รักแรกเพื่อนร่วมห้อง - รักแรกเพื่อนร่วมห้อง นิยาย รักแรกเพื่อนร่วมห้อง : Dek-D.com - Writer

    รักแรกเพื่อนร่วมห้อง

    ผู้เข้าชมรวม

    81

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    81

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ส.ค. 66 / 20:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    08.00 น.กริ๊งงงงง!!!!!!!!

    สวัสดีวันเปิดเทอมวันแรกสำหรับชีวิตนักศึกษาปี 2

    สวัสดีครับผมชื่อรัน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ผมเป็นผู้ชายตัวเล็ก น่ารัก มีผู้ชายหลายคนเข้ามาจีบบ่อยๆ เพราะหน้าตาน่ารักเหมือนผู้หญิง ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน ชื่อต้น กับตาล เราพักอยู่คอนโดเดียวกันแต่คนละห้อง ผมต้องรีบไปอาบน้ำเพื่อไปมหาวิทยาลัยวันแรกเดี๋ยวจะสายเอา

    “เฮ้ยรัน ทางนี้” ทันทีที่ผมจอดรถเสร็จเพื่อนของผมก็เดินเข้ามาพร้อมกัน 2 คนนี้มันอยู่หอเดียวกันนะครับ แต่ผมอยู่คนละหอ มันก็ชวนมาอยู่หอเดียวกัน แต่ไม่เอาดีกว่าผมชอบอยู่คนเดียว จะได้เป็นส่วนตัวดี

    “วันนี้มาเช้านะมึง” ไอ้ต้นทักคำแรกเมื่อได้เจอกัน

    “วันแรกต้องเช้าสิมึง ไปเข้าห้องกันได้แล้ว" ผมพูดพร้อมกับเดินออกไปพร้อมเพื่อน

    “หวัดดีรัน วันนี้มาเช้าเชียวนะ ปกติจะสายเป็นครึ่งชั่วโมง” ไอ้เจเด็กเรียนเก่งที่สุดของห้องทักผม

    “วันแรกกูก็ต้องมาเช้าหน่อยสิวะ” ผมตอบมันด้วยท่าทีหงุดหงิด 

    “แหม่ พูดหยอกแค่นี้โมโหแล้วหรอ อะกูซื้อของมาฝาก ปิดเทอมกูไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวมา” เจพูดพร้อมหยิบของฝากให้ผม

    “ทำไมมีของรัันคนเดียว ของกูกับตาลไม่มีรึไง” ต้นแซวเจที่มีของฝากมาให้แค่ผม

    “ไม่มีอะ มึง 2 คนไม่ได้ชื่อรันนิ” เจพูดพร้อมกับมองมาที่ผม

    “อาจารย์มาแล้ว แยกย้ายกันไปนั่งประจำที่เถอะ ขอบคุณมากมึง” ผมรีบพูดจบบทสนทนาก่อนที่จะเดินนำไปนั่งที่ประจำ

    “เมื่อไหร่มึงจะยอมใจอ่อนให้กูจีบวะรัน” เจส่งข้อความมาหาผมในขณะที่ผมไปนั่งที่โต๊ะ

    “มีงอย่าเสียเวลากับกูเลย กูไม่เหมาะกับมึงหรอก เรียนก็ไม่เก่ง จะจบหรือป่าวก็ไม่รู้ ที่สำคัญก็ไม่เคยมีแฟน และไม่รู้จะมีไปทำไม อยู่คนเดียวก็สบายใจดี” ที่ผมต้องพูดแบบนี้เพราะผมไม่อยากให้ความหวังมัน มันตามจีบผมตั้งแต่เข้าปี 1 ใหม่ๆ เราสองคนได้สายรหัสเดียวกัน เวลาพี่สายนัดก็ต้องไปด้วยกัน ตอนผมสอบไม่ผ่านจะติด F ก็ได้มันนี่แหละที่ช่วยติวช่วยเข็น จนผมรอดมาได้

    “ยังไงกูก็ไม่เลิกจีบมึงหรอก มึงเตรียมรับมือได้เลย” เจพิมพ์ประโยคสุดท้ายก่อนที่อาจารย์จะให้แบ่งกลุ่มกันทำรายงาน

    เวลา 12.00 น.

