IMPRESS - DAMIDICK - IMPRESS - DAMIDICK นิยาย IMPRESS - DAMIDICK : Dek-D.com - Writer

    IMPRESS - DAMIDICK

    ดวงตาคู่นั้นมักบ่ายเบี่ยงมองอย่างอื่นเสมอเหมือนไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตาทั้งทีเขาใช้เวลามากมายไปกับการมองแค่ดิ๊กคนเดียว

    ผู้เข้าชมรวม

    1,093

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.09K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ต.ค. 61 / 19:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    สวัสดีคะทุกคน
    .....
    ชอบคู่damixมานานแต่พึ่งมีโอกาสได้แต่งยังไงก็ฝากติชมด้วยนะจ้า




    แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มาจากในคอมมิคที่น้องเมี่ยนชอบสเก็ตรูปเป็นงานอดิเรก













             คุณเคยมีสิ่งที่อยากทำมากๆแต่ยากที่จะบอกให้คนอื่นรู้ไหม  บางสิ่งที่ธรรมดาในสายตาคนอื่นแต่สำหรับเราแล้วมันช่างยากเย็นและน่าอาย  ผมต้องฝึกซ้อมต้องหลายรอบตรงหน้ากระจกเพื่อไม่ให้พูดติดขัดแล้วลงเอยด้วยการเอามือปิดหน้าเพราะเขินจนหน้าแดงไปหมด จะบ้าตายกะอีแค่ประโยคสั้นๆ ทำไมเราถึงพูดไม่ได้สักที ผมตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ เอาใหม่ๆ


    “ เอื่อม ….. เกร์ยสัน นายช่วยมาเป็นแบบ …. วาดรูปให้ฉันหน่อยสิ ” 




             ผมจ้องดูหน้าตัวเองในกระจกและก็อดถอนหายใจดังๆไม่ได้ ดูตลกเป็นบ้าเลยเสียงยั้งกับชวนเดท  ผมส่ายหัวแรงๆไปมาและกระโดดลงเตียงเอามือก่ายหน้าผากคิดซ้ำไปซ้ำมา หรือว่าเราไม่ควรจะขอเลยจะดีกว่า แค่คิดเท่านั้นก็รู้สึกโหว่งๆในท้อง นี้ผมเคยเป็นถึงนักฆ่าเป็นหลานของราชอัลกูลและเป็นลูกแบทแมนเชียวนะทำไมกะประโยคสั้นๆแค่นี้พูดออกไปซะจะเขิลบ้าบออะไรนักหนา 



             ผมหลับตาและพยายามรวบรวมสติ นายต้องทำได้เดเมี่ยน ทำหน้านิ่งๆเอาไว้ พูดเสียงเรียบอย่าตะกุกตะกัก และอย่าจ้องตาสีฟ้าสวยๆคู่นั้นเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้นายลืมสิ่งที่จะพูด ……….. แล้วถ้าเกิดพูดออกไปแล้วดิ๊กหัวเราะคิดว่าพูดเล่นละจะเอายังไงดีหรือร้ายสุดก็ไม่ยอมเป็นแบบให้  ยังงั้นผมคงเจ็บน่าดูเลย  ผมเอามือจับหน้าอกที่กำลังเต้นแรงก่อนจะคิดอะไรไปไกลกว่านี้ผมก็หยิบสมุดคู่ใจที่ยับเยินจากการใช้งานมาหลายปีจากใต้หมอน 



             ปกสมุดเป็นสีฟ้าเหมือนสีตาของดิ๊กเป๊ะๆ ผมลูบไล้สมุดนั้นเบาๆและเกะเชือกออก เปิดดูทีละภาพทบทวนทุกของทรงจำในตอนนั้นที่ผมหลงไหล หลายร้อยรูปหลากอาริยาบทของดิ๊ก ไม่ว่าจะนั่งตรงแบทคอมหรือยืนฝึกซ้อมเป็นเป้าชกของท่านพ่อ หันข้างเล่นกับไททัสหรือนอนขดเป็นลูกแมวอยู่บนโซฟาอย่างไม่รู้เรื่องเลยว่ากำลังมีเด็กโรคจิตคนนึ่งกำลังจ้องมองและเก็บทุกๆสิ่งลงไปในสมุดเล่มนั้น ยังจำความรู้สึกตอนฝ่ามือสัมผัสลงบนกลุ่มผมสีดำนุ่มลื่น แอบดมกลิ่นแชมพูจางๆที่หอมสุดในโลกสำหรับเดเมี่ยน  ก่อนจะอดใจไม่อยู่แอบตัดเส้นผมสองสามเส้นเก็บเข้าสมุดเป็นที่ระลึกและทุกครั้งที่คิดถึงช่วงเวลานั้นก็จะแอบมาลูบเส้นผมสีดำในสมุด  


