ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nine Tailed Okitsune Tale ฉบับแปลไทย

    ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 135
      0
      1 ก.พ. 67

     

    กาลครึ่งหนึ่งนานมาแล้ว…

    ณ ศาลเจ้าหลัก Izanari ใน จังหวัด Yamato มีวัฒนธรรมอันหลากหลายและร่วมถึงเป็นที่สถิตเทพ Izanari และตอนนี้จิ้งจอกเก้าหางตนหนึ่งถูกกักบริเวณอยู่ที่นี้ 

          'โคตรเบื่อจริง ๆ ไอ้องคเหมียวจิเวรนั้นผนึกเราไว้สถานที่นี้มาหลายปีแล้ว' Kohaku นึกในใจอย่างเบื่อหน่ายในชีวิตประจำวันของตัวเอง

          ‘แล้วสิ่งที่เราทำอยู่เมื่อกี้แค่ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น DANGO ทำรูบนม่านโรงแรมน้ำพุร้อนและเปิดหลังคาโรงแรมนิด ๆ หน่อย ๆ ก็โดนไอ้องคเหมียวจิแมวดำบ้านี้พาตัวมากักบริเวณที่ศาลเจ้าเหงซวยนี้อีกแล้ว ทำยังกะเราเป็นหมาเฝ้าบ้านไปได้’ Kohaku นึกในใจต่อว่าองค์เหมียวจิแมวดำกลาย ๆ ด้วยอารมณ์เสีย

    ‘เบื่ออะ….แต่เราไปป่วนเทพ Izanari แก้เซ็งดีกว่า คิก ๆ เพราะไหน ๆ เราก็ออกไปข้างนอกไม่ได้แล้วนี่นา’ Kohaku คิดในใจเล่นพิเรนทร์

    เมื่อ Kohaku เดินเข้าไปศาลเจ้าก็เห็น Izanari คุยกับคนรับใช้ของเขา 2 คน ที่เป็นสุนัขจิ้งจอกแต่แค่มีหางเดียว

     'ชิ คุยอะไรกันเนี่ยสงสัยคุยเป็นเรื่องงานอยู่สิท่า เรารออีกหน่อยดีกว่าค่อยป่วน’ ขณะ Kohaku คิดในใจเขาก็เหลือบไปเห็นกระบอกไม้ไผ่ 3 กระบองวางไว้อยู่บนพื้นเป็นระเบียบเรียบร้อย

    ‘เอ๊ะนี้มันกระบองไม้ไผ่อะไรน่ะ ผูกไว้อย่างดีเลยแหะ เปิดออกมาดูสะหน่อยดีกว่า’ Kohaku เอากระบองไม้ไผ่สามกระบองเปิดฝาพร้อมกันเลยจนภูติ 3 ตัวออก 

     

          Kohaku จ้องมองภูติแบบไม่กะพริบตาเลยแล้วเอียงหัวอย่างสงสัย “พวกนายเป็นใครกันน่ะ” 

          “พวกเราไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อให้นายหรอก อิอิ” ภูติจิ้งจอกตัวสีดำพูดจากวน

          “พวกเราโดนปลดผนึกแล้วเหรอเนี่ย ” ภูมิจิ้งจอกสีน้ำเงินพูดด้วยแปลกใจ

          “อะไรนั้น จิ้งจอกเก้าหางตัวเมียเหรอ” ภูมิแรคคูนพูดจาออกแนวจีบ 

           ‘เฮ้ยตูตัวผู้น่ะ นี้ตัวเราทำให้คนอื่นดูเพศยากเหรอเนี่ย’ Kohaku คิดในใจก็มีเสียงหนึ่งขัดจังหว่ะการคิดของเรา

    “ขอบใจที่ปล่อยพวกเราน่ะ ไปล่ะ คิก ๆ”ภูติจิ้งจอกตัวสีดำกล่าวเสร็จภูติ 3 ตัวก็รีบชิ่งหนีหายตัวไปเลย 

    “เอ้ย! เดียวก่อนพวกนายจะไปไหนกัน เอ๊ะรู้สึกร้อน ๆ ข้างหลังแหะ” Kohaku เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบเลย

    “เอ้ยย ข้าเดินมาดูว่าเกิดเรื่องบ้าไรขึ้นเนี่ยนึกแล้วเชียวเป็นฝีมือของเจ้า เฮ้อ…เจ้านี้น่ะไม่เคยหยุดสร้างปัญหาให้กับข้าเลยจริง ๆ ” เทพ Izanari พูดด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเลย

        “มีอะไรล่ะ? มันไม่ใช่สถานที่วางของเล่นแปลก ๆ ในที่แบบนี้เลยน่ะคุณเทพ” Kohaku พูดแบบไม่สนใจสิ่งที่เขากระทำลงไปเลย

        “นี้เจ้าเรียกมันว่าของเล่นเหรอ? เจ้ารู้ไหมสิ่งที่เจ้าเรียกมันอย่างงี้จะถูกใช้ในขณะที่ข้านั่งสมาธิรวบรวมเวทย์ก่อนที่งาน GOJINKA Fire Festival (งานสวดมนต์ท่ามกลางกองฟืนขนาดใหญ่) จะเริ่มขึ้น พวกมันเป็นภูติชั่วร้าย…” เทพ Izanari ถึงกับกรอกตาขณะอธิบายให้จิ้งจอกเก้าหางวัยซนให้ฟัง 

        “งั้นเหรอ พวกมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? ช่วยไม่ได้นี่นามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ได้คาดคิดนี่นา” Kohaku กล่าวโดยทำหูทวนลมใส่แบบกวน ๆ

         “…..จะเผาทึ้งให้ไม่เหลือเลย” เทพ Izanari พูดด้วยความโมโหที่ Kohaku ที่ทำตัวกวนกับเขาไม่เลิกและยังทำท่าหูทวนลมใส่อีก  

        “เอ๊ะ? เผาไรเหรอ?” Kohaku ยังงงงวยเลยเพราะนึกว่าเทพ Izanari จะใช้ไฟเผาตัวเองสะแล้วแต่ไม่มีไรเกิดขึ้นกับตัวเองเลย 

        “บ้านของเจ้าจะไหม้แล้วมันจะไม่เหลือซากหรือเถ้าถ่านอะไรทั้งนั้น! เว้นแต่เจ้าจะสร้างมันใหม่อย่างเดียว มันจะหายไปตลอดกาลนั้นและ” เทพ Izanari พูดอย่างไม่แยแสปฏิกิริยาช็อกของ Kohaku 

       

           “อะไรเนี่ย? บ้านของฉันถึงแม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นบ้านของฉันก็ตามน่ะแต่นี้มันจะเป็นการลงโทษแรงและโหดร้านเกินไปแล้วน่ะ Izanari แก! Kohaku ถึงกับร้องเลยเมื่อเขารู้ว่าบ้านตัวเองที่อาศัยอยู่โดนเผาราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว

            “สมควรแล้วแก่การลงโทษครั้งนี้น่ะ! แล้วอย่าคิดว่าจะนั่ง ๆ นอน ๆ ที่นี้โดยไม่ทำไรเลยน่ะเจ้าต้องมีเรื่องจัดการมากมายเกี่ยวกับปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นวันนี้!”  เทพ Izanari หันไปมองดูพื้นที่ปูพรมด้วยผ้าห่อของที่เคยมีกระบอกไม้ไผ่ 3 กระบอกอยู่

            “อย่าบอกให้ฉันต้องทำนู้นทำนี้น่ะยังไงฉันก็ไม่ทำเด็ดขาด” Kohaku โมโหเลยที่ Izanari เริ่มมาออกคำสั่งแบบเผด็จการคิดว่าตัวเองเป็นเทพจะทำไรก็ได้เหรอ

     เปรี้ยง!