    “เลิกเรียนแล้วไปไหนดีมึง” ต้นพูดขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมเก็บของ

    “ไปเดินห้างกันไหม อยากไปช็อปปิ้งคลายเครียด” ผมอยากไปคลายเครียดและอยากใช้เงินในบัญชี

    “จ้าาา แม่สาวน้อย เงินเยอะจังเลยนะ” ต้นพูดขึ้นและทำท่าล้อเลียน

    “แน่สิแม่กูพึ่งโอนเงินเข้าบัญชีเมื่อเช้า เงินเก่ายังไม่หมดเงินใหม่ก็เข้ามาแล้ว” ผมยักคิ้วให้มันไปทีนึง

    “ไปไหนกันพวกมึง ไปกินข้าวที่ห้างกันไหม” นิวและกร เพื่อนสนิทของเจเดินเข้ามาทัก

    “ไปดิ ไอ้รันกำลังจะขวนไปช็อปพอดี” ไอ้ต้นทีนี้มีงรีบพูดเร็วเชียวนะ

    “ช็อปเก่งจังเลยนะมึง" เจแซวพร้อมเดินมาข้างๆผม

    “ทำไม ก็กูรวย ที่สำคัญไม่ใช่เงินมึงอย่ายุ่ง” ผมด่่ามันไป หงุดหงิด

    “อยากยุ่งจังเลย เงินกูก็เยอะนะ อยากได้คนมาช่วยใช้จัง” เจพูดพร้อมโน้มใบหน้าลงมาใกล้รัน

    “เก็บไว้ให้สาวในสต็อกมึงเถอะ” ผมพูดพร้อมส่งสายตาดุๆไปให้มัน

    “มึงไง คนอื่นเข้ามาก็ไม่สนใจใครเลยนะนอกจากมึง”เจพูดแล้วโอบไหล่ผม

    “ไปกันได้เลย เพื่อนก็หน้าแดงหมดแล้ว ค่อยจีบกันต่อกูหิวข้าว” ไอ้นิวพูดตัดบท

    “จีบบ้านมึงสิ รีบไปได้แล้ว” ผมพูดแก้เขินก่อน เดี๋ยวพวกมันแซว

    “เจกูไปกับมึงนะ วันนี้ไม่ได้เอารถมา” ไอ้กรพูดพร้อมเดินมาข้างไอ้เจ

    “ไปกับไอ้กรสิ รถกูเก็บไว้ให้รันนั่งคนเดียว จบนะ” จบครับ มันไม่ให้ใครขึ้นรถอยู่แล้วนอกจากผม ที่ไม่เคยขอ แต่มันก็เสนอหน้าขอมารับผมที่คอนโดบ่อยๆ

    “นั่งในฐานะอะไร เพื่อนร่วมห้องหรอครับเพื่อน” เจ็บสิครับไอ้นิวพูดกับผมแบบนี้

    “สงสัยมึงอยากไปโรงบาลก่อนไปกินข้าวนะนิว” ผมส่งสายตาดุมันไปหนึ่งที

    “ขอโทษครับพ่อ เกี้ยวกราดกับคนอื่นเพื่ออ่อนโยนเพื่อรันคนเดียวนะมึง” มันยกมือไหว้ขอโทษพร้อมล้อเลียนผมต่อ

    ห้างดังแห่งหนึ่ง

    “กินไรดีพวกมึง” ไอ้ต้นเป็นคนเปิดหัวข้ออาหารวันนี้

    “กูกินชาบู คนอื่นจะกินไรก็ไปกันเลยนะ” ไอ้รันพูดพร้อมเดินเข้าร้านชาบู

    “ชาบูนี่แหละ เดี๋ยววันนี้กูเลี้ยงเอง” ผมโชว์ป๋าไป นานๆทีจะได้กินข้าวกับรัน

    “อ้าว น้องรันมากับใครเนี่ย บังเอิญจังเลยนะครับมาเจอกันที่นี่” รุ่นพี่หน้าหล่อคนหนึ่งพูดขึ้น ใครวะทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย หรือจะจีบรัน

    “สวัสดีครับพี่อาท ผมมากับเพื่อนที่คณะครับ” รันพูดพร้อมสวัสดีคนข้างหน้า พวกผมก็ไม่ไหว้นะ ไม่รู้จัก ไม่ชอบด้วย มันต้องเป็นคู่แข่งผมแน่นอน

    “ดีเลย มานั่งด้วยกันไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” อ้าวพี่ทำไมพูดแบบนี้อะ อยากมีเรื่องหรอ

    “ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมจะเลี้ยงเพื่อนของผมทุกคนอยู่แล้ว” ผมย้ำไปอีกที 

    “ถ้างั้นเดี๋ยวพี่จ่ายให้รันนะ น้องก็เลี้ยงเพื่อนน้องไป” รุ่นพี่คนนั้นพูดขึ้นอีกรอบ