             ทุกรูปที่เขามีไม่มีรูปใดเลยที่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจะหันตรงๆมามองเขา  ดวงตาคู่นั้นมักบ่ายเบี่ยงมองอย่างอื่นเสมอเหมือนไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตาทั้งทีเขาใช้เวลามากมายไปกับการมองแค่ดิ๊กคนเดียว ผมปิดสมุดและจูบมันอย่างที่ชอบทำ กอดมันแน่นเหมือนมันคือเขาคนนั้น ผมต้องหาจังหวะดีๆเข้าไปคุยวันที่ไม่มีใครจะมาขัดจังหวะ  มีแค่ผมกับเขาอย่างที่ใจอยาก   ผมจัดแจ้งอุปกรณ์ต่างๆเตรียมเอาไว้  ผมจะไม่วาดลงสมุดเหมือนทุกครั้ง แต่ผมจะวาดลงบนผืนผ้าใบใหญ่ และติดเอาไว้ที่ปลายเตียง ต่อจากนี้ทุกๆครั้งที่ผมตื่นนอนผมจะได้พบคุณทุกเช้า ทุกค่ำ ทุกวัน ทุกเดือนปี  สีฟ้าที่รักของผม  ผมยิ้มบนเตียงกับฝันกลางวันแสนหวาน


              ผมใช้เวลารอไปอีกหลายสัปดาห์เพื่อจังหวะที่เหมาะสม ตอนนี้ผมฝึกซ้อมพูดจนออกมาได้เนียนเป็นธรรมชาติอย่างที่หวังไว้เลยละ   ทุกคนในบ้านหลับสนิทหมดแล้วหลังจากภาระกิจสุดโหดเมือคืน ผมยังประวิงเวลาเอาไว้แกล้งคีข้อมูลในแบทคอมอย่างเคร่งเครียดพลางแอบมองดิ๊กที่ไม่ยอมไปไหนเพราะห่วงสุขภาพของผม เอาแต่นั่งเฝ้าอย่างง่วงๆเหมือนหมาง่อย  ผมยิ้มมุมปากใจนึ่งก็อยากจะแกล้งต่อแต่อีกใจนึ่งก็สงสารกลัวจะหลับคาที่ก่อน  ผมปิดคอมและเดินทำหน้าเรียบเฉยแบบทุกทีมาหาดิ๊ก 



    “ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย ”  
     

    และหันหลังเดินหายเข้าไปความมืดที่สวนหน้าบ้าน ดิ๊กเดินตามาติดๆ 
    “ มีอะไรเหรอเดเมี่ยน ” ผมยังคงไม่ตอบแต่ยังยืนหันหลังให้ พยายามหายใจเข้าลึกๆและไม่ลืมสิ่งที่ฝึกซ้อมเอาไว้  ส่วนดิ๊กที่เห็นเดเมี่ยนดูท่าทีแปลกๆเลยจับไหล่อีกฝ่ายให้หันมาหา เดเมี่ยนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเห็นดวงตาคู่นั้นกำลังเว้าวอนรอฟังคำพูดจากเขา  เดเมี่ยนกำลังจะสติแตกจึงเบี่ยงหน้าไปทางอื่น และการกระทำอย่างนั้นยิ่งทำให้ดิ๊กเข้าใจผิดไปกันใหญ่ “ ฉันทำอะไรให้นายไม่สบายใจรึป่าว ลิตเติ้ลดี ” น้ำเสียงนั้นดูเศร้าๆจนเดเมี่ยนต้องรีบหันกลับมามองและพูดมันออกไปโดยทันที 
    “ ฉันอยากให้นายมาเป็นแบบวาดภาพให้หน่อย ”
    ด้วยน้ำเสียงที่เร็วยิ่งกว่าเดอะแฟลชเสียอีก  



             ดิ๊กทำหน้าตกใจและดูเหมือนจะไม่อยากเชื่อหูจนต้องถามเดเมี่ยนซ้ำอีกรอบ “ นายฟังไม่ผิดหรอก อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำนะเกร์ยสัน ” เดเมี่ยนเริ่มหน้าแดงแต่ก็ต้องเก็บอาการสุดฤทธิ์ทั้งทีจริงอยากจะวิ่งหนีแล้ว  ดิ๊กพยักหัวช้าๆอย่างเข้าใจ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างสดใสเหมือนเคย “ ได้สิ ” ก่อนจะเดินเข้ามากระซิบข้างหูจนทำให้เดเมี่ยนตัวชาไปทั้งร่าง “ ขออาบน้ำก่อนนะ จะได้ตัวหอมๆ ” แล้วชิงหอมแก้มฟอดใหญ่และเดินจากไปทิ้งให้เดเมี่ยนมึนไปหมดเหมือนโดนไปไฟฟ้าล้านโวลด์ช็อตยังไงยังงั้น



