ภายในร้านอาหารสไตล์กึ่งผับขนาดกลางซึ่งมีเจ้าของร้านเป็นหนุ่มหน้าตี๋ กำลังยืนต้อนรับลูกค้าอย่างขยันขันแข็ง ท่าทางต้อนรับขับสู้อย่างเป็นกันเองนั้นทำให้ลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ รู้สึกถึงบรรยากาศสบายๆ เหมือนว่ามานั่งกินดื่มที่บ้านเพื่อน นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้าน “กินจัง” แห่งนี้
อาทิตย์นั่งมองเจ้าของร้านหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรั้วสถาบันเดียวกันหยุดแวะทักทายลูกค้าโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ด้วยรอยยิ้มกว้าง โดยเฉพาะโต๊ะไหนที่มีลูกค้าสาวสวยมากันเป็นกลุ่มหญิงล้วนด้วยแล้ว หนุ่มหน้าตี๋ก็มักจะแวะเวียนมาทักทายบ่อยๆ และนานเป็นพิเศษ กระทั่งได้ยินเสียงบ่นงึมงำดังมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์ที่เขานั่งอยู่ จึงหันไปมองตามเสียง แล้วจึงได้เห็นว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มร่างเล็กที่กำลังยืนหน้าบึ้งพลางใช้ผ้าเช็ดถูไปมาบนแก้วบางใสแจ๋วอย่างรุนแรงราวกับโกรธใครมาเป็นชาติ เขาอดสงสัยไม่ได้จึงหันไปถามเพื่อนสนิทร่างใหญ่ที่กำลังนั่งทำหน้ายุ่งพลางรัวแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเครื่องเล็กอยู่ข้างๆ กัน
“ไอ้น็อต มึงว่าไอ้บาร์เทนเดอร์เด็กใหม่นั่นเป็นอะไรของมันวะ กูเห็นมันเอาแต่จ้องไอ้ไบรท์แล้วก็ทำท่าแง่งๆเหมือนลูกหมาที่กำลังขู่ใส่เจ้าของอยู่นั่นแหละ”
น็อตเงยหน้าขึ้นจากจอแวบหนึ่งมองไปยังบุคคลที่ถูกกล่าวถึงแล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์ต่อไป พลางตอบคำถามของเพื่อน
“ไอ้ตัวเล็กมันก็คงจะหึงไอ้ไบรท์ล่ะมั้ง”
“ว่าไงนะ! หึงไอ้ไบรท์? เด็กนี่มัน เอ่อ ชอบไอ้ไบรท์เหรอ กูตกข่าวไปตอนไหนวะ”
คำตอบของเพื่อนสนิท ทำให้อาทิตย์ถึงกับตาโต พลางหันไปมองบาร์เทนเดอร์ร่างเล็กสลับกับเพื่อนหนุ่มหน้าตี๋ไปมาอย่างงุนงงระคนประหลาดใจ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนปากมอมอย่างไบรท์ที่เอาแต่ทำตัวลอยชายจีบสาวไปวันๆ จะมีคนมาติดพัน แถมยังเป็นเด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกด้วย
“ตอนไหนเหรอ อืม…คงเป็นตอนที่มัวขลุกอยู่แต่กับน้องก้องของมึง แล้วก็เบี้ยวนัดพวกกูเมื่อวันศุกร์ที่แล้วไง ไอ้ตัวเล็กมันเมาแล้วตะโกนบอกชอบไอ้ไบรท์ ส่งเสียงโวยวายลั่นร้านไปหมด”
น็อตวางมือละจากงานคล้ายจะพักสายตา เขาลากเสียงเล็กน้อยแล้วหันมายักคิ้วใส่คนถามอย่างกวนๆ ทำเอาคนที่ถูกหาว่าเบี้ยวนัดเพื่อนจนตกข่าวหน้าแดงก่ำรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ใช่เว้ย คราวก่อนกูไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยว พอดีพี่สาวก้องภพเขาจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ลูกสาว แล้วก็บอกว่าอยากให้กูไปด้วย กูก็เลย…”
“มึงก็เลยเลือกไปกับแฟนก่อน แล้วปล่อยให้เพื่อนนั่งรอเก้อจนถึงเวลาปิดร้านสินะ”
ยังไม่ทันที่คนขี้เขินจะพูดจบ น็อตก็สวนขึ้นมาดักคออย่างรู้ทัน จนอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากพะงาบๆ คล้ายปลาที่โดดขึ้นจากน้ำกำลังขาดอากาศหายใจ
“ครับๆ ผมเข้าใจครับคุณอาทิตย์ คุณให้ความสำคัญกับครอบครัวของน้องมันบ้างก็ดีแล้ว เป็นคนรักกันจะคบหากันแค่สองคนไม่ได้หรอก ต้องเอาใจใส่ความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย อย่างน้อยถ้าเรารักใคร ก็ควรจะรักครอบครัวของเขาด้วยเหมือนกัน เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว อย่าลืมนะชีวิตจริงไม่เหมือนนิยาย ที่จะจบแค่พระเอกนางเอกรักกันแล้วก็แต่งงาน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนราบรื่นหรือไม่งั้นก็ต้องเลิกรากันไปทั้งที่ยังรักกันอยู่”
สิ่งที่เพื่อนสนิทผู้แสนธรรมะธัมโมกล่าวนั้นกระแทกใจคนฟังเสียจนจุกแน่นในอกไปหมด หากเป็นเวลาปกติแล้วอาทิตย์คงได้แต่ส่ายหน้ากับคำพูดยืดยาวราวกับการเทศนาของอีกฝ่าย แต่ครั้งนี้เขากลับนิ่งเงียบฟังจนจบโดยไม่ขัดเหมือนทุกที คงเพราะมีบางเรื่องที่กำลังกวนใจเขาอยู่ และน่าจะเป็นเหตุผลข้อใหญ่ที่ทำให้เขาออกปากชวนน็อตมานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนในคืนนี้ พลางครุ่นคิดไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยกิโลเมตร ป่านนี้คงยังโกรธเขาอยู่แน่ๆ
ราวกับว่าน็อตเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเพื่อนที่มักจะแก้เขินด้วยการโวยวายใส่เขาอยู่เสมอเมื่อโดนแซ็วเรื่องความสัมพันธ์หวานชื่นกับหนุ่มรุ่นน้อง แต่วันนี้กลับเอาแต่เหม่อลอยจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง จะว่าไปเขาก็เริ่มเอะใจตั้งแต่ตอนที่อาทิตย์โทร. มานัดเขาอย่างกะทันหันเมื่อตอนบ่ายแล้ว ทั้งที่วันก่อนยังบอกว่าสุดสัปดาห์นี้ไม่ว่างเพราะกลุ่มเพื่อนของก้องภพชวนไปร่วมงานบายเนียร์ที่จัดให้กับรุ่นน้องปี 4 ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนี้อยู่เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเขามีงานด่วนเข้ามา ส่วนไบรท์ก็ต้องดูแลร้าน และเปรมเองก็รับงานถ่ายภาพเอาไว้จึงไม่มีใครไปได้สักคน สุดท้ายแม้แต่อาทิตย์เองก็ปฏิเสธกิจกรรมบายเนียร์ไปแล้วชวนเขามานั่งดื่มเหล้าเคล้าเสียงถอนหายใจจนอดห่วงไม่ได้
“ว่าแต่มึงเถอะ ทะเลาะอะไรกันกับน้องมันอีกวะ ท่าทางจะงอนหนักเสียด้วยสิ กูเห็นมันตั้งสเตตัสว่าคืนนี้โสดจีบได้ ปกติเห็นแต่มันแค่ทำหน้าเป็นหมาหงอย ไม่เคยประชดประชันแบบนี้เลยนี่”
ไม่ทันไรน็อตก็ล่วงรู้ถึงความในใจของเขาแล้ว สมกับที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เขาไว้ใจกล้าเล่าทุกอย่างให้ฟัง แม้บางครั้งไม่ต้องพูดอะไรแค่มองหน้าก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ อาทิตย์ถอนหายใจยาว พลางยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมาจิบเล็กน้อย นึกไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นสองสามวันก่อนหน้านี้
.
.
.
