียวกันที่ซาจิตะเหลือบมองไปยังหนุ่มผมฟางที่กำลังอ้าปากค้าง เขาดูช็อคและไม่เข้าใจอะไรสักอย่างจนเธอตัดสินใจเรียก "บาคุโ--"


    เสียงของเธอเงียบลงยามที่ความโกรธครอบงำอีกฝ่าย เขาพุ่งเข้าไป พุ่งเข้าหามิโดริยะที่กำลังอยู่ที่เดิมพร้อมส่งเสียงตะโกนออกมา


    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!?? แกบอกฉันทาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!"


    เสียงของมิโดริยะดังลั่น


    "เดกุ!!! แกหลอกฉัน แกหลอกฉันมาเป็นสิบๆปีเลยเหรอวะ!?"


    เสียงนั้นหยุดลงเมื่อผ้าจับกุมของอาจารย์พุ่งรัดตัวบาคุโก พร้อมกับอัตลักษณ์ของบาคุโกที่หายไป


    "ไอ้ผ้านี่มันอะไรกันวะ!?"


    "อาวุธใช้จับกุมที่ใช้ถักทอจากเส้นด้ายโลหะผสมพิเศษกับเส้นใยคาร์บอน"อาจารย์อธิบายโครงสร้างของอาวุธประจำกาย "แล้วอย่าให้ฉันใช้อัตลักษณ์บ่อยๆได้ไหม คนมันยิ่งตาแห้งๆอยู่"


    เมื่อรอให้เหตุการณ์สงบลง เขาปล่อยบาคุโก


    "เริ่มการทดสอบต่อไปได้แล้ว"


    การทดสอบดำเนินต่อไปจนจบทั้งแปดการทดสอบ เม่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เด็กห้อง 1-A ก็ถูกเรียกรวมตัวให้ฟังผลการทดสอบ


    "งั้นจะประกาศผลแล้วนะ ผลรวมคือการเอาคะแนนประเมินแต่ละรายการมาคิดรวมกัน จะให้พูดแจกแจงมันก็กินเวลาเปล่าๆ เพราะงั้นจะขอประกาศทีเดียวหมดแทน"


    ระหว่างที่ปรึกษากำลังอธิบาย เธอเห็นเขากัดฟันภาวนา

    ความอยากเป็นฮีโร่แรงจริงๆเลย


    แต่ว่านะ


    "อนึ่งเรื่องคัดออกเป็นเรื่องโกหกน่ะ"


    สามคนตะโกนออกมาพร้อมกันทันทีที่ได้ยิน


    "หา!!!???"


    "มันก็ต้องโกหกอยู่แล้วสิ แค่คิดสักหน่อยก็น่าจะรู้นะ…"ยาโอโยโรซึเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นปฏิกิริยาของทั้งสามคน


    "แหม นี่ทุกคนคิดจริงเหรอเนี่ย?"โคซากุระหัวเราะสดใส


    "ก็ตามนั้น เอาเป็นว่าจบแค่นี้ กลับไปที่คลาสจะมีเอกสารหลักสูตรการเรียนวางไว้อยู่เอาไปดูผ่านๆตาด้วยล่ะ"เขาเตรียมจะเดินกลับแต่ดูเหมือนก็ชะงักหันกลับมาเมื่อคิดอะไรได้


    "มิโดริยะ"


    "ครับ!?"


    "ไปหาคุณยาย"เขายื่นใบขอใช้ห้องพยาบาลให้กับนักเรียน "แล้วให้เขาช่วยรักษาซะ เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้ไปบททดสอบที่โหดหินยังรอจัดเต็มอยู่"ที่ปรึกษาพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบังเลยในคำพูดของเขา "ถ้าไม่รู้ทางไป ชิโอริ - ไปเป็นเพื่อนมิโดริยะด้วย"


    "ค่ะ"


    ซาจิตะตอบรับด้วยความเคยชินหลังได้รับหน้าที่จากที่ปรึกษาห้อง เด็กสาวปรายตามองคนที่นิ้วบวมเจ็บ ก่อนจะพ่นลมหายใจ "ตามฉันมาค่ะ"


    จากนั้นเธอก็เดินนำเขา มิโดริยะดูเว้นระยะห่างจากเธอเล็กน้อย เขาดูมำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเดินตามเธอมาตลอดทาง และตัวแข็งค้างยามซาจิตะปรายตาหันไปมอง


    "มีอะไรเหรอคะ?"


    "ป เปล่าครับ"อีกฝ่ายรีบเอ่ย "แค่ชิโอริซังดูชำนาญทางดีนะครับ"


    "ฉันแค่เดาๆเดินสุ่มไปน่ะค่ะ"


    "เอ๊ะ!?"


    เธอส่ายหัว "ช่างฉันแล้วเข้าไปทำแผลได้แล้วค่ะ"


    เด็กสาวผมสั้นหยักศกปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าห้องพยาบาลไปคนเดียว ขณะที่เธอยืนรออยู่ข้างนอก ซาจิตะรอด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้ตึงเครียดอะไร


    วันแรกของยูเอย์จะจบลงแล้ว

    มันก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ยังไม่แน่หรอก อนาคตยังอีกยาวไกล








    ระหว่างที่กำลังรอรถไฟฟ้า ชิโอริ ซาจิตะกำลังนับเหรียญอยู่หน้าตู้กดน้ำในสถานี เธอเคร่งเครียดในการนับเหรียญรู้สึกหงุดหงอดไม่น้อยที่ขาดเพียงเหรียญเดียวจะสามารถกดตู้น้ำได้ นั่นทำให้เด็กสาวพ่นลมหายใจออกมาในทันที

    จนกระทั่งมีใครวางเหรียญที่เธอขาดลงบนมือ


    "มิโดริยะคะ อะไร?"


