Adore You - Brudick - Adore You - Brudick นิยาย Adore You - Brudick : Dek-D.com - Writer

    Adore You - Brudick

    หากทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งสมมุติ คุณจะรักผมไหม

    ผู้เข้าชมรวม

    830

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    830

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    9
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.พ. 61 / 16:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจาก Sleeping Beauty คะ แต่อยากแต่งให้มีกลิ่นอายมืดหม่นสิ้นหวัง โดยจะเน้นการบรรยายความรู้สึกเป็นพิเศษ ผิดแปลกประการใดหรือดำเนินเรื่องช้าต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่งสนองตัวเองล้วนๆเลย     ถ้าหากเปิดเพลง Visions of Gideon - Sufjan จะได้อารมณ์อย่างมาก 




         หากเขาไม่ใช่แบทแมนแล้วผมก็ไม่ใช่โรบิน หากไร้ค่ำคืนโหดร้ายต้องปกป้อง หากทุกอย่างหายไปจนหมด   เราอาจกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันหรือไม่ก็รู้จักกันอย่างห่างๆ เป็นดั่งคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย  หากผมหลงไหลเขาเสียจนจะกรีดเลือดทุกหยดให้แต่ไร้ความกล้าจะเข้าใกล้ไม่อาจแม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำแค่เพียงสูดลมหายใจแผ่วเบาที่เขาปล่อยออกมาผมก็อบอุ่นจนไม่อาจหวังอะไรอีกแล้ว  
         
         ถ้าทุกๆอย่างที่แบทแมนและโรบินทำกลายเป็นเพียงการ์ตูนอ่านเล่นของเด็กๆ   
    บรู๊ซจะรักผมไหมหรือเกลียดเข้ากระดูกดำ อาจแค่เฉยเมยปล่อยให้ผมเพล้อไพลในห้วงความคิดแต่เพียงลำพัง แค่คิดฝันเท่านั้นความรู้สึกของผมก็วูบไหวไปมาด้วยความระส่ำ นานแค่ไหนแล้วที่ผมต้องเก็บกดอารมณ์เหล่านี้เอาไว้ ได้แต่ฝันและจินตนาการในช่วงไร้สติและตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้าว่ามันไม่ใช่แม้เพียงนิด ทรมานเกินทนไม่อยากจะรับรู้ความจริงอะไร หลายครั้งที่ผมต้องกินยานอนหลับแล้วภาวนาว่าอย่าให้ผมตื่นขึ้นมาอีกเลย ความตายนั้นง่ายกว่าการอยู่อย่างล่อเลี้ยงความหวังที่ไม่มีทางเป็นจริง    

         ผมนอนนิ่งไม่ไว้ติ่ง มองเพดานห้องนอนราวกับมันเป็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวอันงดงามที่ไม่เคยมีอยู่จริง ในหัวครุ่นคริดถึงสิ่งที่เตรียมการไว้ ยาที่ทำให้เวลาความจริงหยุดชะงัก หยุดการทำงานของร่างกาย ไร้สติ ไร้ซึ่งหน้ากากที่ปิดบังตัวตน  ผมแค่อยากสัมผัสตัวตนเขาที่ไม่ใช่การสวมบทบาทเป็น บรู๊ซ เวย์น หรือแม้กระทั้งพ่อบุญธรรม   

         เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เงียบกริบไร้สิ่งกวนใจ ผมจัดแจ้งคลุมกายที่เปลือยเปล่าด้วยชุดกำมะหยี่สีดำหนา พรมน้ำหอมตามจุดชีพจร กลิ่นของความลับผสมความเศร้าดั่งน้ำตาจางๆที่ไหลยามถูกเขาเมินเฉยและไม่ลืมหยิบขวดยาเล็กๆใส่กระเป๋าเสื้อสีดำ ผมเดินอย่างแผ่วเบาไปตามทางเดินของบันไดก้าวลงไปสู่ถ้ำชื้นเย็นที่บรู๊ซกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างสบายใจ ผมยิ้มให้เขาแบบที่ทำประจำเวลาอยู่ด้วยกันแค่เพียงลำพัง ยิ้มจากใจและความรู้สึก ถ้าเขาสังเกตสักนิดเขาคงจะรู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน    

