Tear of Ice - Tear of Ice นิยาย Tear of Ice : Dek-D.com - Writer

    Tear of Ice

    น้องสาว !!!! ที่ผ่านมาเธอเป็นแค่เพียงน้องสาวของเค้าเท่านั้นเองเหรอ !!!!! บทสรุปของความรัก ที่ลงเอยด้วยน้ำตาของหญิงสาวคนหนึ่ง อย่าลืมเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตานะคะ T_T

    ผู้เข้าชมรวม

    2,376

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.37K

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 พ.ค. 52 / 14:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    -sa tan-

    -sa tan-

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ทะเลสีครามเมื่อกลางวันถูกความมืดมิดของยามราตรีบดบังมองไม่เห็นแม้แต่หาดทรายขาวละเอียด   ไอซ์ สาวน้อยร่างเล็กนั่งอยู่บนระเบียงบ้านไม้ ติดชายหาดแห่งหนึ่ง
      ความเงียบสงบของท้องทะเลยามค่ำคืนที่มีเพียงเสียงลมพัดผ่านบางเบาและเสียงคลื่นม้วนเป็นเกลียวซัดสาดเข้าใส่ฝั่งเป็นระลอก ช่วยทำให้ความว้าวุ่นใจของเธอลดลงไปได้บ้างแต่ก็ยังไม่หมดไปซะทีเดียว  
      แววตาใสซื่อที่แฝงด้วยความรู้สึกเหงาปนเศร้า ทอดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงดาวน้อยใหญ่แข่งกันอวดแสงระยิบระยับ ในคืนที่ไร้แสงสว่างจากดวงจันทร์   น้ำใสๆที่เอ่อล้นอยู่ในดวงตากลมโตคู่นั้น ค่อยๆรินไหลอาบแก้มขาวนวล ความรู้สึกบางอย่างเข้ามาครอบคลุมจิตใจเธออีกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

      ……………………………………………………………………………………

      ไอซ์นั่งเคียงคู่กับพิพัฒน์ อยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ ริมระเบียงบ้านไม้ ดื่มด่ำกับความงดงามของอาทิตย์ในยามที่ใกล้จะลาลับจากขอบฟ้า
      แสงสีส้มแดงสะท้อนกับผิวน้ำทะเล เป็นความงามที่ไม่สามารถเห็นได้ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ที่มีแต่ความรีบเร่งและวุ่นวายของผู้คน

      “ พี่พัฒน์คะ ไอซ์ชอบจังเลยเวลาที่ได้มาอยู่ที่นี่  เสียงลมเสียงคลื่นมันทำให้ลืมความวุ่นวายไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ ”  

      เสียงหวานๆของไอซ์ ทำลายความเงียบสงบของบรรยากาศโดยรอบ พาให้พิพัฒน์ละสายตาจากท้องทะเลกว้างในยามบ่ายมาเป็นดวงหน้าขาวใสข้างๆ
      ชายหนุ่มรู้ดีว่าไอซ์ชอบมาที่นี่ เมื่อต้องการหลบหลีกปัญหาอะไรบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  เขาและเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อของทั้งสองเป็นเพื่อนกัน และเขาต้องรับหน้าที่เป็นทั้งเพื่อนเล่นและผู้ดูแลเมื่อเธอถูกปล่อยให้อยู่บ้านเพียงลำพังในเวลาที่พ่อแม่ของเธอต้องไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ

      “ ไอซ์มีเรื่องไม่สบายใจอีกแล้วใช่มั้ย เล่าให้พี่ฟังได้มั้ยครับคนดี คราวนี้มีเรื่องอะไร ถึงกับหนีออกมาจากบ้านไม่บอกใคร รู้มั้ยว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหนพอพี่รู้เรื่องก็รีบลางานแล้วตามมาที่นี่เลย คุณพ่อคุณแม่ท่านก็เป็นห่วงมากนะ ”  

      น้ำเสียงทุ้มของพิพัฒน์บ่งบอกความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอย่างจริงใจ แต่เมื่อพูดถึงพ่อกับแม่ใบหน้ายิ้มแย้มนั้นเปลี่ยนเป็นซึมลงทันที น้ำใสๆเริ่มเอ่อคลอดวงตา พิพัฒน์ตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นไอซ์เป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยเห็นน้ำตาของเธอสักครั้ง

