ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางมารร้ายงั้นหรอ (Markbam)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ไม่ผิด

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 65


     

    ตอนที่ 1  ไม่ผิด

     

     

    “ เฮือก!!!! ” 

    แบมแบมหายใจเฮือกใหญ่แต่เปลือกตาขาวซีดยังคงปิดสนิทเมื่อมีแสงสีทองที่ไหนไม่รู้มาพุ่งใส่เขาความรู้สึกตอนนั้นคือหายใจไม่ออกจุกอยู่ที่คอ พยายามดิ้นแต่กลับเหมือนมีคนมีรั้งตัวเขาไม่ให้ขยับไหนจะรู้สึกว่าจะตายรอบสอง เอ๊ะ ตายสองรอบได้ด้วยหรอวะ 

     

    “ ท่านพี่!!! ” สิ้นความคิดเขาก็มีเสียงแทรกเข้ามา แบมแบมพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นแต่มันกลับหนักอึ้งเหลือเกิน พยายามขยับตัวแต่ผลมันกลับนิ่ง แต่เสียงนั้นเหมือนเคยได้ยินก่อนจะเขาจะหมดสติลง ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ความรู้สึกปวดจี๊ดแหล่นเข้ามาในหัว ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด ทำให้แบมแบมพยายามส่งเสียงแต่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีเสียงเลดรอดออกมาจากริมฝีปากอิม แต่ความรู้สึกทั้งปวดทั้งเจ็บทำให้แบมแบมหมดสติไป

     

    “ ฮึก ท่านพี่ใหญ่ ข ข้าเห็นพี่รองหายใจ ฮึก ” ร่างเล็กพูดออกมาทั้งน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา มือเรียวสั่นชี้ไปที่ร่างแบมแบม 

     

    “ !!! ” ทันที่ทีร่างเล็กพูดจบชายหนุ่มก็เดินมาที่เตียงที่มีร่างแบมแบมแล้วยกมือแบมแบมขึ้นวัดชีพจร ความรู้สึกดีใจ เป็นห่วง ความหวัง ก็แหล่นเข้ามา น้ำตาชายหนุ่มร่วงล่นทันที เขาดีใจที่น้องรักของเขากลับมาหายใจอีกครั้งหลังจากที่ปันปันพลัดตกลำน้ำทำให้หยุดหายใจ จากตอนแรกที่น้องชายของเขาหยุดหายใจ เขาก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ปันปันกลับมาหายใจอีกครั้ง แค่หายใจก็ยังดี จนกระทั่งสิ้นความหวัง เขาก็ตัดสินใจ เรียกวิณญาณ กฎข้อห้ามของเมืองระหว่างมนุษย์กับปีศาจอย่างตระกูลเขา ใช่แล้ว ตระกูลเขาเป็นปีศาจ   แล้วอย่างไรกันผู้ใดจะทนเห็นน้องอันเป็นแก้วตาดวงตานอนนิ่งสิ้นลมไปถึง 9 วัน ถ้ามากกว่านี้เขาจะไม่อกแตกตายก่อนหรือ เขาและครอบครัวทำใจไม่ได้หรอก

     

     

    “ ถือว่าน้องเจ้ายังมีบุญ จากนี้ก็คอยตรวจชีพจร ถ้าชีพจรน้องเจ้ากลับมาปกติ ข้าคิดว่าไม่นานน้องเจ้าคงฟื้น ” พ่อหมอกล่าวบอกสองพี่น้อง ก่อนจะส่งยาบำรุงต่างๆเมื่อคนที่นอนแน่นิ่งฟื้นขึ้นจะได้มีอาการทุเลาลงบ้าง เฮ้อ พ่อหมอถอนหายใจเบาๆ ใครจะนึกว่าคนที่หมดลมไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องก็ปาไป 9 วัน โอกาศมีน้อยมากที่จะกลับมามีชีพจร สวรรค์คงรับเด็กซนอย่างปันปันไม่ได้กระมัง เด็กอะไรหาเรื่องจนทำให้ตัวเองต้องพลัดตกลำน้ำนำธาร ที่ขนาดเขาก็เกือบจ่ม

     

    “ ขอบคุณขอรับพ่อหมอ / ขอบคุณเจ้าค่ะ ” ทั้งสองกล่าวขอบคุณก่อนพ่อหมอจะเดินออกไป ทั้งสองคลี่ยิ้มออกมาอย่างเบาใจอย่างน้อยก็มีโอกาศที่ปันปันจะฟื้นกลับมา สวรรค์ทรงเมตตา ที่ไม่พรากน้องไปจากเขา 

     

    “ ท่านพี่เจ้าคะ อีกนานหรือไม่ที่พี่รองจะฟื้นเจ้าคะ ” ร่างเล็กของน้องสาวในวัย 8 ขวบ เอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เบาใจที่พี่รองของนางกลับมามีชีพจร 

     

    “ คงอีกไม่นาน พี่รองของเจ้าน่ะซนจนได้เรื่อง ฟื้นขึ้นมาข้าจะตีให้ขาลาย ” พูดตอบน้องสาวพรางลูบหัวอย่างเอ็นดู ยิ้มออกมาบางๆ อะไรกันเขาแค่ขู่ว่าจะตีปันปันไหง ซูเลี่ยง มานั่งจ้องมองเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้งแบบนั้นกัน 

