ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น!"
เมื่อเห็นว่าเรือของตนเริ่มโคลงเคลงพิมหรือพิมรตาก็พูดขึ้นพร้อมกับเดินมาเกาะขอบเรือชะโงกหน้าก้มมองลงไปดูยังผืนน้ำก็เห็นว่ามันกำลังก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นขนาดมหึมาพูดขึ้นด้วยความตกใจ
"อะไรเนี่ย!"คนอื่นก็เริ่มพากันตกใจเช่นกันเมื่อเรือเริ่มเอียงไปเอียงมามากขึ้น
"ว้าย!"
"ตุ้ม!"ทุกคนหันไปตามเสียงพร้อมกันก็เห็นพิมรตาตกลงไปในน้ำทะเล
"เฮ้ย!"
"ว้าย!"
ต่างพากันร้องขึ้นพร้อมกับหาจับสิ่งที่คิดว่าจะไม่ทำให้ตนเองตกเรือไปอีกคนได้ ก่อนจะพากันหาเสื้อชูชีพมาใส่ มองไปทางที่พิมรตาตกลงไปอย่างสิ้นหวังเพราะทุกคนก็ต้องเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน
เปลือกตาของพิมรตาขยับไปมาก่อนจะรู้สึกตัวขึ้นก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในน้ำทะเลอย่างที่คิด แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดหรือทำอะไรต่อเสียงราวกับหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวรุนแรงและมีภาพความทรงจำของผู้หญิงคนหนึ่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
"อ่า..."กานดาร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดแต่เสียงกับไม่ได้ดังจนคนข้างนอกได้ยิน พร้อมกับเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้น
"ค้นพบช่องว่างมิติกำลังจะสุ่มการติดตั้ง..."
"ห้า..สี่..สาม..สอง..หนึ่ง..."
"ติดตั้งสำเร็จ!"
"ยินดีกับนายหญิงด้วยที่สามารถเข้ากับระบบตกสัตว์วิญญาณได้ดีเยี่ยม..."
"อ่า..."เป็นเวลาเดียวกับอาการปวดหัวหายไปพอดี
"ท่านจะรับรางวัลแรกเริ่มของระบบตอนนี้เลยหรือไม่ขอรับ?"
"อะ..เอ่อ..."
"อื้อ..."กานดาตอบรับไปด้วยความมึนงงขณะภายในหัวกำลังเรียบเรียงความทรงจำที่พึ่งจะได้มา
"ยินดีด้วยท่านได้คันเบ็ดไม้ไผ่วิญญาณแรกเริ่มหนึ่งคันกับถังไม้มิติหนึ่งถัง"
หา!
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
พิมรตาร้องขึ้นในใจด้วยความตกใจแต่ก็มีสติพอที่จะไม่ร้องออกเสียงให้คนข้างนอกได้ยิน พอตั้งสติให้กลับมาเต็มร้อย เธอเห็นคันเบ็ดกับถังไม้อยู่ในพื้นที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งตรงหน้าของตนมีหน้าจอโปร่งใสอยู่เช่นกัน
"ระบบอะไรนะ?"
พิมรตาพูดลอย ๆ ขึ้นมาไม่ได้ต้องการคำตอบจากใครเพราะคิดว่าตนเองอยู่คนเดียวในเกี้ยวเจ้าสาวแต่ไม่คิดว่าเสียงเหมือนหุ่นยนต์จะดังขึ้นอีกครั้งว่า
"ระบบตกสัตว์วิญญาณขอรับ..."
"โอ๊ะ..โอ! สามารถพูดตอบโต้ได้ด้วย..."พิมรตาพูดขึ้นเบา ๆ
"ข้าคือหุ่นยนต์อัจฉริยะสามารถรับข้อมูลและพูดตอบโต้ได้ทันทีขอรับ"
"โอ่..."พิมรตาอึ้งไปทันทีก่อนจะได้เอ่ยถามอะไรกับระบบอีกครั้งเสียงของสตรีวัยสี่สิบกว่าก็ดังขึ้นมาอยู่ด้านนอกพร้อมกับเกี้ยวถูกวางลงกับพื้น
"เจ้าสาวมาถึงแล้ว!"
