หยาดฝนเม็ดเล็กๆ ที่เกาะพราวไปทั่วบานหน้าต่าง ค่อยๆไหลมารวมกันเป็นสายร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่างเป็นจังหวะเดียวกับที่น้ำตาของหญิงสาวกำลังไหลรินอาบแก้มขาวนวล เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
" เนยไม่อยากให้พี่เบสท์ไป พี่เบสท์อยู่กับน้องเนยที่นี่ไม่ได้เหรอคะ อย่าไปเลยนะคะ " เด็กหญิงตัวน้อยยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดเอวคนตรงหน้าเอาไว้ พร่ำบอกคำพูดซ้ำๆ
" อย่าร้องไห้เลยนะคนดี พี่ไปไม่นานหรอก พี่สัญญาว่าจะกลับมาให้ทันงานวันเกิดครบรอบ 15 ปีของน้องเนยแน่นอนจ้ะ " เบสท์กล่าวลาพร้อมกับจูบที่หน้าผากของเนยเบาๆ
ก๊อก ก๊อก
ก
" คุณหนูเนย แต่งตัวเสร็จรึยังคะ เพื่อนๆ มากันเต็มบ้านแล้วค่ะ "
เนยสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงขวัญ ผู้เป็นพี่เลี้ยงเคาะประตูเรียกอยู่ที่หน้าห้อง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วส่งเสียงตอบกลับไป
" กำลังจะลงไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะพี่ขวัญ . . . เนยยังรอพี่เบสท์อยู่เสมอนะคะ "
เธอหยิบกรอบรูปที่วางอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมาแนบอก รำพึงเบาๆ ก่อนจะสำรวจเครื่องแต่งกายของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินลงไปยังชั้นล่าง
ห้องโถงกลางบ้าน ที่ถูกแปรสภาพให้มีเวทีเล็กๆ มีนักดนตรีบรรเลงเพลงขับกล่อมเบาๆ บันไดทางลงจากชั้นบนถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามด้วยหลอดไฟสีเหลืองนวล สลับกับดอกกุหลาบสีขาวอมชมพูในแจกันแก้วคริสตัลใบโต วางเรียงรายอยู่ตามขั้นบันไดหินอ่อนและตามมุมต่างๆของห้องโถง ดอกตูมค่อยๆแย้มกลีบบานออก เหมือนวัยเด็กที่เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นหญิงสาว
แม้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงจะดูครึกครื้น แต่ทว่าภายในใจของเธอ มันช่างเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในงาน ทุกสายตาจับจ้องมายังสาวน้อยในชุดราตรียาวคลุมเข่า แขนกุด สีชมพูอ่อน รับกับผมยาวสลวย ดำเป็นมันเงา ดวงตากลมโตใสที่แฝงไว้ด้วยแววตาเศร้านิดๆ มองไปรอบงานอย่างใจลอย และเริ่มรู้สึกตัวเมื่อผู้เป็นมารดาก้าวมายืนข้างเธอ พลางยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงเล็กๆให้
" สุขสันต์วันเกิดจ้ะลูกเนย นี่เป็นของขวัญจากพ่อกับแม่นะลูก ลองเปิดดูสิจ๊ะว่าชอบมั้ย"
เมื่อเปิดออกก็พบว่าเป็นสร้อยเงินมีจี้เป็นรูปดาวตก ทำจากเพชรแท้น้ำงามที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างดี ส่องประกายระยิบระยับ สวยงามพาให้ใครหลายคนอุทานออกมาเป็นเสียงอื้ออึงไปทั่ว เธอรับมันมาสวมไว้แล้วกล่าวขอบคุณไปตามมารยาท หากแต่ลึกลงไปในใจเธอแล้ว ในเวลานี้ สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด ไม่ใช่เครื่องประดับราคาแพง แต่คือการได้พบกับใครบางคนอีกครั้ง