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาเป็นทำนองเพลงที่คุ้นเคยซึ่งเขาตั้งเอาไว้เฉพาะสายเรียกเข้าจากคนพิเศษ เพียงแค่ได้ยินก็ทำให้คนที่เพิ่งกลับจากทำงานมาเหนื่อยๆ เผลอยิ้มกว้างจนตาหยี อาทิตย์รีบกดรับสายแล้วทักทายคนโทร. เข้ามาเสียงหวาน
“ว่าไงก้องภพ คุณกลับถึงห้องแล้วเหรอ”
“ครับ ผมมาถึงสักพักแล้ว พี่อาทิตย์ล่ะครับ กลับจากออฟฟิศหรือยัง”
พนักงานออฟฟิศหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องพักของตัวเอง แล้ววางกระเป๋าสัมภาระไว้บนโต๊ะทำงาน กวาดตามองห้องที่เคยมีข้าวของเครื่องใช้วางระเกะระกะ บัดนี้กลับดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่พื้นกระเบื้องก็ถูกเช็ดถูจนเงาวาววับราวกับจ้างแม่บ้านมืออาชีพมาทำความสะอาดให้อย่างไรอย่างนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือของคนที่เพิ่งมาค้างห้องเขาเมื่อคืนนี้ เพียงแค่นึกภาพคนรักที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูห้องของเขา อาทิตย์ก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นเป็นสองเท่า
“ผมเพิ่งมาถึงห้องนี่แหละ กำลังว่าจะออกไปหาอะไรกินอยู่พอดี คุณล่ะกินข้าวหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ พี่อาทิตย์ล่ะทำงานมาทั้งวันแถมยังต้องทำโอทีจนดึกป่านนี้คงเหนื่อยแย่ เมื่อเช้าผมหุงข้าว แล้วก็ทำไข่ตุ๋นทรงเครื่องใส่ตู้เย็นไว้ให้ พี่เอาออกมาอุ่นทานสิครับ จะได้ไม่ต้องลงไปหาซื้อให้เหนื่อยกว่าเดิม”
เสียงนุ่มที่ตอบกลับมา พร้อมคำถามที่มาพร้อมความห่วงใยเหมือนเคย ทำให้คนที่เหนื่อยกับงานมาทั้งวันแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง อาทิตย์รีบเปิดตู้เย็นแล้วหยิบอาหารที่คนรักเตรียมไว้ให้ขึ้นมามองแล้วก็ยิ้มอย่างภูมิใจ รู้สึกเหมือนเป็นสามีที่น่าอิจฉามีภรรยาคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จะต่างไปก็ตรงที่บทบาทในเรื่องบนเตียงนั้น เขาไม่เคยได้ใช้สิทธิการเป็นสามีบ้างเลย คิดมาถึงตรงนี้อาทิตย์ก็รู้สึกกระดากอายจนหน้าเห่อร้อนไปหมด เขาสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้วรีบนำอาหารไปอุ่นในไมโครเวฟทันที
“ผมว่าอีกสักพักผมคงต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ คิดดูสิแค่ของกินก็ยังไม่ต้องเดินลงไปหาซื้อเลย”
ระหว่างที่พูดไปอาทิตย์ก็ลอบมองตัวเองในกระจก หน้าท้องที่เคยแบนราบจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเริ่มมีส่วนนูนยื่นออกมาเล็กน้อย นอกจากนมเย็นเครื่องดื่มสุดโปรดที่เป็นตัวเพิ่มแคลอรี่หลักแล้ว ก็เห็นจะเป็นเมนูสารพัดไข่ที่ก้องภพขยันทำมาให้เขาชิมทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นหากวันไหนมาค้างที่ห้อง ยิ่ง ช่วงนี้เขางานเยอะมากเพราะบริษัทกำลังขยายธุรกิจหลังจากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศซึ่งเป็นกิจการของทางบ้านก้องภพ จึงหาเวลาไปเล่นฟิตเนสที่ห้างสรรพสินค้าใกล้หอพักเหมือนอย่างเคยได้น้อยลง ร่างกายที่เคยมีกล้ามเนื้อแข็งแรงจึงเริ่มมีไขมันสะสมทีละเล็กทีละน้อย
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ ถึงพี่อาทิตย์จะอ้วนขึ้นแค่ไหนผมก็ยังรักพี่อยู่ดี แต่ถ้าพี่กังวลเรื่องรูปร่างขนาดนั้น จะให้ผมไปช่วยออกกำลังกายเรียกเหงื่อให้ทุกคืน ผมก็พร้อมเสมอนะครับ”
เมื่อถูกหยอดกลับมาด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ ก็ทำให้หนุ่มรุ่นพี่เห็นภาพใบหน้าเจ้าเล่ห์ของก้องภพที่กำลังขยิบตายิ้มยั่วใส่เขาลอยขึ้นมาในทันใด พลางรีบส่งเสียงโวยวายใส่ปลายสายแก้เขิน
“คุณนี่มัน...ฮึ้ยยยย! ไปเตะบอลไป!”
ก้องภพหัวเราะเบาๆ อย่างพอจะเดาใบหน้าที่น่ารักน่ามองในยามที่ความขวยเขินพุ่งจนถึงขีดสุดของอีกฝ่ายออก ถึงแม้ภายนอกอาทิตย์จะดูเป็นคนที่เก่งไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี หรือกีฬา แต่เรื่องแบบนั้นกลับเหมือนเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกไม่ประสีประสาเอาเสียเลย เสียงเตือนการทำงานของเครื่องไมโครเวฟดังขึ้น พร้อมๆ กับเสียงเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเป็นสัญญาณบ่งบอกให้ก้องภพรู้ว่าคนรักหอบเอางานกลับมาทำอีกแล้ว
“ถ้าพี่อาทิตย์จะทำงานต่อ งั้นผมไม่รบกวนแล้วดีกว่าครับ พี่จะได้รีบทำให้เสร็จแล้วพักผ่อน”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมแค่เปิดเช็คอีเมลดูเฉยๆ แล้วก็กินไข่ตุ๋นที่คุณทำไปด้วยไง วันนี้ผมวิ่งวุ่นยุ่งๆ ทั้งวัน คุณโทร.มา ผมก็ไม่ได้รับสายตั้งหลายครั้ง”
น้ำเสียงที่อ่อนลงแต่กลับหวานขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวคล้ายว่าอีกฝ่ายยังไม่อยากวางสายจากเขา ทำให้ก้องภพได้แต่ยิ้มกริ่มพลางนึกภาพคนรักกำลังตักไข่ตุ๋นสูตรพิเศษของเขาเข้าปากแล้วคาบช้อนเอาไว้ระหว่างนั่งทำงานไปด้วยเหมือนอย่างเคย น่ารักเหมือนทุกครั้งที่เขาแอบมองเวลาคนพี่เผลอ
“เอ้อ เกือบลืมไปเลย พี่อาทิตย์ครับวันเสาร์ที่จะถึงนี้มีงานบายเนียร์พี่ปี 4 พี่จะไปกับพวกผมด้วยไหมครับ”
“หืม? บายเนียร์เหรอ ไปสิ จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันเนอะ เหมือนผมเพิ่งเข้ามาเป็นเฟรชชี่ไม่ทันไร ก็ผ่านไปสี่ปีแล้ว”
คำชวนของก้องภพ ทำให้อาทิตย์นึกย้อนไปถึงวันวานเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาปี 1 ของมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นเขายังอยู่ในช่วงของการปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ และเพื่อนใหม่ๆ กิจกรรมมากมายที่สอดแทรกอยู่ในระบบ SOTUS ทำให้เขาได้รู้จักทั้งเพื่อน และรุ่นพี่ร่วมคณะฯ หลายคน ซึ่งนับเป็นข้อดีที่ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความสำคัญของมัน และบางสิ่งบางอย่างในกิจกรรมเหล่านั้นเขานำมันกลับมาปรับใช้อีกครั้งเมื่อเข้ามาเริ่มเป็นพนักงานใหม่ในบริษัทแห่งนี้ ยกเว้นก็แต่กิจกรรมหนึ่งที่เขาเรียกมันว่าประสบการณ์อันเลวร้าย และอยากจะลืมมาตลอดชีวิตของการเป็นนักศึกษา นั่นคือการประกวด Miss Engineer ซึ่งเขาเป็นคนยกเลิกมันไปเองเมื่อมีโอกาสได้ขึ้นมาเป็นเฮดว้ากตอนอยู่ปี 3