             เดเมี่ยนรีบวิ่งขึ้นไปจัดแจ้งอุปกรณ์วาดภาพ และเก็บซ่อนสมุดไว้ใต้หมอนอย่างเดิม  ใจระทึกไปหมดเพราะต้องรีบอาบน้ำให้เร็วกว่าอีกฝ่ายและไม่ลืมที่จะใส่น้ำหอมกลิ่นหวานอมเปรี้ยวของดอกเดซี่ที่ดิ๊กชอบไปตามซอกคอและข้อมือ เลือกใส่เสื้อผ้าสบายๆแต่ดูดีแบบไม่จงใจมากนัก เสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีขาวกับกางเกงวอร์มขายาวสีดำตัวโปรด  เดเมี่ยนส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยของทรงผมก่อนจะลืมสนิทเลยว่า ต้องไปชงชาให้ดิ๊กด้วย คิดได้ดั่งนั้นก็รีบวิ่งลงไปจนลืมว่าเสียงวิ่งนั้นดังไปทั่วบ้านแล้ว   เดเมี่ยนกดน้ำร้อนแล้ว จัดแจ้งเตรียมแก้วมาสองใบและไม่ลืมเด็ดขาดว่าจะต้องเป็นชากุหลาบใส่น้ำผึ้งสองช้อนสำคัญคือดื่มคู่กับดาร์คช็อคโกแลตยี่ห้อโปรดของดิ๊ก. เดเมี่ยนยิ้มกว้าง เมื่อคิดถึงความสำเร็จของคืนนี้ที่เขากล้าที่จะพูดออกไป  เขายกน้ำชาขึ้นไปบนห้องและเปิดประตู พบใครคนหนึ่งที่กำลังนอนเหยียดตัวสบายอยู่บนเตียงของเขาและใส่เพียงชุดคลุมอาบน้ำสีแดงเข้มที่แหวกลึกถึงกลางอก  



             เขาเกือบทำชาตกแต่โชคดีที่ดิ๊กลุกขึ้นมารับไว้ทันพอดี “น่ารักจังลิตเติ้ลดี จำของโปรดพี่ได้ด้วย ” ดิ๊กรับชาและนั่งดื่มบนเตียงอย่างสบายใจ เดเมี่ยนนั่งลงบนเตียงอย่างเรียบร้อยกว่าปกติไม่อาจละสายตาจากอีกฝ่ายได้เลย “ นี้เป็นครั้งแรกเลยนะ นายต้องสอนพี่ด้วยนะลิตเติ้ลดี ” ภาพเคลื่อนช้าไปหมดรอยยิ้มสดใสเสียงกังวานรอบห้องของดิ๊กทำให้เดเมี่ยนคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่แน่ เมื่อดิ๊กขยับตัวมาใกล้และใกล้มากขึ้นจนเดเมี่ยนตื่นเต้นจนเหงื่อซึมออกมือ “ ไว้ไหมเนี่ย ” ดิ๊กกำลังจ้องหน้าเขาและหยิบดาร์กช็อตโกแลตขึ้นมากัดไปครึ่งนึ่งและยัดมันเข้าปากของเดเมี่ยนอย่างงงๆ รสเข้มและคมจางๆอยู่ปลายลิ้นริมฝีปากเกร์ยสันก็คงเป็นรสนี้เหมือนกันสินะ 



               ดิ๊กลุกขึ้นไปยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังข้างนอก เจ้าตัวจะรู้ไหมว่าชุดนั้นสั้นจนเห็นขาอ่อนหมดแล้ว “ ลิตเติ้ลดี พี่จะต้องนั่งตรงไหนเหรอ ” เอียงหัวมองด้วยสายตาขี้สงสัย  เดเมี่ยนพยายามตั้งสติเป็นครั้งที่ล้าน ก่อนจะเดินมาหาดิ๊กและบอกให้นั่งลงบนเก้าอี้น่วมสีขาวริมหน้าต่างบานโปรดของเขาและเดินไปหยิบผืนผ้าใบมาตั้งจัดแจ้งที่นั่งและพู่กันระบายสีอย่างทะมัดทะแมง ดิ๊กส่งยิ้มหวานเมื่อเดเมี่ยนละจากผ้าใบมามองตน
     “ นั่งท่าไหนดีละจิตกรคนเก่ง ” ดิ๊กยกขาขึ้นไขว่กันอย่างช้าๆเหมือนกับจงใจแกล้งเดเมี่ยน “ นั่งท่าที่สบายที่สุดก็พอ ” ดิ๊กลุกขึ้นและเดินมาหาเดเมี่ยน “ บอกให้ละเอียดกว่านี้หน่อยสิ ” เดเมี่ยนกำลังจะอ้าปากอธิบายแต่ก็ต้องเงียบกริบเพราะอีกคนกำลังนั่งคร่อมทับตักของเขาแถมยังใช้แขนคล้องคอเขาอีกตะหาก “ แล้วท่านี้ละใช้ได้ไหม ”  เดเมี่ยนตกอยู่ในภวัง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เขาสัมผัสช้าๆลงบนหน้าขาของดิ๊ก ลูบขึ้นเรื่อยๆ “ แล้วแต่นายเลย ” ดิ๊กหัวเราะออกมาเบาๆจ้องเข้าไปยังดวงตาสีเขียวของเดเมี่ยนแบบทีเล่นทีจริง ก่อนจะลุกขึ้นออกจากตักเขาไปเฉยๆและนั่งตรงบนโซฟาแบบเดิม 