หลังจากนั้นบรรดาคนมากมายต่างพากันเข้ามารุมล้อมแสดงความยินดีกับเธอ แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มทักทายและกล่าวขอบคุณเท่านั้น พลางกวาดสายตามองไปรอบๆงาน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของคนที่เฝ้ารอ งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งได้เวลาเลิกงาน เธอยืนรอส่งแขกจนถึงคนสุดท้าย ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเขาซักที จึงขอตัวกลับขึ้นห้องแต่สวนกับขวัญพอดี เธอรีบเดินเข้าห้องเพราะกลัวพี่เลี้ยงคนสนิทจะเห็นน้ำใสๆที่เอ่อจนใกล้จะล้นออกมาจากดวงตา ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง หยดน้ำตาที่เอ่อรอบดวงตาคู่สวยก็ไหลลงมาเป็นสาย เธอทรุดตัวลงนั่งพิงกับประตูแล้วร้องไห้ออกมาเบาๆ
" ฮือ
ฮือ
อ ทำไมพี่เบสท์ไม่กลับมาหาน้องเนย พี่เบสท์ไม่รักษาสัญญา "
ก๊อก ก๊อก
ก
" คุณหนูเนยเป็นอะไรรึเปล่าคะ ไม่สบายรึเปล่า ให้พี่เข้าไปได้มั้ยคะ " ขวัญร้องถามด้วยความเป็นห่วง
" เปล่าค่ะ พี่ขวัญ เนยไม่ได้เป็นอะไร ขอเนยอยู่คนเดียวนะคะ " เธอกลั้นเสียงสะอื้นแล้วตอบกลับไป ทว่ามีเสียงที่คุ้นหูดังแทรกขึ้นมา
" ถ้างั้นให้พี่เข้าไปได้มั้ยจ๊ะน้องเนย "
เธอชะงักแล้วลุกขึ้นยืน ประตูถูกเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นร่างสูงโปร่ง ยืนอยู่หน้าประตู รอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากบนใบหน้าเรียวได้รูปแบบนี้ เธอจำได้ พลางเรียกชื่อของเขาออกมาเบาๆ
" . . . พี่เบสท์ . . . "
ร่างสูงหันไปขออนุญาตพี่เลี้ยงของเธอเพื่อเข้าไปในห้องโดยอาศัยความสนิทสนมตั้งแต่สมัยก่อนที่เขามักจะมาเล่นกับคุณหนูของเธอเป็นประจำ ขวัญพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตแล้วเดินจากไป ในขณะที่เธอยังยืนนิ่งงันอยู่กว่าจะรู้ตัวก็ถูกดันเข้าไปในห้องเสียแล้ว
ทันทีที่ประตูห้องปิดลงอ้อมแขนแข็งแรงของเบสท์ก็คว้าตัวเธอเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลัง พร้อมๆกับกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของเนยว่า
" สุขสันต์วันเกิดครบรอบ 15 ปีจ้ะน้องเนย พี่เบสท์กลับมาหาน้องเนยตามสัญญาแล้วนะ "
พลางหมุนตัวเธอให้หันหน้ามาหาเขาช้าๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงหยดน้ำที่กระทบกับแขนของเขา แล้วจึงพบว่าเธอกำลังร้องไห้
" ร้องไห้ทำไมครับคนดี "
นิ้วเรียวค่อย ค่อย เช็ดน้ำตาที่หลั่งไหลลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เนยสวมกอดเขาไว้ ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา พูดพลางสะอื้น
" เนย
ฮือ
เนยนึกว่าพี่เบสท์
ฮือ
จะไม่กลับมาหาเนยแล้ว
ฮือ
นึกว่าพี่เบสท์ลืมเนยไปแล้วซะอีก
ฮือ " เบสท์ลูบหัวเนยอย่างอ่อนโยน
" พี่ไม่มีทางลืมน้องเนยได้หรอก ไหนขอพี่ดูให้ชัด ชัด หน่อยสิ