Miss Engineer ไม่ใช่การประกวดสาวงามตามแบบฉบับทั่วไป แต่เป็นการคัดเลือกนักศึกษาหนุ่มจากภาควิชาต่างๆ มาแต่งองค์ทรงเครื่องแบบผู้หญิงแล้วประกวดกันเพื่อหาผู้ชนะ หากจะถามหาเหตุผลว่าทำไมถึงต้องยกเลิกกิจกรรมนี้ นั่นก็เพราะเขามองว่ามันเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดการล้อเลียนในเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอีกอย่างที่เป็นตำนานเล่าสืบขานกันมารุ่นต่อรุ่นว่า ใครก็ตามที่ได้รับตำแหน่ง Miss Engineer ไป มักจะต้องอาภัพรักอยู่เสมอจีบสาวเมื่อไรก็มีอันต้องแห้วไปทุกรายเพราะมีดวงวิญญาณอาฆาตของหญิงสาวสาปแช่งเอาไว้ ซึ่งตัวอาทิตย์เองก็ไม่แน่ใจว่ามันคือเรื่องจริงหรือเพียงแค่พวกรุ่นพี่เล่ากันสนุกปาก แต่มันก็คือความน่าอับอายอย่างหนึ่งที่เขาต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเป็นคนหยุดคำสาปร้ายนั้นเอาไว้ก่อนที่รุ่นน้องผู้ชายคนต่อไปของคณะฯ จะต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับที่เขาเคยเจอ
ระหว่างที่คุยกันไป ก้องภพก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บโซเชียลมีเดีย มีใครบางคนส่งต่อรูปภาพมาให้เขา เมื่อเปิดดูก็ถึงกับตาค้าง เมื่อคนในภาพนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยมากเหมือนเพิ่งแยกจากกันเมื่อเช้านี้ไม่มีผิด
“พี่อาทิตย์ครับ รูปที่พี่เปรมแท็กมานี่ ใช่พี่จริงๆ ใช่ไหมครับ เพิ่งรู้ว่าแฟนผมสวยขนาดนี้เนี่ย”
น้ำเสียงตื่นเต้นที่ดังมาจากปลายสาย ทำให้คนที่กำลังเปิดอ่านเอกสารการสั่งซื้อวัสดุล็อตใหม่ของบริษัทหยุดชะงักทันที อาทิตย์รู้สึกเอะใจอย่างไรชอบกลกับเสียงของคนรัก คล้ายกับว่าอีกฝ่ายกำลังสนุกกับเรื่องน่าอายอะไรบางอย่างของเขาอยู่ ไม่รอช้าเขารีบสลับหน้าจอจากงานที่พิมพ์ค้างไว้ แล้วเปิดหน้าต่างของเว็บโซเชียลมีเดียยอดนิยมขึ้นมาดูทันที ก่อนจะพบกับรูปเจ้าปัญหาที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอตอนนี้
“ชิบแล้ว! ไอ้เปรม จะแชร์มาทำไมวะเนี่ย ปุ่มลบอยู่ไหนเนี่ย ก้องภพ! หยุดยิ้มเลยนะ ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่”
อาทิตย์โวยวายลั่นห้องเมื่อได้เห็นภาพของตัวเองตอนปี 1 จากการเป็นผู้ชนะเลิศในกิจกรรมประกวด Miss Engineer ที่เพื่อนร่วมแก๊งแชร์ความทรงจำย้อนอดีตเมื่อ 3 ปีก่อนขึ้นมา ใบหน้าแดงเรื่อด้วยทั้งโมโหทั้งเขินอายในเวลาเดียวกัน พลางรีบกดปุ่มลบโพสต์นั้นด้วยท่าทางลนลาน แต่ทว่าในเวลาแบบนี้ปุ่มเมนูที่เคยหาได้ง่ายกลับกลายเป็นเรื่องยากเมื่อได้ยินเสียงของคนรักที่ยังคงชื่นชมไม่หยุดปาก
ภาพของใครคนหนึ่งในชุดกี่เพ้าตัวยาวสีแดงสดที่รัดรูปแถมกระโปรงยังแหวกสูงถึงสะโพกเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียน ยิ่งเมื่อสวมรองเท้าส้นสูงสีดำขลับตัดกับสีผิวทำให้รูปร่างผอมบางแลดูเพรียวสะโอดสะอง แม้เจ้าตัวจะใส่วิกผมยาวเคลียไหล่ แถมยังมีพัดขนนกสีขาวปิดบังอำพรางใบหน้าไปกว่าครึ่ง กระนั้นก้องภพก็ยังมั่นใจว่าเจ้าของดวงตากลมโตที่ถูกแต่งแต้มสีสันใบหน้าจนสวยหวานเหมือนสาวหมวยอิมพอร์ตจากแดนไกลนั้นคือพี่อาทิตย์ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย นัยน์ตาพราวระยับจ้องมองคนในภาพด้วยความหลงใหลจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น ช่างเป็นคนที่ใช้คำว่าน่ารักได้สิ้นเปลืองจริงๆ
และราวกับว่าคนปลายสายมีตาทิพย์รู้ว่าเขากำลังมองภาพนั้นด้วยสายตาแบบไหน จึงรีบส่งเสียงปรามที่เหมือนจะดุแต่ฟังแล้วเหมือนกำลังกลบเกลื่อนความเขินอายเสียมากกว่า ก้องภพจึงไม่เพียงแค่ไม่หยุดยิ้มตามที่คนรักสั่ง มิหนำซ้ำยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิมเกือบเท่าตัว แล้วรีบตอบกลับอีกฝ่ายคล้ายจะล้อเลียนอยู่ในที
“เปล๊าาาา ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ แต่ผมว่าพี่รีบกดลบก็ดีครับคนอื่นๆ จะได้ไม่เห็น อ้อ…ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกดเซฟเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ใครอนุญาตให้คุณรูปเซฟทุเรศๆ แบบนั้น ลบเดี๋ยวนี้นะก้องภพ ไม่งั้นผมโกรธคุณจริงๆ ด้วย”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดใช้อำนาจของความเป็นรุ่นพี่ออกคำสั่งคนรักหนุ่มรุ่นน้องทันที ในบรรดารูปเก่าๆ ทั้งหลายรูปนี้แหละที่อาทิตย์ไม่อยากให้ก้องภพได้เห็นเป็นที่สุด เขาอุตส่าห์ดึงมันทิ้งไปจากอัลบั้มรวมภาพสมัยเรียนที่เพื่อนรักอย่างเปรมให้เอาไว้เป็นของขวัญวันรับปริญญาแก่เพื่อนในกลุ่มแล้ว เพราะกลัวคนรักจะรับไม่ได้เหมือนที่เขาก็รับตัวเองแทบไม่ได้เช่นกัน แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าเพื่อนตัวดีดันส่งภาพนั้นขึ้นบนโลกออนไลน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นไปด้วยเสียอีก แล้วเขาคนนี้จะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหนโกรธเพื่อนก็โกรธจึงพาลไปลงที่คนแซ็วไม่ขาดปาดจากปลายสาย
“โอเคครับ ผมไม่เซฟก็ได้ ถ้าพี่จะแต่งแบบในรูปนี้ให้ผมดู จำได้ไหมครับ รางวัลที่พี่สัญญากับผมไว้ถ้าได้เกรด A ทุกวิชาในเทอมที่ผ่านมา พี่จะมีรางวัลเด็ดๆ ให้ผม นี่ผมไม่ได้ทวงนะครับ ก็แค่เตือนว่าผมยังไม่ได้รับรางวัลนั้นเลย”
คนเจ้าเล่ห์ไม่ยอมแพ้ เปลี่ยนเป็นการใช้ยุทธวิธีเจรจาต่อรองโดยยกเอาคำสัญญาของตัวเองขึ้นมาสู้ แต่ในเวลานี้อาทิตย์ที่กำลังหัวเสียเมื่อภาพน่าอายของเขาหลุดรอดออกไปในพื้นที่สาธารณะ ไม่ใช่แค่เฉพาะเพื่อนๆ แต่ในโลกออนไลน์นั้นมีทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมากมายเต็มไปหมด เพียงเวลาแค่ไม่กี่นาทีที่ภาพถูกเผยแพร่ออกไปก่อนที่เขาจะลบมันได้ทัน เชื่อได้เลยว่าเช้าวันจันทร์คนที่ออฟฟิศคงนินทาเขากันสนุกปากแน่ๆ
“รางวงรางวัลอะไร ไม่มีทั้งนั้นแหละ เลิกฝันได้แล้ว แค่นี้นะ ผมจะทำงานต่อ”
อาทิตย์ตอกกลับเสียงห้วน ก่อนจะกดวางสายไปด้วยความโกรธ ทิ้งให้อีกคนถือสายค้างฟังเสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกตัดไปแล้วอย่างงุนงง ก้องภพไม่คิดว่าคนรักจะโกรธจริงจังมากมายขนาดนี้ เขารีบกดส่งข้อความไปงอนง้อ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่กดอ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจยาวข่มความรู้สึกน้อยใจแล้ววางโทรศัพท์คว่ำลงกับเตียง โดยไม่ได้หยิบขึ้นมาดูอีกเลย
.