             ดิ๊กตะแคงหน้าเพื่อให้เดเมี่ยนวาดให้ถนัด แต่มันกลับขัดใจอีกคนเสียเหลือเกินจนต้องลุกขึ้นพรวดมาหานายแบบของเขา เดเมี่ยนคลุกเข่าตรงหน้าก่อนจะจับใบหน้าของดิ๊กให้หันมาหาเขา “ ฉันอยากให้นายมองมาที่ฉัน ” ดิ๊กมองหน้าเข้าไปยังดวงตาโหยหาของเดเมี่ยนก่อนจะค่อยๆเม้มปากอย่างอ้อยอิ่ง เดเมี่ยนล็อกใบหน้าอีกฝ่ายแน่น “ แบบนี้แหละ ฉันชอบ ” เดเมี่ยนแนบชิดใบหน้าเข้าหาอย่างที่อยากทำมาตลอดจนจมูกชนกัน ลมหายร้อนลดลงบนริมฝีปากของกันและกัน ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็เชื้อเชิญอย่างไม่ปิดบังพร้อมกับเปิดอ้าออกให้อีกฝ่ายเข้าไปลิ้มรสแต่เป็นเดเมี่ยนเองที่ทำเพียงจุมพิตลงบนหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนเท่านั้น  ดิ๊กหลับตาลงและสวมกอดเดเมี่ยน “ ขอบคุณนะ ” เดเมี่ยนไม่ตอบอะไรนอกจากลูบแผ่นหลังของอีกฝ่าย   และเดินกลับไปนั่งที่เดิมและบรรจงวาดรูปอย่างสุดฝีมือ ดวงตาต่างจับจ้องเพียงกันและกัน จนลืมเวลาที่ผ่านไป กินเวลาหลายชั่วโมงแต่กลับรู้สึกเพียงผ่านไปแค่หนึ่งนาที เดเมี่ยนรู้ได้ทันทีเลยว่าภาพนี้คือผลงานที่ดีสุดในชีวิตของเขาแน่นอน มันไม่ได้แค่สมบูรณ์แบบตามสัดส่วนแต่มันบรรจุความรักและความงดงามของอีกฝ่ายลงไป แค่เพียงผืนเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะเก็บทุกสิ่งที่รู้สึก แต่ก็มากพอสำหรับทั้งชีวิตของเขาต่อจากนี้ที่จะต้องเฝ้าตามดวงตาคู่งามนี้ไปตลอดกาล  และท้ายสุดเขาได้ตั้งชื่อภาพนี้ว่า Impress ทางขวามือของภาพด้วยลายเส้นเรียบง่าย


      
              เวลานี้ที่หน้าต่างวันใหม่กำลังจะเริ่มต้นแสงสีเหลืองอ่อนส่องกระทบลงบนกลุ่มผมสีกำของดิ๊กที่กำลังฝันหวานไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เดเมี่ยนได้แต่มองภาพที่เขาพึ่งวาดเสร็จและรู้ว่าไม่อาจจะลืมเลือนคืนที่ผ่านไปได้เลย เขาค่อยๆนำภาพนั้นขึ้นแขวนที่ผนังห้อง ลูบเบาๆอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเริ่มรู้สึกถึงความง่วงและความเหนื่อยที่ถาโถมเข้าอย่างจัง เดเมี่ยนใช้เรี่ยวแรงที่พอจะมีเหลืออยู่อุ้มดิ๊กขึ้นมาวางลงบนเตียงและนอนลงข้างๆ จ้องมองใบหน้าคู่นั้นตราบเท่าที่สติยังคงพอมีเหลืออยู่และพร่าเลือนหายเข้าสู่นิทราพร้อมกับอีกฝ่ายที่กำลังกอดก่ายเข้าอย่างมีความสุข 





    E N D



    #ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้เลยนะจ้า







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×