พิมรตาจึงละความสนใจจากระบบมาจดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ก่อนทันที รีบค้นความทรงจำก็พบว่าเจ้าของร่างเดิมถูกมารดาเลี้ยงหลอกให้มาแต่งงานกับคนตายตัดหน้าพ่อค้าบุรุษวัยสามสิบจะมาสู่ขอนาง มารดาเลี้ยงจึงต้องการให้ลูกสาวของตนแต่งให้กับพ่อค้าแทนเจ้าของร่างเดิม
เมื่อได้ยินคนในหมู่บ้านพูดถึงว่าครอบครัวป๋ออีกหมู่บ้านอยากหา สตรีสักคนมาแต่งงานให้กับลูกชายที่ตายไปแล้วเพื่อจะได้มาดูแลลูกชายวัยสามขวบของเขาจึงรีบเดินทางมาพูดคุยเจรจาก่อนมีงานแต่งเกิดขึ้น
พอเจ้าของร่างได้ยินคนนอกเกี้ยวพูดกันขณะเดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ก็คิดว่าสายเกินไปที่จะตอบปฏิเสธจึงได้ปลิดชีพด้วยการ กรีดข้อมือจบชีวิตตนเองไปเสีย
พิมรตาจึงรีบยกข้อมือขึ้นมาดูก็พบว่าร่องรอยบาดแผลหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ รีบก้มมองรอยเลือดก็เห็นว่ายังมีให้เห็นจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเลือดก่อนจะเก็บไว้ในพื้นที่เก็บของ ของระบบ
"โอ๊ะ! มีที่เก็บของได้จริงด้วยแฮะ..."พิมรตาพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงข้างนอกพูดขึ้นด้วยความดีใจ
"มาถึงแล้วหรือ..."
"เชิญเจ้าสาวลงจากเกี้ยวเร็วเข้า..."
"ฮ่า ๆ ๆ"
"ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกถึงเยี่ยงไร นางก็ต้องแต่งให้กับลูกชายของท่านอยู่ดี..."
พิมรตาได้ยินเสียงแม่สื่อดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบมีจริตของนางจึงนั่งทำใจก่อนจะสุดหายใจเข้าปอดไปลึก ๆ
"ต่อไปนี้ข้าคือซูหลันหลิงสตรีชาวบ้านในยุคโบราณไม่ใช่พิมรตาเจ้าของบ่อตกปลาและร้านอาหารอีกต่อไป..."ก่อนจะลุกขึ้นเปิดผ้าม่านเดินออกจากเกี้ยวเผยให้เห็นบริเวณด้านนอก มีผู้คนมาดูความสนุกสนานนี้แทบจะทั้งหมูบ้านกันเลยก็ว่าได้
"ส่งสารสตรีผู้นี้จัง..."
"นั่นสิไม่รู้ว่าครอบครัวของนางคิดอะไรอยู่ถึงให้นางมาแต่งกับคนตายเช่นนี้..."
"นั่นสิ..หรือนางจะเป็นสตรีที่มีนิสัยไม่ดีครอบครัวถึงได้ทำเยี่ยงนี้กับนาง"
"อาจจะเป็นไปได้..."
"แต่ดูลักษณะท่าทางของนาง เหมือนจะเป็นคนใสซื่อหัวอ่อนมากเลยนะ..."
"อืม ๆ ๆ"ชาวบ้านพากันพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อเห็นลักษณะท่าทางมึน ๆ งง ๆ ของซูหลันหลิงที่มองมายังคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยดวงตากลมโตดูไร้เดียงสาในสายตาของพวกเขาอย่างยิ่ง
"เจ้าสาวมาถึงแล้วรีบพาเจ้าบ่าวออกมารับเจ้าสาวเร็วเข้า!"
