ความรักที่หลุดลอย - ความรักที่หลุดลอย นิยาย ความรักที่หลุดลอย : Dek-D.com - Writer

    ความรักที่หลุดลอย

    อลิซาเบ็ตเด็กสาวผู้ที่ถูกโชคชะตากำหนดให้พบกับโศกเศร้า

    ผู้เข้าชมรวม

    609

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    609

    ความคิดเห็น


    31

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มิ.ย. 47 / 19:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความรักที่หลุดลอย บทนำ อลิซาเบ็ต โรว์เจอร์ เด็กสาวอายุ 10 ปี เด็กสาวผู้มีผมสีน้ำตาลเข้ม เธอและพ่อแม่ของเธอเป็นครอบครัวเศรษฐีชาวอเมริกาที่กำลังเดินทางไปที่แคลิฟาเนีย เพราะพ่อและแม่ของเธอนั้นเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้จัดการบริษัทโรว์เจอร์ กรุ๊ป และกำลังเดินทางไปดูงานที่แคลิฟาเนีย โดยมีเธอซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวได้ติดสอยห้อยตามไปด้วย ครั้นถึงเธอก็ได้ไปพักที่บ้านพักตากอากาศที่นั่น และวันหนึ่งพ่อกับแม่ของเธอได้ออกไปข้างนอกโดยได้ทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับคนใช้ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เหตุการณ์ต่างๆกำลังเริ่มต้นขึ้น “ อลิซาเบ็ต ลูกอยู่บ้านนะจ๊ะ พ่อกับแม่จะไปข้างนอกหน่อย” คุณนายลิซ่า แม่ของ อลิซาเบ็ต บอกกับเธอ “ ค่ะแม่ ” อลิซาเบ็ตตอบแม่ด้วยเสียงสดใส “ แล้วอย่าเที่ยวเล่นไปไกลนะลูก บายจ๊ะ” นาย อีริค โรว์เจอร์ พ่อของอลิซาเบ็ตบอกกับลูกสาวสุดรัก “ ค่ะ ” อลิซาเบ็ตตอบ และแล้วพ่อและแม่ของอลิซาเบ็ตก็ออกไปข้างนอก ส่วนเธอก็กำลังคิดหาที่เที่ยวในวันนี้อยู่ เพราะคราวที่แล้วที่เธอหนีเที่ยวเธอได้ออกไปไกลจากบ้านจนพ่อของเธอเกือบหาไม่เจอ เธอจึงคิดได้ว่าตอนที่เธอหลงทางเมื่อคราวที่แล้วนั้น เธอได้เห็นทุ่งว่างแห่งหนึ่งที่รั้วสีขาวกั้นไว้ ว่าแล้วเธอก็ออกวิ่งจากบ้านและตรงไปยังทุ่งว่างแห่งนั้น และในที่สุดเธอก็ถึง และวิ่งเล่นอยู่พักหนึ่ง และสะดุดก้อนหินล้ม “ อุ้ย ! เจ็บจังเลย” เธอร้องครวญ และแล้วก็มีมือหนึ่งยื่นมาช่วยดึงเธอขึ้น “ ขอบใจนะ ” เธอบอกโดยไม่ได้มองหน้าคนที่ช่วยเธอเลย เพราะมัวแต่มองข้อเท้าของเธอที่ตอนนี้บวมและแดงขึ้นเรื่อยๆแล้ว และเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เด็กชายที่แลดูแสนจะธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเด็กชายอายุคงเท่ากับเธอ ผมของเขาเป็นสีดำเข้ม หน้าตาดูซุกซน และซ่อนไว้ซึ่งความสดใส อย่างเด็กผู้ชายทั่วไป “ เอ่อ สวัสดี เราชื่อ แมทธิว ไลฟ์ นะ เราอยู่คฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามน่ะ แล้วเธอล่ะ ” แมทธิวพูดเร็วปรื๋ออย่างไม่หายใจหายคอ “ อ๋อ เราชื่อ---โอ๊ย ” ก่อนที่อลิซาเบ็ตจะตอบ เธอได้ล้มลงเพราะอาการปวดอย่างแรงที่ข้อเท้าของเธอ “ นี่ เป็นไรมั๊ยน่ะเธอ ” แมทธิวถามเสียงสั่น “ ไหวมั๊ยน่ะ ” “ เอ่อ ไม่ไหวแล้วล่ะ ” อลิซาเบ็ตตอบ น้ำตาคลอ “ งั้นเดี๋ยว เราให้ขี่หลังกลับบ้านนะ ” เด็กชายพูดเสียงใส “ แล้วบ้านเธออยู่ไหนล่ะ ” “ ที่บ้านพักตากอากาศตรงโน้นน่ะ -- โอ๊ย ” เธอบอกพลางร้องเพราะความเจ็บ “ ได้ ขึ้นมาเลย “ แมทธิวบอก เด็กชายช่วยพยุงเธอขึ้นหลังของเขาและพาเดิน ระหว่างทางเด็กทั้งสองได้สนทนากันอย่างถูกคอ และอลิซาเบ็ตก็พูดว่า “ นี่ เราชื่อ อลิซาเบ็ต โรว์เจอร์นะ ” ครั้นเย็นเด็กทั้งสองก็มาถึงบ้านพักตากอากาศของอลิซาเบ็ต โดยมีพ่อและแม่ของอลิซาเบ็ต ยืนคอยลูกสาวอย่างกระวนกระวายใจอยู่หน้าบ้าน “ เอ่อ หนูสะดุดล้ม ขาแพลงค่ะ แมทธิวเค้าเลยพาหนู กลับมาค่ะ ” อลิซาเบ็ตบอกพ่อแม่ของเธอหลังจากลงจากหลังของแมทธิว และพากันเข้าบ้าน “ เอ่อ นี่แมทธิว ไลฟ์ เขาพักอยู่คฤหาสน์ ฝั่งตรงข้ามน่ะค่ะ พอดีเขามาเจอหนูก็เลยช่วยหนูไว้พอดีค่ะ ” อลิซาเบ็ต แนะนำตัวแมทธิวอย่างเป็นทางการ “ อ๋อ เธอคือลูกของ คุณและคุณนาย ไลฟ์ นี่เอง เสียใจด้วยนะที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตน่ะ เธอคงเสียใจน่าดูนะ ” พ่อของอลิซาเบ็ตพูด “ ครับ ” แมทธิวตอบ แต่คราวนี้เสียงเขาไม่สดใสเหมือนเดิมแล้ว “ อ้าว คุณพ่อ คุณแม่ รู้จัก แมทธิวหรอกหรอคะ ” อลิซาเบ็ตถามอย่างอยากรู้ “ ใช่จ๊ะ ” พ่อแม่ของเธอตอบ หลังจากวันนั้น ทั้งสองก็เป็นเพื่อนเล่นกันตลอดมา ทั้งสองคุย และเล่นกันอย่างถูกคอ และสนุกสนาน และวันหนึ่งพ่อแม่ของอลิซาเบ็ตก็มาบอกข่าวดีกับเธอว่าครอบครัวของเธอนั้นจะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ และนั่นเป็นข่าวดีที่สุดในช่วงปิดเทอมนี้ของเธอเลย และพ่อเธอก็บอกว่าเธอจะได้อยู่โรงเรียนเดียวกันกับแมทธิวด้วย อลิซาเบ็ตดีใจมากกับข่าวนี้ เธอจึงรีบวิ่งไปยังรั้วไม้สีขาวที่ล้อมรอบทุ่งกว้างที่พวกเขาเล่นด้วยกันทุกครั้ง เพื่อจะบอกข่าวดีนี้กับแมทธิว และเธอก็เจอเขาและบอกเขาว่า “ นี่นาย เราจะอยู่ที่นี่ตลอดไปล่ะ แล้วยังได้อยู่โรงเรียนเดียวกับนายด้วยนะ ดีใจไหม ” เธอเล่าให้เด็กชายฟังอย่างตื่นเต้น เมื่อฟังแล้วเด็กชายก็ยิ้ม และพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร อลิซาเบ็ตคิดว่าบางครั้งแมทธิวก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่โศกเศร้าอยู่ในใจของเขา แต่ทุกครั้งเขาก็จะรับฟังอย่างตั้งใจ ด้วยเหตุนี้ อลิซาเบ็ต จึงคิดว่าเขาเป็นคนเดียวที่รับฟังเรื่องทุกอย่างของเธอได้ ครั้นเวลาผ่านไป เธอได้เข้าโรงเรียนประถม ที่เดียวกันกับแมทธิว แต่ถึงแม้ทั้งคู่จะอยู่กันคนละกลุ่ม แต่ในตอนกลับบ้าน และ เวลาว่าง ทั้งคู่ก็จะมาคุยกันเรื่องในโรงเรียน และเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเสมอมา และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนทั้งคู่เรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย และวันหนึ่ง ณ ลานทุ่งกว้าง ที่ที่ทั้งสองจะมาคุยกันทุกวัน อลิซาเบ็ตได้ร้องไห้และเล่าความทุกข์ของเธอว่าเธอถูกหักอกจากผู้ชายคนหนึ่ง และแมทธิวได้นั่งนิ่งรับฟังเธออย่างเห็นใจ เธอจึงคิดว่านอกจากที่เขาเป็นคนที่รับฟังเธอได้ทุกเรื่องแล้วเขายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธออีกด้วย แต่ตอนนี้ในใจของเธอรู้ดีว่า เขาคงไม่ได้เป็นแค่เพื่อนในใจของเธออีกต่อไป แต่เธอก็เก็บความรู้สึกนี้ไว้ และแอบยิ้มไม่ให้เขาเห็น เช้าวันต่อมาเธอเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยของเธอ และเธอเห็นที่ที่หนึ่งมีคนชุมนุมกันอยู่ ซึ่งที่ที่นั้นมีชายสองคนกำลังชกต่อยกันอยู่ และเมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ก็จึงรู้ว่าคนที่กำลังชกอยู่นั้นคือแมทธิว ส่วนคนที่ถูกชกนั้นคือ แฟนเก่าที่หักอกเธอนั่นเอง เธอทราบซึ้งในน้ำใจของแมทธิวมากที่พยายามแก้แค้นให้เธอ และในท้ายสุดแมทธิวต้องถูกพักการเรียน 1 สัปดาห์ จนเขาเกือบเรียนไม่ทันเพื่อน อลิซาเบ็ตรู้ตัวว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ต้องทำให้แมทธิวต้องถูกพักการเรียน เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอต้องถูกพักการเรียนเพราะเธอ เธอจึงรู้สึกเสียใจมาก หลายสัปดาห์ต่อมาพ่อแม่ของอลิซาเบ็ตได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เสียชีวิตทั้งคู่ ในงานศพนั้นเธอเสียใจมาก แต่ก็ยังมีแมทธิวยืนเคียงข้างเธอเสมอ จนเธอคลายทุกข์ไปได้บ้าง และในวันรับปริญญาของมหาวิทยาลัยของพวกเขานั้น ได้มาถึง และในคืนนั้น เขาและเธอต่างก็มีคู่ออกเดทด้วยกันทั้งนั้น แต่อลิซาเบ็ตรู้ดีว่าใจเธอต้องการไปคุยกับแมทธิวมากกว่า ดังนั้นเธอจึงไปคุยกับเขาหลังจากที่เพื่อนๆคนอื่นกลับกันหมดแล้ว คืนนั้นเธอรู้ตัวว่าเธอได้ตกหลุมรักเขาเข้าไปอย่างจังแล้ว ทั้งคู่มานั่งดูดาวด้วยกันที่ทุ่งกว้างที่ล้อมรอบไปด้วยรั้วไม้สีขาว คืนนั้นเธอพยายามดึงความกล้าออกมาเพื่อจะบอกเขาว่าเธอรักเขา แต่เธอก็ไม่กล้าพอทั้งคู่จึงนั่งเงียบไปซักพักหนึ่ง