เธอคนนี้สู้ชีวิตมากนะ
ชีวิตที่แสนเบอะบะของเธอนั้นทำให้ได้เข้ามาพัวพันกับอะไรบางอย่าง
ผู้เข้าชมรวม
129
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
08:00น.
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!!!
"นี่ยัยมิ้น!!ตื่นได้แล้วนะ!!!!"
"อื้ออออ~"
"ขออีกห้านาที~"
"นี่ไม่ตื่นแม่จะเข้าไปแล้วนะ!"
"...."
ผู้เป็นแม่ได้พูดขู่ลูกสาวแต่ก็ไม่เป็นผล
แกร็ก
"ยัยมิ้น!!ตื่นได้แล้ว วันนี้แกต้องไปแก้งานที่โรงเรียนนะ!!!"
"อื้อออ..แปปนึง~"
"พี่y/n!!บ่ายสองแล้ว!!!!!!"
ทว่าก็ได้มีเสียงของเด็กหนุม ตะโกนอย่างแตกตื่นออกมา
"ห้ะ!!อะไรนะ บ่ายสองส่งงานบ่ายสางอร๊ากกกกก!!"
"ไม่ไม่ทันแล้วโว้ยยยย ไปละ ไปเข้าห้องน้ำก่อนอร๊ากกก"
ปึก!!!
"เอ๊อะ!"
เสียงบางอย่างกระทบกับตู้เสื้อผ้าอย่างแรง...ใช่นั่นก็คือหัวของมิ้นนั่นเอง ทำเอาซะเธอเกือบล้มเลยทีเดียว
"โอ้ยยยยยย เจ็บๆๆๆๆๆ"
เสียงเด็กหนุ่มได้หัวเลอะดังลั่นห้องเลยก็ว่าได้ กับการกระทำของพี่สาวที่แสนจะเงอะงะเสียจริง
"เห้ยเป็นไรไหมลูก!!!"
ต่างจากผู้เป็นแม่ที่หัวใจแทบจะหล่นไปถึงตาตุ่มเมื่อลูกสาวสุดที่รักของเธอได้วิ่งหัวชนตู้
"โอ้ยเจ็บๆ ฮึ้ยขอให้สำลักน้ำลาย"
ร่างบางได้ชี้นิ้วไปที่น้องชายตัวแสบ
"อึก..แค็ก แค็ก!!"
"ไอพี่!!"
"555"
"สมน้ำหน้า55555"
"ดูตัวเองก่อนมั้ยไอพี่"
ถึงน้องชายตัวแสบคนนี้จะหัวเลอะพี่และดูท่าจะสะใจเอามากแต่ลึกลึกแล้วเขาก็แอบเป็นห่วงพี่มากเช่นกัน
:ก็แน่สิ มีพี่คนเดียวนี่เนาะ และอีกอย่างพี่ที่อ๋องยาแบบนี้จะไปหาที่ไหนได้อีกล่ะเนอะๆ
(ผมดูหล่อขึ้นมั้ยล้า~)
"เฮ้ยสายแล้วนี่หว่าไปอาบน้ำแล้ว!!"
ปังง!!!
"แม่หยิบผ้าขนหนูให้หน่อยยย!!!"
"จ้า"
"เห้อ"
"นี่ผมมีพี่หรือมีน้องกันแน่ว่ะเนี่ย! ตอนป.5ที่แม่ใช่ให้ไปซื้อไข่ก็ทำไข่แตกจนต้องเอาตังค์ผมไปซื้อใหม่"
"ห้ะ!อะไรนะพูดให้แม่ฟังใหม่หน่อย"
"ไอ!!!เมฆ!!!!!!!!!!"
"อุ๊ ผมไปอาบน้ำดีกว่าา!!"
"อ้าวมิ้นอาบน้ำเสร็จแล้วหรอลูก มากินข้าวก่อนสิ"
"ไม่เป็นไรค่ะแม่เดี๋ยวไม่ทัน บัย~"
"แต่นี่มันพึ่งแปดโมงครึ่งเองนะพี่"
"ห้ะ"
"แม๊!!!!!!!!"