หืม
ม
เด็กน้อยของพี่กลายเป็นสาวสวยแล้วนะเนี่ย "
เขาดันตัวเธอออก แล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้ พลางมองพินิจดูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความแปลกใจ เวลา 5 ปีที่ผ่านไปเปลี่ยนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ให้กลายเป็นสาวสวยได้ขนาดนี้เชียวหรือ แววตาใสซื่อถูกกลบด้วยน้ำตา แก้มขาวนวลแดงระเรื่อเพราะผลจากการร้องไห้ ริมฝีปากนุ่มสีชมพูอ่อน คล้ายดังมีมนต์สะกดชวนให้สัมผัส
ริมฝีปากอุ่น
อุ่น ของเขาทาบทับลงบนริมฝีปากของเธอเบา
เบา อย่างอ่อนโยน เธอยืนนิ่งอย่างตกใจกับการกระทำของเขาแต่แล้วความรู้สึกอบอุ่นกลับแทรกเข้ามาแทนที่ เมื่อพบว่ามันเป็นความรู้สึกที่เธอรอคอยมานานถึง 5 ปีเต็ม
เขาถอนริมฝีปากออก พลางมองเธออย่างสำนึกผิด ที่ถือโอกาสจูบเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงเอื้อมมือเล็กๆ ของเธอแตะริมฝีปากของเขาไว้
" พี่เบสท์ไม่ต้องขอโทษเนยนะคะ เนยรักพี่เบสท์มาตั้งนานแล้ว จูบแรกของเนยก็มีไว้สำหรับพี่เบสท์เท่านั้น อย่ากังวลเลยค่ะ " เขายิ้มให้เธออย่างเขินๆ จนพวงแก้มขาวกลายเป็นสีชมพูเข้ม เธอหัวเราะออกมาเบาๆแล้วโผเข้าหาอ้อมกอดอุ่นนั้น
" พี่เบสท์รู้มั้ยคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเนยคิดถึงพี่เบสท์แค่ไหน แล้วพี่เบสท์คิดถึงน้องเนยบ้างรึเปล่าคะ หรือว่ามัวแต่ไปสนใจสาวๆที่เมืองนอกจนลืมน้องคนนี้ซะแล้ว "
เธอเผยความในใจที่อัดอั้นมานาน แต่ยังมิวายแอบตัดพ้อนิดๆ เขาสะดุ้งไปเล็กน้อยกับคำตัดพ้อนั้น เพราะก็มีบ้างเหมือนกันที่เขาแอบหวั่นไหวไปกับใครบางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เมื่อความเหงามันแทรกซึมเข้ามาภายในใจ แต่เขาก็ไม่เคยลืมว่ายังมีใครอีกคนรอคอยเขาอยู่ที่นี่
" มันก็เป็นบางทีนะจ๊ะ แต่ในวันสำคัญๆอย่างเช่นวันเกิด หรือวันวาเลนไทน์ พี่ก็คิดถึงแต่น้องเนยคนเดียวเท่านั้นแหละ "
เขาหยอดคำหวานในประโยคท้าย ทำให้หญิงสาวปรับเปลี่ยนอาการที่กำลังจะเริ่มงอน เป็นขวยเขินจึงแสร้งทำเป็นเดินมานั่งลงที่เตียง
" เนยง่วงจังเลยค่ะพี่เบสท์ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ พี่เบสท์ไม่รีบกลับเหรอคะ คงไม่ได้คิดจะค้างที่ห้องน้องเนยหรอกใช่ม้า
" เนยพูดแล้วยิ้มอย่างยียวน
" แล้วถ้าพี่บอกว่าใช่ล่ะ เนยจะอนุญาตรึเปล่าครับ "
เบสท์ตอบกลับไปแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พลางสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้เตียง ทำท่าจะนั่งลงพลันคนตัวเล็กกว่าก็ดีดตัวผลุงขึ้นจากเตียงอย่างเร็วพาให้เบสท์ชะงักไปด้วยความตกใจ
" เอ่อ
จะค้างก็ได้ค่ะ
.แต่เนยว่าพี่เบสท์เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนดีมั้ยคะ เดี๋ยวเนยไปบอกพี่ขวัญให้เตรียมเสื้อผ้าแล้วก็จัดห้องข้างๆ ให้พี่เบสท์ดีกว่า " เธอพูดแล้วทำท่าจะเดินไปที่ประตู แต่เขาคว้าข้อมือเอาไว้แล้วดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