       “อ้ากกกกก อะไรเนี่ย?” Kohaku ถึงกับเซ็งมากที่จู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าใส่ตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัวเลย 

       “ที่นี้จะฟังข้าพูดได้ยังล่ะ ยังไงข้าจะพูดกับเจ้าฟังถึงแม้เจ้าไม่อยากฟังก็ตาม ไปจัดการเก็บภูติชั่วร้าย 3 ตัว ที่เจ้าดันไปปล่อยออกมาซะแล้วนำมากลับที่นี้ไม่งั้นภัยพิบัตหรือความผิดปกติเหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับเมืองนี้แน่”  

       “เฮ้ย! ฉันไม่มีความสามารถผนึกแบบองคเหมียวจิน่ะเฟ้ย จะไปทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?” Kahaku ที่ยังโมโหผสมช็อกรีบพูดเลย

       “พวกมันมีกระบองไม้ไผ่ติดอยู่ตรงคอน่ะ ถ้าเจ้าดึงออกมาได้พวกมันก็อ่อนแอและกลับสู่สภาพที่ถูกผนึกอีกครั้ง” Izanari อธิบายวิธีการจับภูติชั่วร้ายให้ Kohaku ฟัง 

       “ในเมื่อแกรู้วิธีแล้วทำไมไม่ตามไปเก็บเองเนี่ย จะให้ฉันตามไปเก็บทำไมฉันยุ่ง!อยู่น่ะเฟ้ย” 

       “เฮ้อ…..เจ้าพูดถูกแต่ยังไงข้าก็ต้องอยู่ที่นี้เพื่อเตรียมงานเทศกาล GOJINKA Fire Festival (งานสวดมนต์ท่ามกลางกองฟืนขนาดใหญ่) และนั่งสมาธิเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ถ้านี้มันไม่มีเหตุเร่งด่วนล่ะก่อนข้าคงตามไปผนึกพวกมันภายในไม่กี่นาทีแล้วไม่ต้องมาพึ่งเจ้าแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้หรอก” เทพ Izanari พูดอย่างเหนื่อยใจเลย 

      “Huh…ก็ได้ ๆ ฉันจะไปตามจับพวกมันให้เร็วเหมือนกัน” Kohaku ถึงกับยอมเลยเพราะเขาไม่อยากมาเสียเวลากับ เทพ Izanari แล้ว

      “เจ้าก่อปัญหาให้กับข้าในช่วงเวลาแบบนี้เนี่ยแล้วก็อย่าดีแต่พูดล่ะกันรีบไปตามจับกลับมา”

      “หุบปปากน่า ฉันจะไปเดียวนี้และ” Kohaku พูดเสร็จเดินออกจากศาลากลางเลย 

      ‘แม่ทำไมฉันต้องมามีชีวิตแบบนี้เนี่ย อยากเป็นอสิระจัง’ ขณะ Kohaku ก็ได้ยินเสียงใครตะโกนหน้าศาลา Izanari เลย

      “เอ้ย! Kohaku บ้านของฉันและของสะสมถ้วยบะหมี่ลายต่าง ๆ ของฉันมันหายไปกับกองเพลิงหมดแล้วกองเพลิงพวกนี้มันมาจากไหนกัน” Kinari โวยวายเลยเพราะคิดว่า Kohaku อาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้บ้านเขากลายเป็นแบบนี้   

    “ผลงานท่าน เทพ Izanari เล่นจัดใหญ่เผาบ้านเพื่อขู่ฉันน่ะสิ” Kohaku กรอกตาก่อนพูดสาเหตุตรงให้ Kinari ฟังเลย  

    “อะไรน่ะ!! นี้มันไม่ใช่บ้านนายมันบ้านฉันน่ะ นายเล่นบุกบ้านฉันแล้วอาศัยในบ้านเฉย ๆ นี่น่ะ” Kinari กุมขมับเมื่อรู้สาเหตุกองเพลิงปริศนาที่เผาบ้านเขาไม่เหลืออย่างรวดเร็วเลย 