    “ก็ผมบอกจะจ่ายให้เพื่อน นั่นก็คือรวมถึงรันด้วย พี่นี่ยังไงไม่เข้าใจที่ผมพูดหรอครับ” ผมเริ่มโมโหแล้วครับ ก็บอกจะเลี้ยงยังจะมาเลี้ยงว่าที่แฟนของผมตัดหน้า

    “เจ ถ้าจะไม่มีมารยาทก็กลับไป” รันพูดขึ้นด้วยสีหน้าแบบจริงจัง

    “อืม ขอโทษละกันที่กูไม่มีมารยาท” ผมเสียใจนะ รันไม่เคยพูดแบบนี้กับผมต่อหน้าคนอื่นเลย

    “มาๆ พวกมึงมากินกันเถอะ กูหิวจนจะกินไอ้นิวแล้วเนี่ย” ไอ้กรพูดตัดบท เมื่อเห็นอาการหน้าเสียของผม

    “มาครับน้องๆ น้องรันมานั่งข้างพี่มา” รุ่นพี่พูดขึ้น พร้อมจับแขนรันเดินไปนั่งข้างๆ รันชะงักเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินตามไป

    “พี่ไม่มีเพื่อนหรอครับ ทำไมมานั่งกินคนเดียว” ผมพูดใส่ไปอีกทีหนึ่ง

    “พอดีเพื่อนพี่ไม่ว่าง พี่เลยมาคนเดียวหนะ” รุ่นพี่ตอบกลับแบบลอยหน้าลอยตา

    “เจ มารยาทหน่อยนี่รุ่นพี่นะ” รันพูดขึ้นพร้อมทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม ผมใจกระตุกเลย เสียใจมากนะได้ยินคนที่เรารักพูดแบบนี้

    “ไม่เป็นไรครับน้องรัน พี่ไม่ถือสาหรอก ว่าแต่เราเมื่อไหร่จะใจอ่อนเนี่ย พี่จีบนานแล้วนะ” อ่อผมเข้าใจแล้วครับ ว่ารุ่นพี่ก็จีบรันเหมือนกัน เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจผมเลย

    “กลางคืนคอลกับพี่ทุกวัน นี่พี่คิดว่าเรามีใจนะ” ผมเริ่มหงุดหงิดไม่อยากอยู่ต่อแล้้วผมไม่อยากอ่อนแอให้ใครได้เห็น 

    “ไอ้เจ วางแก้วแรงไปนะมึง เดี๋ยวแก้วก็แตกหรอก” ผมเหมือนคนนอกที่มานั่งฟังคนอื่นมาจีบคนที่ชอบต่อหน้า ทั้งที่ผมยังไม่มีสิทธิ์จีบมันเลยด้วยซ้ำ

    “อาหารมาเสริฟแล้วคะ” พนักงานเอาอาหารมาเสริฟทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดบรรเทาลง

    “กินกันเถอะพวกมึง จะได้รีบออกไปช็อป” นิวหลังจากที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้น

    “รันอยากได้อะไร เดี๋ยวพี่ซื้อให้” รุ่นพี่ถามรันแต่กลับหันหน้ามองมาที่ผม

    “เจ กินสิมึงไม่หิวหรอ” นิวพูดขึ้นระหว่างที่ผมจ้องหน้ากับรุ่นพี่ที่นั่งลอยหน้าลอยตาคีบหมูให้รันอย่างต่อเนื่อง

    “รันซื้อเองได้ครับ ไม่รบกวนพี่ดีกว่า” รันพูดตัดบทพร้อมคีบหมูเข้าปากก่อนจะหันหน้ามามองผมและหันกลับไป

    “รบกวนอะไรกันครับ ซื้อของให้ว่าที่แฟนเอง” รุ่นพี่พูดพร้อมมือลูบหัวรัน ส่วนรันชะงักเล็กน้อยก่อนจะขยับออกมา

    “มึงกูกลับบ้านก่อนนะ ม๊าตามทำให้ทำธุระให้” ผมพูดพร้อมกับวางข้อน

    “นี่เงินนะ กูไปก่อน” ก่อนจะไปผมหันหน้ามองรันด้วยความไม่เข้าใจ

    “มันรีบอะไรของมันวะเนี่ย กินไปแค่นิดเดียวเอง” ต้นพูดพร้อมหันไปหารันและเพื่อนของผม

    หน้าร้านชาบู

    “เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ วันนี้ชาบูอร่อยมาก” รุ่นพี่พูดพร้อมยกมือขึ้นบ๊ายบาย

    “สวัสดีครับพี่” พวกผมพากันยกมือขึ้นพร้อมกับเดินออกไป

    “มันยังไงกับเขาเนี่ย ที่ไม่ยอมให้เพื่อนกูจับนี่คือคุยดับมันหรอ” นิวพูดขึ้นพร้อมจ้องหน้าผมอย่างหงุดหงิด

