หรือรักนี้จะล่ม - นิยาย หรือรักนี้จะล่ม : Dek-D.com - Writer
×

    หรือรักนี้จะล่ม

    “เขาต้องช่วยครอบครัวตัวเอง ด้วยการแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องเลิกรากับคนรัก ทว่าความจริงแล้วเขากลับเคยมีเรื่องราวภูมิหลังกับเธอมาก่อน เมื่อนานมาแล้ว...”

    ผู้เข้าชมรวม

    1,068

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.06K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    20
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  14 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 พ.ย. 66 / 09:30 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 1 แต่งงาน

     

                   ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังนั่งกุมขมับด้วยความเครียด เหตุผลที่ทำให้เขาเครียดก็คือบริษัทที่เขาเป็นคนก่อตั้งมาเองกับมือกำลังจะปิดตัวลงเนื่องจากขาดทุนอย่างหนักด้วยพิษเศรษฐกิจ ขณะนี้ไม่สามารถหาที่พึ่งพาได้เนื่องจากไม่มีใครหน้าไหนยื่นมือเข้ามาช่วยสักคน ใช่แล้ว ตอนนี้เขากำลังจะล้มละลาย

                   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                   “ท่านประธานขออนุญาตเข้าไปนะคะ” เลขาสาวเคาะประตูเรียก

                   “เข้ามาได้” สิ้นคำพูดหญิงสาวในชุดสูทจึงเปิดประตูเข้ามาทันที

                   “มีอะไร?”

                   “มีคนขอเข้าพบค่ะ”

                   “ใครกัน?”

                   “คุณธนาค่ะ”

                   “ธ…ธนาเหรอให้เข้ามาได้เลย” พอรู้ว่าเป็นคนที่ชื่อธนาสายตาของชายผู้นี้ก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันทีราวกับกำลังมีความหวังเกิดขึ้น

                   “รับทราบค่ะ”

    สามนาทีผ่านไป

                   “ธนาเป็นไงมาไงนี่ มา ๆ มานั่งก่อน” ทักทายคนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร

                   “ขอบใจนะอินทร์” ธนานั่งลงก่อนที่จะยิ้มให้อินทร์

                   “น้ำค่ะ” จากนั้นเลขาจึงเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กับแขก

                   “ขอบใจนะ”

                   “ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรเรียกใช้ได้เลยนะคะ”

                   “ได้ครับ”

                   “ดิฉันขอตัวค่ะ”

                   “กี่ปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน นายสบายดีใช่ไหมธนา”

                   “ฉันสบายดีแล้วนายล่ะ?”

                   “ฉันก็สบายดี แต่พอดีว่าช่วงนี้มีเรื่องให้คิดหน่อยน่ะ” อินทร์ทำหน้าเคร่งเครียด

                   “อย่างนั้นเหรอ…”

                   “ …”

                   “อย่างนั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยไหมอินทร์” ความจริงที่ธนามาหาอินทร์ในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องอะไรบางอย่างเหมือนกัน

                   “เรื่องอะไรเหรอ?”

                   “ที่ฉันมาหานายวันนี้ไง”

                   “หมายความว่าไง?”

                   “ฉันรู้ว่าช่วงนี้บริษัทนายกำลังมีปัญหามาก ดังนั้นฉันจึงมีข้อเสนอให้กับนาย”

                   “ข้อเสนออะไร”

                   “ต้องจัด งานแต่ง ให้ วันใส กับ เจได

                   “อะ…อะไรนะ!?”

                   “หากนายตกลง ฉันจะช่วยบริษัทอย่างเต็มที่ให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง แถมเจไดยังได้ถือครองหุ้นบริษัทฉันด้วยครึ่งหนึ่ง”

                   “นายทำแบบนี้แล้วนายจะได้อะไรธนา”

                   “ฉันน่ะเหรอได้สิ ได้เห็น…”

     

    วันแต่งงานเจไดและวันใส

                   ธนาเดินเข้ามาส่งตัวลูกสาวในงานแต่ง ร่างเล็กเดินมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่ดูหรูหราสมฐานะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข 

                   “วันนี้ลูกพ่อสวยที่สุดเลย” ปากเอ่ยชมลูกสาวที่มีเพียงคนเดียวไม่หยุด พลางลูบหัวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

                   “จริงเหรอคะ”

                   “จริงสิ พ่อเดินมาส่งได้แค่นี้แหละนะ ขอให้ลูกพ่อมีความสุขนะ”

                   “ค่ะพ่อ” เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ไหลต่อหน้าผู้เป็นพ่อ

                   “คุณวันใสจะรับคุณเจไดสามีหรือไม่”