    “เงียบน่าฉันก็ไม่ได้ชอบอาศัยอยู่ในที่แบบนี้แล้วน่ะ เฮ้อ……ก็ได้ฉันจะเล่าให้ฟังแล้วกันน่ะสาเหตุนั้นน่ะฉันไปเปิดผนึกภูติชั่วร้าย 3 ตัวแล้วพวกมันก็หนีหายไปเลย ฉันเลยโดนให้ไปตามเก็บพวกมันกลับมาน่ะสิ” Kohaku ยอมเปิดปากเล่าความจริงสาเหตุที่เกิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ที่บ้านของ Kinari

          “หนอย! รู้อยู่แล้วต้องเป็นฝีมือของนายที่ทำให้เทพ Izanari พิโรธแล้วเสกไฟใส่บ้านของฉันเนี่ย นายมันมักจะเล่นแกล้งพิเรน ๆ แบบนี้เป็นประจำไม่มีประโยชน์ฉันต้องพูดถึงเรื่องแบบนี้เลยเพราะบ้านของฉันโดนเผาไปแล้วแล้วที่นี้นายต้องเดินทางไกลกว่าจากปกติที่นายเคยโดนผนึกอยู่แค่นี้สิน่ะเพื่อไปตามเก็บพวกมันกลับมาสิน่ะ” Kinari เปลี่ยนประเด็นพูดอย่างรวดเร็วในใจเขาก็นึกเสียดายบ้านที่เขาสร้างมาแต่ยังไงก็ต้องช่วย Kohaku เพื่อที่เวลาเขามีบ้านใหม่จะได้ไม่โดนเผาซ้ำรอบที่ 2 

         “ใช่น่ะ เรื่องนี้มันง่ายมากสำหรับฉันน่ะเดียวฉันตามเก็บพวกมันกลับมาให้ดูเลย” Kohaku กล่าวอย่างมีความมั่นใจ        “เฮ้อ ฉันรู้สึกกังวลจริง ๆ ขอให้เป็นไปตามที่นายพูดแล้วกันน่ะ” Kinari เดินไปซุ้มหน้าศาลเพื่อไปสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อน

          ขณะ Kohaku กำลังเดินออกจากศาลเจ้าหลัก Izanari ก็ต้องหยุดเพราะมีคนมาสะกิดที่ไหล่เขา

          “โอ้ Kohaku จะไปไหนเหรอ?” Chiharu ถาม Kohaku ด้วยความสนใจอยากไปด้วย 

          “ย่าน SANDO น่ะสิ เฮ้อ…..ท่านเทพ Izanari สั่งให้ฉันไปทำไรบางอย่างน่ะ” 

           “ว้าว ฉันชอบที่นั้นมากเลยน่ะอยากไปด้วยจังแต่ติดที่ศาลเจ้าหลัก Izanari งานเยอะง่ะ - -* จะออกไปไหนไกลก็ไม่ได้น่าอิจฉาจังเลยที่ Kohaku ได้ออกไปข้างนอกแบบนี้น่ะ" Chiharu พูด

           “มันไม่ได้มีเรื่องสนุกอะไรเลยข้างนอกน่ะ” 

           “ยังไงฉันก็อิจฉานายอยู่ดี”

           ‘เธอไม่เชื่อหรือฟังฉันเลยแหะ’ Kohaku นึกในใจ

           “Haruchi รู้วิธีหาเพื่อนได้น่ะ ถ้ามีอะไรถามฉันได้เลยน่ะ Kahaku ” Chiharu เธออยากช่วยเหลือ Kohaku จากใจจริง