" ทำไมล่ะครับ
เมื่อก่อนเราก็นอนด้วยกันบ่อยๆไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่าคิดถึงพี่ไง แล้วจะไล่พี่ไปนอนห้องอื่นอย่างงั้นให้พี่กลับบ้านซะยังดีกว่า "
" ก็
ก็เนยเขินนี่นา ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่แต่ตอนนี้มัน
เอ่อ "
" เนยครับ
พี่เบสท์รักน้องเนยนะ เนยรังเกียจพี่เหรอ "
" เปล่าค่ะเนยไม่ได้รังเกียจแต่เนย
เนยกลัว " เธอได้แต่ก้มหน้า ไม่กล้าที่จะสบตาเขา ร่างกายเริ่มสั่นนิดๆ
" มันไม่มีอะไรที่น่ากลัวซักหน่อยนี่นา เด็กน้อยก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่วันยันค่ำแหละน้า
น่ารักจริงๆเลย พี่แค่แกล้งแหย่เล่นหรอกน่า พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนกว่าเนยจะพร้อม โอเคมั้ย "
เขาเชยคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา แล้วจุมพิตเบาๆที่หน้าผาก แต่เธอกลับโน้มหน้าเขาลงมาใกล้พลางหอมแก้มเขาไปหนึ่งที แล้วหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นว่าเขาหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้คนตัวสูงได้แต่ยืนงงกับการกระทำของสาวน้อย
เบสท์ออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าสาวน้อยของเขาหลับปุ๋ยไปแล้ว เขาจึงค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มนวมผืนใหญ่ด้วยเกรงว่าจะทำให้เธอตื่นขึ้นมาเพราะน้ำหนักที่ถูกทิ้งลงบนเตียงนุ่ม พลางยื่นหน้าเข้าไปจ้องมองดวงหน้าเยาว์วัยนั้นอย่างหลงใหล
แสงจากโคมไฟที่หัวเตียงสาดส่องไปยังใบหน้าไร้เดียงสา กำลังหลับตาพริ้มขนตายาวเป็นแพ จมูกรั้นนิดๆ ริมฝีปากสีชมพู ร่างกายที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอม นอนขดตัวเหมือนลูกแมวน้อยในตะกร้า
น่ารักจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว จึงโน้มหน้าลงเพื่อจะจูบเธอแต่กลับเปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อครู่ จึงสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แล้วเอนตัวลงนอนเคียงข้างเธอเงียบๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือเล็กนั้นเลื่อนมาวางอยู่ที่ไหล่ ตามมาด้วยท่อนขาที่พาดก่ายมาบนขาของเขา
" น้องเนยครับ
"
เขาเรียกเสียงเบา เพื่อเช็คดูว่าเธอหลับจริงหรือเปล่า แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา จึงได้แต่นอนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อน แต่เมื่อร่างเล็กนั้นขยับเข้ามาใกล้อีก จนใบหน้านั้นมาซุกอยู่ตรงลำคอ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดจนรู้สึกวูบวาบไปทั่ว เขาแทบจะอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาต้องอดทนนอนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ
จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างของคนข้างกายค่อยๆ สั่นเป็นจังหวะตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก เขาหันหน้าไปก็พบว่าสาวน้อยของเขากำลังแอบหัวเราะจนใบหน้าเป็นสีชมพู
" นี่น้องเนยไม่ได้หลับนี่
แกล้งพี่เหรอ
นี่แน่ะๆๆๆ มาให้จั๊กจี๋ซะดีๆนะ "
เขาพูดแล้วจึงเลื่อนมือไปที่เอวบางก่อนจะใช้นิ้วจิ้มๆๆๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ที่แกล้งเขาอยู่นานสองนาน ร่างเล็กดิ้นไปมาพลางส่งเสียงหัวเราะคิกคักสลับกับพูดให้เขาหยุดการกระทำเสียที
" อ๊ะ
ไม่เอาน้า
พี่เบสท์หยุดเหอะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เนยยอมแล้วจ้า
หยู๊ด
.ดดดด!!! "
เธอดีดดิ้นไปไม่ได้หยุด จนเขาต้องรวบตัวเธอไว้ให้อยู่นิ่งๆ ก่อนที่จะกลิ้งตกเตียงไปด้วยกันทั้งคู่ แล้วลูบหัวลูบหลังเป็นการใหญ่เมื่อได้ยินเสียงเธอหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย
" เป็นไงล่ะแกล้งพี่ดีนัก เดี๋ยวก็จับหม่ำซะหรอก "
ไม่พูดเปล่ายังยืนยันคำพูดด้วยการไซร้ที่ซอกคอขาว สูดดมกลิ่นหอมจางๆ ของสบู่ พาให้ร่างเล็กนั้นชะงักจนตัวแข็งทื่อ เมื่อฝ่ามือร้อนสอดเข้ามาภายในเสื้อนอนตัวบาง ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง
" พี่บะ
อุ๊บ
"
ริมฝีปากของเธอถูกปิดลงก่อนจะทันได้เอ่ยสิ่งใด แม้จะตกใจในทีแรกแต่กลับตอบสนองต่อเขาราวกับโหยหามานาน ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออกมา เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าคนตรงหน้ายังคงหลับตาพริ้ม พลางเผยอริมฝีปากนิดๆ ดูเย้ายวนเหลือเกิน แต่เขาไม่อยากทำอะไรเธอมากไปกว่านี้ เธอเองยังเด็กนัก เขาไม่อยากจะผูกมัดใจเธอไว้ด้วยความสัมพันธ์ทางกายเช่นนี้
" เนยครับ " เขาเรียกชื่อเธอเพื่อเรียกสติของเธอกลับคืนมา
" คะ " เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าเขาอย่างงุนงง ที่เขาหยุดการกระทำนั้นเสียดื้อๆ ในแววตาใสซื่อนั้น เต็มไปด้วยคำถามมากมาย
" พี่ไม่อยากใช้วิธีนั้นผูกมัดเนยไว้ให้เป็นของพี่คนเดียว พี่แค่อยากให้รู้ว่าพี่รักน้องเนยอย่างบริสุทธิ์ใจนะ และก็รอวันที่เนยจะโตพอจนเป็นเจ้าสาวของพี่ได้ "
ทันทีที่ฟังเขาพูดจนจบประโยค เธอก็กอดเขาไว้แน่น รู้สึกตื้นตันใจเหลือเกินที่เขาให้ความสำคัญกับเธอมากถึงเพียงนี้ เธอเลื่อนตัวขึ้นเพื่อจูบที่แก้มของเขา ส่งสายตาหวานซึ้งให้ก่อนจะเอ่ยขึ้น
" ขอบคุณนะคะพี่เบสท์ เนยสัญญาค่ะว่าเนยจะเป็นเจ้าสาวของพี่เบสท์คนเดียวเท่านั้น " แล้วจึงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างมีความสุข
. . . . . จากนี้เราจะไม่จากกันแล้ว จะอยู่ด้วยกันอย่างนี้เรื่อยไป ฉันขอแค่มีเธอ จากนี้เราจะไม่ห่างกันแล้ว จะอยู่ถึงวันสุดท้ายด้วยกัน จะมีฉันและเธอ สุขทุกข์สักเท่าไร ไม่เป็นไรจะอยู่เคียงข้างกัน . . . . .
Written By LovePenguin
29 - 05 - 05
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น