fic touken ranbu x oc (Alloc) ซานิวะวิญญาณ (รีไรท์) - นิยาย fic touken ranbu x oc (Alloc) ซานิวะวิญญาณ (รีไรท์) : Dek-D.com - Writer
×

    fic touken ranbu x oc (Alloc) ซานิวะวิญญาณ (รีไรท์)

    โดย Mzriza12118

    ในวันนั้นวันที่ฉันควรจะมีความสุขและได้รำในวันสำคัญของโรงเรียนแต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด เพราะฉันโดนฆ่าโดยใครก็ไม่รู้! ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วยฉันทำอะไรผิดไปงั้นเหรอแล้วครอบครัวฉันจะอยู่ยังไง

    ผู้เข้าชมรวม

    2,676

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    2.67K

    ความคิดเห็น


    27

    คนติดตาม


    131
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.ค. 64 / 23:04 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    fic touken ranbu x oc (Alloc) ซานิวะวิญญาณ



         ในวันนั้นวันที่เธอนั้นควรจะมีความสุขในวันสำคัญของโรงเรียนแต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด เพราะอะไรนะเหรอ? เพราะเธอนั้นโดนฆ่าโดยใครก็ไม่รู้!น่ะซิ ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับเธอด้วย เธอทำอะไรผิดไปงั้นเหรอแล้วครอบครัวของเธอจะอยู่ยังไงทั้งพ่อแม่และพี่น้องอีกด้วยทำไมสวรรค์ต้องลงโทษเธอแบบนั้ด้วย และในเวลาไม่นานนั้นเช่นกันที่ดวงวิญญาณเธอได้ถูกจองจำอยู่แห่งนี้เฝ้าร่ายรำไปเรื่อยรอวันที่จะหลุดพ้นไปจากที่แห่งนี้ซึ่งมันก็นานแสนนานเหลือเกินเธอทำอะไรผิดทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย เป็นเพราะมัน! ไอ้คนชั่วคนนั้น!! มันทำให้เธอต้องพบเจอกับชะตากรรมนี่ หญิงสาวสาบานว่าจะตามแก้แค้นมันให้ได้ถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นใครก็ตาม! แต่เธอยังจำได้แม่นรอยสักนั้นถ้าเธอเจอมันตายแน่!! แต่แล้วในวันที่เธอกำลังร่ายรำอย่างโดดเดี่ยวบนเวทีนั้นก็พลันปรากฎชายร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่และข้างๆก็เป็นสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอยู่ข้างๆ และการพบเจอของเธอและชายตรงหน้ามันก็ทำให้ชีวิตอันมืดมนของเธอได้เปลี่ยนไปตลอดกาล



    บทนำ

    " ยัยหนูแต่งตัวเสร็จรึยัง? " เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นหญิงสาวเจ้าของร่างโปร่งบางใบหน้างดงามที่กำลังแต่งตัวอยู่ก็ขานรับทันที

    " จะเสร็จคะคุณแม่ " เธอขานรับก่อนจะรีบแต่งตัว วันนี้ครอบครัวของเธอที่ประกอบไปด้วยคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย พี่สาว และน้องสาว(?)วันนี้เป็นวันภาษาไทยและเป็นวันดีที่หญิงสาวนั้นจะได้ขึ้นรำบวงสรวงซึ่งอาจารย์นั้นมอบหมายให้เธอรำตัวนางคู่กับรุ่นพี่คนหนึ่งในชมรม โดยจะเป็นการแสดงที่อาจารย์ตั้งใจเป็นอย่างมากส่วนน้องสาว(?)ฉันก็ต้องรำด้วยแต่เป็นอีกการแสดงอย่างหนึ่ง จากนั้นหญิงสาวก็รีบวิ่งลงมารวมกับทุกคนที่รออยู่ชั้นล่างแล้วคุยกันสักพักและก็เริ่มออกจากบ้านตรงไปที่โรงเรียนทันที