    “ไม่เกี่ยวกับเขาซักหน่อย” ผมพูดแล้วกดเล่นโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ทำไมไอ้เจไม่ทักมาซักที หรือมันยังไม่ถึงบ้าน 

    “สงสารไอ้เจมันเถอะ ตามจีบมาเป็นปีไม่ใจอ่อนซักที” กรพูดพร้อมกับกอดคอนิวเดินออกไป

    “เลิกพูดแล้วแยกย้ายกันไปช็อปปิ้งเถอะ” ผมพูดตัดบทพร้อมเดินเข้าไปในช็อปที่ต้องการ

    “ชาบูคงอร่อยสินะ ไม่มีกูอยู่กินให้ขวางหูขวางตา” ทักมาแล้วครับ ทักมาก็หาเรื่องเลยนะมึง

    “มึงอย่ามาหาเรื่องนะ” ผมตอบกลับอย่างหงุดหงิด ทำไมมันไม่จบเรื่องนี้ซักที

    “กูหาเรื่องอะไร ที่ไม่ยอมใจอ่อนให้กจีบนี่เพราะมึงคุยกับมันอยู่ใช่ไหม” ผมอ่านแชทแล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมคุยกับรุ่นพี่ มันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน

    “พูดให้มันดีนะ เขารุ่นพี่ไปพูดว่ามันได้ไง” ด่าไปหนึ่งที

    “กูขอโทษละกัน ที่ไม่มีมารยาท บางทีมึงอาจจะรำคาญกูก็ได้ ต่อไปนี้กูจะไม่กวนใจมึงอีกแล้ว” ผมตอบกลับมายิ่งเห็นคำตอบผมยิ่งหงุดหงิด

    “ไปซะได้ก็ดี กูรำคาญมึงเต็มทนแล้ว” ผมด่ามันไปอย่างไม่ได้คิดอะไร

    “โชคดีนะ ขอให้มึงมีความสุขกับเขา รักกันให้มากๆ เมื่อไหร่ที่มึงไม่มีใครมึงหันกลับมา กูยังรออยู่ตรงนี้” มันพิมพ์มาแบบนี้ผมต้องตอบว่ายังไง วันๆอยู่แต่กับเพื่อนจะให้เอาเวลาไหนไปมีแฟนวะ

    “มึงไม่ต้องรอให้เสียเวลาหรอก” ผมพูดตัดบทไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเครียด ตอนนี้ผมต้องการช็อปปิ้ง ไม่ได้ต้องการมานั่งเคลียร์กับใคร

    “มึงไม่มีสิทธิ์มาบอกกู โชคดี” ดูมันตอบกลับมาสิพรุ่งนี้กูจะด่าให้ดู

    “อืม” มันตอบสั้นๆก่อนที่ผมจะเก็บโทรศัพท์และเดินดูของต่อ

    คณะวิศวกรรมศาสตร์

    “ทำไมวันนี้ไอ้เจไมมาเรียนวะ” ต้นเพื่อนผมพูดขึ้นในขณะที่พวกเราเดินมาถึงห้องเรียน เพราะปกติเจมันจะไม่เคยมาเรียนสาย

    “ปกติมันไม่มาสายหรือขาดเรียนนะ มันไม่สบายหรือป่าว ติดต่อก็ไม่ได้” ใช่ครับหลังจากตอบว่าอืม เจมันก็ไม่ทักมาหาผมอีกเลย ปกติมันจะโทรหาผมตอนเช้าทุกวันตอนผมขับรถมาเรียน

    “เรียนเสร็จไปคอนโดมันกัน โทรหาแม่มันแล้วบอกไมกลับบ้าน” นิวพูดขึ้นก่อนจะมองมาที่ผม

    “ไหนบอกไปทำธุระให้แม่ไงตอนมันออกไปเมื่อวาน” กรพูดขึ้นด้วยความสงสัยร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันไปทำธุระให้แม่ซักครั้ง เพราะส่วนมากพ่อกับแม่ของเจไม่ค่อยอยู่บ้านจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศตลอด เป็นเหตุผลที่มันชอบอยู่คอนโดมากกว่าบ้าน

    “เรียนก่อนเถอะเดี๋ยวเลิกเรียนค่อยว่ากัน” นิวพูดคัดบทก่อนที่ทุกคนจะตั้งใจเรียน ยกเว้นผมที่มันแต่นั่งคิดถึงมัน พอไม่เจอ พอไม่มีคนทักมากวนใจก็รู้สึกว่าขาดอะไรไป

