ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
"นั่น..นางกำลังพูดสิ่งใดออก มาน่ะ..."
"บ้าไปแล้ว..."
"แล้วทั้งสองจะพากันไปอยู่ที่ไหน..."
ขณะที่ชาวบ้านพากันพูดคุยไปต่าง ๆ นานาเสียงของผู้ใหญ่บ้านก็ดังขัดขึ้นทำให้พวกเขาต้องเงียบเสียงลงทันที
"เจ้าแน่ใจหรือที่จะแยกบ้านออกไปจากตระกูลป๋อ?"
"ในเมื่อสามีของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับท่านป้าผู้นี้ ข้าก็ยินดีที่จะพาลูกชายออกมาใช้ชีวิตตามลำพังเจ้าค่ะ..."
เหอะ..ข้าดูซีรีส์มาเยอะรู้หรอกน่าว่าถ้าหากขึ้นอยู่กับพวกเขามีแต่จะทำให้ตนเองเดือดร้อนน่ะสิไม่ว่า หลันหลิงคิดในใจขึ้นมาหลังจะพูดจบ
"เฮ้อ..แต่เจ้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งเท่านั้นไม่คิดให้ดีก่อนหรือ ถ้าหากเจ้าไม่เห็นด้วยกับการตัดความสัมพันธ์นี้ก็ไม่มีผู้ใดไล่ออกจากตระกูลได้ เพราะเจ้าไม่ได้ทำความผิดอะไรจนต้องให้ขับไล่ออกจากตระกูล..."
"เช่นนั้นให้พวกเขาแบ่งที่ให้พวกเราแม่ลูกได้ปลูกบ้านอยู่กันตามลำพังสักหลัง ถ้าพวกเขายินยอมข้าก็ยินดีจะตัดความสัมพันธ์ให้..."หลินหลังมองดูสภาพของบุรุษวัยยี่สิบกว่าซึ่งมีอายุมากกว่าสามีไก่ของตนไม่มาก
ลักษณะท่าทางของเขาดูไม่เอาไหนเป็นอย่างมากจึงคิดว่าคนที่หาเงินเข้าบ้านคงเป็นสามีไก่ของตนอย่างแน่นอน จึงคิดจะเอาอะไรมาจากพวกเขาบ้างก่อนจะได้ยินเสียงของสะใภ้ใหญ่ป๋อดังขึ้น
"ไม่มีทาง ข้าไม่มีวันยอมให้อะไรกับเจ้าเด็ดขาด..."
"ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้ากับลูกชายตัวน้อยของข้าก็จะขออยู่เกาะพวกท่านอยู่ที่นี่ต่อไปก็แล้วกัน..."
"เฮ้อ..ในหมู่บ้านของข้าไม่มีผู้ใดไม่รู้ว่าข้าผู้นี้ขี้เกียจสันหลังยาวมากแค่ไหน จนครอบครัวรับไม่ได้ต้องให้แต่งกับไก่ พวกท่านไม่คิดให้ดีก่อนเหรอ ก่อนจะปฏิเสธคำขอของข้า..."
"นี่..นี่..."สะใภ้ใหญ่ถูกให้ออกหน้าแทนแม่สามีกับสามีของตนถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียวเมื่อได้ยินคำพูดของหลันหลิง
"ข้าว่าแล้วว่านางต้องนิสัยใช้ไม่ได้ มิเช่นนั้นครอบครัวของนางจะยินดีปล่อยให้มาแต่งงานกับคนตายไปได้เช่นไร..."
"ข้าไม่คิดว่านางจะกล้าพูดออกมาเช่นนี้..."
"ข้าคิดว่านางพูดเรื่องจริง..."
"ข้าก็เชื่อคำพูดของนาง..."ความเชื่อของชาวบ้านที่พูดกันทำให้ทั้งสามรีบเดินมาปรึกษากันทันที
"ท่านแม่มิใช่ว่าน้องรองได้แผ้วถางที่ดินรกร้างนั้นไว้ได้สองหมู่มิใช่หรือทำไมเราไม่ให้ที่ดินผืนนั้นกับนางไปเสีย จะได้จบ ๆ กันไป..."
