ราตรีอันยาวนาน - นิยาย ราตรีอันยาวนาน : Dek-D.com - Writer
×

    ราตรีอันยาวนาน

    ศร เด็กหนุ่มบ้านนอกที่จิตใจใฝ่ธรรมะ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในครอบครัวและหมู่บ้าน เขาจะต้องเสาะแสวงหาเพื่อช่วยครอบครัวและหมู่บ้านได้ยังไง โปรดติดตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    137

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    137

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 พ.ค. 67 / 22:16 น.
    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ย้อนกลับไปปี พ.ศ 2499  

               ศร_ เป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกอีสานใต้คนหนึ่ง มีครอบครัวที่แสนสงบสุข ประกอบไปด้วย แม่จรรย์ น้องสาวญาดาและศรซึ่งเป็นพี่ชายคนโต บ้านทำงานเกษตร และมีรายได้ดีพองามเลยทีเดียว


    ตากล่ำ : เฮ้ย ใอ่ศร ไปไหนว่ะ มืดๆ ค่ำๆ (ตากล่ำชายผู้                   ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน)


    ศร : ไปหาหลวงตามาจ๊ะ


    ตากล่ำ : อ้าวไปทำไรมีปัญหาไรรึ


    ศร : ป่าวจ๊ะตา ฉันไปถามเรื่องบวชกับหลวงตามานะ


    ตากล่ำ : แล้วหลวงตาว่าไง


    ศร : หลวงตาบอกว่าอาทิตย์หน้าได้ฤกษ์บวชจ๊ะ


    ตากล่ำ : เออดีแล้ว อายุครบบวชแล้วก็จงบวช มีอะไรให้ช่วยก็บอกข้าละ งานบุญข้าไม่พลาดอยู่แล้ว เดินกลับบ้านก็ระวังหล่ะ วันนี้เดือนดับด้วย


    ศร : ขอบคุณจ๊ะตา


               แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกลับบ้าน ระหว่างทางเดินกลับบ้าน ศรต้องผ่านทั้งดงตาล ดงกล้วย แล้วระหว่างนั้นเองหางตา เหลือบไปเห็นร่างผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างดงกล้วย ศรได้หันไปมอง สบตากับหญิงคนอื่นที่มีร่างกายผอมบาง ผิวดำคล้ำ หัวกระเซิง ยืนแสยะยิ้มอยู่ ศรได้ถาม นั้นใคร มายืนทำอะไรในนี้มืดๆ ค่ำๆ หญิงคนนั้นค่อยๆ เดินออกมาจากดงกล้วย ศรก็กำหมัดในมือแน่น หญิงคนนั้นหยุด แล้วก็ตะโกนตอบว่า ยายเอง ศรตอบ เอ้ายายเพิงหรอ ฉันขอโทษทีนะจ๊ะที่ได้ล่วงเกินไป ยายเพิงตอบไม่เป็นไร แล้วเอ็งมาเดินอะไรมืดๆ ค่ำๆ แบบนี้ ไม่กลัวหรือไง ศรตอบ ก็กลัวอยู่จ๊ะ แล้วยายจะไปไหนหรอ ให้ผมไปส่งมั้ย ยายเพิง ตอบ เออดีเลย หูตาไม่ค่อยจะดี ไม่ได้เอาคบไม้มาด้วย ศรเข้าไปประคองยายเพิง ช่วยเดินไปส่งบ้าน ยายเพิงพาศรเดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีเสียงจิ้งหรีดเรไรไปทั่ว เดินจนถึงบ้าน พอเหยียบขึ้นบันไดบ้านเพียงขั้นแรก เสียงจิ้งหรีดกลับเงียบสบไม่มีแม้แต่เสียงอะไรหลุดลอดออกมา ศรประคองยายเพิงขึ้นไปบนบ้าน ไปนั่งกลางบ้านแล้วจุดตะเกียง ยายอยู่ยังไงมืดๆ ค่ำๆ ไม่กลัวหรอ ยายเพิงตอบ ข้าอายุขนาดนี้แล้ว ผ่านชีวิตมาเยอะไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว กินน้ำกินท่าก่อนมั้ยหล่ะ ศรตอบไม่เป็นไร จ๊ะยาย มืดแล้วเดี๋ยวแม่เป็นห่วงงั้นผมลากลับก่อนนะ ยายเพิงหันมายิ้มแสยะ เห็นฟันที่ขาวผิดปกติ เออๆ เดินกลับดีๆ มืดแล้วระวังตัวด้วย ศรเดินลงบันไดกลับบ้าน พอถึงบ้าน แม่ถามได้เอ่ยถามไปไหนมาลูก กลับมืดค่ำขนาดนี้ ศรตอบขาเดินกลับบ้านเห็นยายเพิงยืนอยู่กลางดงกล้วย เลยประคองไปส่งบ้านจ๊ะ แม่ถามว่าอะไรนะ ศรก็บอกอีกครั้ง แม่หน้าตาซีด มือไม้สั่น แล้วสั่งห้ามว่าอย่าไปยุ่งกับแกอีก เจอก็หลบ ศรตอบ ครับแม่ แม่เป็นอะไรหรือป่าว แม่ตอบ ป่าวจ๊ะลูก ยิ่งทำให้ศรงงไปใหญ่



    "วันบวชก็มาถึง"


        เสียงแม่ครัวช่วยกันทำกับข้าว เสียงดังฟังชัด แขกเต็มงาน
    มัคทายก : เอาล่ะ เอาล่ะ ถึงเวลาปลงผมนาคแล้ว เอ็งมานั่งที่เก้าอี้ก่อน
    ศรมานั่งที่เก้าอี้ แม่ตัดผมศร น้ำตาไหลพราก ด้วยความปลาบปลื้มใจ ที่เห็นลูกชายจะบวช พอถึงเวลาบวช วนรอบอุโบสถ เสียงกลองยาวก็ดังสนั่นชาวบ้านรำกันสนุกสนาน พอครบ 3 รอบ นาคก็เข้าโบสถ์ ไปนั่งต่อหน้าหลวงตาแก้วซึ่งเป็น เจ้าอาวาส พอบวชเสร็จหลวงตาแก้ว อาตมา ดีใจนะที่โยมบวชในครั้งนี้ ขอให้ศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเยอะๆนะ มีอะไรติดขัด ถามอาตมาได้ตลอด พระศรตอบ ขอรับหลวงตา พระศรเดินออกจากโบสถ์ชาวบ้านยิ้มกันหน้าบาน มีแต่ก้มกราบแล้วพูดว่าเนื้อนาบุญศาสนาโดยแท้ ซึ่งศรเป็นคนที่ใฝ่ธรรมะมาโดยตลอด

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น