    “รัน มึงเหม่อทำไมเนี่ย ตั้งใจเรียนดิ เดี๋ยวสอบได้คะแนนไม่ดีขึ้นมากต้องพึ่งไอ้เจอีก” นี่ผมนั่งเหม่อจนเพื่อนสงสัยกันเลยหรอ

    “ไปก่อนนะพวกมึง” พอจบคลาสผมก็รีบเดินออกไป ใจผมคือจะไปหาไอ้เจที่คอนโดหรือจะไม่สนใจแล้วกลับไปนอนที่คอนโดตัวเองอย่างสบายใจ

    “รีบไปไหนกันวะ” ต้นพูดขึ้นขณะที่นิวกับกรก็รีบไม่ต่างจากผม

    “ไปหาไอ้เจดิ ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เช้าแล้ว” กรพูดด้วยท่าทางที่เรงรีบก่อนจะดึงนิวเดินตามไป

    “เครมึง” ผมพูดขึ้นก่อนจะหันหน้ามาหาตาล

    “มันทักมาหามึงไหมวะ ปกติจะทักมาจีบมึงทุกวัน” ตาลพูดพร้อมกับมองหน้าผมอย่างสงสัย เพื่อนในกลุ่มทุกคนรู้ว่าเจตามจีบผมอยู่

    “ไร้สาระน่า” ผมพูดพร้อมกับกดเข้าไปดูแชทและทุกแอปที่มีมันเป็นเพื่อน มันก็ไม่ได้อัพเดตอะไร

    “หรือว่ามันจะไม่สบาย” ต้นพูดขึ้นมาก่อนจะมีท่าทางตกใจ

    “เมื่อวานยังดีอยู่เลย แต่กูเชียร์มันนะ” ตาลพูดพร้อมหันหน้ามาแซวผม แต่ช่วยดูสถานการณ์หน่อยได้ไหม ผมยอมรับแหละว่ามีใจให้มัน แต่ผมมันคนปากแข็งไง

    “เลิกพูดแล้วกลับได้ละ วันนี้จะกลับไปนอนกูง่วง” ผมไปดีกว่าก่อนที่จะเครียดไปมากกว่านี้

    “เจอกันมึง” โบกมือพร้อมกับเดินไปขึ้นรถ ระหว่างทางผมก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

    “มันหายไปไหนวะ” หงุดหงิดไอ้เจหายไปไหน โทรไปก็กลัวเสียฟอร์ม

    คอนโดเจ

    “เจ อยู่ไหม มึงไอ้เจตัวร้อนมากเลย ทำไงดี” พอกรกับนิวเปิดประตูห้องของเจที่ได้จากนิติบุคคลคอนโด ต้องตกใจไปตามกันเพราะเพื่อนของเขานอนซมอยู่ที่เตียงตัวร้อนหน้าซีด เจมันจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่ทะเลาะกันหรือน้อยใจรัน ถ้ามันนอนดึกจะไม่สบายตลอดแต่ครั้งนี้หนักสุด

    “พามันไปหาหมอเถอะ กลัวมันจะอาการหนัก” นิวพูดขึ้นพร้อมช่วยกันประคองเจขึ้นรถและมุ่งตรงไปที่โรงบาลทันที

    โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

    “เพื่อนของคุณร่างกายอ่อนแอ อาจจะให้นอนพักร่างกายก่อนพรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรก็ให้กลับบ้านได้” หมอพูดพร้อมกับเดินออกไปจากห้อง

    “งั้นเดี๋ยวกูจะกลับไปเอาเสื้อผ้าที่หอ มีงเฝ้ามันไว้ละกันนะ พ่อกับแม่มันไปดูงานที่ต่างประเทศ เดี๋ยวแวะซื้อของกินเข้ามา” นิวพูดขึ้นพร้อมกับมองเพื่อนที่นอนอยู่อย่างสงสาร

    “ได้มึง ขับรถดีๆ” กรบอกพร้อมกับกดโทรศัพท์ไปบอกแม่ของเจว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก

    ตลาดแห่งหนึ่งแถวคอนโดรัน

    “อ้าวรัน มาทำไรแถวนี้วะ นึกว่ากลับไปนอนที่คอนโดแล้ว” นิวทักผมขึ้นเมื่อผมแวะหาอะไรเข้าไปกินที่ห้อง

    “กูแวะหาอะไรกินก่อนอะ มึงหละ ทำไมมาคนเดียวได้วะไอ้กรไปไหน” ตอนออกมาเห็นอยู่ด้วยกันทพไมไม่มาด้วยกันวะ แล้วมันติดต่อเจได้หรือยังจะถามดีไหม

