หรือรักนี้จะล่ม
“เขาต้องช่วยครอบครัวตัวเอง ด้วยการแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องเลิกรากับคนรัก ทว่าความจริงแล้วเขากลับเคยมีเรื่องราวภูมิหลังกับเธอมาก่อน เมื่อนานมาแล้ว...”
ผู้เข้าชมรวม
1,068
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 1 แต่งงาน
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังนั่งกุมขมับด้วยความเครียด เหตุผลที่ทำให้เขาเครียดก็คือบริษัทที่เขาเป็นคนก่อตั้งมาเองกับมือกำลังจะปิดตัวลงเนื่องจากขาดทุนอย่างหนักด้วยพิษเศรษฐกิจ ขณะนี้ไม่สามารถหาที่พึ่งพาได้เนื่องจากไม่มีใครหน้าไหนยื่นมือเข้ามาช่วยสักคน ใช่แล้ว ตอนนี้เขากำลังจะล้มละลาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ท่านประธานขออนุญาตเข้าไปนะคะ” เลขาสาวเคาะประตูเรียก
“เข้ามาได้” สิ้นคำพูดหญิงสาวในชุดสูทจึงเปิดประตูเข้ามาทันที
“มีอะไร?”
“มีคนขอเข้าพบค่ะ”
“ใครกัน?”
“คุณธนาค่ะ”
“ธ…ธนาเหรอให้เข้ามาได้เลย” พอรู้ว่าเป็นคนที่ชื่อธนาสายตาของชายผู้นี้ก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันทีราวกับกำลังมีความหวังเกิดขึ้น
“รับทราบค่ะ”
สามนาทีผ่านไป
“ธนาเป็นไงมาไงนี่ มา ๆ มานั่งก่อน” ทักทายคนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร
“ขอบใจนะอินทร์” ธนานั่งลงก่อนที่จะยิ้มให้อินทร์
“น้ำค่ะ” จากนั้นเลขาจึงเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กับแขก
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรเรียกใช้ได้เลยนะคะ”
“ได้ครับ”
“ดิฉันขอตัวค่ะ”
“กี่ปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน นายสบายดีใช่ไหมธนา”
“ฉันสบายดีแล้วนายล่ะ?”
“ฉันก็สบายดี แต่พอดีว่าช่วงนี้มีเรื่องให้คิดหน่อยน่ะ” อินทร์ทำหน้าเคร่งเครียด
“อย่างนั้นเหรอ…”
“ …”
“อย่างนั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยไหมอินทร์” ความจริงที่ธนามาหาอินทร์ในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องอะไรบางอย่างเหมือนกัน
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ที่ฉันมาหานายวันนี้ไง”
“หมายความว่าไง?”
“ฉันรู้ว่าช่วงนี้บริษัทนายกำลังมีปัญหามาก ดังนั้นฉันจึงมีข้อเสนอให้กับนาย”
“ข้อเสนออะไร”
“ต้องจัด งานแต่ง ให้ วันใส กับ เจได”
“อะ…อะไรนะ!?”
“หากนายตกลง ฉันจะช่วยบริษัทอย่างเต็มที่ให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง แถมเจไดยังได้ถือครองหุ้นบริษัทฉันด้วยครึ่งหนึ่ง”
“นายทำแบบนี้แล้วนายจะได้อะไรธนา”
“ฉันน่ะเหรอได้สิ ได้เห็น…”
วันแต่งงานเจไดและวันใส
ธนาเดินเข้ามาส่งตัวลูกสาวในงานแต่ง ร่างเล็กเดินมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่ดูหรูหราสมฐานะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“วันนี้ลูกพ่อสวยที่สุดเลย” ปากเอ่ยชมลูกสาวที่มีเพียงคนเดียวไม่หยุด พลางลูบหัวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ พ่อเดินมาส่งได้แค่นี้แหละนะ ขอให้ลูกพ่อมีความสุขนะ”
“ค่ะพ่อ” เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ไหลต่อหน้าผู้เป็นพ่อ
“คุณวันใสจะรับคุณเจไดสามีหรือไม่”
“รับค่ะ”
“คุณเจไดจะรับคุณวันใสเป็นภรรยาหรือไม่”