                   “รับค่ะ”

                   “คุณเจไดจะรับคุณวันใสเป็นภรรยาหรือไม่”

                   “…” ร่างสูงเงียบไม่ตอบ สายตาของเขากำลังมองไปกลุ่มผู้คนที่มาร่วมงานแต่ง

                   “คุณเจได”

                   “…”

                   “พี่เจไดคะ?” วันใสเห็นว่าเจไม่ตอบจึงสะกิดไปที่แขนเบา ๆ

                   “รับครับ” เจไดตอบด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาที่แฝงไปด้วยความจนปัญญา

                   “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันแล้วครับ” สิ้นสุดเสียงของบาทหลวงแขกทุกคนที่มาร่วมงานจึงได้ปรบมือพร้อมกัน ยินดีให้กับทั้งสอง ดูเหมือนวันใสจะมีความสุขกับการแต่งงานครั้งนี้มาก แต่กับเจไดนั้นไม่เลย เขาไม่อยากแต่งงานในครั้งนี้เลย ทว่าต้องแต่งด้วยความจำเป็นเพื่อช่วยบริษัทเอาไว้

     

    หนึ่งเดือนก่อนงานแต่ง

                   ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านด้วยความอารมณ์ดี เพราะวันนี้เขาไปเอาผลการเรียนมาให้ผู้เป็นพ่อและแม่แล้วพบว่าตนเองได้ถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ตั้งใจจะเอามาให้พ่อกับแม่ได้ดู พลันคิดในใจว่าหากท่านทั้งสองเห็นคงจะดีใจมากและยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกด้วย แต่พอเดินมาถึงโถงก็เห็นสองคนทำสีหน้าเครียดคิ้วขมวดแทบจะผูกเป็นโบราวกับมีเรื่องอะไร

                   “ป๊า ม้า มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”

                   “เจไดลูกแม่ อึก” คนเป็นแม่เมื่อเห็นหน้าลูกถึงกับร้องไห้ออกมา

                   “ม้าเป็นอะไรครับ”

                   “ม้าไม่รู้จะช่วยลูกยังไง”

                   “ช่วยอะไรครับ?”

                   “คุณก็อธิบายให้ลูกฟังสิคะ”

                   “เจไดแกฟังป๊าพูดให้ดีนะ”

                   “พูดมาได้เลยครับป๊า ผมพร้อมจะฟังแล้ว”

                   “บริษัทเรากำลังจะล้มละลาย”

                   “อะ…ไรนะครับไม่จริงใช่ไหม” เจไดช็อกจนพูดอะไรไม่ถูก ที่ผ่านมาเขาไม่รู้อะไรเลยเพราะอินทร์ไม่เคยเล่าปัญหาของบริษัทให้ฟัง

                   “แกเข้าใจถูกแล้วแต่มีสิ่งหนึ่งที่จะสามารถกู้คืนมันได้คงต้องขอให้แกช่วย”

                   “อะไรครับป๊า หากมีอะไรที่ผมช่วยได้จะช่วยให้เต็มที่เลย”

                   “ฉันไม่รู้จะบอกกับแกยังไง”

                   “ไม่เป็นไรครับ ผมพร้อมทำมัน”

                   “คุณธนาพ่อของหนูวันใสให้ข้อเสนอมาว่าจะช่วยเหลือบริษัทของเราและยกหุ้นส่วนให้แกครึ่งหนึ่ง แต่แกต้อง…” อินทร์ชะงักไว้เพราะไม่รู้ว่าจะบอกกับลูกชายอย่างไรดี

                   “ต้องอะไรครับ”

                   “ต้องแต่งงานกับหนูวันใส”

                   “…” คำตอบผู้เป็นพ่อทำเอาหัวใจเขาหล่นหาย ตั้งใจจะมาบอกข่าวดีกับทั้งสองว่าตนตั้งใจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งแท้ ๆ ที่คบกันมาห้าปีเต็ม

                   “แกจะไม่แต่งก็ได้ฉันไม่บังคับ”

                   “ผะ…ผมตกลงครับ ผมจะแต่งงานกับวันใสเพื่อรักษาบริษัทของเราไว้”

                   “โธ่ เจได” ผู้เป็นแม่เข้ามากอดลูกชายตนเองด้วยความรู้สึกสงสารจับใจที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนไม่ได้รัก ต้องเจ็บปวดขนาดไหน

                   “เจไดขอบคุณแกจริง ๆ นะที่ช่วยบริษัทเราเอาไว้” อินทร์ทำใจไว้ครึ่งหนึ่งแล้วว่าหากเจไดไม่ยอมแต่งงานกับวันใส ตนก็ต้องทำใจปล่อยให้เป็นไปตามกรรมและไม่ถือโทษโกรธลูกชายแต่อย่างใด ด้วยยอมรับในการตัดสินใจทุกอย่าง