      “ คุณพ่อคุณแม่ของไอซ์กำลังจะหย่ากัน คุณพ่อคุณแม่ไม่รักไอซ์แล้ว พี่พัฒน์คะ ไอซ์ไม่เหลือใครอีกแล้ว ”  
      น้ำตาหยดหยาดลงมาเป็นสาย เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้างาม  ไอซ์เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว แค่พ่อแม่ต้องทำงานตลอดเวลาก็ทำให้ไอซ์รู้สึกเหงาและน้อยใจมากพออยู่แล้ว เมื่อมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีกทำให้ไอซ์รับไม่ได้

      พิพัฒน์จับไหล่ทั้ง 2 ข้างของไอซ์ให้หันหน้ามาหาเขา ยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มขาวนั้น อย่างอ่อนโยน ไอซ์โผเข้ากอดพิพัฒน์ไว้แน่น  

      “ ใจเย็นๆนะไอซ์ ”  พิพัฒน์พยายามปลอบไอซ์ที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนด้วยการกอดเธอไว้ในอ้อมแขน แข็งแกร่งของเขา

      “ ฟังพี่นะ . . . ไม่ต้องคิดมากมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เค้า เมื่อความรู้สึกมันเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว บางสิ่งบางอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ที่คุณพ่อคุณแม่เค้าหย่ากัน ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักไอซ์นะ เค้าก็ยังรักไอซ์เหมือนเดิม ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ไอซ์ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ อย่าได้คิดว่าไม่มีใครรัก จำไว้นะว่าอย่างน้อยไอซ์ก็ยังมีพี่  พี่พัฒน์คนนี้จะรักและจะอยู่กับไอซ์ตลอดไป นะ พี่สัญญา ”  พิพัฒน์

      ……………………………………………………………………………

          ตั้งแต่พิพัฒน์เข้ารับช่วงกิจการแทนพ่อที่ล้มป่วยลง ก็แทบไม่มีเวลาให้กับเธอเลย แม้เธอจะเข้าใจว่างานของพิพัฒน์ยุ่งมากแค่ไหนแต่เธอก็แอบน้อยใจอยู่ลึกๆ ทุกครั้งที่ไอซ์ชวนพิพัฒน์มาทานข้าวที่บ้านก็มักจะบอกกับเธอว่าติดนัดลูกค้าตลอด
      จนกระทั่งเย็นวานที่เธอรู้สึกเหงาจึงไปหาอะไรดื่มที่ผับแห่งหนึ่งเพียงลำพัง
      ผับแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งหญิงชาย ทั้งมาเป็นกลุ่ม และมาเป็นคู่  ช่วยทำให้เธอคลายความเหงาลงไปได้บ้าง

      “ ขอน้ำส้มที่หนึ่งค่ะ ”  เธอหันไปสั่งบริกร แล้วมองไปรอบๆตัวพลันสายตาก็ไปสะดุดกับร่างสูงโปร่งที่คุ้นตา แม้ว่าไฟในผับจะค่อนข้างสลัวแต่เธอกลับมองเห็นหน้าเค้าได้อย่างชัดเจน

      “. . . . พี่พัฒน์ . . . . ”   เธอเอ่ยชื่อเขาออกมาเบาๆพลางยิ้มอย่างดีใจ กำลังจะลุกขึ้นไปหาแต่แล้วก็ชะงักไปเมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ  
      “ . . . . . วันนี้พี่ต้องออกไปพบลูกค้าน่ะ คงไม่ได้เข้าไปที่บ้าน แล้ววันหลังพี่จะแวะเข้าไปหานะ . . . . . ”

      เสียงพิพัฒน์กรอกมาตามสายโทรศัพท์เมื่อเธอโทรไปหาเขาที่บริษัท เธอเข้าใจว่าลูกค้าที่พิพัฒน์ต้องไปพบคงเป็นชายแก่ๆรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอ แต่คนที่เธอเห็นกลับเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยและมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่

      แปล๊บ . . . บ  แปล๊บ

      อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่หัวใจ  เมื่อได้เห็นภาพพิพัฒน์กำลังโอบไหล่ของหล่อนอยู่ พลางพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม เธอรู้สึกมึนๆ ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปทักดีหรือเปล่า ในสมองของเธอมีแต่เครื่องหมาย Question mark เต็มไปหมด ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาพิพัฒน์

      “ พี่พัฒน์คะ ”   พิพัฒน์หยุดคุยแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงเล็กๆนั้น  

      “ . . . . . ไอซ์ . . . . . ”   พิพัฒน์อุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อนึกไม่ถึงว่าจะมาเจอกับไอซ์ที่นี่