    "ผ ผมอยากให้เป็นการตอบแทนในวันนี้น่ะครับ"


    เขารีบตอบ ซาจิตะขมวดคิ้ว "ถ้าเรื่องที่พาไปห้องพยาบาล มันเป็นหน้าที่ของฉัน เพราะอาจารย์กำลังสั่งต่างห---"


    "ผมอยากจะขอบคุณ ชิโอริซังที่มาเชียร์อัพตอนผมเครียดๆต่างหากครับ"มิโดริยะบอกความจริงออกมา "มันมีค่ามากๆเลยครับ"


    ซาจินิ่งไป ก่อนจะยิ้มออกมา เธอขยับมือของตัวเองหยิบเหรียญใส่ในตู้กดน้ำไปทีละเหรียญ ก่อนจะกดเลือก Boss Cafe au Lait ออกมา พอมิโดริยะเห็นเขาก็ชะงัก


    "ชิโอริซังดื่มกาแฟเหรอครับ?"


    "ค่ะ มันก็อร่อยดีนะ"


    เธอบอก "คำขอบคุณนั้น ได้รับแล้วจากกาแฟกระป๋องนี้นะคะ"


    เธอโบกกาแฟกระป๋องไปซ้ายทีขวาทีให้เขามองเห็น


    จากนั้นพอรถไฟฟ้ามาถึงซาจิตะก็ชวนอีกฝายให้ขึ้นไปด้วยกัน เราจับจองที่นั่งแล้วนั่งเงียบๆโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนคอยสังเกตอาการของคนตาสีมรกตว่าเขากำลังทำท่าเกร็งอีกครั้ง


    "มิโดริยะคะ"


    "ค ครับ!?"


    "ฉันถามจริงๆนะคะ ฉันเหมือนยักษ์เหรอ?"


    "เปล่านะครับ!"


    "งั้นก็เลิกกลัวกันได้แล้ว"เธอเอ่ย "พอคุณเกร็ง มันก็พาลให้ฉันเกร็งแล้วรู้สึกแย่ไปด้วยนะ"


    "ง...งั้นเหรอครับ ขอโทษนะ"


    ซาจิตะพ่นลมหายใจ


    "จะมีวิธีไหนไหมคะ...ที่คุณจะหายเกร็ง?"


    ทางนั้นนิ่งไปพอได้ยิน เขาหลุบตาต่ำลงคล้ายไม่มั่นใจอะไรเท่าไรนัก และเป็นเธอที่ตัดสินใจพูด "ฉันดูนิสัยแย่เหรอคะ?"


    "เปล่าครับๆ"มิโดริยะรีบยกมือปัดปฏิเสธ "ก็...เอ่อ...ดูโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้แบบแปลกๆน่ะครับ แถมรู้สึกว่าต้องรักษาระยะห่างไว้ตลอดด้วย"


    ซาจิตะฟังและพ่นลมหายใจ


    "ขอโทษนะคะ" เธอบอก "อาจเพราะฉันพึ่งได้มีโอกาสอยู่กับสังคมใหญ่ๆแบบนี้เป็นครั้งแรก"


    "เอ๊ะ?"


    "ที่ผ่านมา...ฉันเรียนที่บ้านค่ะ"


    คราวนี้เด็กหนุ่มเรือนผมสีเย็นตาพูดอะไรไม่ถูก เขาเริ่มพอจับจุดได้แล้วว่าทำไมคนตรงหน้าถึงดูเข้าถึงยากและดูระมัดระวังตัวเองไม่น้อย นั่นทำให้อิซึคุสูดลมหายใจเข้าปอดของตัวเองและพูดต่อ "งั้นเหรอครับ?"


    "ค่ะ มันเรื่องจริง ขอโทษที่ทำท่าทางไม่เป็นมิตรออกไปนะคะ"


    เธอดูเหงาหงอยจัง…

    ทำยังไงถึงจะลดระยะและความเหงาของเธอลงนะ


    ไม่อยากให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเลย


    "ชิโอริซัง…"เขาเรียกเธอ "ผมว่าผมพอคิดวิธีที่ช่วยให้ผมหายเกร็งได้แล้วครับ"


    "อะไรเหรอคะ?"


    มิโดริยะสูดลมหายใจเพื่อลดความตื่นเต้น


    "ถ้า...เรียกชื่อกันคงจะตื่นเต้นน้อยลงนะครับ - เช่นผมเรียกชิโอริซังว่าซัจจัง…"


    ให้ตายสิ อยากตบปากของตัวเองชะมัดที่พูดออกไปแบบนั้น

    มันเป็นเรื่องเสียมารยาทมากเลย อิซึคุ


    และเขาก็ต้องตาเบิกกว้างยามได้รับคำตอบรับ


    "ได้สิคะ ฉันเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร - ซัจจังฟังดูแปลกดีนะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ อิซึคุ"


    เธอยิ้มกลับมาหลังเอ่ยจบ


    และระยะห่างที่ลดน้อยลง มันกลับแปรผกผันกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นจริงๆ








    |||||


    Talk with มาวว ♡

    กว่าจะได้เรียกชื่อกันและกัน

    ปาไปเกือบสิบตอนแล้วค่ะ 55

    ขอบคุณและรักทุกคนนะคะ ฝันดีค่ะ




     

     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×