"จ๋าาาาา ว่าไงจ๊ะลูกรัก มากินข้าวดีกว่านะคุณลูกกกกก"
"เห้อ~ ไอเราก็รีบแทบตาย โถ๊ะ!"
เอาข้าวสองทัพพีนะคะแม่"
"จ้า"
"เออมิ้นแม่ฝากซื้อพัดลมติดกรงหมาที่สำเพ็งให้หน่อยสิเอามาหลายๆอันเลยนะ เดี๋ยวพังอีก"
"ได้เลยค่ะขุนแม่!!!!"
"เอ้าแบมือทำไม"
"มันนี่ มันนี่"
"เห้อขี้เหนียวจริงๆเลยลูกคนนี้"
"ได้พ่อมาค่าา"
"เอ้า พ่อเกี่ยวไรอ่ะ"
พ่อของเธอได้สดุ้งโหยงเมื่อลูกสาวกล่าวหาตน
"อ่ะ เอาไปสองพันค่าทุกสิ่งทุกอย่างใช้ให้พอล่ะ"
"จ่ะแม่~~"
พอทานข้าวเสร็จร่างบางก็ได้สวมหน้ากากอนามัยเตรียมตัวจะออกจากบ้าน แต่หางตาเธอได้เหลือบไปเห็นนาฬิกาสีทองเรือนหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะคอมของน้องชายตัวแสบของเค้า ร่างเล็กได้ยกยิ้มอันอรุ่มเจ๊าะของเธอก่อนที่จะหยิบนาฬิกาเรือนนั้นมาสวมที่ข้อมือ และได้เขียนโน๊ตแปะไว้ว่า
ถ้าคุณมาอ่านโน้ตนี้แล้วแสดงว่าคุณกำลังหาเอ้~ นาฬิกาสีทองๆอยู่ใช่มั้ยล่าา
ไม่ต้องร้อนใจไปไอชาย พี่สาวสุดสวยผู้แสนน่ารักคนนี้~
ได้เอาไปเองคร่ะ!!
ยืมหน่อยนะน้องชาย อุ้ยข่อมค่ะ! จุ๊ฟมั้วะ!!
จากy/nพี่สาวสุดส๊วยของแกเอง
ตอนนี้ร่างบางได้เดินออกมาจากบ้านของเธอเพื่อจะขึ้นรถไฟฟ้าไปยังจุดหมายปลายทาง
บรรยากาศบนรถไฟฟ้าที่เธอได้นั่งนั้นชั่งเงียบเหงา ไม่มีผู้คนเลยทั้งๆที่เวลาที่เธอขึ้นมานั้นเป็นเวลาที่ทุกคนควรจะเร่งรีบไปทำงาน
ร่างเล็กที่มาคนเดียวกับส่วนสูงแค่ร้อยหกสิบของเธอ เเละสไตล์การแต่งตัว ที่ชั่งเหมือนกันกับเด็กป.สี่ ไม่ผิดเพี้ยน ทั้งๆที่ร่างเล็กนั้นอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่แล้วแท้แท้....
"ฮึ้ยทำไมบนรถเงียบแท้ว่ะ หยิบกล้องมาถ่ายรูปดีกว่า"
หลังจากy/nคุยกับตัวเองเสร็จก็ได้หยิบกล้องคู่ใจที่ห้อยคร้องคออยู่ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินจน......
ติ้ง ติ้ง ติ้ง! สถานนีต่อไปสถานีรถไฟฟ้า MRT วัดมังกร
"อ่าาา ถึงละในนั้นวังเวงฉิบหายเลย ทำไมมันเหมือนมีใครมาพิงไหล่เราเลยคิดแล้วขนหัวลุก????”
