ท้ารักยัยเด็กข้างบ้าน

เมื่อลูกชายเจ้าของห้างทองชื่อดังได้ผันตัวมาทำงานที่เขารัก ใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการ แม้มันจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย แต่เขาก็เลือกที่จะทำมัน แม้จะต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยก็ตาม ซึ่งครอบครัวของเขานั้นก็ไม่เห็นด้วยกับงานที่เขาทำอยู่

องศา ลูกชายคนเดียวของเจ้าของห้างทองชื่อดัง ดันมาผันตัวเป็น ช่างสัก (ที่มีชื่อเสียง) เขาทิ้งธุรกิจของครอบครัวตัวเองเพื่อมาทำงานที่เขารัก อย่างนี้มันคงไม่เป็นที่พอใจกับคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ เมื่อลูกชายเพียงคนเดียวไม่สานต่อธุรกิจที่มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ ซึ่งในตอนนี้ ณรงค์ ไม่สามารถเต็มที่กับงานได้เหมือนแต่ก่อนเพราะเขาอายุเยอะขึ้นทุกวัน ทำให้ในตอนนี้ธุรกิจเริ่มสั่นเครือเมื่อไม่มีคนเข้ามาประคับประคอง

แม้องศาจะรู้สถานการณ์ทางบ้านดีว่าธุรกิจที่พ่อทำเหมือนจะเป็นไปได้ไม่ค่อยสวย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยว...

“ไม่ได้เห็นแก่ตัว แต่แค่ความคิดเรามันต่างกัน” 

นี่คงเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินของลูกชายที่ไม่อยากสานต่อธุรกิจของพ่อที่ทำไว้ และเมื่อองศาตัดสินใจที่จะเดินออกมาแล้ว เขาก็ต้องไปให้สุดทางจะเรียกว่าผู้ชายนี้เป็นผู้ชายที่โชคดีเลยก็ว่าได้ แม้เขาจะมีปัญหากับครอบครัว แต่เขาก็มีคนคอยสนับสนุนอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จัก เพื่อนสนิท คนรอบข้าง และ ป้าศรีนวล ผู้เป็นป้าที่ให้การสนับสนุนหลานชายในทุกเรื่อง

ป้าศรีนวล เธอเป็นพี่สาวของณรงค์ เธอเลี้ยงองศามาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งเธอค่อนข้างที่จะรู้จักหลานชายคนนี้ดีว่านิสัยเป็นยังไง ป้าศรีนวลรับรู้ถึงความขัดแย้งของสองพ่อลูกดี 

ด้วยความรักที่มีต่อหลานชายคนนี้ เธอตัดสินใจที่จะยกบ้านหลังหนึ่งให้กับองศาเพราะเขานั้นกำลังหาทำเลที่ตั้งในการเปิดร้านสัก ซึ่งเมื่อเขาไปดูที่มาหลาย ๆ ที่กลับไม่ค่อยถูกใจกับทำเลเหล่านั้นสักเท่าไหร่นัก แต่เขากลับมาถูกใจกับบ้านเช่าหลังขนาดไม่ใหญ่มาก ที่ป้าศรีนวลนั้นเคยปล่อยให้คนมาเช่ามาก่อน

และดีไปกว่านั้นเขาได้เจอกับ พริกแกง เด็กสาวข้างบ้านที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เธอเป็นแค่เด็กมัธยมตอนปลายที่ใกล้จะเรียนจบ ซึ่งบ้านของเธอนั้นอยู่ชิดติดขอบรั้วเดียวกันกับองศา ด้วยลักษณะที่โดนใจเสืออย่างองศาทำให้เขาถึงกับอยากได้เธอมาเชยชม...

คำเตือน : บทสนทนามีคำหยาบคายตามภาษาของวัยรุ่นที่คุยกัน และเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18