    " วันนี้พิเศษจังนะคะพี่ตา " น้องสาวหันมาถามฉัน ฉันยิ้มก่อนจะยี่หัวอีกฝ่ายเล่นถึงอีกฝ่ายจะสูงกว่าเธออยู่ไม่มากนัก ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ก็พวกเราเป็นฝาแฝดกันนี่นา เธอมองน้องชายในคราบน้องสาว ซึ่งมีเหตุจำเป็นซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณพ่อและคุณแม่ต้องจับน้องชายสุดน่ารักน่าฟัดของเธอนั้นเเต่งหญิงตั้งแต่เด็กๆด้วย ดูสิยิ่งเห็นแก้มป่องๆยิ่งอยากฟัดอ่าา

    " สงสัยพวกพี่คงต้องจองเก้าอี้หน้าสุดแล้วมั่งก็น้องสาวสุดสวยจะรำนี่เนอะ แอ๊ก! " พี่ชายคนรองพูดขึ้น ก่อนจะโดนพี่สาวคนโตรัดคอแน่นจนพี่ชายต้องตบที่เบาะรถอย่างยอมแพ้

    " แน่นอน นั้นเป็นหน้าที่แกไอ้น้องชาย " พี่สาวคนโตพูดก่อนจะยี่หัวอีกฝ่ายเล่น จนอีกฝ่ายโวยวาย

    " แว๊กพี่ครับ ปล่อยผมไปเถ๊อะะ " พี่ชายคนรองผู้ดวงซวยพูดทันทีทำให้ทุกคนในรถหัวเราะกันหมด ส่วนน้องชายของเธอก็หันมาพิงไหล่ฉันแทนพร้อมกับพูด

    " หนูดีใจนะที่มีพี่สาวที่แสนดีอย่างพี่ตานะ " น้องชายฉันพูดขึ้น ส่วนพี่ชายและพี่สาวที่อยู่ข้างหน้าก็หันมาโวยวายทันที

    " แล้วพวกพี่ละ!! " สิ้นคำพูดนั้น คุณพ่อก็พูดขึ้น

    " เจ้าตาร์ อย่าลืมสิว่าแกเคยแอบเอาการ์ตูนน้องไปอ่านแล้วไม่เอาไปคืนนะ " สิ้นคำพูดนั้นพี่ตาร์ก็หน้าหงายไปเลย ส่วนพี่สาวก็หัวเราะชอบใจใหญ่

    " ติ๊กก็เหมือนกันลูก คราวก่อนแม่ยังเห็นหนูเเอบกินขนมของน้องเลย " สิ้นคำพูดนั้นพี่ตาร์ที่หน้าหงายไปก้พลันหัวเราะตอกหน้าพี่ติ๊กทันทีจนโดนโบกไปทีหนึ่งส่วนเธอกับน้องชายหันไปโวยวายกับทั้งสองทันที

    " พี่ตาร์แอบจิ๊กหนังสือการ์ตูนหนูไปอีกแล้วเหรอ คราวก่อนยังไม่เอามาคืนเลยนะ " เธอพูดพร้อมกับทำแก้มป่องใส่

    " พี่ติ๊กนี่พี่แอบกินขนมที่ผมเอาไว้กินตอนทำการบ้านอีกแล้วเหรอครับ " น้องชายเธอพูดขึ้นบ้าง

    ' ชิบหายล่ะ '  ทั้งสองคิดก่อนจะมองหน้ากันแล้วหันมาแก้ตัวกับสองแฝดที่กำลังทำหน้ามุ้ยใส่พวกเขาอยู่

    " พี่ไม่ได้ตั้งใจแอบกินนะตาล " พี่สาวรีบแก้ตัวทันที เธอกลั้นขำนิดๆคิดว่าแค่แกล้งอีกฝ่ายเล่นเฉยๆ

    " ดะ เดี๋ยวพี่เอาไปคืนครับผม " พี่ตาร์พูดพร้อมกับทำหน้าอ้อนน้องชายฝาแฝดของเธอที่กำลังฟองแก้มป่องๆนั้นอย่างน่ารักก็นะใครอยากจะให้น้องชายเธอหน้าสวยนี่ อุ๊ยลืมไป เธอกับน้องชายหน้าเหมือนกันนี่หว่า 

