คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Q1
Q1
เสียงประกาศของสนามบินดังออกมาตามประกาศเสียงตามสาย เด็กสาวเดินลากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางของตัวเองลากมาหลังรับกระเป๋าจากสายพาน เธอหยุดฝีเท้าของตัวเอง ก่อนจะหยิบอุปกรณ์สื่อสารแบบมือถือพับสีขาวสะอาดตาขึ้นมาแนบใบหูของตัวเอง
"ค่ะ แม่ หนูมาถึงญี่ปุ่นแล้วนะคะ"เสียงหวานบอกทางปลายสายหลังจากอีกฝ่ายรับมือถือ "แม่มาถึงสนามบินรึยังคะ?"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูตามไปที่รถเลยนะคะ"เธอตอบกลับอีกฝ่ายไป ก่อนจะวางสาย เด็กสาววัยรุ่นเก็บมือถือของตัวเองลงในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะออกแรงลากสัมภาระของตัวเองไปที่ตามนัดหมายกับผู้เป็นแม่
'ฮิโรโตะ อายากะ' พึ่งกลับจากต่างประเทศหลังไปเรียนอยู่ที่อังกฤษกินเวลาเกือบสิบปี ตั้งแต่จบอนุบาลจากญี่ปุ่น จนจบม.ต้นที่อังกฤษ
จะว่าไปนะ...ก็ไม่ได้กลับมาที่ญี่ปุ่นนานแล้ว
เรียกได้ว่าไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้วจริงๆ
ทำให้แอบคิดถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลยแหะ
"ฮึกๆ ไม่เอา ไม่อยากไป ไม่อยากไปเลย เท็ตสึยะ อึก.. เท็ตสึยะคุง"
เสียงร้องไห้สลับกับเสียงที่ออกมาจากริมฝีปากของตัวเองฟังดูไม่ค่อยได้ศัพท์เท่าใดนัก อายากะในวัยหกขวบที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะต้องจากเพื่อนในห้อง และ คนตรงหน้าที่กำลังจ้องและฟังเธอร้องมาสักพักได้แล้ว
เด็กหนุ่มตาสีฟ้าตรงหน้า หยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาขึ้นมา ก่อนจะใช้มือจับผ้าซับน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาสีทับทิมไม่หยุด ทั้งน้ำตาและน้ำมูกที่ไหลออกมาจากจมูกของเด็กหญิงอนุบาล
"ไม่ร้องสิครับ…"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ราบเรียบ ปลอบประโลมเหมือนน้ำเย็นๆ อายากะเงยมองหน้าของเจ้าของเสียงเนิบ "ก็..ฮึก ไม่อยากไป ไม่อยากห่างจากเท็ตสึยะ ไม่อ่ะ ฮือ"
"พอเถอะครับ…"
เขาพูดและเธอก็เห็นว่าน้ำตาของเด็กชายผู้เป็นเพื่อนก็ไหลออกมาไม่ต่างกัน "เท็ตสึยะ เท็ตสึยะร้องทำไม ไม่ร้องนะ ฮึก"
"อายะจังก็หยุดร้องสิครับ…"เสียงของเขาขาดห้วงไปจังหวะนึง "ถ้ายังร้องแบบนี้...แบบนี้จะไม่ให้ร้องตามได้ยังไง"
จากที่เขากำลังเช็ดน้ำตาให้อายากะ กลายเป็นว่า...เด็กสองคนต่างกอดกันเอาไว้ เด็กหญิงตัวเล็กซบลงในกอดของเด็กชายที่ขนาดตัวไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย เจ้าเด็กชายไม่ได้ร้องไห้ตัวสั่น...ซึ่งผิดกับเธอลิบลับเลย
เพราะเด็กหญิงน่ะ ตัวสั่นไม่หยุดเลย