.
.
“แล้วมึงก็เลยชวนกูมานั่งดื่มแก้กลุ้มแบบนี้ แทนที่จะไปง้อน้องมันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเนี่ยนะ”
น็อตส่ายหน้าน้อยๆ มองเพื่อนอย่างอ่อนใจที่ทำตัวเป็นเด็กเกเรพาลใส่คนรักทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องเว้ย นี่มันเรื่องใหญ่สำหรับกูเลยนะ แทนที่จะช่วยกันด่าไอ้เปรมกลับไปเห็นดีเห็นงามอยากจะขอรางวัลจากกูด้วยอีก มันน่าโมโหจะตายไป”
หลังจากเล่าที่มาที่ไปถึงสาเหตุที่เขาเบี้ยวนัดไปงานบายเนียร์กับก้องภพให้น็อตฟังจนจบ แค่เพียงเพื่อนรักไม่เข้าข้างก็ทำเอาอาทิตย์หัวร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เขาหันมาโพล่งใส่คนข้างกายอย่างหงุดหงิดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอั้กๆ ก่อนจะกระแทกแก้วลงบนโต๊ะเสียงดัง จนบาร์เทนเดอร์หนุ่มร่างเล็กถึงกับสะดุ้งจนเกือบทำแก้วในมือร่วง หันมามองลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าของร้านด้วยสายตางุนงง
“ใจเย็นดิวะไอ้อาทิตย์ นี่เพื่อนนะเว้ย นี่มึงรู้ตัวไหมว่าเดี๋ยวนี้เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นแค่ไหนเนี่ย ที่ผ่านมาถึงจะมีเรื่องทำให้หัวร้อนขนาดไหน แต่มึงก็ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองได้บ้าง นี่กับเพื่อนมึงก็ยังพาลโมโหใส่ขนาดนี้เหมือนไม่เป็นตัวเองเลย กูว่าต้องเป็นเพราะน้องก้องมันสปอยล์มึงมากไปแล้วแน่ๆ”
“เออๆ กูขอโทษแล้วกัน ช่วงนี้มีเรื่องให้หงุดหงิดเยอะไปหน่อย”
อาทิตย์เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอใส่อารมณ์กับเพื่อนรักมากเกินไป ทั้งที่เขาเป็นคนเล่าให้ฟังเองแท้ๆ จึงได้แต่กล่าวขอโทษขอโพยอีกฝ่าย แต่น็อตไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขารู้ดีว่าหมู่นี้เพื่อนค่อนข้างเครียดไหนจะเรื่องงาน ไหนจะเรื่องครอบครัวของคนรักที่ตั้งความหวังกับว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตไว้สูง ทำให้อาทิตย์กดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยครั้งจนเผลออาละวาดฟาดงวงฟาดงาใส่ทุกคนที่อยู่รอบกาย แต่กระนั้นคนรักที่แสนดีอย่างก้องภพก็แทบจะไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยหน่ายที่ต้องคอยเป็นที่รองรับอารมณ์อยู่เสมอ เว้นก็แต่ครั้งนี้ที่เด็กหนุ่มรุ่นน้องคงเริ่มทนไม่ไหวเข้าแล้วจริงๆ ถึงได้กล้าโพสต์รูปภาพตัวเองแต่งตัวหล่อยืนกอดอกอยู่ข้างรถสปอร์ตสีเหลืองคันเก่งที่จอดอยู่หน้าทางเข้างานบายเนียร์ พร้อมด้วยข้อความประชดประชันอย่าง ‘จีบได้แฟนไม่รัก’ เช่นนี้
“แต่กูว่ามึงต้องเพลาๆ ไอ้อาการหงุดหงิดนี่ลงบ้างแล้วรีบหาทางง้อน้องมันได้แล้วเว้ย น้องมันรีเควสอะไรก็ตามใจน้องมันบ้าง ชีวิตคู่จะได้ไม่จืดชืด เอ้า! แหกตาดูนี่ซะ กูว่ามึงควรต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะโดนหมาคาบไปเสียก่อน”
มือใหญ่ตบไหล่เพื่อนเบาๆ แล้วยื่นโทรศัพท์ส่งให้ดูคนที่มาแสดงความคิดเห็นบนรูปของก้องภพ ซึ่งมีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่สาวแท้สาวเทียมเต็มไปหมด สมกับดีกรีอดีตเดือนมหาวิทยาลัยพ่วงด้วยตำแหน่งเฮดว้ากที่มีแฮชแท็กเป็นของตัวเองอย่าง #พี่ว้ากหล่อบอกต่อด้วย หนึ่งในนั้นคือความคิดเห็นของสาวน้อยหน้าแฉล้มคนหนึ่งซึ่งอาทิตย์จำได้ดีว่าชื่อข้าวฟ่าง เป็นหลานรหัสของก้องภพด้วย
“ถ้าแฟนไม่รัก ก็ทักหนูได้นะคะพี่ ^^”
“หึ! คนขี้อ่อย ระวังจะโดนต่อยไม่รู้ตัว”
อาทิตย์พิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็วแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เพื่อน ท่ามกลางความตกใจของน็อต เขาโวยวายใส่คนที่ตอนนี้หน้ามืดตามัวเพราะความหึงหวงจนลืมไปแล้วว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นไม่ใช่ของตัวเอง
“อ้าวเฮ้ย! ไอ้อาทิตย์พิมพ์อะไรแบบนี้วะ มึงลืมไปรึไงว่านี่แอคฯ กู จะหึงอะไรก็ลืมหูลืมตาดูบ้างสิวะ”
น็อตบ่นอย่างไม่จริงจังนัก เขาแค่แกล้งหยอกเพื่อนที่ทำตาโตเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่โทรศัพท์ของตัวเอง แล้วรีบแย่งมาจะกดลบให้แต่น็อตไวกว่า เขารีบกดเข้าไปแก้ไขข้อความแล้วเพิ่มส่วนที่เป็นวงเล็บต่อท้ายความคิดเห็นก่อนหน้านั้นแล้วรีบเก็บลงกระเป๋าทันทีโดยไม่ให้อาทิตย์เห็น
“หึ! คนขี้อ่อย ระวังจะโดนต่อยไม่รู้ตัว” (ไม่ได้พิมพ์เอง อาทิตย์มันเอาโทรศัพท์กูไปเล่นเว้ย)
“พวกมึงคุยอะไรกันงุ้งงิ้งอยู่สองคนตั้งนานแล้วเนี่ย ให้กูร่วมวงด้วยคนดิวะ”
เสียงของเจ้าของร้านหนุ่มดังนำมาก่อนตัว ไบรท์ถือแก้วเหล้าเดินสะเงาะสะแงะเหมือนเริ่มเมาจนแทบคุมสติไม่อยู่ เขายื่นหน้าเข้ามาแทรกกลางระหว่างน็อตกับอาทิตย์แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ จนหนุ่มหน้าหวานหันหน้าหนีแทบไม่ทัน
“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องได้ไหมวะไบรท์ นู่น...ไปดูแลเด็กมึงไป ยืนมองตาขวางส่งรังสีอาฆาตมาหากูจนขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย ดึกแล้วกูจะกลับละ ไอ้น็อตมึงไปส่งกูที่หอทีดิ”
อาทิตย์รีบตัดบทแล้วหันไปชวนน็อตกลับด้วยกัน พลางออกเดินนำไปก่อน เพื่อนตัวใหญ่ส่ายหน้าเบาๆ อย่างระอาใจกับท่าทางเหมือนคุณนายที่ออกคำสั่งกับเขาราวกับเป็นคนขับรถส่วนตัว แล้วรีบเก็บของลงกระเป๋า ก่อนจะหันไปล่ำลาไบรท์อย่างรวดเร็วแล้วเดินตามไป ทิ้งให้เจ้าของร้านหนุ่มที่โดนเพื่อนเทอย่างซึ่งหน้ายืนงงอยู่พักใหญ่ก่อนจะส่งเสียงโวยวายออกมาจนบาร์เทนเดอร์หนุ่มต้องเข้ามาช่วยตะครุบปากไว้ ก่อนที่ลูกค้าคนอื่นๆ จะหนีหายไปหมด
เพียงไม่นานรถของน็อตก็เคลื่อนมาจอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าหอของอาทิตย์ เขาหันไปเรียกเพื่อนที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองเสียงดังจนอาทิตย์สะดุ้ง
“อาทิตย์...ไอ้อาทิตย์โว้ยยยย!!!”