            “โห งั้นดีเลย แสดงว่าเธอรู้วิธีสร้างมิตรภาพและรู้จักเพื่อนบ้านหลายคนเลยสิน่ะ” Kohaku หวังว่าเขาจะมีเพื่อนที่ดีแบบ Chiharu อีกคนตอนนี้เท่าที่เขาเจอคนเป็นมิตรกับเขาสุดก็ Chiharu นี้และ

    “ใช่น่ะ อ้อแล้วอีกอย่างระหว่างเดินทางอย่าลืมจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ หรือเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ใน Daily ด้วยน่ะจ๊ะ รับไปเลยสิหนังสือของฉันเองน่ะ” Chiharu ยืนหนังสือให้แอบหวังว่าเธอจะได้อ่านบันทึกผจญภัยของ Kohaku

    “หนังสือที่เธอยืนให้ฟังดูเหมือนเพิ่มภาระให้ฉันน่ะ เฮ้อ….ก็ได้ฉันจะเขียนมันไประหว่างเดินทางนั้นและกัน” Kohaku รับหนังสืออย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก 

    “และที่สำคัญต้องจดบันทึกการเดินทางทุกครั้งจนเป็นนิสัยน่ะจ๊ะโดยเฉพาะเมื่อนายเดินทางไกลมาก ๆ แล้วก็อาจารย์ชาบาร์ชิละ อยากให้นายแวะโรงเรียนเขาด้วยน่ะ”

    “อาจารย์ชาบาร์ชิละ….? ฉันต้องไปเจอเขาตอนนี้ก่อนสิน่ะ?” Kohaku ถาม Chiharu

    “ใช่จ้า อย่างที่ Haruchi บอกไปเมื่อกี้นั้นและ Haruchi ต้องไปทำงานก่อนล่ะ” Chiharu เธอโบกมือลาก่อนที่จะเข้าศาลเจ้าหลัก Izanari ไปทำความสะอาดข้างใน

    “โอ้? หลังจากนี้นายจะไปหาอาจารย์สิน่ะนายรู้ทางไปแล้วสิน่ะหลังจากออกทางซุ้มประตูก็เลี้ยวไปขวามือก็เจอเขาแล้วน่ะ” Kinari พูดขณะที่ Kohaku กำลังเตรียมจะออกไปข้างนอก

    “เอ่อ…นี้ฉันต้องไปที่แรกสิน่ะ” ที่จริง Kohaku อยากจะไปย่าน SANDO ก่อนเพื่อตามหาเบาะแสเหล่าภูติชั่วร้าย ‘แต่ไหน ๆ โรงเรียนอยู่ใกล้ศาลหลักเจ้าแล้วแวะดูคงไม่เสียหายหรอก’ Kohaku คิดในใจ 

    “นายเป็นตัวต้นเหตุนั้นและที่ทำอาจารย์ต้องมามีภาระดูแลเราทั้ง 2 ในฐานะคนไร้บ้านอย่าลืมบุญคุณของอาจารย์ด้วยล่ะกันไปได้แล้วอาจารย์แกรอนานแล้วน่ะ” Kinari พูดต่อว่าเลย

    หลังที่ Koharu เดินออกจากศาลเจ้าหลัก Izanari แล้วเขาเดินไปตามทางทันที่เขาใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงโรงเรียนแล้วซึ่งโรงเรียนเป็นบ้านกระท่อมไม้ญี่ปุ่นขนาดกลางไม่เชิงใหญ่มากนักมี ชิชิ โอโดชิ ซึ่งเป็นของตกแต่งในสวนที่มีกระบองไม้ไพ่ค่อยส่งเสียงดังก็อกทุกครั้งที่น้ำถูกเทออก

    Kohaku เขาเข้ามาในห้องเรียนก็สำรวจนิด ๆ หน่อยว่าที่นี้มีอะไรเปลี่ยนไปไหมห้องข้าง ๆ ห้องเรียนที่ไม่มีประตูกั้น'เอ๊ะปกติห้องข้าง ๆ ห้องเรียนจะมีของวางเต็มเลยนิวันนี้ทำไมโล่งจังน่ะและมีหม้อชงน้ำชาด้วย' เขาเดินเข้าไปหาอาจารย์ที่โต๊ะเลย 