“…” ร่างสูงเงียบไม่ตอบ สายตาของเขากำลังมองไปกลุ่มผู้คนที่มาร่วมงานแต่ง
“คุณเจได”
“…”
“พี่เจไดคะ?” วันใสเห็นว่าเจไม่ตอบจึงสะกิดไปที่แขนเบา ๆ
“รับครับ” เจไดตอบด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาที่แฝงไปด้วยความจนปัญญา
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันแล้วครับ” สิ้นสุดเสียงของบาทหลวงแขกทุกคนที่มาร่วมงานจึงได้ปรบมือพร้อมกัน ยินดีให้กับทั้งสอง ดูเหมือนวันใสจะมีความสุขกับการแต่งงานครั้งนี้มาก แต่กับเจไดนั้นไม่เลย เขาไม่อยากแต่งงานในครั้งนี้เลย ทว่าต้องแต่งด้วยความจำเป็นเพื่อช่วยบริษัทเอาไว้
หนึ่งเดือนก่อนงานแต่ง
ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านด้วยความอารมณ์ดี เพราะวันนี้เขาไปเอาผลการเรียนมาให้ผู้เป็นพ่อและแม่แล้วพบว่าตนเองได้ถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ตั้งใจจะเอามาให้พ่อกับแม่ได้ดู พลันคิดในใจว่าหากท่านทั้งสองเห็นคงจะดีใจมากและยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกด้วย แต่พอเดินมาถึงโถงก็เห็นสองคนทำสีหน้าเครียดคิ้วขมวดแทบจะผูกเป็นโบราวกับมีเรื่องอะไร
“ป๊า ม้า มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เจไดลูกแม่ อึก” คนเป็นแม่เมื่อเห็นหน้าลูกถึงกับร้องไห้ออกมา
“ม้าเป็นอะไรครับ”
“ม้าไม่รู้จะช่วยลูกยังไง”
“ช่วยอะไรครับ?”
“คุณก็อธิบายให้ลูกฟังสิคะ”
“เจไดแกฟังป๊าพูดให้ดีนะ”
“พูดมาได้เลยครับป๊า ผมพร้อมจะฟังแล้ว”
“บริษัทเรากำลังจะล้มละลาย”
“อะ…ไรนะครับไม่จริงใช่ไหม” เจไดช็อกจนพูดอะไรไม่ถูก ที่ผ่านมาเขาไม่รู้อะไรเลยเพราะอินทร์ไม่เคยเล่าปัญหาของบริษัทให้ฟัง
“แกเข้าใจถูกแล้วแต่มีสิ่งหนึ่งที่จะสามารถกู้คืนมันได้คงต้องขอให้แกช่วย”
“อะไรครับป๊า หากมีอะไรที่ผมช่วยได้จะช่วยให้เต็มที่เลย”
“ฉันไม่รู้จะบอกกับแกยังไง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมพร้อมทำมัน”
“คุณธนาพ่อของหนูวันใสให้ข้อเสนอมาว่าจะช่วยเหลือบริษัทของเราและยกหุ้นส่วนให้แกครึ่งหนึ่ง แต่แกต้อง…” อินทร์ชะงักไว้เพราะไม่รู้ว่าจะบอกกับลูกชายอย่างไรดี
“ต้องอะไรครับ”
“ต้องแต่งงานกับหนูวันใส”
“…” คำตอบผู้เป็นพ่อทำเอาหัวใจเขาหล่นหาย ตั้งใจจะมาบอกข่าวดีกับทั้งสองว่าตนตั้งใจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งแท้ ๆ ที่คบกันมาห้าปีเต็ม
“แกจะไม่แต่งก็ได้ฉันไม่บังคับ”
“ผะ…ผมตกลงครับ ผมจะแต่งงานกับวันใสเพื่อรักษาบริษัทของเราไว้”
“โธ่ เจได” ผู้เป็นแม่เข้ามากอดลูกชายตนเองด้วยความรู้สึกสงสารจับใจที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนไม่ได้รัก ต้องเจ็บปวดขนาดไหน
“เจไดขอบคุณแกจริง ๆ นะที่ช่วยบริษัทเราเอาไว้” อินทร์ทำใจไว้ครึ่งหนึ่งแล้วว่าหากเจไดไม่ยอมแต่งงานกับวันใส ตนก็ต้องทำใจปล่อยให้เป็นไปตามกรรมและไม่ถือโทษโกรธลูกชายแต่อย่างใด ด้วยยอมรับในการตัดสินใจทุกอย่าง
“ไม่เป็นไรครับ” เจไดกอดปลอบแม่ตนเองไว้แน่นพยายามแสดงออกมาว่าไม่เป็นไรทั้งที่หัวใจสลายไปแล้ว
หนึ่งวันต่อมา
เจไดนัดใครบางคนมาพบกันที่สวนสาธารณะ ร่างสูงกำลังนั่งมองไปที่สระน้ำด้วยสายตาที่เลื่อนลอย
“เจได” แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงใสเรียกชื่อเขา
“โมเดล” เธอเป็นแฟนสาวเจไดที่คบกันมาห้าปี
“รอนานไหม?”