และแมทธิวก็พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบถึงแผนการของชีวิตเขา พูดถึงวิธีที่ทำให้เขาร่ำรวยและพูดว่า เขาอยากจะแต่งงานกับใครซักคนและใช้ชีวิตอย่างอิสระ ในคืนนั้นนอกจากนั่งดูดาวแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรหรือพูดอะไรเลยนอกจากจะฟังเขาพูดอย่างเดียว และแล้ววันนั้นก็มาถึงวันที่แมทธิวได้งานทำที่นิวยอร์ก แน่นอนเธอดีใจกับข่าวนี้มาก แต่อีกใจหนึ่งก็เสียมากที่จะไม่เจอเขาอีก และเธอก็ไปส่งเขาที่สนามบิน และกอดเขาก่อนที่เขาจะจากไป และในใจเธอก็อยากจะพูดว่าเธอรักเขา และไม่อยากให้เขาไป แต่แล้วเธอก็ไม่กล้าแต่กลับพูดว่า “ บาย โชคดีนะ ” หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวเขาอีกเลย และหลายเดือนต่อมา เธอก็ได้รับการ์ดแต่งงานของเขาจากนิวยอร์ก และเธอก็ไปร่วมในงานแต่งงานนั้นด้วย ครั้นถึงงานที่นิวยอร์กแล้วเธอพยายามยิ้ม และดีใจกับงานแต่งงานของเขา แต่กลับเป็นว่าเธอกลับทำร้ายตัวเองทางอ้อม เพราะยิ่งเธอฝืนยิ้มมากเท่าไรเธอก็กลับอยากจะร้องไห้เมื่อนั้น และเมื่องานใกล้จบเธอได้เต้นรำกับแมทธิวเพลงหนึ่ง และเธอก็จะกลับแคลิฟาเนีย ในวันที่เธอเดินทางกลับนั้น แมทธิวได้มาส่งเธอที่สนามบิน และกล่าวอำลาเธอ เมื่อเธอกลับมาที่แคลิฟาเนียนั้นเธอเอาแต่ร้องไห้ เสียใจที่คนที่เธอรักนั้นเขาได้แต่งงานไปแล้ว แต่เธอก็เสียใจอยู่ไม่กี่วัน และตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้ขาดการติดต่อกัน โดยติดต่อกันทางจดหมายตลอดมา จนถึงวันที่เธอไม่ได้รับจดหมายตอบกลับ หลังจากที่เธอเขียนจดหมายไปหาเขาถึง 6 ฉบับ เธอได้แต่คิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกลับเขาแน่ๆ เธอรู้สึกใจไม่ดีเลยในตอนนั้น จนถึงวันที่เธอได้รับจดหมายที่มีข้อความสั้นๆว่า “ มาพบเราได้ไหม ที่รั้วไม้สีขาว ที่ที่เราเคยคุยกันในทุกเรื่อง ” เธอไปตามนัด และพบเขายืนพิงรั้วอยู่ เธอเดินเข้าไปหาเขา และเห็นว่าเขาน้ำตาไหลนองหน้า และเขาก็เล่าให้เธอฟังถึงการหย่าร้างของเขา วันนั้นเขาร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง และเขาก็โถมกอดเธอแน่นจนหายใจไม่ออก และวันนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าเธอได้ตกหลุมรักเขาอีกครั้งแล้ว ในนาทีนั้น เธอพยายามดึงความกล้าทั้งหมดออกมาจากตัวเธอ เพื่อที่จะบอกกับเขาว่า เธอรักเขา แต่เธอก็ไม่กล้าพอ จึงชวนเขาเข้าบ้านของเธอและพูดคุยกันต่อ หลังจากนั้น หนึ่งสัปดาห์ เขาก็จะกลับไปนิวยอร์ก เธอไปส่งเขาที่สนามบิน และเขาก็สัญญาว่าเขาจะบินกลับมาหาเธอถ้าเขาว่าง และพวกเขาก็ติดต่อกันตลอดมา