      “ นี่เหรอคะลูกค้าของพี่พัฒน์ ที่พี่พัฒน์ไม่ไปหาไอซ์ก็เพราะมาอยู่กับผู้หญิงคนนี้เองเหรอคะ ”  ไอซ์ถามเสียงเรียบ พลางเม้มปากแน่นพยายามสะกดอารมณ์ไว้

      “ เค้าเป็นใครกันคะพัฒน์ ”   สาวสวยคนนั้นหันมาถามพิพัฒน์แต่ยังไม่ละสายตาจากไอซ์  พลางควงแขนของเขาแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่

      “ เอ่อ. . . เปิ้ล . . . นี่ ไอซ์ เค้าเป็น  เอ่อ . . . อ  น้องสาวพัฒน์น่ะ ”  

      พิพัฒน์พูดอึกอัก  เมื่อไอซ์ได้ยินถึงกับสะอึก รู้สึกตัวชาไปทั้งร่าง กับคำพูดนั้น  

      น้องสาว !!!!     ที่ผ่านมาเธอเป็นแค่เพียงน้องสาวของเค้าเท่านั้นเองเหรอ  !!!!!

      เธอไม่อาจยืนทนรับฟังต่อไปได้อีกแล้ว เมื่อน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มันเอ่อล้น จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ หันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปข้างนอกร้านท่ามกลางความสนใจของใครหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ พิพัฒน์อึ้งไปชั่วครู่แล้วรีบวิ่งตามไอซ์ไป

      “ เดี๋ยวก่อนสิ ไอซ์  ฟังพี่ก่อน  ”   พิพัฒน์วิ่งตามมาทันคว้าข้อมือเล็กๆของไอซ์แล้วดึงให้หันหน้ามาหาเค้า

      “ ไม่ ! ไม่ ! ไอซ์ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ”  เธอพูดแล้วสะบัดมือเขาออกแต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงได้จำต้องหันหน้ามาหาพร้อมด้วยน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสองข้าง

      “ พี่ขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมา พี่ไม่คิดว่าไอซ์จะรู้สึกกับพี่แบบนี้ ”  คำพูดของพิพัฒน์กรีดลึกลงไปบนหัวใจของไอซ์  เธอคงจะคิดไปเองสินะ ทุกสิ่งที่พิพัฒน์ทำไปเป็นเพียงแค่ในฐานะพี่เท่านั้น

      “ พี่ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ไอซ์ผิดเองที่คิดว่าพี่คิดอย่างเดียวกับไอซ์  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ ไอซ์ไม่รบกวนมากหรอก ขอแค่ยังมีพี่อยู่ข้างๆ ไอซ์ก็พอใจแล้วค่ะ ”

      ไอซ์พยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตา พิพัฒน์นิ่งไป ถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดขึ้น
      “ พี่คิดว่า . . . เอ่อ . . . พี่ว่าเราห่างกันซักพักดีมั้ย  เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น  ”  

      ไอซ์นิ่งงันไปทันที  พิพัฒน์บีบไหล่ไอซ์เบาๆ  กล่าวขอโทษอีกครั้งพร้อมกับบอกลาเธอแล้วเดินจากไป

      ไอซ์เดินกลับมาที่รถเปิดประตูแล้วขับออกไป รถสปอร์ตสีเงินแล่นทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ไอซ์ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าได้ขับออกมาไกลแค่ไหนรู้แค่ว่าอยากไปให้พ้นๆจากตรงนี้ สุดท้ายก็มาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านไม้หลังเดิมที่ที่เธอและเขาพบกันครั้งแรก

      ……………………………………………………………………………

      ฟ้าใกล้สว่างแล้วแต่ไอซ์ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ดวงดาวน้อยใหญ่ค่อยๆจางหายไปเมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมาจากขอบฟ้า  

      “ . . . . . ไอซ์ . . . . . ”    

      เสียงที่คุ้นเคยแว่วเข้ามาจากทางด้านหลัง  ไอซ์ หันขวับไปมองแต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า เธอส่ายหน้ากับความคิดของตัวเอง ไม่มีทางที่เขาจะมาหาเธอได้หรอก เธอเพียงแค่หูแว่วไปเท่านั้น เธอหันหน้ากลับมาช้าๆมองท้องฟ้าที่ถูกฉาบไว้ด้วยแสงสีทองของอาทิตย์ยามเช้า

      “ ท้องฟ้าจ๋า . . . เธอรู้มั้ย ฉันอิจฉาเธอจัง เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น เธอก็ได้พบกับดวงตะวันอีกแล้ว แต่ฉันสิ คงไม่มีวันที่เค้าคนนั้นจะกลับคืนมา ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×