“เชี่ยน็อต! อะไรของมึงวะ เรียกซะเสียงดัง กูตกใจหมด”
“ก็กูเรียกตั้งนานแล้ว มึงก็ยังนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาไม้อยู่ได้ ถึงหอมึงละ รีบๆ ลงไปได้แล้ว กูจะได้รีบกลับไปทำงานต่อซะที”
น็อตถอนหายใจ ก่อนจะรีบไล่เพื่อนลงจากรถ แต่อีกคนกลับทำท่าอิดออดก่อนจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างคล้ายไม่แน่ใจในตัวเองนัก
“ที่มึงว่ากูควรทำอะไรตามรีเควสของก้องภพบ้างเนี่ย มึงคงไม่ได้หมายถึง...”
คำถามของอาทิตย์ทำให้น็อตอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนต้องการจะสื่อ เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าเพื่อนรักคิดจะง้อแฟนด้วยการให้รางวัลเด็ดๆ อย่างที่อีกฝ่ายต้องการ แต่ยังขาดความมั่นใจอยู่ก็เท่านั้น
“ก็ถ้ามึงคิดว่ามันได้ผล ก็ทำอย่างที่ใจต้องการเถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนี่หว่า ปัจจัยของความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนก็จริง แต่สิ่งที่จะทำให้ความรักอยู่รอดได้ ก็คือการใส่ใจกับความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างที่กูบอกไปแล้วไง”
คำพูดปลอบโยนของน็อตทำให้คนที่ยังลังเลสับสนอยู่ระหว่างความรู้สึกกับความถูกต้องมีคำตอบที่ชัดเจนในใจขึ้นมาทันที เขาแค่ต้องการความกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านเส้นบางๆ ที่เรียกว่าความเขินอายของตัวเองไปเท่านั้น พอคิดได้แบบนี้ก็ไม่รีรอที่จะบอกความต้องการของตนออกไป
“งั้นมึงรอกูสักสิบห้านาทีได้ไหม ขอกูขึ้นไปหยิบของอะไรบางอย่างแล้วช่วยไปส่งกูอีกที่นึงหน่อย”
“แล้วแต่จะบัญชาเลยครับคุณนาย วันนี้ผมจะยอมเป็นสารถีให้สักวันนึง ไว้คืนดีกับน้องก้องได้สำเร็จแล้วค่อยตอบแทนความใจดีของกูทีหลังก็แล้วกัน”
น็อตยักคิ้วล้อเลียนเพื่อนรัก ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงเมื่อถูกเรียกด้วยสรรพนามประหลาดๆ จึงรีบผลุนผลันเปิดประตูลงจากรถไป ทิ้งให้สารถีหนุ่มหัวเราะขำกับตัวเองเพียงลำพัง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความถึงใครบางคนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
.
.
.
3 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
“มึงแน่ใจเหรอวะเอ็ม ว่าทำแบบนี้แล้วพี่อาทิตย์จะมาง้อกู ไม่ใช่ว่าเขาจะยิ่งโกรธเข้าไปอีกนะ”
ก้องภพมองเพื่อนที่กำลังเอาโทรศัพท์มือถือของเขาไปโพสต์รูปภาพพร้อมกับแคปชั่นเด็ดด้วยสายตาเป็นกังวล อาการลุกลี้ลุกลนจนนั่งไม่ติดทำให้เอ็มเริ่มรู้สึกรำคาญกับโหมดพ่อบ้านใจกล้าของเพื่อนขึ้นมาไม่น้อย เขารู้ว่าพี่อาทิตย์เป็นคนที่ดุมากก็จริง แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือขี้หึงมากด้วย ยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์เมื่อตอนปีหนึ่งที่พี่อาทิตย์ตวาดเสียงดังลั่นโรงอาหารแสดงอาการหึงหวงเพื่อนรักอย่างออกนอกหน้า เพราะคิดว่าก้องภพกับแพรไพลินกำลังจีบกัน แล้วไหนจะตอนที่เขาให้น้องกระต่ายแกล้งทำเป็นพูดเรื่องน้องข้าวฟ่างบอกชอบก้องภพตอนไปรับน้องที่ทะเล เพื่อดูปฏิกิริยาของหนุ่มรุ่นพี่ จนได้เห็นคนที่มักจะเป็นฝ่ายออกคำสั่งกับเพื่อนเขาอยู่เสมอ เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการเอาอกใจเปิดขวดน้ำให้พร้อมกับแสดงท่าทีเขินอายอย่างน่ารัก ก็พอจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าคนอย่างพี่อาทิตย์นั้น พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อมัดใจก้องภพไว้ไม่ให้ใครมาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นอน
“มึงเชื่อกูเหอะก้อง ถ้าพี่อาทิตย์ได้เห็นแคปชั่นนี้ รับรองเลยคืนนี้พี่เขามาง้อมึงถึงห้องชัวร์”
ท่าทางมั่นอกมั่นใจของเพื่อนรัก ทำให้ก้องภพได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างหนักใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้ลูกไม้แบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรักมาก่อนเลย แต่ก็อยากจะลองเสี่ยงเดิมพันดูสักครั้ง หากแผนนี้ไม่เป็นไปตามที่คิด อย่างมากพรุ่งนี้เช้าเขาก็คงเป็นฝ่ายไปตามง้องอนขอคืนดีเหมือนอย่างทุกที
“เออๆ จะทำไรก็ทำ แต่ถ้าพี่อาทิตย์ไม่ยอมหายโกรธ กูจะฟ้องเมย์ว่าคืนนี้ที่มึงไม่ไปเที่ยวพร้อมกับที่บ้านเขา เพราะอยากจะมาหลีสาวๆ รุ่นน้องก็แล้วกัน”
“อ้าวไอ้นี่ คนอุตส่าห์ช่วยหาวิธีให้แฟนมาง้อ ดันจะมาพังบ้านเขาซะงั้น คอยดูแล้วกันแผนนี้สำเร็จแน่ๆ”
ไม่กี่นาทีต่อมา หลังจากที่เอ็มโพสต์รูปของเขาขึ้นบนเว็บโซเชียลมีเดียแล้ว ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ก้องภพไล่สายตามองแต่ละข้อความที่แจ้งเตือนขึ้นมากระทั่งได้เห็นข้อความที่ถูกส่งมาจากเพื่อนสนิทของคนรัก
“หึ! คนขี้อ่อย ระวังจะโดนต่อยไม่รู้ตัว” (ไม่ได้พิมพ์เอง อาทิตย์มันเอาโทรศัพท์กูไปเล่นเว้ย)
ในตอนแรกก้องภพก็ออกจะงุนงงอยู่สักหน่อย แต่พอเห็นข้อความเพิ่มเติมที่อยู่ในวงเล็บแล้ว รอยยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก็ผุดพรายขึ้นมาทันที แมวป่าที่แสนซื่อตกหลุมพรางราชสีห์จนได้สินะ
“แหมๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะมึง เห็นไหมกูว่าแล้วพี่อาทิตย์ต้องงับเหยื่อแน่ๆ คืนนี้เตรียมรอรับรางวัลเด็ดๆ ได้เลย”
เอ็มโอบไหล่เพื่อนพลางถือวิสาสะยื่นหน้ามามองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่าย เอ่ยแซ็วอย่างสนุกปาก ก้องภพไม่ตอบอะไรนอกจากส่งยิ้มกว้างให้ หากคืนนี้พี่อาทิตย์มาง้อเขาจริงๆ จะยอมเป็นพ่อบุญทุ่มช่วยออกค่าเช่าเฮลิคอปเตอร์ให้เอ็มพาเมย์ไปฉลองคืนวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้อย่างที่เพื่อนฝันไว้เอง
.