"นี่ อายะจัง"เขาพูดด้วยเสียงราบเรียบเหมือนเดิมเรียกชื่อของเธออย่างสนิทสนม "ยิ่งร้องแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกครับ"เจ้าของดวงตาสีฟ้าเอ่ยเตือนคนที่กำลังตัวสั่น "เดี๋ยวเราก็เจอกันนะครับ"
"ก็...ฮึก ก็ถ้าเท็ตสึยะลืม ลืมเรา"
"ผมไม่ลืมหรอก"
อีกคนสัญญา น้ำตาของคุโรโกะ เท็ตสึยะหยุดลงไปแล้ว เธอเองก็หายตัวสั่นแล้วเช่นกัน เขาจับไหล่ของเด็กหญิงแล้วบีบมันเบาๆ "ผมจำได้อยู่แล้ว จำฮิโรโตะ อายากะคนนี้ได้อยู่แล้ว"
"สัญญาเลย"
และคำสัญญาทำให้เธอหยุดร้องไห้ เธอมองสบตาสีฟ้าของคุโรโกะ
"เอางี้ไหม…"เด็กหญิงเสนอความคิดของตัวเองออกไปให้เพื่อนสนิทฟัง "ถ้า ถ้าเท็ตสึยะลืมเรา เราขอให้พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง เท็ตสึยะจะต้องตัวเล็กกว่าเรา"
คราวนี้คนเป็นเพื่อนส่งรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ละมุนละไมที่เด็กหญิงไม่ทันได้สังเกตเห็น
"เราจะต้องสูงกว่าเท็ตสึยะให้ได้เลยแหละ!"
"ดีมากครับ"เขายิ้มอยู่แบบนั้น "เก่งมากเลย อายะจัง"
อายากะเปิดประตูรถข้างคนขับ หลังจากส่ายหัวไล่ความคิดในสมัยเด็กออกไประหว่างที่เดินมา พอมาคิดดีๆแล้ว เธอก็...เพี้ยนพอสมควรเลยนะ บ้าบอจริงๆเลย ยัยอายากะ! ตอนนั้นเธอเป็นเด็กอนุบาลนะ
แถมตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อเท็ตสึยะยังไงด้วย
"เป็นไงบ้าง? หือ ลูกสาวคนเก่งของแม่"คนเป็นแม่ทักทายหลังเธอเข้าไปนั่งประจำที่เรียบร้อย ดวงตาสีทับทิมที่เหมือนกับตาของเธอมองสบมา ก่อนที่จมูกของคนเป็นแม่จะแตะกับแก้มขาวของเด็กสาววัยรุ่น "คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันเกือบสิบปีเลย ไปอยู่กับพ่อเป็นไงบ้างเอ่ย?"
"โอเคดีค่ะ"อายากะยิ้มบอกแม่ของตัวเอง "พ่อเขาก็มีแฟนใหม่ แฟนใหม่เขาก็ดีกับหนูดีนะ แม่ ไม่ได้เป็นแม่เลี้ยงใจร้ายแบบในเรื่องซินเดอเรลล่า"
"โห เราก็เปรียบซะแม่เห็นภาพเลย"
"แล้วแม่เป็นไงบ้างคะ? สบายดีรึเปล่า?"
"สบายดีๆ แต่งานเยอะไปหน่อยแหละ ช่วงนี้"หญิงสาววัยกลางคนว่าก่อนจะมองมาที่คนเป็นลูกสาว "อายะ คาดเข็มขัดได้แล้ว แม่จะขับรถออกจากสนามบินละ"
จบคำพูด อายากะรีบคาดเข็มขัดในทันที จนเกิดเสียงบ่งบอกว่าล็อคเรียบร้อย หญิงวัยกลางคนถอยรถออกจากจุดจอด ก่อนจะเริ่มเร่งความเร็วออกจากสนามบินลงสู่ถนนไปตามทาง
อายากะเริ่มรู้สึกกลัว
เธอใช้หางตามองไปที่หน้าปัดของรถที่บ่งบอกถึงความเร็วที่ทำให้เธอแอบสยองขึ้นมา
ระ...ร้อยหกสิบ!!!
แม่จะพาทัวร์นรกรึไง!!!
"แม่คะ!! ขับแบบนี้จะโดนใบสั่งรึเปล่าคะ แม่!!"เธอส่งเสียงออกไปอย่างคนที่จิตตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลืม...ลืมไปได้ยังไงว่าแม่สุดที่รักเป็นคนขับรถได้มหาภัยสุดๆ
"ไม่เป็นไรหรอก สบายๆ"
สบายกะผีดิ!!!