    “มันเฝ้าไอ้เจอยู่โรงบาล”ทันทีที่ได้ยินนิวพูดใจผมกระตุกวูบ นึกโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้

    “ไอ้เจเป็นอะไร ทำไมได้นอนโรงบาล เข้าตั้งแต่วันไหน ทำไมกูไม่รู้เรื่อง” ผมถามออกไปจนไอ้นิวยกมือบอกให้พอก่อน

    “ใจเย็นมึง พึ่งพาไปส่งเมื่อเย็นไปหามันที่คอนโดตอนเลิกเรียน มันนอนซมอยู่เลยรีบพาไปโรงบาล” ป่วยจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย ความรู้สึกผมตอนนี้อยากจะวิ่งเข้าไปกอดมันเหลือเกินพร้อมกับบอกว่ามึงไม่ตัองขอจีบกูแล้วนะมึงจีบกูติดแล้ว

    “แล้วว มันเป็นอะไรมากไหม” ถามออกไปพร้อมเสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้

    “มึงอยากไปเยี่ยมไหมหละ กูกำลังจะไปพอดี” ด้วยความที่ปากแข็ง กลัวเพื่อนจะล้อเลยเก็บความห่วงใยไว้รอมันออกจากโรงบาลก่อนค่อยแวะไปหาตอนมันอยู่คนเดียว

    “อ๋อ ไม่เป็นไร มึงรีบไปเถอะมันแข็งแรงจะตาย คงไม่เป็นอะไรมากหรอก” ผมพูดพร้อมมองออกไปทางอื่น

    “มีงอย่าโกหกใจตัวเองเลย กูรู้นะมึงก็แอบมีใจให้มัน ทำไม่ต้องเก็บไว้วะ ไม่สงสารมันหรอที่มันออกไปวันนั้น มึงก็รู้มันโกหก แม่มันไปต่างประเทศจะโทรให้กลับไปทำธุระที่บ้านทำไม” นิวกูรูก็ทำไมกูจะไม่รู้ว่าที่มันขอกลับก่อนมันน้อยใจและเข้าใจผิดที่รุ่นพี่มาแสดงความเป็นเจ้าของกูต่อหน้ามันขนาดนั้น

    “ทำไมกูจะไม่รู้ตัวเอง ก็คิดกับมันแค่เพื่อน กูไปละ” ตอบนิวออกไปพร้อมกับกดโทรศัพท์ไม่แสดงออกให้เพื่อนรู้ว่าคิดยังไง

    “ถ้ามึงยังปากแข็ง ระวังมันจะหายไปจากมึง กูเตือนเพราะมึงสองคนเป็นเพื่อนที่กูรัก กูไปละ” นิวพูดพร้อมเดินออกไปอย่างหงุดหงิด

    เช้าวันต่อมา

    “อาการดีขึ้นแล้ว รับยาแล้วกลับบ้านได้เลยนะครับ” คุณหมอเดินเข้ามาตรวจเจพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

    “ขอบคุณครับคุณหมอ” ผมกล่าวขอบคุณพร้อมกับนั่งเหม่อลอยคิดถึงรัน ขนาดกูป่วยเข้าโรงบาลขนาดนี้มึงยังไม่มาเยี่ยมหรือทักมาถามอาการกูคงไม่สำคัญกับมึงขนาดนั้นสินะ

    “ไปมึง เก็บของกลับคอนโดกัน” นิวที่เห็นอาการของผมเหม่อพูดตัดบทขึ้นเพื่อเรียกสติของผม

    “ขอบใจพวกมึงมากนะ ที่อยู่กับกูในวันที่อ่อนแอ” ผมพูดกับเพื่อนรักทั้งสองพร้อมกับเข็ดน้ำตา ทำไมผมต้องอ่อนแอขนาดนี้นะ

    “ไม่เป็นไรเลย อย่าคิดมากนะ” กรกับนิวพูดให้กำลังพร้อมแตะบ่าผมเบาๆก่อนจะเตรียมตัวกลับหอ

    “กลับกันดีๆนะ ขอบคุณอีกครั้ง” ผมเดินออกไปส่งที่หน้าประตูพร้อมโบกมือลาเพื่อนทั้งสองคนและกลับมานั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น

    ก็อกๆๆๆ

    “ลืมอะไ…. มีงมาทำไม” ผมเปิดประตูออกไปก็ต้องตกใจเมื่อคนที่เคาะไม่ใช้นิวกับกร แต่เป็นรันที่ยืนอยู่หน้าห้อง