.
.
“มึงจะไม่โทร. หาน้องก้องดูก่อนเหรอว่าอยู่ที่ห้องหรือเปล่า ถ้าเผื่อคืนนี้เขาไปค้างที่ไหน หรือพาใครกลับมาที่ห้อง จะได้ไม่ต้องรอเก้อไง”
เมื่อรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่เคลื่อนมาจอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าหอพักของก้องภพ คำถามที่เหมือนหวังดีแต่ประสงค์ร้ายของน็อต ทำให้คนที่ตัดสินใจดีแล้วว่าจะมาง้อแฟนถึงกับหันขวับไปมองคนถามด้วยสีหน้าเคืองขุ่น แม้จะมั่นใจในตัวคนรักว่าไม่มีทางนอกใจเขา แต่ข้างในลึกๆ แล้วก็อดใจแป้วไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเล่นกล้าโพสต์รูปพร้อมข้อความแบบนั้นทั้งที่รู้ว่าเขาจะต้องได้อ่านมันแน่ๆ แค่นึกภาพว่าหนุ่มรุ่นน้องมีใครคนอื่นที่ไม่ใช่เขานั่งอิงแอบอยู่ข้างกาย ในใจก็ร้อนรุ่มเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอกแล้ว
“เออ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ดี กูจะได้มีเหตุผลพอที่จะตัดใจ”
คำพูดของอาทิตย์มักจะสวนทางกับความคิดและการกระทำอยู่เสมอ ทั้งที่ปากบอกอย่างนั้นแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจเอาเสียเลย น็อตได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่คันปากยิบๆ ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เปลี่ยนใจ แล้วจึงแสร้งทำเป็นออกปากไล่คนซึนลงจากรถเหมือนรำคาญเต็มทน
“เออๆ จะทำอะไรก็แล้วแต่มึงเถอะ ดึกแล้วรีบขึ้นไปเลยไป กูง่วงมากอยากกลับบ้านแล้ว”
คนถูกไล่ลงจากรถกล่าวขอบคุณเพื่อนพลางรีบคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่อีกใบแล้วลงไปยืนหน้าจ๋อย มองรถของเพื่อนที่ค่อยๆ แล่นออกไปด้วยความรู้สึกอ้างว้างราวกับขาดที่พึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปยังห้องหนึ่งซึ่งยังคงปิดไฟมืดสนิท
ป่านนี้เจ้าของห้องคงยังสนุกกับงานเลี้ยงรื่นเริงและไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด แต่อาทิตย์ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะนั่งรออยู่หน้าห้องจนกว่าเจ้าของห้องจะมาเปิดประตูให้แม้ว่าตัวเขาจะมีกุญแจสำรองเก็บไว้ก็ตาม เขาเดินอย่างใจลอยมาจนถึงหน้าลิฟต์ กดปุ่มและยืนกอดกระเป๋ารอพลางมองตัวเลขที่เลื่อนลงมาช้าๆ เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นคนที่เขาตั้งใจมาหาในคืนนี้
ดวงตากลมโตมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าที่อยู่ในชุดกางเกงสแล็กสีเข้มสวมเสื้อเชิ้ตสีครีมปลดกระดุมหลายเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่ง แขนเสื้อทั้งสองข้างถูกพับขึ้นมาจนเกือบถึงข้อศอก ผมสั้นที่เคยปล่อยให้ยาวลงมาปรกหน้าผากถูกเซ็ตให้ตั้งขึ้นไปด้านหลัง ดูหล่อเหลาราวกับนายแบบหนุ่มที่หลุดออกมาจากหน้าปกนิตยสารอย่างไรอย่างนั้น อาทิตย์ยืนนิ่งค้างมองอีกฝ่ายอยู่เป็นนานกับภาพลักษณ์ที่ไม่คุ้นเคยราวกับคนตรงหน้าคือคนละคนกับก้องภพที่เขาเคยรู้จัก
“ก้องภพ เอ่อ...คุณกลับมาแล้วเหรอ”
นานทีเดียวกว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ อาทิตย์เอ่ยคำทักทายพลางสอดส่ายสายตามองหาว่ามีใครอื่นที่เดินมาพร้อมกับคนรักของเขาด้วยหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าก้องภพกลับมาเพียงลำพังก็แอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าจะเจออีกฝ่ายหิ้วใครกลับมาที่ห้องเหมือนอย่างที่น็อตขู่เอาไว้เสียแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งเมินหน้าไปอีกทางคล้ายไม่อยากจะเสวนากับเขา
“งานบายเนียร์เป็นไงบ้าง สนุกไหม ขอโทษนะที่ผมไม่ได้บอกคุณก่อนว่าจะไม่ไปงานนั้นแล้ว”
ทั้งที่ตอนแรกเขารู้สึกหึงหวงจนแทบบ้าเมื่อได้เห็นข้อความของน้องข้าวฟ่างหลานรหัสคนสวยของก้องภพ ไหนจะความขุ่นเคืองจากรูปภาพและข้อความที่เหมือนตัดพ้อของอีกฝ่าย แต่พอมาเจอคนรักทำเมินเฉยใส่กันแบบนี้ ก็ทำให้อาทิตย์ใจเสียไม่น้อยจึงพยายามชวนพูดคุยตามปกติราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ช่างมันเถอะครับ ผมมันไม่ใช่คนสำคัญอยู่แล้ว ที่มานี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวก่อนนะ วันนี้ผมเหนื่อยไม่อยากจะทะเลาะกับใคร”
สีหน้าที่เรียบเฉย คำพูดตัดบทของอีกฝ่ายกับการเดินนำเข้าไปในลิฟต์ก่อนโดยไม่คิดจะเชิญชวนให้ไปด้วยกันที่ห้องเหมือนอย่างทุกที ทำให้อาทิตย์รับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่อีกฝ่ายจงใจทิ้งระยะห่างกับเขา ไม่มีคำเรียกชื่อพี่อาทิตย์เหมือนอย่างเคย แค่นี้หัวใจของเขาก็ปวดแปลบขึ้นมาจนน้ำตารื้น
“เดี๋ยวสิก้องภพ ฟังผมก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยวนัดนะ ไม่ได้ตั้งใจจะพาลใส่คุณด้วย ก็แค่โมโหไอ้เปรมที่เอารูปพวกนั้นมาแชร์น่ะ”
คนมีความผิดติดตัวรีบยื่นกระเป๋าไปขวางประตูลิฟต์เอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะปิดลง แล้วรีบก้าวตามเข้าไปอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าจะถูกทิ้ง
ภายในห้องโดยสารเคลื่อนที่ทรงสี่เหลี่ยมที่ไม่ได้แคบมากนัก แต่กลับทำให้อาทิตย์รู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เมื่ออีกฝ่ายไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา แถมยังไม่ตอบอะไรกลับมาสักคำ กระทั่งลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้น 6 เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก็เป็นอีกครั้งที่หนุ่มรุ่นน้องเดินสาวเท้าก้าวยาวๆ นำไปก่อนโดยไม่คิดจะแยแสคนที่หอบหิ้วสัมภาระรุงรังเดินตามมาติดๆ
“ผมบอกแล้วไงว่าขอโทษ ผมผิดเองที่วางหูใส่คุณแบบนั้น ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของคุณเลยด้วยซ้ำ เออ ผมมันงี่เง่าเองแหละ อย่าโกรธเลยนะก้องภพ”