หลันหลิงยังไม่ทันได้สำรวจดูจนทั่วก็ได้ยินเสียงของสตรีวัยสี่สิบกว่าดังขึ้นทำให้นางเห็นสตรีวัยยี่สิบต้น ๆ พาเด็กวัยสามขวบหน้าตามอมแมมอุ้มไก่เดินออกมาจากบ้าน ก็ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ กันเลยทีเดียวพร้อมกับคิดในใจขึ้นว่า
นี่ข้าขาดบุรุษมากจนต้องแต่งงานกับไก่แล้วหรือเนี่ย!
หลันหลิงมองดูเด็กน้อยวัยสามขวบอุ้มไก่มายืนข้าง ๆ ก่อนจะถูกแม่สื่อยื่นผ้าสีแดงให้ถือไว้คนละข้าง
"..."
"กราบไว้ฟ้าดิน..."
หลันหลิงมีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมอยู่นางจึงทำตามได้อย่างไม่มีติดขัดจนเวลาผ่านไปทุกคนกำลังจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันก็ต้องรีบหันกลับมาเมื่อได้ยินสตรีวัยยี่สิบต้น ๆ ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ป๋อมีนามว่าหวั่นเนียนร้องเรียกผู้ใหญ่บ้านขึ้นมาเสียก่อน
"ท่านลุงชูได้โปรดอยู่ก่อนเจ้าค่ะ..."
"ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องให้ข้าอยู่อีกหรือ?"ชูเถิงมีอายุห้าสิบปีแต่ยังแข็งแรงมากหยุดเดินหันกลับมาถามกลับ
"เนื่องจากว่าป๋ออันเฉิงก็ตายจากไปแล้วตั้งสองปี..."
"แล้วเช่นไร?"ชูเชิงเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจในเมื่อทุกคนก็รู้ทราบดีว่าป๋ออันเฉิงได้นำเรือออกทะเลหายไปเกือบจะสองปีแล้วเหลืออีกไม่กี่วันก็จะครบสองปี
"อันที่จริงทุกคนก็รู้ดีว่าเขามิใช่ลูกชายที่แท้จริงของแม่สามีของข้า"
ทุกคนก็พยักหน้าให้เพราะก็รู้เรื่องนี้ดีว่าตอนนั้นเป็นฝ่ายสามีของโจวเหนียงพาอันเฉิงกลับมาในวัยสิบห้าปีพร้อมมีอาการบาดเจ็บสาหัส พอเขาตื่นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้จึงถูกรับเลี้ยงมาจนถึงตอนนี้หากเขามีชีวิตอยู่ก็มีอายุได้ยี่สิบสองปีเข้าไปแล้ว
"เจ้าต้องการจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมไปหรอก..."ชูเถิง
"เช่นนั้นข้าไม่ขออ้อมค้อมอีกต่อไป เนื่องจากว่าป๋ออันเฉิงไม่ใช่สายเลือดของแม่สามี พวกข้าขอตัดความสัมพันธ์กับเขานับแต่นี้เป็นต้นไปพวกเราตระกูลป๋อไม่ขอเกี่ยวข้องกับเขาอีก ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านรบกวนเป็นพยานให้ด้วยเจ้าค่ะ..."
"หา!"
"อะไรนะ!"
"นั่นไม่ได้หมายความว่าสตรีผู้นี้กับเด็กนั่นก็ไม่อาจอยู่ในตระกูลป๋อได้สิ..."
"จะโหดร้ายเกินไปแล้ว..."
"เด็กกับสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งจะสามารถเอาชีวิตรอดไปได้เช่นไร..."
"แต่ข้าว่าหากทั้งสองออกมาจากการถูกสะใภ้ใหญ่ป๋อโขกสับใช้งานจนแทบไม่มีเวลาหายใจหายคอดั่งเช่นภรรยาเก่าของป๋ออันเฉิงจนเอาชีวิตไม่รอดหลังคลอดป๋ออันเซิงได้เพียงหนึ่งปีอาจมีทางรอดชีวิตมากกว่าหรือไม่..."
"ข้าตกลง..."หลันหลิงได้ยินชาวบ้านคนสุดท้ายพูดก็รีบตอบตกลงทันที
"..."ทุกคนอึ้งไปตาม ๆ กัน
ความคิดเห็น