           ครอบครัวเรานั้นอยู่ในฐานะปานกลางคุณพ่อทำงานบริษัท คุณแม่เปิดร้านอาหารและมีลูกมือคือพี่ติ๊กพี่สาวคนโต ส่วนพี่ตาร์พี่ชายคนรองนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เธอเรียนอยู่ม.4 ส่วนน้องสาวเรียนอยู่ม.2 เพราะเกิดปัญหาอยู่ช่วงหนึ่งทำให้น้องชายของเธอเข้าเรียนช้ากว่าเธอ 3 ปี เธอที่ชื่นชอบนาฎศิลป์อยู่แล้วจึงเข้าชมรมนาฎศิลป์ตั้งแต่อยู่ม.1 ทำให้โดนครูเรียกให้รำเปิดงานทุกงาน และเธอนั้นก็เคยมีแฟนคนนึงแต่ก็เลิกไปนานแล้วเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ในตอนแรกที่คบกันเขาก็เป็นคนอัธยาศัยดีนะ สุภาพ แต่พอนานวันเข้ากลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาเปลี่ยนไปกลายเป็นคนอารมณ์ร้ายไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลัง เธอจึงขอเลิกไปแต่เขาก็ไม่ยอมแถมยังขู่เธอไว้ด้วยว่า ถ้าเขาไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้ จากนั้นเขาก็หายตัวไปเลยซึ่งเธอก็ไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะคิดว่าเขาคงจะขู่ไปเอง แต่ก็ช่างเถอะเลิกสนใจดีกว่า

       ไม่นานนักพวกเราทั้งหมดก็มาถึงโรงเรียนซึ่งเต็มไปด้วยบูทต่างๆมากมาย พี่ติ๊กพาเธอและตาลน้องชายไปที่ชมรมเพื่อที่จะแต่งตัวสำหรับงานนี้ ในระหว่างที่จะไปนั้นเองคุณแม่ก็มอบบางอย่างให้เธอซึ่งเธอก็รับมา

    " เอานี้ยัยหนูของขวัญวันเกิดของหนูแม่ตั้งใจเลือกให้เลยเชียวนะ " คุณแม่พูดพร้อมกับยื่นกล่องเล็กๆที่มีขนาดกล่องยาวนิดหน่อยให้เธอ หญิงสาวรับมาก่อนจะเปิดดูก็พบกับปิ่นสีทองอันหนึ่งวางอยู่ในกล่องไม้

    " ว้าว ขอบคุณคะคุณแม่ " เธอตาเป็นประกายก่อนจะโผเข้าก่อนคุณแม่แน่นจนท่านหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมลูกหัวฉันเบา

    " เอาละ เลิกอ้อนแม่ได้แล้วรีบไปแต่งตัวดีกว่านะลูก " คุณแม่พูดก่อนที่หญิงสาวจะพยักหน้าแล้วเดินไปที่ชมรมพร้อมกับพี่ติ๊กและตาล จนในที่สุดพวกเราทั้งสามก็มาถึงชมรม เธอไหว้อาจารย์ที่ยืนรออยู่ทันที ท่านรับไหว้ก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

    " เอาละไปแต่งตัวได้แล้วตา ตาล แต่งเสร็จจะได้มาทวนท่ากันรอบหนึ่งก่อนขึ้นงาน " อาจารย์พูดก่อนที่พวกเราจะเข้าไปในห้องแต่งตัว  ส่วนน้องชายของเธอนั้นแยกตัวไปแต่งตัวที่อีกตึกกับพี่ติ๊ก ส่วนเธอก็แยกมาอีกห้องหนึ่งหญิงสาววางปิ่นลงบนโต๊ะแป้งก่อนจะเริ่มแต่งหน้าตัวเองทั้งเขียนคิ้ว แต่งตา ทาปากสีแดงชาด หลังจากแต่งหน้าไม่นาน เธอก็แต่งเสร็จก่อนจะมีรุ่นพี่เข้ามาทำผมให้และจากนั้นก็แต่งองค์ทรงเครื่องจนเหลือแค่ใส่ชฏานั้นเอง ไม่นานพี่ติ๊กก็เดินมาพร้อมกับชฏา หญิงสาวหันไปมองก่อนจะยกมือไหว้แล้วพี่ติ๊กก็สวมชฏาให้หลังแต่งตัวเสร็จสักพักประตูห้องแต่งตัวก็เปิดขึ้นพร้อมกับที่ พ่อ เเม่ พี่ตาร์ และตาลน้องชายฝาแฝดที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินเข้ามา พี่ตาร์ก็เอ่ยปากแซวทันที