อาทิตย์ยื่นมือออกไปรั้งแขนคนรักไว้ อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบแล้วหยิบคีย์การ์ดมาแตะเปิดประตูห้อง ก้าวเข้าไปภายในทิ้งให้คนมาง้อยืนรีรออยู่หน้าห้องไม่กล้าตามเข้าไป เจ้าของห้องถอนหายใจยาวก่อนจะหันมาถามอย่างเสียไม่ได้
“จะเข้ามาไหมครับ ถ้าไม่เข้าก็กลับไปเถอะ นี่มันดึกมากแล้วรบกวนคนอื่นเขา”
ไม่ต้องรอให้ถามซ้ำอีกครั้ง อาทิตย์รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องทันทีด้วยกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายปิดประตูใส่หน้าเหมือนที่เขาเคยทำ ภายในห้องของก้องภพยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเคย เขาไล่สายตากวาดมองไปทั่วราวกับว่าจะหาหลักฐานของผู้บุกรุก แต่เหมือนว่าจะไม่มีร่องรอยของใครคนอื่นนอกเหนือไปจากเจ้าของห้อง รูปคู่เอย ตุ๊กตาไม้เอย ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิม ไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน อาทิตย์ก็รู้สึกเบาใจว่าคนรักไม่ได้พาใครขึ้นมาแอบซ่อนไว้ที่ห้องแน่นอน
“คุณจะอาบน้ำเลยหรือเปล่า ถ้ายัง...ผมขอใช้ห้องน้ำก่อนได้ไหม”
“เชิญครับ”
ก้องภพเอ่ยเสียงเรียบ พลางถอดนาฬิกาวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเตียงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยให้ผู้มาเยือนเหมือนเป็นอากาศธาตุที่เจ้าของห้องไม่ได้ใส่ใจถึงการมีตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย อาทิตย์มองท่าทีเหินห่างของอีกฝ่ายพลางกัดริมฝีปากตัวเองพยายามกลั้นน้ำตาและความรู้สึกเจ็บแปลบในอกไว้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้ากับถุงกระดาษใบใหญ่ด้วยท่าทางเซื่องซึมโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของหนุ่มรุ่นน้องมองตามไปอย่างอดห่วงไม่ได้
“ผมต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถ้าพี่อาทิตย์รู้เข้ามีหวังโกรธขึ้นมาจริงๆ แน่”
“เถอะน่า เชื่อพี่ อาทิตย์มันก็ทำปากเก่งไปงั้น ที่จริงมันเป็นพวกแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากๆ โดยเฉพาะคนที่มันรักด้วยแล้ว ยิ่งแคร์มากขึ้นเท่านั้น ก็แค่แกล้งทำเมินใส่นิดหน่อย เดี๋ยวมันก็หาทางง้อเราเองนั่นแหละ”
ก้องภพนึกถึงข้อความที่รุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของคนรักส่งมาหาเมื่อตอนหัวค่ำ พลางนั่งลุ้นจนใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าแผนการที่พวกเขาวางไว้จะสำเร็จหรือไม่ เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ประตูห้องน้ำก็เปิดออกทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงเผลอยืดตัวนั่งหลังตรงวางสีหน้าเรียบเฉยพยายามเก็บสีหน้าอาการดีอกดีใจของตัวเองอย่างเต็มที่
ข้อความที่ได้รับจากน็อตว่ามีใครบางคนกำลังจะไปเซอร์ไพรส์ถึงห้อง ทำให้ก้องภพต้องรีบบึ่งรถกลับจากงานเลี้ยงบายเนียร์ราวกับเหาะมาเพื่อจะพบว่าคนที่เขารอคอยกำลังยืนกอดกระเป๋าอยู่หน้าลิฟต์ด้วยท่าทางหูลู่หางตกเหมือนลูกแมวถูกทิ้ง ใจหนึ่งอยากวิ่งเข้าไปสวมกอดแน่นๆ ให้สมกับความคิดถึงที่ไม่ได้พบเจอไม่ได้พูดคุยมาตั้งหลายวัน แต่ต้องทำเป็นใจแข็งแกล้งเล่นละครตบตาทำเป็นว่ากำลังโกรธเคืองอีกฝ่าย และก็สมดังใจนึกเมื่อได้เห็นคนรักเดินออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่ชวนให้ตกตะลึงยิ่งกว่าตอนที่ได้เห็นภาพถ่ายบนเว็บโซเชียลมีเดียเสียอีก
ชายหนุ่มผิวขาวร่างสูงโปร่งในชุดกี่เพ้าสีแดงสดที่แหวกสูงถึงต้นขาอวดเรียวขาขาวนวลเนียนบนรองเท้าส้นสูงสีดำสนิท ผมที่เคยถูกตัดสั้นแบบชายหนุ่มทั่วไปกลับกลายเป็นเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวสยายเคลียไหล่รับกันดีกับใบหน้าขาวใสที่หวานเกินชายทั่วไปเพียงแค่ริมฝีปากอิ่มนั้นถูกเคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงสดพอๆ กับสีเสื้อ มือทั้งสองกำพัดขนนกสีขาวเอาไว้แน่นอย่างขวยเขินเมื่อถูกจ้องจนตาไม่กะพริบ
“ที่คุณบอกว่าผมยังติดค้างเรื่องรางวัลอยู่ วันนี้ผมขอเอารางวัลนั้นมาชดเชยความผิดที่ทำตัวงี่เง่าใส่คุณ คุณจะพอให้อภัยผมได้ไหมก้องภพ”
น้ำเสียงสั่นๆ เหมือนคนขาดความมั่นใจแต่กลับฟังแล้วหวานกว่าทุกครั้งที่ได้ยิน ทำให้คนที่เก๊กหน้าขรึมมาตลอด แทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ก้องภพคิดว่าตัวเองตาฝาดหรือไม่ก็ฝันไปพลางมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำอย่างที่เขาร้องขอจริงๆ มือใหญ่เผลอจิกเล็บลงบนขาตัวเองอย่างแรงจนหน้านิ่วสบถคำอุทานออกมาด้วยความเจ็บ ทำเอาอาทิตย์ตกใจรีบพุ่งตัวเข้ามาดูใกล้ๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรถึงร้องเสียงหลงแบบนั้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าก้องภพ เจ็บตรงไหนเหรอ ให้ผมดูหน่อย”
ความเป็นห่วงเป็นใยเหมือนเมื่อครั้งที่เขาหกล้มข้อเท้าแพลง ทำให้หนุ่มรุ่นน้องอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้ แต่ละครฉากนี้จะจบง่ายๆ ได้อย่างไรกัน เจ้าตัวจึงแสร้งทำเสียงเข้มบอกคนที่ย่อตัวโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ลอยมาแตะจมูก
“ผมยังไม่หายโกรธนะครับ ถึงพี่อาทิตย์จะใส่ชุดนี้มาง้อก็เถอะ”
รู้อยู่หรอกว่าคนรักคงไม่หายโกรธกันง่ายๆ แค่ยอมพูดด้วย ยอมเรียกชื่อเขาว่าพี่อาทิตย์เหมือนทุกที ก็ทำให้คนที่ยอมลงทุนแต่งหญิงมาง้อแฟนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย เขาพยายามเรียกขวัญกำลังใจตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะใช้ท่าไม้ตายโดยการทำเสียงหวานระดับห้า พร้อมกับย่อตัวลงนั่งบนตักหนุ่มรุ่นน้อง พลางใช้พัดขนนกสีขาวเชยคางอีกฝ่ายที่หันหน้าหนีไปอีกทางให้กลับมาเผชิญหน้ากันตรงๆ
“ผมก็ไม่ได้หวังว่าคุณจะหายโกรธเลยทันทีสักหน่อย แต่ผมแค่อยากให้รางวัลที่คุณทำดีกับผมมาตลอดเท่านั้นเอง ว่าไงครับก้อง อยากจะรับรางวัลของคุณไปแล้วหรือยัง”