เวลาผ่านไปสัปดาห์หลังกลับมาที่ญี่ปุ่น เธอค่อยๆปรับตัวให้ตัวเองรับมือกับเวลาที่ต่างกันของสองประเทศได้ จนตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาเปิดเทอม เป็นการเริ่มต้นของชีวิตเด็กม.ปลายของอายากะ
ต้นซากุระเต็มตามทางระหว่างที่กำลังเดินมาที่โรงเรียน…
จริงๆแม่ของเธอจะมาส่งแหละ แต่เพื่อความปลอดภัย อายากะเลือกตื่นเช้าขึ้น เดินออกจากบ้านมาให้ไว ชมวิวแบบนี้ดีกว่าให้นั่งรถของแม่ตัวเอง
ป้ายของโรงเรียนเซย์รินอยู่ตรงหน้า อายากะสูดลมหายใจลึกๆเข้าเต็มปอด แล้วรีบก้าวเท้าเข้ามาในรั้วของโรงเรียน เสียงประกาศจากแผนกเชิญชวนเข้าชมรมของแต่ละชมรมส่งเสียงโฆษณาออกมาไม่หยุด
"ชมรมเบสบอลครับ!!!"
"ชมรมวรรณกรรมครับ!!"
เธอหันไปมองตามเสียง… อายากะตาเบิกกว้างขึ้นหลังเห็นแผ่นหลังในชุดยูนิฟอร์มของเจ้าของผมสีฟ้าที่กำลังถือหนังสืออ่านอยู่ในมือ เดินผ่านคนอื่นๆไปตามทาง
ไม่หรอก...ถึงจะรู้สึกคุ้นเคย แต่ไม่น่าใช่...ไม่น่าใช่ เท็ตสึยะหรอก
มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก ใช่ไหม?
"ชมรมคหกรรมค่ะ! สนใจไหมคะ!?"รุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงเดินมาใกล้เธอแล้วสอบถามเด็กใหม่อย่างอายากะ "ทำอาหารกันสนุกๆค่ะ ชมรมนี้ อยู่กันแบบพี่น้องนะคะ!!"รุ่นพี่แสดงความแอกทีฟของตัวเองออกมา
จริงๆ เคยอ่านเจอว่า ถ้าใครบอกว่า อยู่กันแบบพี่น้องให้รีบหนีไป
แต่ดูแอกทีฟขนาดนี้...ไม่น่าจะมีปัญหาหรอกมั้ง
"เดี๋ยวน้องรับใบสมัครไปเลยนะคะ แล้วก็เขียนเสร็จก็เอามาให้พี่นะคะ คนสวย!"
อายากะเหลือบมองไปที่โต๊ะแถวหน้าต่างของห้องเรียนซ้ำๆแล้วระหว่างวัน...ถ้านับๆดูก็น่าจะเกินสิบรอบได้ ความรู้สึกคุ้นเคยที่ส่งออกมาจากคนที่กำลังอ่านหนังสือปรัชญาอยู่ที่โต๊ะหลังสุดริมหน้าต่างคนนั้น
คนที่เธอมองแผ่นหลังของเขา ตอนที่ฝ่าดงของพวกรุ่นพี่
คุ้นเคย…
ปฏิเสธเลยว่ามันคุ้น...และเธอมองที่เขาที่อยู่ตรงนั้นภาพของเด็กชายคนนั้นที่ลักษณะเหมือนกับเขาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
เท็ตสึยะ?
เอางี้แล้วกัน!!!
ไว้ก่อนไปเข้าชมรม เธอจะเดินเข้าไปทักถามเขาก่อนเองว่าเขาคือเท็ตสึยะรึเปล่า เธอจะถามเอง!
"ไปไหนของเขากันเนี่ย…"อายากะส่งเสียงบ่นหลังเสียงกริ่งดังขึ้น เธอรีบหันมากะจะดักเขาไว้ก่อนแล้วแท้ๆ แต่หายไปไหนกันเนี่ย ให้ตายสิ สาวเจ้าเดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่างตัวนั้นที่เขานั่งก่อนหน้านี้
"คุณฮิโรโตะไม่ไปเข้าชมรมเหรอ?"