     

    “ ไม่ได้นะเจ้าคะ! พี่ใหญ่จะตีพี่รองไม่ได้! ” ซูเลี่ยงพ่นเสียงบอกพี่ชายอย่าง เจียเอ๋อ พร้อมกอดอกใบหน้าบึ้งตึงใส่เจียเอ๋อ จนทำให้อีกฝ่ายอมยิ้มกับการกระทำของน้องสาวตน 

     

    “ ทำไมพี่จะตีไม่ได้ เด็กซนอย่างปันปันต้องตีถึงจะหลาบจำ ” เจียเอ๋อถามด้วยสีหน้าไม่จริงจังนัก 

     

    “ ก ก็เพราะพี่รองไม่ผิดเจ้าค่ะ ” ตอบคนเป็นพี่อย่างเก้ๆกังๆ ก้มหน้าคางชิดอก สีหน้ากังเวลและกลัวในขณะเดียวกันของซูเลี่ยง ใครกันจะไม่กลัวพี่เจียเอ๋อ ขนาดพี่รองยังกลัวเลย

     

    “ มีเรื่องอะไรที่พี่ยังไม่ได้รู้หรือไม่ ซูเลี่ยง.. ” จากตอนแรกเจียเอ๋อแค่จะแหย่น้องสาวเล่นแต่ตอนนี้ใบหน้าเรียวคมกลับเรียบนิ่ง น้ำเสียงจริงจังมากขึ้น จนซูเลี่ยงกลัว 

     

     จากการกดดันของพี่ชายบวกกับใบหน้าที่นิ่งจนทำให้ซูเลี่ยงตัดสินใจเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับปันปัน  ซูเลี่ยงเล่าว่า ก่อนที่ปันปันจะตกน้ำ ในตอนนั้นเขาสองคนกำลังนั่งสมาธิฝึกควบคุมพลังอยู่ใกล้ลำธาร นั่งมาได้ไม่นานพี่รองก็ลุกขึ้นมองไปรอบๆเหมือนหาอะไรอยู่ซูเลี่ยงเลยกล่าวถามด้วยความมึนงง

     

    ‘ เป็นอะไรหรือเจ้าคะพี่รอง ’

     

    ‘ เจ้าได้ยินอะไรหรือเปล่าซูเลี่ยง ’

     

    ‘ ได้ยิน ? หมายถึงเสียงน้ำในลำธารหรือเปล่าเจ้าคะ ’

     

    ‘ ไม่ใช่ พี่ได้ยินเสียงคนเรียก เจ้าไม่ได้ยินจริงหรือ ’ ซูเลี่ยงพยักหน้าตอบในใจก็มึนงงที่จู่ๆพี่รองก็กล่าวว่าได้ยินคนเรียก เขาอยู่ตรงนี้กับพี่รองไม่ยักได้ยิน ก่อนจะคิดไปมากกว่านี้ อยู่ๆปันปันก็เดินไปข้างลำธารแต่หยุดนิ่งซูเลี่ยงเกิดสงสัยก็เดินเข้าไปดู ก่อนปันปันจะกล่าวบางอย่างจนทำให้ซูเลี่ยงมึนงงกว่าเดิม ‘ พี่ได้ยินจากตรงนั้น ’ ปันปันชี้ไปที่ก้นลำธารถึงลำธารจะดูไม่ค่อยลึก แต่ถ้าปันปันลงไปก็คงมิดหัว ‘ ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะพี่รอง นี้ก็ค่ำแล้วกลับกันเถอะเจ้าค่ะ ’ บอกปันปันที่จ้องมองก้นลำธารนิ่ง ซูเลี่ยงที่กำลังจะเอ่ยบอกปันปันก็ต้องชงัก เมื่ออยู่ๆก็มีแสงสีทองสว่างจนมองไม่เห็นพุ่งใส่ร่างผู้เป็นพี่จนล่วงลงน้ำดังตูมใหญ่ ซูเลี่ยงเห็นก็ได้แต่ตะโกนเรียกคนมาช่วย น้ำตาไหลอาบแก้มเนียนอย่างน่าสงสาร เพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็นไม่เช่นนั้นเขาคงลงไปช่วยพี่รองแล้ว 

     

    “ แสงสีทอง… ” เจียเอ๋อฟังที่ซูเลี่ยงเล่าก็เงียบตัวแข็งทื่อ เนื้อก้อนอกด้านซ้ายก็รู้สึกหวิบๆ ก่อนคำๆหนึ่งก็ผุดขึ้นมา คำทำนายและคำสาป ไม่ได้ เขาจะปล่อยให้ปันปันเป็นตามคำทำนายไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด 

     

     

     

    Enjoy :3

    ________________

    แต่งครั้งแรกค่ะ ผิดพลาดประการก็บอกได้นะคะ แต่บอกเลยนะคะว่า เรื่่องนี้ไม่ใช่ประตูเมืองจีนแน่นอน ไม่มีฮ่องเต้ แต่จะคล้ายๆกัน แต่ออกแนว ปกครองด้วยราชาและราชินี มียุโรปป่นอยู่ ไม่ 100 เปอร์เซนต์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×