หลังจากที่เธอได้บ่นพึมพำกันตัวเองเสร็จก็ได้เดินตั้งหน้าตั้งตาไปยังสำเพ็งทันทีพอร่างบางได้เดินตามทางไปสักพักนึงก็ได้มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น
"หึ"
อยู่อยู่ร่างบางก็ได้หยุดชะงักมือตนได้ยินเสียงกระซิบข้างหูหัวเราะในลำคอน้ำเสียงนั้นชั่งเยือกเย็นพลางขนลุกแต่เธอกลับรู้สึกโหยหาเอามากๆ มันเป็นเสียงที่เธอคุยเคยถึงแม้ว่าจะได้ยินแค่คำเดียวก็ทำเอาร่างเล็กน้ำตาซึมอย่างไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกนั้นก็ได้หายไปพร้อมกับเสียงบีบแตรของรถยนต์
"นี่!ไอ้หนูอย่ายืนขวางทางรถสิ เดี๋ยวก็โดนรถชนเอาหลอก"
"เฮ้ย ขอโทษค่ะ!"
"แล้วกูเดิมมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเสียงเมื่อกี้คือเสียงใครวะ"
(ทำไมรู้สึกหวิวหวิวที่หัวใจจัง...)
"เออชั่งแม่งรีบไปดีกว่าร้อนก็ร้อนรีบไปดีกว่า"
เมื่อร่างบางได้เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางเธอก็แทบทรุดเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
"ไม่มีร้านไหนเปิดเลย"
ตลาดสำเพ็งที่เคยครึกครื้นก็ได้เงียบสงัดยังกับป่าช้า ทุกทุกร้านมาป้ายติดไว้ว่าหยุดวันสงกรานต์ทุกร้านไม่เว้นแม่แต่ร้านเดียวร่างเล็กรู้สึกเซ็งเอามากที่ตนเลือกมาผิดวัน เธอได้เดินเคว้งลัดเลาะไปตามตรอกซอยสักพักจนพบกับร้านขายหมูปิ้งริมครองและเหลือตับปิ้งของโปรดเธอวางอยู่สองไม้สุดท้ายรออะไรล่ะร่างบางก็ได้ทำการซื้อตับปิ้งมาทันทีและก็ได้เดินไปยังโรงเรียนหญิงล้วนย่าน อนุดเสาวรีย์ชัย นั้นก็คือ “โรงเรียนสตรีวิทยา”แต่เหมือนว่าชีวิตจะสู้ร่างบางกลับนะ
"เชี้ยนั้นมันไอตูบ กับไอโบ้ที่เราเคยแกล้งโยนลูกชิ้นใส่หัวมันนี่หว่าชิบหายละ"
ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือหมาบางแก้วแถวโรงเรียนสองตัวที่กำลังตั้งท่าจะเข้ามาไล่งับร่างเล็กอยู่ มันแยกเขี้ยวและทำตาโตใส่เธอ เตรียมพุ่งเต็มที่ ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันที่ไม่ค่อยดีของร่างเล็กซะเท่าไหร่เลยนะ
"กริ๊สสส วิ่งดิ่รอไร อร๊ากกกกกกกก"
ว่าจบเธอก็ได้วิ่งหน้าตั้งหนีหมาสองตัวนั้นความเร็วสี่คูณร้อยทันที พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือทันที
"แม่จ๋าพ่อจ๋าช่วยลูกด้วย!"
"ฮ่อง!ฮ่อง โฮ่ง!โฮ่ง!"
"ไอเหี้ยย!!ม่ายยยยยยย"
หลังจากวิ่งหนีหมาบางแก้วสองตัวออกมายังถนนใหญ่ได้สักพักมันก็ได้หยุดตามมาแล้ว แต่กว่าจะสลัดหมาหลุดออกมาได้ก็ทำเอาเธอเหนื่อยหอบเลยและ และร่างบางก็ได้มาหยุดอยู่ที่หน้าโรงเรียนของเธอพอดี
"เห้อ เหนื่อยชิบหายเลย กว่ามันจะเลิกตาม"
"นี่ยังหนู หมาน่ะมันเลิกตามตั้งแต่เธอออกมาจากตรอกซอยแล้วจ่ะฉันนั่งรถตามเธอมาเลยเห็น"
"ห้ะ! จริงหรอคะ"
"ใช่สิจ๊ะ ว่าแต่เธอควรไปแข่งวิ่งนะได้ที่หนึ่งแน่แน่ 555"
"เห้อเหนื่อยฟรีเลยเรา"
"ไปก่อนนะคะ"
"จ้าา"
"ห้ะะะ!!!"