          “หวัดดีน่ะ Kohaku โทษที่น่ะที่อาจารย์เรียกเธอกะทันหันไปหน่อยน่ะ” อาจารย์ Chabashira ทักทายอย่างเป็นกันเองที่จริงเขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาคร่าว ๆ แล้วล่ะ

        “อาจารย์มีไรเหรอครับ เกือบลืมเลยอาจารย์ครับ ผมต้องบอกอาจารย์ก่อนเลยล่ะกันครับ Izanari เผาบ้านผมราบเป็นหน้ากองเลย อาจารย์!” Kohaku สะดุ้งเพิ่งเหมือนนึกคำพูดออกและมีอารมณ์โกธรกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย 

        “เฮ้อ….ท่านเทพ Izanari จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบโดยการเผายกบ้านของเธอทึ้งเหรอเนี่ย บ้าบิ่นจริง ๆ” อาจารย์ Chabashira ถอนหายใจถึงแม้ลูกศิษย์เก้าหางของตัวเองจะซุกซนไปหน่อยแต่เขาเชื่อว่า Koharu ถ้าได้รับการฝึกอมรบจากเขาหลายปีคงกลับมาตัวกลับใจได้ 

       “ใช่น่ะอาจารย์ แล้วเรื่องบ้า ๆ นี้เกิดจากเทพกะโหลกกะหลาคนเดียวเอง อาจารย์ช่วยคุยกับเขาได้ไหมน่ะ” Kohaku หวังพึ่งอาจารย์เกลี้ยกล่อมให้เทพ Izanari ยอมคืนบ้านที่โดนเผา

     “Kohaku พูดแบบนี้ไม่ดีเลยน่ะ ท่าน Izanari เป็นเทพใจดีมากและมีเมตตาเลยน่ะ” อาจารย์ Chabashira รีบพูดเตือนเลย 

     “อะไรน่ะ เทพงี่เง่าแค่ปฏิบัติตัวต่ออาจารย์ในแบบที่อาจารย์เห็นน่ะ แต่มาลองเขาปฏิบัติตัวกับผมสิยังกะเทพปีศาจเลือดเย็นและเทพงี่เง่าที่น่ารำคาญชะมัด” Kohaku พูดระบายอารมณ์ใส่อาจารย์ของตัวเองเลยโดยหารู้ไม่ว่ามีกระแสไฟฟ้าอยู่บนหัวของตน

    เปรี้ยง!

           “อะไรอีกเนี่ย” Kohaku ถึงกับเซ็งเมื่อโดนฟ้าผ่าลงหัวรอบที่ 2 แล้ว 

            “ดูเหมือนเธอจะโดนเวทมนตร์อาคมฝังอยู่ในตัวเธอ ถ้าเธอคิดจะแกล้งใครหรือด่าลับหลังท่าน Izanari เธอก็โดนท่าน Izanari ดุวิธีแบบนี้และ” อาจารย์ Chabashira พูดพร้อมกับส่ายหัวเลย

             “เอ้ย!!! ไม่เห็นจะเข้าใจเลยจะโดนดุด้วยวิธีนี้แค่พูดไม่ดีหรือด่าลับหลังก็โดนฟ้าผ่าลงหัวแล้วเหรอเนี่ยนี้มันเป็นการดุที่เลวร้ายมากเลย Wahh พอแล้วครับอย่าผ่าลงหัวเลยครับ T T” Kohaku อ้อนวอนเลยเขาไม่อยากโดนฟ้าผ่าลงหัวเป็นครั้งที่ 3 แล้วน่ะ

      “แหะ ๆ ดูเหมือนท่านเทพ Izanari จะชอบเธอและดูแลเธอเป็นพิเศษเลยน่ะ”  อาจารย์ Chabashira ขำเบา ๆ เลย