"อ...อือ กำลังจะไปค่ะ!"
"แล้วกำลังมองหาอะไรอยู่รึเปล่า?"
"คนที่นั่งตรงนี้เมื่อกี้?"
"บ้าน่า ไม่เห็นใครเลย"
อ...อะไรนะ?
"คุณฮิโรโตะตาฝาดรึเปล่า เราไม่เห็นใครนั่งตรงนั้นเลยนะ"
บ้าาาาาา เป็นไปไม่ได้หรอก จะไม่เห็นได้ไง ก็เขานั่งตรงนี้ตลอดเวลาเลยนี่นา หรือ เธอเจอผีเหรอ ไม่นะ ไม่หรอกใช่ไหม
ฮิโรโตะ อายากะทำได้แค่หัวเราะกลบเกลื่อนออกไป "สงสัยทุกคนคงไม่ได้สังเกตสินะคะ"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็รีบไปเข้าชมรมกันเถอะ คุณฮิโรโตะ เธออยู่ชมรมอะไรเหรอ?"
"อ้อ ชมรมคหกรรมค่ะ งั้นไปก่อนนะคะ"
หลังตอบคำถามเสร็จก็รีบปลีกตัวออกมาจากห้องเรียนของตนเอง เดินไปยังห้องชมรมที่ได้นัดหมายกันไว้
ให้ตายสิ เธอนี่นะ ไม่ได้เรื่องเลย ปล่อยให้คลาดสายตาไปได้ยังไงกัน แบบนี้จะได้มีโอกาสพูด โอกาสคุยกันตอนไหน
"กลับก่อนนะคะ รุ่นพี่"อายากะบอกลาพี่ๆในชมรมของตัวเอง พร้อมโบกมือแสดงท่าทางออกไปหลังจากทำความรู้จักกับเพื่อนในชมรมและรุ่นพี่ พระอาทิตย์ของวันตกไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาค่ำ แสงไฟจากถนนเปิดให้เห็น
เด็กสาววัยรุ่นเดินไปตามทางเหมือนตอนที่ตัวเองมาที่โรงเรียนเซย์ริน
เสียงเดาะลูกบาสเคาะกับพื้นเป็นจังหวะ จะว่าไป ตอนมาก็ผ่านสนามบาส ก็คงจะใกล้ถึงตัวของสนามแล้วสินะ ดึกดื่นขนาดนี้ใครกำลังเล่นบาสอยู่เนี่ย
"บังเอิญจังเลยนะ ผมเองก็อยากจะเล่นกับคุณอยู่พอดี"
เสียงคุ้นหูทำให้เธอหันมามองระหว่างที่กำลังจะเดินผ่านสนามบาส
เขาคนนั้นที่เธอตามหากำลังถือลูกบาสอยู่ในมือ เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก พร้อมกับมองหน้าผู้ชายที่ตัวสูงกว่าตัวเอง
"1vs1"
คำพูดที่ดูมั่นคง ดูหนักแน่น และจริงจังแบบนั้น ทำให้เธอที่แอบมองอยู่รู้สึกได้ถึงความเอาจริงเอาจัง ให้ตายสิ เหมือนพวกพระเอกในอนิเมะที่ไม่ยอมแพ้ และจะปล่อยของของตัวเองออกมาให้ดูเลย
และเธอที่มองอยู่แบบนี้ ไม่ต่างจากสาวน้อยในอนิเมะที่อาจตกหลุมรักเขาได้จากการที่เขาจะโชว์ของออกมา
ก็คือเล่นบาสพิชิตใจสาวน้อยวัยใส!!
และจังหวะที่ชู้ตเขาก็คงจะเป็นจังหวะเดียวกับที่เธแจะตกหลุมรัก
เนี่ย!!!!
ตามสูตรในอนิเมะรักหวานแหววเป๊ะๆ!!!
แต่อายากะคงคาดหวังมากเกินไปหน่อย
ก็อีกฝ่ายไม่ใกล้เคียงกะพระเอกสุดหล่อในอนิเมะเลยสักนิด
เธอยืนค้างมองเขาเล่นกันสองคน
ให้ตายสิ เมื่อกี้เธอคาดหวังอะไรวะเนี่ย มันไม่ใกล้เคียงกะคำว่าเก่งเลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ!!