    ชุดที่ตาใส่

    " ว้าวว น้องสาวใครเนี้ยสวยจังเลย " พี่ตาร์พูดก่อนที่น้องชายเธอจะพยักหน้าทำนองว่าเห็นด้วย

    " ใช่ๆ พี่สาวหนูสวยที่สุด " 

    " แหมปากหวานเชียว "

    " เอาละลูกมาถ่ายรูปกันหน่อยมั้ย อาจารย์ครับฝากถ่ายรูปให้หน่อยนะครับ" คุณพ่อพูดก่อนที่จะยื่นกล้องให้อาจารย์แล้วเดินมาร่วมกลุ่มโดยที่เธออยู่ตรงกลางพ่อแม่ขนาบซ้ายขาวพี่ติ๊กยืนข้างแม่ พี่ตาร์ยืนข้างพ่อ ส่วนน้องชายยืนหน้าฉันแต่ย่อตัวลงพร้อมชูสองนิ้ว พวกเราต่างยิ้มแย้มกับบรรยากาศอบอุ่นตามสไตล์ครอบครัวของเรา แต่ใครจะรู้ละว่าการถ่ายรูปครอบครัวครั้งนี้มันจะกลายเป็นการถ่ายรูปพร้อมครอบครัวครั้งสุดท้าย

    " เอาละตาอยู่นี้ก็อยู่เตรียมตัวไว้ละ อีกไม่นานอาจารย์จะให้คนมาตาม " หญิงสาวพยักหน้าให้ก่อนที่คนที่เหลือจะเดินออกไปแล้วพ่อทิ้งท้ายไว้ว่า

    " ลูกคือความภูมิใจของพ่อนะ " เธอที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มทันที แต่หลังจากที่ประตูปิดลงพลันหญิงสาวก็ใจหายวูบทันที เธอจึงเอามือลูบที่อกตัวเอาเบาๆ เพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบปิ่นขึ้นปักที่ผมส่วนที่รัดไว้เธอนั่งเล่นไปสักพักประตูก็เปิดขึ้นพร้อมกับรุ่นน้องที่เดินเข้ามา

    " พี่ตาคะมีคนอยากพบพี่คะ " เด็กสาวพูด ฉันขมวดคิ้วทันที

    " ใครจ๊ะ? " ฉันถามออกไป

    " เขาบอกว่ารู้จักพี่นะคะ? " เด็กสาวพูดหญิงทำหน้างงทันที ใครกันล่ะ? ก่อนที่เธอจะหันไปบอกน้องอีกครั้ง

    " โอเคจ๊ะ แล้วเขารออยู่ที่ไหนจ๊ะ " เธอถามออกไป ไปแปบเดียวคงไม่เป็นไรมั่ง?' หญิงสาวคิด

    " เขารอที่หลังห้องชมรมนี่เองคะ " เธอได้ยินก็พยักหน้านิดๆก่อนที่รุ่นน้องจะขอตัวไปดูงานที่หอประชุม หญิงสาวนั่งสักพักก่อนจะเดินออกจากห้องภายในชมรมฉันสังเกตุว่าไม่มีใครอยู่เลยสงสัยจะอยู่ที่หอประชุมกันหมด เธอจึงเดินออกจากชมรมแล้วเดินอ้อมไปที่หลังชมรม เธอเดินไปมารอสักพักก็ไม่เห็นใครสักคน

    ' ใครมันพิเรนเรียกเธอออกมาตอนนี้เนี้ย '

    " ไหนอะ? ไม่เห็นจะมีใครสักคน สงสัยกลับไปแล้วมั่ง " เธอบ่นอุบอิบก่อนจะหันกลับเพื่อจะไปที่หอประชุมแทน และในขณะที่เธอหันกลับเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้สวมโม่งปิดใบหน้ามิดชิด ยืนอยู่หลัง เธอผงะถอยหลังทันทีอย่างตกใจ