         ผมเดินไปยังเคาร์เตอร์ด้านหลัง ตามปกติแล้วผมจะชงชาเอิลเกร์ย แต่คืนนี้มันจะแตกต่างออกไป ผมจัดการเปิดไวน์แดงรสเข้มจากทริปอิตาลีที่เราเคยไปด้วยกัน กลิ่นหอมฉุนจางๆอมเปรี้ยวลอยคลุ้ง  ผมรินไวน์ไม่มากนักสองแก้ว ใส่ยาลงไปหมุนแก้วเล็กน้อยเพื่อให้ทุกอย่างเนียนสนิท หลับตาสูดดมกลิ่นระเหยของไวน์พลางจินตนาการทุกอย่างที่อยากทำ  เดินมานั่งประชิดตัวใช้สายตาความหวาบหวามคลุกคลามตั้งแต่หัวจรดเท้า   เมื่อเขาหันมามองผม ผมเพียงขยับตัวให้ชิดมากขึ้นให้กลิ่นน้ำหอมคละคลุ้ง จิบไวน์อย่างเนิบช้ายิ้มหวานให้อย่างที่เคย พลางส่งแก้วไวน์ใส่มือของบรู๊ซอย่างเชิญชวน  เขามองผมอย่างกับเขารู้ทุกอย่าง ดวงตาสีฟ้าครามของเขาเข้มขึ้นจนผมไม่อาจละสายตาไปไหนได้ สวยงามเกินกว่าสิ่งใดในโลกหรือแม้แต่จินตนาการของผมเอง 

         ความอัดอั้นในใจเข้าถาโถมจนมือของผมสั่นดวงตาวูบไหวราวกับสัตว์ป่าที่ตื่นกลัว ตัวสั่นไปหมดจนไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นไรดี แถบหยุดหายใจเมื่อคิดว่าเขารู้ความคิดสกปรกของผมแต่อีกใจนึ่งก็ช่างหอมหวานเหลือเกินกับสายตาอบอุ่นรอยยิ้มละไม 
    กลิ่นน้ำหอมของเราผสมกันอย่างแยกไม่ออก  บรู๊ซกุมมือผมแผ่วเบา แล้วดื่มจนหมดแก้วในครั้งเดียว น้ำตาของผมไหลถ่วมม่านตาหลากรินลงมาเกรอะกรังใบหน้า ผมเอิ่นเอยเบาหวิวจนแถบจะเป็นเสียงครางในลำคอ ผมขอโทษแต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้   บรู๊ซไม่ตอบอะไร เขาทำเพียงจูบซับน้ำตาร้อนที่ดวงตาสองข้าง ซบอิงไหล่ของผมเนิ่นนานอย่างไร้เรี่ยวแรงก่อนจะหมดสติไป  

         ผมเอามือโอบลอบตัวบรู๊บกอดอย่างถวิลหาและรู้สึกผิดจนร้องไห้สั่นสะอื้นไปทั้งตัว  คนบาปหยาบช้าที่อกตัญญูแม้แต่กระทั้งพ่อบุญธรรมของตัวเอง.  ผมค่อยๆพยุงร่างที่ปวกเปียกขึ้นมา เสื้อบรู๊ซชื้นไปหมดด้วยหยาดน้ำวิปริต  ความมืดพาเราทั้งคู่ไปยังห้องนอนอย่างทุลักทุเล ผมค่อยๆวางตัวเขาลงบนเตียง แหวกม่านออกให้แสงสาดส่อง ผมแหงนมองดวงจันทร์แหว่งหวิ่นครึ่งเสี่ยวแสนมืดมิดและสว่างนวลตา จิตใจของผมก็คงไม่ต่างกันมากนัก 

         ทั้งหม่นหมองมืดมิดด้วยความเก็บกดและแสดงมันออกมาอย่างหยาบคาย ผมอยากจะลูบไล้ทุกส่วนในร่างกายตามแต่ใจอยากทำ จูบพรมด้วยความถวิลหา กอบกุมความรักที่มีแทรกเร้นเข้าไปในกายเพื่อบอกว่าผมเคยเป็นส่วนหนึ่งในร่างของคุณแม้ว่าจะไม่รู้ตัวเลยก็ตาม อยากให้คุณไร้สติไปตลอดกาลและมีเพียงผมกับคุณเท่านั้นบนโลกใบนี้ แต่อีกใจผมก็อยากทำเพียงแค่จ้องมองอย่างห่างๆทั้งในยามที่สุขและทุกข์ ไม่ให้คุณรู้ว่าผมเจ็บปวดแค่ไหนและใช้เวลาทั้งชีวิตในการเป็นเงาตามติดคุณตลอดไป 

        ผมสัมผัสไปที่บานกระจก เย็นเชียบด้วยระอองฝนและลมหนาว ผมผละความคิดออกมาและเดินตรงไปที่บรู๊ซ ฝ่ามือสัมผัสลงที่ซอกคอ เย็นนิดหน่อยแต่ไม่อันตรายอะไร ผมหย่อนตัวนั่งข้างเตียง บรรจงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกรวมถึงกางเกงแสลคยาวที่บรรจงผ่านตามเรียวขาคู่นั้น แต่ละเม็ดเผยให้เห็นเนื้อผิวเนียนที่ผมคาดคิดไว้นุ่มและลื่นเหมือนผ้าไหมแต่แน่นตรึงตามกล้ามเนื้อเหมือนชายโดยทั่วไป 