ไม่ว่าเจ้าของดวงตาสีฟ้า และสีผมเดียวกันจะพยายามเลี้ยงลูกผ่าน หรือ ชู้ต มันก็ไม่สำเร็จเลย
เฮ้อ…
เหมือนพวกมือใหม่มากเลย
"นี่มันไม่ตลกเลยนะ แก!!"
"ฟังที่ฉันพูดบ้างรึเปล่าเนี่ย!!!???"
"แกประเมินตัวเองไว้สูงขนาดไหน? ถึงคิดว่าแกจะชนะฉันได้!!"
เบาได้ เบานะ พ่อ เบา
มันแรงไป พ่อ พ่อใจเย็น
"กล้ามากนะที่มาท้าฉันแข่งแบบนี้!"เจ้าของผมสีแดงร่างสูงว่าแล้วใช้นิ้วมือชี้ไปที่อีกคน
แต่คนถูกว่ากลับไม่สะทกสะท้านอะไรออกมาให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว "ไม่หรอก คนที่เก่งกว่าต้องเป็นคางามิคุงอยู่แล้ว ผมรู้มาตั้งแต่ก่อนแข่งแล้ว" พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ
เขาจะรู้บ้างเปล่าวะ ว่าคำพูด น้ำเสียง สีหน้าของตัวเองมันกวนส้นมากเลยนะ!
เนี่ย ยังไม่ทันจบประโยคเลย
เจ้าคนที่ชื่อคางามิคนนั้นก็จับเข้าที่คอเสื้อของตัวเองแล้ว
"นี่แกอยากมีเรื่องรึไง?? ต้องการอะไรกันแน่!!"
แล้วเธอจะยืนนิ่งอยู่แบบนี้เหรอเนี่ย… ให้ตายสิ
"เอ่อ...ขอโทษนะคะ"สุดท้ายเธอก็ออกเสียงห้ามปรามการใช้กำลังออกไป ท่ามกลางสายตาสองคู่ที่มองมา คางามิคนนั้นปล่อยตัวของคนที่ตัวเองจับดึงคอเสื้อเข้ามาใกล้เมื่อครู่ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในสนามบาส "อย่าใช้กำลังกันเลยนะคะ ใจเย็นๆก่อนเนอะ มีอะไรก็พูดคุยกันดีๆนะคะ"
หลังถูกปล่อย คนที่ถูกปล่อยที่เมื่อกี้มองมาทางเธอก็หันกลับไปที่เจ้าคู่กรณีที่ชื่อคางามิ
"ผมอยากจะเห็นความแข็งแกร่งของคางามิคุงด้วยตาตัวเอง"
ให้ตายสิ หมอนี่...เพี้ยนรึเปล่า?
เธออยากจะกุมขมับ แต่เจ้าคนที่ชื่อคางามิคนนั้นกุมขมับไปก่อนเธอเรียบร้อยแล้ว
อายากะเลยเลือกที่จะสำรวจคนที่ถือลูกบาสขึ้นมาเมื่อไรไม่รู้ และขยับริมฝีปากคล้ายจะชวนเล่นต่อ "เอ่อ…"
"อ่า งั้นก็พอเถอะ"คางามิว่าก่อนจะเดินห่างไป "ฉันไม่สนใจคนอ่อนหัด"
บอกว่าเบาได้ เบาไง
ทำไมแรงจังวะ พ่อ
"สุดท้ายขอเตือนไว้ก่อนนะ เลิกเล่นบาสไปซะดีกว่า"
ประทานโทษนะ กินหมาเข้าไปในปากเหรอ?
"ไม่ว่าจะพยายาม หรือ พูดอะไรให้ดูดีแค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนวงการนี้ต้องมีพรสวรรค์"
คุณเคยรู้สึกเหมือนเท้ากระตุกอยากถีบคนไหมคะ?
"นายไม่มีพรสวรรค์ในการเล่นบาส"
"ไม่เอาด้วยหรอกครับ"
เอาเลยลูก จัดไปเลยหนู อย่าไปยอม อย่าไปยอม!!!