      “เอ๊ะ!! อาจารย์บ้าไปแล้วเหรอ มันไม่ได้เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าเลยน่ะ Izana…”  Kohaku รีบเอามือปิดปากตัวเองหากเขาพูดมากไปกว่านี้โดนฟ้าผ่าลงหัวเป็นครั้งที่ 3 ก็ได้ 

      เมื่อตั้งสติได้ Kohaku รีบเปลี่ยนประเด็นอย่างเร็วเลย

     “อย่างไรก็ตามอาจารย์ที่ผมพูดเรื่องไปเมื่อกี้เป็นเหตุผลที่ผมต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผมต้องตามไปเก็บภูติชั่วร้าย 3 ตัวที่ผมเผลอไปปล่อยหลุดออกในศาลเจ้าหลักมาน่ะครับ” Kohaku รีบอธิบายเหตุผลที่ตัวเองโดน Izanari ให้งานมาทำ

    “อืม….ข่าวลือเหล่านี้เกี่ยวกับตัวตนพวกภูติวิญญาณน่าสนใจน่ะ อ้อจากนี้เธอจะออกไปตามหาแล้วสิน่ะ” อาจารย์ Chabashira เปิดอ่านหนังสือเกี่ยวกับภูติชั่วร้ายไปด้วย

    "ใช่น่ะอาจารย์ หลังจากเหตุการณ์เมื่อครึ่งชั่วโมงผมก็ไม่มีบ้านอยู่และกลายเป็นคนรับใช้ เทพ Izanari ไปแล้วด้วย

    “แหงล่ะสินั้นคงเป็นผลของการกระทำของเธอน่ะทำให้เกิดเป็นข้อตกลงระหว่างเธอกับ ท่านเทพ Izanari น่ะ แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าเธอใช้โรงเรียนของครูเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อนก็ได้น่ะ” อาจารย์ Chabashira รู้สึกสงสาร Kohaku และ Kinari หากปล่อยไว้แบบนี้เขาคงไม่ใช่อาจารย์ที่ดีแน่ ๆ และสงสารด้วย

    “อาจารย์ใจดีจังเลยน่ะ อาจารย์ให้อาศัยจริงเหรอเนี่ย” Kohaku ดีใจเลยที่ตัวเองและ Kinari จะไม่ต้องไปนอนข้างถนนแล้ว 

    “ได้แน่นอนน่ะ ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามอาจารย์ได้เลยน่ะ อาจารย์เองก็สนใจเรื่องภูติชั่วร้ายน่ะ ระหว่างนั้นอาจารย์ลองศึกษาด้วยตัวเองก่อนและช่วยเธอหาภูติชั่วร้ายด้วยน่ะ” อาจารย์ Chabashira เขาเองก็เปิดหนังสือดูวิชาภูติศาสตร์เลย

    “ไว้เจอกันใหม่นะครับอาจารย์” Kohaku ดีใจเลยอย่างน้อยก็เจออาจารย์ที่ใจดีและพึ่งพาได้เสมอสมแล้วเป็นอาจารย์น่ะ 

    Kohaku เดินออกจากโรงเรียนก่อนเจอใครสักคนล้มฟุบเหมือนเป็นลมและมีเงามืดเงาหนึ่งวิ่งเข้าพุ่งไม้เลย

    ……………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………

    ปล.นิยายเรื่องนี้มาจากเกม Nine Tailed Okitsune Tale ตอนนี้ยังไม่มี steamer คนไหนแคสเกมนี้ก็เลยจับแปลภาษาสะเลยกว่าจะแปลได้ตอนหนึ่งใช้เวลานานอยู่พอสมควรเพราะต้องรวบรวมแกรมม่าจากอังกฤษให้อยู่ในรูปแบบประโยคภาษาไทยที่ถูกต้อง Comment ให้กำลังใจกันได้น่ะครับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×