"แต่ว่า..."
"ถึงเช่นไรมันก็ไม่สามารถปลูกอะไรขึ้นได้มิใช่หรือขอรับ..."
"มันก็จริง"
ที่ดินของเมืองไห่หนานเนื่องจากไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ทางการจึงไม่ได้ตั้งราคาขาย ผู้ใดสามารถแผ้วถางมาเป็นของตนเองได้หลังจากแผ้วถางเสร็จก็ให้มาหาเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจดบันทึกพื้นที่นั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะมาวัดที่และปักหลักไว้ให้
เดิมทีป๋ออันเฉิงต้องการแผ้วถางไว้เพื่อที่จะปลูกบ้านเป็นของตนเอง หลังจากไปจดบันทึกและเจ้าหน้าที่ได้มาปักหลักให้เขาก็นำเรือออกทะเลไปเพื่อที่จะไปหาอาหารทะเลนำมาขายและนำเงินมาสร้างบ้านของตนก็ไม่กลับมาอีกเลยนับจากนั้น
"ตกลง ข้าจะมอบที่ดินสองหมู่ที่ป๋ออันเฉิงได้แผ้วถางไว้ให้..."โจวเหนียงพูดขึ้นหลังจากตัดสินใจได้
"ยอดเยี่ยม ในที่สุดข้าก็สลัดปลิงดูดเลือดออกไปได้..."
"ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านรีบช่วยข้าร่างสัญญาตัดขาดให้ตอนนี้เลยได้ไหมเจ้าคะ..."หลันหลิงพูดขึ้นด้วยความยินดีทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่มีเงินติดตัวมาสักอีแปะเดียว
"เอ่อ..แฮ่..."
"ข้าหมายถึงพวกเขาได้สลัดปลิงดูดเลือดอย่างเราสองแม่ลูกออกไปได้แล้ว..แฮ่..."หลันหลิงมองไปยังทุกคนก็เห็นพวกเขาทำสีหน้าตกตะลึงกับคำพูดของตนก็รีบแก้คำพูดทันที
"เหอะ..ท่านลุงผู้ใหญ่รีบทำตามที่นางพูดเถอะเจ้าค่ะ..."สะใภ้ใหญ่ป๋อเชิดหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคำแก้ตัวของหลันหลิง
"ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะร่างสัญญาขึ้นมาให้"
"จะ..เจ้า..."
"เจ้าค่ะ..."
สะใภ้ใหญ่ป๋อถึงกับรีบหันไปมองใบหน้ายิ้มกว้างหน้ามองของหลันหลิงทันทีเมื่อได้ยินนางพูดจบก่อนตนเองคิดในใจขึ้นว่า
สรุปว่าผู้ใดอยากตัดความสัมพันธ์กันแน่เนี่ย
"..."
หลันหลิงรีบเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เมื่อเห็นชูเถิงกำลังร่างสัญญาขึ้นมาก่อนจะพูดขึ้นด้วยความลืมตัวที่ว่าตนเองไม่รู้หนังสือแต่อ่านหนังสือสัญญาแล้วพบช่องโหว่ให้อีกฝ่ายสามารถมาเอาเปรียบได้ก็รีบพูดขึ้น
"ท่านลุงผู้ใหญ่ช่วยเพิ่มเข้าไปในสัญญาด้วยเจ้าค่ะ ว่าหากผู้ใดยังมายุ่งวุ่นวายกับอีกฝ่ายจะถูกปรับเงินสิบตำลึงทองพร้อมจำคุกอีกสิบปี..."
"หา!"
"นี่..นี่..."สะใภ้ใหญ่ป๋อถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียวหลังจากฟังสิ่งที่หลันหลิงให้เพิ่มเข้าไปก่อนจะอึ้งไปอีกครั้งเมื่อชูเถิงตอบกลับ
"ได้..."