        ผมช้อนร่างขึ้นมาและยึดศรีษะแนบอกไว้เพื่อจะได้ถอดเสื้อได้อย่างสะดวก พลางกดจมูกดมเต็มปอดตามซอกคอและไล้ผม ริมฝีปากเกลี่ยไล่ขบเม้มตามสันกรามได้รูปก่อนจะค่อยๆเแอ่นตัวบรู๊ซลงเพื่อจะได้ใช้มือสัมผัสไปตามทรวดทรงและมัดกล้ามเล็กๆที่หน้าท้องจากสัมผัสกลายเป็นบีบเค้นที่อก ข่วนจิกตามแผ่นหลังจนเลือดซึมติดเล็บอย่างเพล้อไพลเสียงอืออึ่งแต่เพียงลำพังของผมดังขึ้น 

        การหลับตาและจินตนาการทำให้ผมเตลิดไปไกล  ผมเลียปลายนิ้วแดงฉานหวานละมุนอย่างไม่รู้เบื่อจนริมฝีปากมีแต่งแต้มด้วยคราบเลือด ผมปล่อยร่างของบรู๊ซให้นอนเหยียดสบายพลางซุกใบหน้าลงที่หน้าท้องอุ่น ครวญครางไม่เป็นภาษาเพราะมันสุขเกินกว่าสิ่งใดในโลก ลากไล้ปลายนิ้วไปทั่วหน้าขาตลอดจนสี่ข้างหรือแม้แต่ขาอ่อนด้านใน 

        ผมเคลื่อนตัวมานั่งที่ปลายเท้ายกขาของบรู๊ซไว้ที่หน้าตัก บีบคลึงและจ้องมองคนที่นอนไร้สติ เม้มริมฝีปากจูบอย่างห่วงแห้นที่ปลายเท้าทั้งสองข้างด้วยความนุ่มนวล มองใบหน้าที่เรียบนิ่งของบรู๊ซมันเหมือนกับความรู้สึกของเขาไม่มีผิด นิ่งเฉยต่อทุกๆสิ่ง  ผมคลานขึ้นมาจากปลายเตียงและขึ้นคร่อม  

       ในความรักที่เย็นชืดบางที่ผมก็เกลียดเขาเสียจนอยากจะฆ่าให้ตาย โยนร่างทิ้งลงแม่น้ำให้ดิ่งจมไปกับความรู้สึกที่เออล้น ผมจ้องมองเนิ่นนานใจลอยกับอารมณ์ทุกอย่างที่ประเดประดรังกว่าจะรู้ว่าทำอะไรอยู่บรู๊ซก็หน้าแดงด้วยแรงมือของผมที่บีบคอเขา เมื่อผมรู้สึกตัวก็ถึงกับผงะกระโดดออกจากเตียงมายืนหอบหายใจเหมือนคนขาดอากาศ ผมตบตีร่างกายและใบหน้าอย่างบ้าคลั่ง แกมันบ้า พูดพร่ำกร้นด่าตัวเองกับสิ่งที่ทำ ทุกสิ่งในห้องแตกละเอียดย่อยยับ ผมนอนหมดสภาพกลางกองเศษแก้ว ปากแตกมีเลือดไหลแก้มบวมช่ำจากแรงตัวเอง ในมือถือขวดยานอนหลับไว้แน่นก่อนจะกรอกเข้าปากจำนวนมากนับไม่ถ้วน ผมไม่หวังอะไรอีกแล้ว ผมลุกขึ้นจากกกองเศษประลักหักพัง เหยียดกายนอนบนเตียงอย่างหมดแรง กอดก่ายร่างสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ตาของผมหนักขึ้นทุกขณะ สติพร่าเลือนไปหมดจนไม่รู้ว่านี้คือความจริงหรือความฝัน ผมซบอกของบรู๊ซแน่นหายใจติดขัด เหงื่อท่วมทั่วตัว น้ำตาไหลรินลงที่ห่างตาช้าๆ สิ่งผมพอจะทำได้นั้นคือหลับตาและกล่าวคำสุดท้ายในชีวิตนั้นคือ ผมรักคุณ                                  


    #ฝากรบกวนผู้อ่านทุกท่านวิจารณ์ได้เต็มทีเลยนะคะเพื่อจะได้เอามาแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
    #ขอบคุณจ้า
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×