                   “ไม่เป็นไรครับ” เจไดกอดปลอบแม่ตนเองไว้แน่นพยายามแสดงออกมาว่าไม่เป็นไรทั้งที่หัวใจสลายไปแล้ว

     

     หนึ่งวันต่อมา

                   เจไดนัดใครบางคนมาพบกันที่สวนสาธารณะ ร่างสูงกำลังนั่งมองไปที่สระน้ำด้วยสายตาที่เลื่อนลอย

                   “เจได” แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงใสเรียกชื่อเขา

                   “โมเดล” เธอเป็นแฟนสาวเจไดที่คบกันมาห้าปี

                   “รอนานไหม?”

                   “ไม่เลย” ใบหน้าหล่อเหลากลับกลายเป็นสีหน้าเคร่งขรึมส่ายหน้าในทันที

                   “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าทำไมทำสีหน้าไม่ดีเลย” หล่อนดูออกว่าแฟนหนุ่มกำลังมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่าง

                   “ฟู่” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เตรียมจะพูดคำ ๆ นั้น

                   “ถอนหายใจทำไมเจได”

                   “โมเดลเราเลิกกันเถอะ”

                   “อะ...อะไรนะ” ร่างบางทวนถามอีกครั้งเพราะไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้ากำลังบอกเลิก

                   “เราเลิกกันเถอะนะ” เจไดใจแข็งและเจ็บปวดมากที่ต้องพูดออกไปทั้งที่ควรต้องพูดว่าแต่งงานกันเถอะแท้ ๆ 

                   “ไม่นะ ทำไม ทำไมถึงบอกเลิกล่ะ”

                   “เจกำลังจะแต่งงานแล้ว”

                   “เดี๋ยวนะโมงงไปหมดแล้ว”

                   “โมเดลจะงงอะไรอีกในเมื่อเจพูดชัดขนาดนี้แล้ว”

                   “โมไม่เข้าใจ เราก็รักกันดีไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเจถึงต้องไปแต่งงานกับคนอื่น”

                   “เจ…” ร่างสูงไม่สามารถพูดเหตุผลได้จึงเลือกที่จะเงียบ

                   “หรือว่าแอบมีคนอื่น”

                   “เจขอโทษ เจต้องไปแล้ว”

                   “เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป อย่าไปเลยนะเจได อึก” น้ำใส ๆ ไหลออกมาจากตาอาบแก้มด้วยความรักห้าปีที่เคยมีให้กันมันกำลังจะพังทลายลง

                   “ขอโทษนะ” มือหนาแกะมือเล็กออกด้วยความจำใจและเดินออกมาปล่อยผู้หญิงที่ตนรักสุดหัวใจร้องไห้เสียใจอยู่เดียว

     

    ตัดภาพมาปัจจุบัน

                   พอเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานของเจไดและวันใสก็ถึงคราวเข้าหอ ร่างเล็กดูเขินอายมากคืนนี้จะได้หลับนอนกับผู้ชายที่เธอรัก

                   “เธอนอนบนเตียงก็แล้วกัน ฉันจะไปนอนตรงโซฟา”

                   “คะ?” นึกว่าคืนนี้จะนอนเตียงด้วยกันเสียอีก

                   “…” เจไดล้มตัวลงนอนที่โซฟาทันทีโดยที่ไม่สนใจวันใสเลยสักนิด

                   “พี่เจไดมานอนบนเตียงกับวันใสก็ได้นะคะ” เธอลุกขึ้นเดินไปบอกเขาที่โซฟา

                   “ไม่”

                   “ไม่เป็นไรค่ะวันสะ…”

                   “ก็บอกว่าไม่ก็คือไม่ไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!” ร่างสูงตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งใส่ร่างเล็กอย่างเสียงดังจนเธอตกใจ

                   “ขะ…ขอโทษค่ะถ้าอย่างนั้นเอาผ้าห่มไหมคะ?”

                   “ไม่”

                   “หมอนล่ะคะ?”

                   “ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้นจะไปนอนก็ไปนอนไป น่ารำคาญ” ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นทำให้เจไดเผลอพูดไม่ดีใส่วันใส

                   “ค่ะ” วันใสหันหลังกลับไปนอนด้วยอาการน้อยใจไม่คิดว่าเขาจะพูดจากับตนแบบนี้ ในใจลึก ๆ ก็แอบเสียใจอยู่บ้างแต่ก็ช่างมันเถอะไม่อยากเก็บเอามาคิดให้ผิดใจกัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น