"จะให้ข้าเพิ่มสิ่งใดเข้าไปอีกหรือไม่"
"อืม..ให้เพิ่มเข้าไปอีกว่าขอให้ทั้งสองฝ่ายเจอกันที่ไหนก็ทำเหมือนคนแปลกหน้าอย่าได้เข้ามาพูดจาต่อกันอีกเจ้าค่ะ..."
"นี่..นี่..เจ้าไม่คิดจะทักทายกันบ้างเลยหรือ?"สะใภ้ใหญ่ป๋อพูดขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดของหลันหลิง
"คิดจะตัดกันแล้วก็ต้องตัดกันให้ขาดไปเลยสิ จะยังมัวมามีเยื่อใยต่อกันไปไย..."หลันหลิงพูดขึ้นหน้าตาเฉยทำให้ทุกคนอึ้งไปอีกครั้งก่อนจะกวักมือเรียกเด็กน้อยวัยสามขวบตัวผอมบางแทบจะเหลือแต่หัวให้เดินมาหา
"..."
"ท่านจะพาข้าไปอยู่ด้วยหรือขอรับ?"เด็กน้อยเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้
"อื้อ"หลันหลิงมองเด็กตัวเล็ก ๆ ถ้าหากนางทิ้งเขาไว้ที่บ้านหลังนี้คิดว่าเด็กนี่ต้องไม่โตขึ้นได้อย่างแน่นอนคงได้ขาดสารอาหารตายตามผู้เป็นแม่ไปเป็นแน่
ไหน ๆ ก็เป็นผู้ที่ไม่มีผู้ใดต้องการด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว รับเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเงาก็แล้วกัน หลันหลิงคิดในใจก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้งว่า
"ไปอยู่ด้วยกันนะ..."
"อื้อ..."เด็กน้อยรีบพยักหน้าขึ้นลงจนคอแทบหักกันเลยทีเดียวก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ข้าจะรีบโตและช่วยท่านหาเงินขอรับท่านแม่..."
"..."
ข้าผู้ที่ไม่อยากมีครอบครัวไม่คิดว่าจะมาได้ยินเด็กคนหนึ่งเรียกว่าแม่น้ำเสียงของเขาเรียกข้าว่าแม่ก็ไม่เลวนะหลันหลิงคิดในใจขึ้นมาก่อนจะตอบกลับไปว่า
"ดีมาก"พร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้ทำให้ป๋ออันเซิงรู้สึกคลายความกังวลลงได้มากขึ้น ว่าสตรีตรงหน้าจะไม่ต้องการเขาอีกคนก่อนจะยื่นมือเล็กข้างที่ไม่ได้อุ้มไก่ไปจับมือเรียวของผู้เป็นแม่ไว้แน่นจนหลันหลิงรู้สึกได้จึงกระชับมือเล็กไว้อีกคน
"เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?"ขณะรอชูเถิงร่างสัญญาแยกบ้านและตัดสัมพันธ์หลันหลิงก็เอ่ยถามเด็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขา
"ข้ามีนามว่าป๋ออันเซิงขอรับ แล้วท่านแม่เล่ามีนามว่าอะไร?"เด็กน้อยถามกลับเมื่อคิดว่าเขาเองก็ยังไม่รู้จักนามของนางเช่นกัน
"ข้า..เอ่อ..แม่มีนามว่าซูหลันหลิง..."
"ว่าแต่เจ้าเข้าไปเก็บเสื้อผ้าไว้สิ พอเราได้หนังสือสัญญามาแล้วจะจากไปทันที..."
"ขอรับ..."เด็กน้อยรีบยัดสามีไก่ให้หลันหลิงอุ้มก่อนจะวิ่งจากไปทันที ไม่นานเขาก็หอบเสื้อกับกางเกงเก่า ๆ หนึ่งชุดออกมายืนยิ้มกว้างตรงหน้านางให้ต้องยืนอึ้งกันอีกครั้ง
"เอ่อ..อะ..แฮ่ม..."
"มีแค่นี้..."หลันหลิง
"ขอรับมีแค่นี้..."
"โอ่ว..เยอะมาก..."หลันหลิงพูดประชดขึ้นมาเบา ๆ
"...."
ความคิดเห็น