    " คุณเป็นใครนะ!! " เธอตะโกนถามออกไปด้วยความตกใจ และพยายามถอยห่าง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบก่อนจะดึงบางอย่างออกมาจากข้างหลังหญิงสาวมองตามก็พบว่ามันคือ

    ' มีด '

    " คุณจะทำอะไรนะ!! " เธอถามเสียงสั่น และพยายามถอยห่างออกไปเรื่อยๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวจึงปรี่เข้ามาเธอจึงหันหลังจะวิ่งหนีแต่อีกฝ่ายก็ขว้าแขนไว้แล้วดึงกลับมา ด้วยความกลัวและตกใจเธอจึงตวัดขาเตะไปที่สีข้างอีกฝ่ายจนอีกฝ่ายเผลอปล่อยมีดลงแล้วกุมสีข้างไว้ หญิงสาวพยายามจะสะบัดมือดีแต่อีกฝ่ายก็เหวี่ยงฝ่ามือฟาดมือมาที่หน้าหญิงสาวอย่างแรงจนร่างล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง

    เพี๊ยะ!!!

    " โอ้ย!! "

    " ยะ อย่าทำฉันเลยนะ ปะ ปล่อยฉันไปเถอะ " เธอยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยความกลัวพร้อมมือที่สั่นเทาน้ำตาเริ่มไหลออกมาที่มุมปากก็มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย พร้อมกับกระเถิบถอยหลังไปแต่อีกฝ่ายก็เดินตรงเข้าอย่างคุกคาม

    " ขะ ขอละ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้อง " เธอร้องไห้ออกมา ในขณะที่มือยังไหว้อีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายไม่สนใจแล้วพุ่งมาบีบคอหญิงสาวทันทีด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วออกแรงบีบ

    " อะ อั๊ก อะ ปะ ปล่อย อั๊ก ฉัน ไปเถอะ " หญิงสาวที่หายใจติดขัดพยายามปัดป่ายดันอีกฝ่ายออกแต่ก็สู้แรงไม่ได้เพราะอีกฝ่ายนั้นบีบที่คอแรงขึ้นแล้วดันตัวหญิงสาวนอนลง ขาเธอปัดป่ายไปมาตาเริ่มเหลือบมองข้างบนเหมือนจะไม่ไหวแล้ว อีกฝ่ายปล่อยมือข้างหนึ่งออกแต่อีกข้างยังคงบีบคออยู่แต่ไม่ผ่อนแรงเลย มือข้างว่างก็หยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมาหญิงสาวเบิกตากว้างมองก่อนจะสังเกตุเห็นบางอย่างที่ข้อมือมันคือรอยสักรูปไฟ ก่อนจะเงื้อมมือขึ้น หญิงสาวทั้งทุบทั้งตีหรือแม้แต่จะถีบอีกฝ่ายแต่ก็ไม่หลุดออกจากมืออีกฝ่ายได้

    ปึก!!

    " อึก!! " เธอร้องออกมาเพราะอีกฝ่ายนั้นใช้หมัดอัดลงไปที่ท้องน้อยอย่างแรงจนจุกไปหมด ก่อนอีกฝ่ายจะหยิบหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้งฉันน้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้

    " กูทำอะไรให้มึง! " เธอร้องถามออกไป

    " ......... " ไร้เสียงตอบกลับจากอีกฝ่าย

    " ถ้ามึงทำ กูขอสาบานกุจะตามฆ่ามึง มึงจะต้องทรมานอย่างที่กูเป็นไม่ว่ามึงจะเป็นใครกูจะตามหามึงให้พบ!! " หญิงสาวลั่นคำสาบแช่งไว้ แต่ในใจนึกถึง พ่อ แม่ พี่ และน้องสาว เธอต้องมาเจออะไรกันทั้งๆที่เธอไม่เคยทำอะไรให้ใคร ทำไมต้องมาทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย และเมื่อมองสบกับสายตาของอีกฝ่ายก็เห็นเพียวตาที่ไร้แวว

    ' พ่อจ๋า แม่จ๋า พี่จ๋า น้องจ๋า หนูต้องตายแล้วใช่มั้ย ' เธอน้ำตาไหลออกมาทันที พลางสมองก้นึกถึงอีกคนที่มีบุญคุณกับเธอและยังเป็นคนสอนทุกอย่างให้เธอแต่คราวนี้มันกลับช่วยอะไรเธอไม่ได้

    ' ขอโทษนะคะอาจารย์ซากะ ' 

    ฉึก!!

      แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจก่อนจะปักมีดลงหน้าอกข้างซ้ายอย่างแรงจนร่างบางเบิกตากว้างก่อนที่ความเจ็บปวดจะเริ่มจนร่างบางกรี๊ดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

    " กรี๊ดดดดดด " อีกฝ่ายตกใจที่ร่างเล็กกรีดร้องออกมา ก่อนจะหันกลับหลังไปมองก็เห็นคนวิ่งมาทางนี้เขาจึงหันกลับมาแล้วดึงมีดออกแล้วปักลงอีกครั้ง ดึงมีดขึ้นมาอีกรอบแล้ววางด้ามคมไว้ที่คอร่างบางที่ตอนนี้ตาเริ่มลอยเลือดไหลออกมาจากบาดแผลจนไหลนองชะโลมไปบนพื้นนั้นเต็มไปหมด

    ฉึบ!!

    อีกฝ่ายจัดการเฉือดคอร่างบางตรงหน้าจนเลือดกระฉูดออกมา แล้วร่างนั้นก็กระตุกเลือดที่ปากก็ไหลออกมา ก่อนที่ร่างบางจะแน่นิ่งไปพร้อมกับตาที่ลืมค้างอยู่ ส่วนวิญญาณนั้นปลิดปลิวออกจากร่างไปแล้ว จากนั้นร่างสูงก็รีบวิ่งหนีไปทันทีโดยที่ใครก็ตามจับไม่ได้ ทุกคนต่างวิ่งมาที่ห้องชมรมทันที เมื่อเข้าไปในห้องก้็ม่พบใคร พ่อแม่และพี่ๆของหญิงสาวที่ตามมาก็พลันใจหายเมื่อลูกสาวของตนนั้นหายไปจากห้องประกอบกับได้ยินเสียงกรี๊ดมาจากทางนี้พวกเขาเลยรีบวิ่งมา ก่อนจะมีเสียงของอาจารย์ดังขึ้น

    " กรี๊ดดด น้องตา!! " สิ้นเสียงนั้นทุกคนก็วิ่งไปตามเสียงนั้นทันที เมื่อไปถึงทุกคนถึงกับตะลึงเมื่อเห็นร่างบางที่สวมชุดนาฏศิลป์นอนหมดลมหายใจอยู่ตามตัวเต็มไปด้วยเลือด โดยเฉพาะตรงคอนั้นมีรอยเฉือนคอดวงตาเบิกกว้างอย่างน่ากลัว คนเป็นพ่อถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น ตาร์อึ้งค้างตาเริ่มร้อนผ่าวก่อนจะเริ่มมีน้ำตาไหลลงมา ส่วนติ๊กถึงซุกไปที่อกน้องชายอย่างหมดแรงแล้วร้องไห้ออกมา

    " กรี๊ดดด ลูกแม่ " หญิงสาววัยกลางคนรีบรับเข้าไปประคองลูกสาวตนเองที่ตอนนี้ นอนหมดลมหายใจอยู่ด้วยหัวใจที่แตกสลาย 

    " พี่ตา ฮืออออ " ตาลน้องชายที่วิ่งตามมาถึงก็พลันร้องไห้ออกมาปานใจจะขาดเมื่อเห็นพี่สาวสุดรักของเขานั้นนอนหมดลมหายใจอยู่

    " ใครมันทำลูกแม่ อย่างนี้ ฮือออ " ร่างของแม่หญิงสาวนั้นร้องไห้โหอย่างเสียงสติ จนคุณพ่อต้องเข้ามาปลอบ แล้วเอื้อมมือมาปิดดวงตาของหญิงสาว