    “ได้ข่าวว่าไม่สบาย เลยมาเยี่ยม” รันพูดขึ้นพร้อมยกของกินที่ถือมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด

    “กูไม่เป็นอะไร ขอบใจมากกลับไปได้แล้ว กูจะพักผ่อน”ผมตอบกลับไปด้วยท่าทีน้อยใจ ทำไมต้องมาเยี่ยมเวลานี้ ตอนกูนอนป่วยอยู่ไม่เห็นโผล่หน้ามาเลย ข้อความซักข้อความยังไม่มี

    “เจ กูขอโทษ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”รันพูดออกมาพร้อมทำหน้าอ้อนเหมือนที่เวลาผมโกรธแล้วมันทำหน้าแบบนี้แล้วผมจะหายโกรธตลอด แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล

    “ไม่ต้องร้องไห้ เห็นมึงรัองไห้แล้วกูเจ็บ กลับไปเถอะ”เมื่อผมไม่ตอบอะไรมันก็หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดพร้อมร้องไห้ออกมา อยากจะเข้าไปกอดมันนะแต่ไม่ดีกว่าผมอยากถอยออกมาให้มันมีความสุขกับคนที่มันรัก

    “ไม่ มีงไม่สิทธิ์มาไล่กู กูจะอยู่เฝ้ามึงเอง”รันพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจพร้อมเดินไปนั่งที่โซฟาข้างผม

    “กูไม่มีสิทธิ์อะไรกับมีงอยู่แล้ว มึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ”ผมพูดออกมาอย่างน้อยใจที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวรันเลยนอกจากเพื่อนร่วมห้องผมก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตังมันแล้ว

    “กูขอโทษ ดีกันนะเจ”รันพูดขึ้นพร้อมยกนิ้วก้อยขึ้นมา

    “ไม่ จะอยู่ก็อยู่กูจะพักผ่อนแล้ว กูเพลีย”จริงๆผมไม่ได้เพลียขนาดนั่นหรอก แต่ไม่อยากเห็นหน้ามัน ทุกข้อความที่คุยกับมันล่าสุดผมกดเข้าไปอ่านทีไรก็น้ำตาซึมทุกที

    “ได้ เดี๋ยวกูเฝ้ามึงเอง นอนเลย ปะเข้าห้อง”รันพูดขึ้นพร้อมจับมือผมเดินเข้าห้อง

    “อืม”ผมตอบกลับและเดินตามรันไป

    “ทำไมไม่นอน มานอนมองหน้าก็ทำไม”รันพูดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ผม

    “ลูบหัว”ผมพูดออกไปอย่างอ้อนๆและหวังว่ามันจะทำตามที่ผมขอ

    “ไอ้เด็กน้อยเอ้ย”รันยิ้มรับแล้วลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน ผมอยากหยุดเวลานี้ไว้จัง

    “ครับพี่อาท อ่อผมอยู่ข้างนอกครับ วันนี้ไม่สะดวก วันหน้าละกันครับ โอเคครับ”แต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ของรันดังขึ้น พอผมได้ยินชื่อผมก็จับมือรันออกจากหัวแล้วนอนหันหลังให้

    “มึงไปหาเขาก็ได้นะ ไม่ต้องมาเฝ้ากูหรอก”หลังรันวางโทรศัพท์ผมพูดพร้อมเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้

    “เปิดออกมาเดี๋ยวหายใจไม่ออก และหลับเดี๋ยวนี้ อย่าพูดมาก”รันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    “อืม แล้วแต่มึงเลย”ผมพูดพร้อมหลับไปด้วยฤทธิ์ยา

    ห้องครัว

    เมื่อผมเดินออกมาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ น่ากินทั้งนั้นเลยแต่ผมคงกินไม่ลงหรอกนะ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

    “กูไม่กิน”รันบังคับให้ผมกินผัก ผมพูดดออกไปพร้อมเขี่ยข้าวไปมา

    “มีงต้องกิน มันมีประโยชน์นะ ถ้ามึงกอนหมดกูจะนอนด้วยเลยวันนี้”รันพูดพร้อมยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงยิ้มรับแล้วรีบกินเพื่อที่จะได้นอนกับรัน

    “ไม่จำเป็น กลับเถอะค่ำแล้ว”ผมพูดพร้อมวางชัอนและยกน้ำดื่มเป็นสัญญาณว่สผมอิ่มแล้ว

    “มีงไล่กูหรอ”รันพูดพร้อมทำหน้าสงสัย

    “อืม”ผมตอบรับและเดินออกไปนั่งที่โซฟา

    “กูไม่กลับ มีงมาเป็นเจคนเดิมสิคนที่ขอจีบกูทุกวันมันหายไปไหนแล้ว”รันพูดพร้อมเดินมานั่งข้างผมและจับมือผมขึ้นมากอดไว้แนบแก้ม