คำพูดนั้นทำให้คางามิที่กำลังจะเดินออกจากสนามบาสไปหยุดชะงัก พร้อมกับใจของเธอที่เต้นเหมือนรัวกลอง อะดรีนารีนกำลังหลั่งความรู้สึกเหมือนเชียร์มวยนี่มัน!!!
"หา?"
"อย่างแรกคือผมชอบบาส อีกอย่างคือคนเรามีความคิดต่างกัน ผมไม่สนใจหรอกครับว่าใครจะเก่งหรือกระจอก"
ใช่ ฟาดเลย ฟาดได้ฟาด ฟาดมันเลยลูก!!!
"ว่าไงนะ?"
"ผมไม่เหมือนกับคุณ เพราะผมน่ะเป็นเงา"
อะไรนะ?
ว้อท?
คางามิคนนั้นกลับไปแล้ว เหลือแค่เธอกับเจ้าของผมสีฟ้าและดวงตาสีฟ้าที่กำลังนั่งอยู่ด้วยกันในสนามบาส ความเงียบที่เงียบสงัด เราสองคนต่างไม่ได้พูดอะไร
อายากะอึดอัด ยอมรับเลย เธอจึงเริ่มเป็นฝ่ายพูดก่อน
"เอ่อ...เราก็กลับกันดีไหมเอ่ย?"
"เอาสิครับ มันก็ดึกพอสมควรแล้ว เดี๋ยวผมพาไปส่งที่บ้านนะ"ว่าจบก็ลุกขึ้นยืนตามความสูงของตัวเอง "เดินคนเดียวมันอันตราย กลับด้วยกันนะครับ"
"อ่า...อื้อ! ขอบคุณค่ะ"
"วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ"
"ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย"
"ยังไงก็ต้องขอบคุณมากๆเลยครับ"เขาว่าแล้วยื่นมือมาหาตรงหน้า ทำเอานึกถึงตอนสมัยเด็กอยู่เหมือนกัน อายากะจำได้เสมอตอนเด็กๆที่เคยโดนรังแกและเท็ตสึยะคนนั้นยื่นมือมาให้จับแบบนี้
ไม่เคยปฏิเสธมันได้เลยสักครั้งจริงๆ จับมือคู่นั้นที่หยาบกร้านกว่ามือของตัวเอง แตกต่างจากมือของเจ้าเด็กอนุบาลในความทรงจำ
"ผมคุโรโกะ เท็ตสึยะครับ"
และวินาทีที่เขาเอ่ยชื่อออกมา อายากะก็รู้ดีเลยว่าเขาคือเท็ตสึยะคนนั้น
คนเดียวกับเจ้าของคำสัญญาในวัยเด็ก
"เท็ตสึยะ...จริงๆด้วย"เจ้าของดวงตาสีทับทิมจับมือของเด็กหนุ่มวัยรุ่นแน่น ยันตัวเองขึ้นจากที่นั่ง "ฮิโรโตะ อายากะ จำได้ไหมเอ่ย?"
"คุณฮิโรโตะ จำได้สิครับ ก็สัญญาไว้แล้วนี่"
"ตั้งแต่ตอนอนุบาลแล้ว ยังจำได้อีกรึไง โม้รึเปล่าเนี่ย?"
"ก็ถ้าเห็นหน้าก็คงจำไม่ได้"
"สวยขึ้นอ่ะดิ"
"เปล่าครับ หน้าแก่ขึ้น"
"เท็ตสึยะ!!"
อายากะอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือจริงๆเลย พูดจาอะไรก็ไม่รู้ บ้าบอที่สุด!!! เธอออกจะสวย น่ารัก หน้าเด็กด้วย พูดออกมาแบบนี้ได้ไง แบบนี้ต้องประหาร ประหารอย่างเดียว!!!