“ไม่เลย” ใบหน้าหล่อเหลากลับกลายเป็นสีหน้าเคร่งขรึมส่ายหน้าในทันที
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าทำไมทำสีหน้าไม่ดีเลย” หล่อนดูออกว่าแฟนหนุ่มกำลังมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่าง
“ฟู่” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เตรียมจะพูดคำ ๆ นั้น
“ถอนหายใจทำไมเจได”
“โมเดลเราเลิกกันเถอะ”
“อะ...อะไรนะ” ร่างบางทวนถามอีกครั้งเพราะไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้ากำลังบอกเลิก
“เราเลิกกันเถอะนะ” เจไดใจแข็งและเจ็บปวดมากที่ต้องพูดออกไปทั้งที่ควรต้องพูดว่าแต่งงานกันเถอะแท้ ๆ
“ไม่นะ ทำไม ทำไมถึงบอกเลิกล่ะ”
“เจกำลังจะแต่งงานแล้ว”
“เดี๋ยวนะโมงงไปหมดแล้ว”
“โมเดลจะงงอะไรอีกในเมื่อเจพูดชัดขนาดนี้แล้ว”
“โมไม่เข้าใจ เราก็รักกันดีไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเจถึงต้องไปแต่งงานกับคนอื่น”
“เจ…” ร่างสูงไม่สามารถพูดเหตุผลได้จึงเลือกที่จะเงียบ
“หรือว่าแอบมีคนอื่น”
“เจขอโทษ เจต้องไปแล้ว”
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป อย่าไปเลยนะเจได อึก” น้ำใส ๆ ไหลออกมาจากตาอาบแก้มด้วยความรักห้าปีที่เคยมีให้กันมันกำลังจะพังทลายลง
“ขอโทษนะ” มือหนาแกะมือเล็กออกด้วยความจำใจและเดินออกมาปล่อยผู้หญิงที่ตนรักสุดหัวใจร้องไห้เสียใจอยู่เดียว
ตัดภาพมาปัจจุบัน
พอเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานของเจไดและวันใสก็ถึงคราวเข้าหอ ร่างเล็กดูเขินอายมากคืนนี้จะได้หลับนอนกับผู้ชายที่เธอรัก
“เธอนอนบนเตียงก็แล้วกัน ฉันจะไปนอนตรงโซฟา”
“คะ?” นึกว่าคืนนี้จะนอนเตียงด้วยกันเสียอีก
“…” เจไดล้มตัวลงนอนที่โซฟาทันทีโดยที่ไม่สนใจวันใสเลยสักนิด
“พี่เจไดมานอนบนเตียงกับวันใสก็ได้นะคะ” เธอลุกขึ้นเดินไปบอกเขาที่โซฟา
“ไม่”
“ไม่เป็นไรค่ะวันสะ…”
“ก็บอกว่าไม่ก็คือไม่ไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!” ร่างสูงตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งใส่ร่างเล็กอย่างเสียงดังจนเธอตกใจ
“ขะ…ขอโทษค่ะถ้าอย่างนั้นเอาผ้าห่มไหมคะ?”
“ไม่”
“หมอนล่ะคะ?”
“ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้นจะไปนอนก็ไปนอนไป น่ารำคาญ” ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นทำให้เจไดเผลอพูดไม่ดีใส่วันใส
“ค่ะ” วันใสหันหลังกลับไปนอนด้วยอาการน้อยใจไม่คิดว่าเขาจะพูดจากับตนแบบนี้ ในใจลึก ๆ ก็แอบเสียใจอยู่บ้างแต่ก็ช่างมันเถอะไม่อยากเก็บเอามาคิดให้ผิดใจกัน
ผลงานอื่นๆ ของ เธียรนรา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เธียรนรา
ความคิดเห็น