"อะไรนะคะอาจารย์ ขอใหม่ชัดชัด เน้นเน้นอีกที"
"งานเนี้ย อาจารย์นัดแก้ อาทิตย์หน้า!"
"ห้ะ เข่าแทบทรุด"
"อ่าวงั้นหนูกลับแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ"
"จ้าา"
"เห้ยมิ้นใช่มิ้นป้ะ!!!"
"เอ้าไอมุกมาไออ่ะ"
"อ๋อเรามาช่วยงานอาจารย์ จะกลับละรอหน่อยดิ่"
"อ่าาเครเคร เดี๋ยวไปรอใต้ต้นโพธิ์นะ"
"เครค่า"
หลังจากที่เพื่อนของเธอได้เดินจากไปแล้วร่างก็ได้เดินไปนั้งเซ็งใต้ต้นโพธิ์คิดทบทวนเรื่องราวต่างต่าง ผ่านไปสักพักในจังหว่ะที่เธอกำลังลุกลุกขึ้นชูมือบิดขี้เกียจอยู่นั้น ใบโพธิ์ก็ได้ร่วงหล่นลงมาในมือของเธออย่างพอเหมาะพอเจาะเหมือนเตี้ยมกันมา เมื่อร่างบางเห็นก็ได้อุทานขึ้นมาว่า
"เชี้ย!!"
หลังจากนั้นโลกทั้งใบก็ดับมืดลงทันทีร่างเล็กได้เป็นลมนอนกองไปกับพื้น เหตุเป็นเพราะเธอพึ่งวิ่งมาทำให้เหนื่อยก่อนแล้วพวกกับเจอเรื่องที่ช็อกจึงทำให้เธอลงไปนอนกองอยู่กับพื้น
จบ!!!!!!
หลายคนอาจจะสงใสนะคะว่าทำไมมายมิ้นถึงได้ตกใจขนาดนั้นเมื่อใบโพธิ์หล่นใส่มือ
ก็เพราะว่าโรงเรียนสตรีวิทยามีความเชื่อกันจากรุ่นสู่รุ่นว่าถ้าพี่ม.6เนี่ยมาเก็บใบโพธิ์ด้วยมือเท่านั้นและต้องเก็บเป็นเลขคี่เท่านั้นก็จะทำให้ ประสบความสำเร็จในการสอบติดเข้ามหาลัยที่ต้อนต้องการ
ต้นโพธิ์เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสตรีวิทยาอย่างหนึ่ง รุ่นพี่จะเล่าให้ฟังรุ่นสู่รุ่นกันว่า
"เมื่อถึงฤดูกาลที่จะจบการศึกษาของปีนั้นๆ เป็นช่วงเดียวกับที่ใบโพธิ์กำลังจะร่วงหล่นไป และ ใบโพธิ์ใบใหม่กำลังจะผลิออกมา เหมือนกับพี่ ม.6 ที่กำลังจะจบไป และน้องๆ รุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในรั้วแดง-ขาวแห่งนี้"
แต่!!!!!!!
ถ้ารุ่นน้องที่ไม่ใช่พี่ม.6ที่กำลังจะจบไปจับใบโพธิ์ได้ก็จะให้ผลตรงกันข้าม เพราะจนกว่าจะจบม.6ก็จะซวยไปตลอด
(อันนี้รุ่นพี่เราเขาก็เล่าให้ฟังนะ)
เครดิตรูปปก:ข้าวๆ
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กแล้วทำมะ!! ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กแล้วทำมะ!!
ความคิดเห็น