    " โธ่ ลูกพ่อ ฮึก " ร่างของผู้เป็นพ่อเริ่มกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่ติ๊ก ตาร์ และตาลจะเดินเข้ามายังร่างที่นอนอยู่

    " ไหนพี่บอก จะเลี้ยงไอติมหนูไง ฮึก " ตาลพูดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

     หญิงสาวมองทั้งสี่คนอย่างไม่อยากเชื่อสายตาที่ตอนนี้ร้องไห้ออกมา เธอที่มองอยู่ก็ร้องให้ตาม พยายามจะเข้าไปกอดท่านแต่ไร้ผลเพราะไม่ว่าเธอจะพยายามเข้ากอดก็เหมือนกับผ่านหมอกไม่สามารถสัมผัสได้ และพยายามกลับเข้าร่างก็เหมือนโดนดีดออกมา ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็ยังเป็นเหมือนเดิม

    ' ทำไมละ? '

    ' นี่ฉันตายแล้วเหรอ? '

    ' ไม่เอานะ ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังอยากอยู่กับพวกเขา ' หญิงสาวร้องไห้ออกมา ก็พลันรู้สึกมีอะไรบางอย่างเป็นเชือกสีแดงมาคล้องคอคอของหญิงสาวโดยโยงไปที่หอประชุมและห้องชมรม จากนั้นมูลนิธิก็เคลื่อนรถเข้ามาแล้วพาร่างฉันไป

    ' จะพาร่างฉันไปไหนนะ? '

    ' เอาร่างฉันกลับมานะ!! ' เธอพูดก่อนจะวิ่งตามรถที่วิ่งออกไป หญิงสาวที่วิ่งไปก็พลันปวดแสบปวดร้อนก่อนจะโดนดีดกลับมาอยู่ที่เดิม เธอมองไปที่คุณพ่อที่ประคองคุณแม่เดินไปที่รถอย่างเจ็บปวด

    ' พ่อจ๋าอย่างทิ้งหนูไป ' เธอจะวิ่งตามรถแต่ก็ไปไม่ได้ หญิงสาวทรุดลงนั่งอย่างหมดแรงแล้วร้องไห้อย่างหนัก แล้วเอามือกุมที่หัวที่มีชฏาใส่อยู่พลางร้องไห้ออกมาอย่างหนักในหัวก้นึกแค้นอาฆาตคนที่มันมาทำร้ายเธอ

    ' ทุกอย่างเป็นเพราะมึง มึงต้องชดใช้ !!  '

    ' ไม่ว่าวิญญษณกูจะแตกสลาย กูสาบานกูจะตามหามึงให้เจอ ไอ้สารเลว! '

    ' มึงต้องตาย!! ' สิ้นคำสาบแช่งพลันดวงตาของร่างบางก็เปลี่ยนเป็นสีเลือด น้ำตาที่ไหลอยู่ก้กลายเป็นเลือดที่ไหลมาแทนตัวขาวซีดมีเส้นเลือดสีดำพุดขึ้นตามตัวเต็มไปหมดริมฝีปากสีแดงชาดจนคล้ายกับเลือด


    ' กรี๊ดดดดดด!! ' ร่างนั้นก็กรีดร้องด้วยความแค้นออกมาพร้อมกับลมที่พัดปลิวอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอย่างน่ากลัวเหมือนบ่งออกว่าวิญญาณนางรำที่เต็มไปด้วยความแค้นนี้ได้กล่าวคำสาบแช่งไว้


    จบบทนำ

      อยากรู้รึปล่าวว่าไอเดียที่ได้มาแต่งเรื่องนี้มาจากไหน

      บอกเลยไม่กั๊ก

      ก็มาจาก Home sweet Home2

      เพลงของ


     

    Vocal : ToNy_GospeL Music : ToNy_GospeL Feat : HN_Cat

    ลองไปเปิดฟังดูนะเพราะมากกกกกก แถมยังขนลุกอีกด้วย อย่าลืมไปกดไลค์กดแชร์ด้วยละ
    Cute Spinning Flower Pink
    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    >

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น