"ครับ?"ทำหน้านิ่งๆไม่ตอบสนองอะไรมากมายกับเจ้าเสียงโวยวายของเธอเลย "ที่จำได้ก็เพราะไม่เคยมีวินาทีไหนที่อยากเห็นคุณฮิโรโตะร้องไห้อีกต่างหากครับ"
เดี๋ยวนะ
ประโยคสุดคูล สุดพระเอกแบบนั้นมันคืออะไรกัน
เสียงใจเต้นกับเสียงฝีเท้าระหว่างเดินกลับบ้านมันกระทบดังจนแยกไม่ออกแล้วว่าเสียงไหนเป็นเสียงอะไร
หรือว่า หรือ หรือว่า!?
จะ จังหวะตกหลุมรัก!?
"ผมไม่อยากเสียผ้าเช็ดหน้า เช็ดน้ำมูกให้คุณฮิโรโตะอีกแล้วครับ...ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นผมยังไม่ได้คืนเลย"
โอเค ขอถอนคำพูดเลย
ไอ้บ้าเอ้ย!!
ผู้ชายอะไรชวนเสียมู้ดอารมณ์ชะมัดยาก
หึ่ย
เจ้าเท็ตสึยะบ้า!!
"ขอบคุณที่มาส่งถึงบ้านอีกครั้งนะ"
"ครับ ไม่เป็นไร"
"งั้นเข้าบ้านแล้ว กลับดีๆด้วย"
หลังจากเดินมาถึงบ้านของตัวเอง เธอก็บอกขอบคุณและจะลาคนที่อุตส่าห์พามาส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ยังไม่ทันจะก้าวเข้าร้าวบ้านของตัวเอง อีกคนก็ส่งเสียงเรียกออกมาก่อน "คุณฮิโรโตะ เดี๋ยวก่อนครับ"
"หือ?"
"พรุ่งนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก อย่าลืมร่มนะครับ"
"อ้อ...อื้อ ขอบคุณนะ"
"งั้นกลับแล้วนะครับ"
"โอเค กลับดีๆ"
หลังจากร่ำลากันแล้ว อายากะก็เห็นแผ่นหลังของเท็ตสึยะเดินห่างออกไปเรื่อยๆจนลับสายตา สาวเจ้าจึงเข้าบ้านของตัวเองอย่างสบายใจ หลังผ่านประตูเข้าไป ขณะถอดรองเท้าก็ส่งเสียงสดใส "กลับมาแล้วค่ะ!"
"โอ๊ะ กลับมาแล้วเหรอ ลูก แล้วเมื่อกี้คุยกับใครอยู่หน้าบ้านตั้งนานสองนานกัน หือ?"
"จะใครละคะ ก็เท็ตสึยะไง เท็ตสึยะ"
"ลูกหมายถึงเท็ตสึยะ เพื่อนอนุบาลที่ลูกร้องไห้ ขี้มูกโป่งเพราะจะจากกับเขาเหรอ?"
"แม่!!"
โดนแซวเรื่องนี้อีกแล้วสิ ให้ตาย
"ก็จริง ลูกในตอนนั้น ร้องไม่หยุดเลย"คนเป็นแม่ยิ่งพูดและส่งเสียงหัวเราะออกมาให้ฟัง "แต่ไม่คิดเลยนะว่าจะจำกันได้ แถมบังเอิญเรียนที่เดียวกันอีก เมื่อกี้แม่เกือบนึกละว่าลูกสาวเสน่ห์แรงมากจนมีผู้มาตามรับตามส่งถึงบ้าน"
"แม่ พอเลย! พูดไรไม่รู้! หนูไปอาบน้ำละ!"
อายากะรีบหนีจากคำแซวของคนเป็นแม่ หนีไปเอาข้าวของที่ใช้ในการอาบน้ำ
ตลอดเลย
พอพูดถึงตอนเด็กก็เป็นแบบนี้ทุกที
แต่ว่า…
'พรุ่งนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก อย่าลืมร่มนะครับ'
เท็ตสึยะยังเหมือนเดิมเลย
กับนิสัยที่เป็นห่วงคนอื่นแบบนี้
ดีจัง
|||
สวัสดีค่ะ วันนี้มาวว นำตอนแรกมาส่งค่า
เรื่องนี้จะดำเนินเรื่องโดยใช้ไทม์ไลน์ในอนิเมะอยู่ค่อนข้างมากพอสมควร
ขอบคุณสำหรับความสนใจนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ❤
ความคิดเห็น