จนมาถึงวันที่เขาบอกว่าจะกลับมาเยี่ยมเธอ เธอไปรอเขาที่สนามบินแต่เขาก็ไม่มา เธอจึงกลับบ้านและได้แต่คิดถึงเหตุผลที่ว่า ทำไม? เขาถึงไม่มา หรือเขาอาจจะงานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาหาเธอ จนวันต่อมาเธอได้รับโทรศัพท์จากทนายความของแมทธิวว่าเขาได้ประสบอุบัติเหตุตกเครื่องบินตอนที่บินมาแคลิฟาเนีย และได้เสียชีวิต และบอกให้เธอมารับฟังพินัยกรรมของเขาด้วย หลังจากได้ยินข่าวแล้วเธอกลับมาที่ทุ่งกว้าง คิดถึงเรื่องเก่าๆของเธอและเขา พลางร้องไห้จนหมดแรงล้มลงไปบนทุ่งกว้างนั้น ซึ่งคืนนั้นเธอร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด และสองวันต่อมาเธอมางานศพของเขาที่นิวยอร์ก และฟังพินัยกรรมของเขาด้วย แน่นอนว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเขายกให้ภรรยาเก่าทั้งหมด และเขาได้ยกสมุดบันทึกเล่มหนึ่งให้แก่อลิซาเบ็ตด้วย ไม่มีใครรู้ข้อความในสมุดบันทึกเล่มนั้น และไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงยกสมุดเล่มนี้ให้กับเธอ ระหว่างนั้นภรรยาเก่าของแมทธิวได้เล่าเรื่องในชีวิตแต่งงานให้ฟังว่าเธอไม่สามารถทำให้แมทธิวมีความสุขได้เลยในชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ พวกเขาจึงหย่าร้างกัน ตอนอยู่บนเครื่องบินในระหว่างเดินทางกลับแคลิฟาเนียนั้นเธอได้อ่านบันทึกเล่มนั้น สมุดบันทึกนั้นเริ่มบันทึกขึ้นจากวันแรกที่เขาและเธอได้พบกัน เมื่อเธออ่านไปชั่วขณะหนึ่งเธอก็เริ่มร้องไห้เมื่อพบข้อความว่า เขาได้ตกหลุมรักเธอในวันที่เธอถูกหักอก แต่เขาก็ขลาดเกินไป ที่จะบอกเธอว่าเขารู้สึกอย่างไร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนั้น เขาจึงนิ่งเงียบและคอยแต่จะเป็นผู้ฟัง จากบันทึกทำให้เธอรู้ว่า เขาพยายามจะบอกเธอหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่มีความกล้าหาญพอ และเวลาที่เขารู้สึกดีใจที่สุด ก็คือโอกาสที่เขาได้พบเธอและเต้นรำด้วยกันในวันแต่งงานของเขา ซึ่งเขาพยายามจินตนาการว่า นั่นเป็นงานวิวาห์ของเขาและเธอ นี่ละสาเหตุที่ทำให้เขาไม่มีความสุข จนกระทั่งเขาได้หย่าขาดจากภรรยา ส่วนเวลาที่มีความสุข กลับเป็นวินาทีที่เขากำลังอ่านจดหมายของเธอ และในที่สุดสมุดบันทึกก็จบลงด้วยข้อความว่า \"แล้วก็มาถึงวันนี้...วันนี้แล้วที่ผมจะได้บอกรักเธอ ... ” แต่มันกลับเป็นวันที่เขาต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ.... วันที่อลิซาเบ็ตเพิ่งมาค้นพบว่าเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับเธอตลอดมา...!

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×