    “มันหายไปตั้งแต่มึงมีคนอื่นมาจีบเป็นคู่แข่งกู มึงคุยกับเขาดีทุกอย่าง มึงคอลกับเขาทุกวัน ในขณะที่กูต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้คุยกับมึง แต่มึงก็ไม่เห็นในความพยายามของกู”ผมพูดความรู้สึกของผมออกไปให้หมดจะได้จบวันนี้เลย ผมจะได้ตัดใจได้ซักที

    “กูขอโทษ”รันพูดพร้อมจ้องมาที่ตาของผมที่ตอนนี้มันแดง ได้แต่กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลต่อหน้ารัน

    “มึงไม่ผิดหรอก คนที่ผิดคือกู ที่คิดเกินเพื่อนร่วมห้อง”พอผมพูดเสร็จน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมา ผมไม่สนใจแล้วว่ารันจะมองว่าผมอ่อนแอขนาดไหน

    “กูกับพี่อาทไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ มึงเข้าใจผิด”รันพูดพร้อมดึงผมเข้ามากอดและร้องไห้

    “แต่มึงก็ไม่ได้ปฏิเสธนิ กูยอมแ.. อื้ออออ มึง”ผมยังพูดไม่จบก็โดนรันผละกอดออกพูดจูบเข้ามาด้วยความอ่อนโยน

    “หยุดพูด ถ้าไม่หยุดกูจะจูบให้มึงหายพูดมากเลย”รันพูดขึ้นพร้อมจ้องผมเหมือนแม่ดุลูกเวลาลูกดื้อ

    “ทำแบบนี้ทำไม”ผมไม่เข้าใจทำไมรันต้องทำแบบนี้ด้วย

    “อยากเสียจูบแรกให้คนที่รัก”สมองผมหยุดสั่งการชั่วขณะเมื่อได้ยินคำนี้จากรัน

    “หมายความว่ายังไง”ผมไม่มั่นจะและตีความหมายไม่ได้เลย ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือเข้าข้างตัวเองหรือป่าว

    “มีงฉลาดขนาดนี้ แค่นี้มึงอย่ามาโง่นะ”รันพูดขึ้นพร้อมชร้หน้าอย่างคาดโทษ

    “มึง มึง ระ รักกูหรอ”.เมื่อได้ยินแบบนั้นผมก็ประมวลผลได้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจผิด

    “แล้วแต่มึงจะคิด”รันพูดพร้อมหน้าขึ้นสี เขินหละใจไอ้คนปากแข็ง

    “มีงรักกู นี่กูไม่ได้ฝันไปใช่ไหม รันมึงรักกูอะ เย้ เย้ มึงรักกู กูดีใจที่สุดเลย”ผมโผลเข้ากอดรันอีกครั้งพร้อมกับกอดแน่นเหมือนกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไป

    “เบาๆๆ เดี๋ยวกูตก”รันพูดขึ้นพร้อมกอดตอบผมแน่นเหมือนกัน

    “กูไม่ปล่อยให้แฟนกูตกหรอก เป็นแฟนกันนะ”ผมผละกอดออกและมองหน้ารันพร้อมกับลุ้นคำตอบว่ารันจะยอมเป็นแหนด้วยไหม

    “อืม เป็นแฟนเจ รันเป็นแฟนเจ”รันโผลเข้ากอดผมอีกครั่งก่อนที่เราสองคนจะเช็ดน้ำตาให้กันอย่างอ่อนโยน

    “เจรักรันนะ รักตั้งแต่ครั้งแรก และรักมาตลอด”ผมพูดและอุ้มรันมานั่งตักหอมแก้มไปหนึ่งทีด้วยความดีใจ รันไม่โวยวายและหอมกลับพร้อมกลับพูดว่า

    “ห้ามทิ้งรันนะ”ถึงรันไม่บอกผมก็ไม่ทิ้งอยู่แล้ว

    “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว เจรักรัน รักนะเพื่อนร่วมห้อง”พูดจบเราสองคนก็ผลัดกันหอมแก้ม พร้อมกดเข้าโลกโซเชียลประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วนะ เพื่อนรักของเราทั้งสองฝ่ายต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับรักครั้งนี้ของผมกับรัน “รักนะเพื่อนร่วมห้อง” ^;^

    ฝากติดตามด้วยนะคะนิยายเรื่องแรกที่แต่ง ฝากคอมเม้นหรือแนะนำได้เลยนะคะ ^=^

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×