ไม่พูดเปล่า อาทิตย์ยังผลักร่างหนาของก้องภพให้นอนราบลงไปกับเตียง แล้วก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่ตรงช่วงเอวของอีกฝ่าย กระโปรงที่ผ่าสูงอยู่แล้วจึงร่นขึ้นไปอีกเผยให้เห็นขอบชั้นในสีดำตัดกับผิวขาวราวน้ำนมของตน จนคนมองเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อสายตาซุกซนนั้นมองตามมือที่ค่อยๆ ลูบไล้ขึ้นมาตามเรียวขาตัวเองก่อนจะแกล้งทำเป็นไต่ขึ้นมาจากหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของเขาและวนไล้อยู่ตรงแผ่นอกกว้าง
“รางวัลที่ผมอยากได้ ไม่ใช่แค่รางวัลธรรมดาๆ เหมือนทุกทีหรอกนะครับ ถ้าผมขออะไรที่มันเด็ดๆ ยิ่งกว่านั้น พี่จะให้ผมได้เหรอครับ ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดก็กลับไปเถอะครับ”
คนที่ถือไพ่เหนือกว่าใช้ข้ออ้างเรื่องรางวัลมาทำให้หนุ่มรุ่นพี่แสดงสีหน้าหนักใจแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาเองจะเป็นฝ่ายตกตะลึงเมื่อไม่คิดว่าคนที่ขี้อายอย่างอาทิตย์จะทำเรื่องแบบนี้ได้
“หึ! คุณก็รู้นี่ก้องภพ ว่าคนอย่างผมพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อผมรับปากแล้วว่าจะให้รางวัลเด็ดๆ กับคุณ ผมก็ต้องทำได้อยู่แล้ว”
คนที่อยู่ด้านบนเอ่ยด้วยสีหน้ามั่นใจอย่างเต็มที่ พลางก้มลงใช้ปากปลดกระดุมเสื้อของคนใต้ร่างจนครบทุกเม็ด ปลายลิ้นชุ่มฉ่ำที่แลบออกมาจากริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีร้อนแรงลากผ่านตั้งแต่ลำคอลงมาจนถึงช่วงเอวทำเอาก้องภพหายใจแทบไม่ทั่วท้อง สองมือของเขาเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นบั้นท้ายนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว แต่กลับถูกพัดขนนกในมืออีกฝ่ายตีเบาๆ แบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะถูกปลดเข็มขัดและพันธนาการทุกชิ้นออกเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่กำลังรุ่มร้อนไปด้วยไฟราคะที่แผดเผาในกายจนแทบมอดไหม้
“พี่อาทิตย์ครับ อื้ออออ ผม...จะไม่ไหวแล้ว”
เสียงครางอย่างทรมานปนความสุขสมของคนรักทำให้ชายหนุ่มในชุดกี่เพ้าที่กำลังปรนเปรออีกฝ่ายด้วยปากเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นอนหลับตาเผยอปากเรียกชื่อเขาซ้ำๆ ไม่หยุดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงไปทำภารกิจต่อจนกระทั่งรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายใกล้จะไปถึงฝั่งในไม่ช้า แล้วจู่ๆ ก็หยุดการกระทำทั้งหมดพลางเลื่อนตัวขึ้นมานอนเท้าคางมองคนที่หายใจหอบ ใบหน้าแดงก่ำชื้นไปด้วยเหงื่อเหมือนคนกำลังถูกทรมานจากการหยุดกิจกรรมแบบครึ่งๆ กลางๆ ด้วยแววตาชั่วร้าย
“ยะ...อย่าเพิ่งหยุดสิครับพี่อาทิตย์ ไม่เอานะ อย่าแกล้งผมแบบนี้”
น้ำเสียงแหบพร่าที่ดังแผ่วมาเหมือนกระซิบ ส่งมาพร้อมสายตาอ้อนวอนของก้องภพ ทำให้อาทิตย์เผลอใจอ่อนยวบแต่ยังไม่ยอมทำตามคำของอีกฝ่ายโดยดี
“แกล้งอะไร ใครแกล้งคุณไม่ทราบ นี่ผมกำลังให้รางวัลคุณอยู่นะก้องภพ รางวัลของคนขี้อ่อยไงล่ะ จำไว้คราวหลังอย่าไปเที่ยวอ่อยใครแบบนั้นอีก เข้าใจไหมครับ”
ก้องภพรู้สึกจั๊กจี้จากสัมผัสของขนนกที่ไล้วนอยู่บนแก้มของเขา ใบหน้าของคนพี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มร้ายที่ทำให้หนุ่มรุ่นน้องรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ขนาดเขาโพสต์แคปชั่นอ่อยเพื่อแกล้งยั่วให้หึงยังถูกรังแก หากรู้ว่าเขารวมหัวกับเพื่อนสนิทของตัวเองแกล้งหลอกเป็นขบวนการด้วยแล้ว จะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรือ คนขี้แกล้งดันมาเจอคนขี้แกล้งกว่าดัดหลังเข้าให้ทำเอาก้องภพอยากจะร้องไห้ ไม่ว่าจะแข่งอะไร เขาก็ไม่เคยชนะคนพี่เลยสักครั้ง เป็นต้องแพ้ทางให้มารร้ายผู้น่ารักคนนี้อยู่เรื่อยไป
“คร้าบบบบ ผมเข้าใจแล้ว จะทำตัวเป็นเด็กดีไม่อ่อยคนอื่นอีกแล้ว แต่ตอนนี้ขอร้องล่ะครับ ช่วยทำให้ผมหายทรมานทีเถอะนะ... นะครับ”
“ดีมากครับเด็กดีของผม ผมจะไม่แกล้งคุณแล้วก็ได้ มาสิ คราวนี้มารับรางวัลของคุณจริงๆ ได้แล้ว”
อาทิตย์อมยิ้มอย่างน่ารัก ก่อนจะล้มตัวลงนอนหงายบนเตียง พลางพลิกตัวอีกฝ่ายให้ขึ้นมาคร่อมร่างเขาแทน วิกผมยาวที่สวมไว้เลื่อนหลุดออกไปแล้ว เหลือแต่เพียงผมสั้นนุ่มมือที่ก้องภพคุ้นเคย เขาเกลี่ยเส้นผมที่ปรกอยู่บนหน้าผากของหนุ่มรุ่นพี่ออก แล้วจุมพิตลงไปอย่างแผ่วเบา โดยที่อีกฝ่ายหลับตาพริ้มอย่างเต็มใจรับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้น
“ผมขอโทษนะก้องภพที่ชอบอารมณ์เสียใส่คุณ ทั้งที่คุณดีกับผมมาตลอดเลย ผมสัญญาว่าต่อไปจะทำตัวให้ดีขึ้น ไม่งี่เง่าแบบนั้นให้คุณต้องน้อยใจอีกแล้ว ผมรักคุณนะก้อง ยกโทษให้ผมนะ”
มือสองข้างที่กอบกุมใบหน้าของเขาไว้ กับคำรับสารภาพผิดที่แสนหวานของอีกฝ่ายทำให้หัวใจก้องภพเต้นระรัวสั่นไหวรุนแรงราวกับย้อนความทรงจำไปถึงครั้งแรกที่เขาได้รับจุมพิตแบบกะทันหันบนสะพานพระรามแปดนั้น เขากุมมืออีกฝ่ายไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงไปทาบทับริมฝีปากของตัวเองลงตรงตำแหน่งเดียวกัน เป็นจูบที่ลึกซึ้งและหวานล้ำติดตราตรึงใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ผมก็รักพี่เหมือนกันครับ จำได้ไหมครับในจดหมายที่เคยเขียนให้ พี่คือดวงตะวันเพียงดวงเดียวในใจผมและมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปครับ”
ภายในห้องที่เย็นฉ่ำด้วยไอจากเครื่องปรับอากาศค่อยๆ อุ่นขึ้นจนเกือบร้อนจากกิจกรรมเข้าจังหวะ รองเท้าส้นสูงสีดำที่ถูกถอดแบบรีบร้อนกระเด็นกระดอนไปอยู่ตรงปลายเตียง เช่นเดียวกับชุดกี่เพ้าสีแดงตัวสวยที่ถูกเหวี่ยงลงไปตอนไหนไม่มีใครรู้ วางกองอยู่เคียงข้างเสื้อเชิ้ตตัวบางกับกางเกงสแล็กผ้าเนื้อดี เหมือนสองร่างที่กำลังกอดเกี่ยวกระหวัดโรมรันบรรเลงบทเพลงแห่งความรักขับขานท่วงทำนองที่ช้าบ้างเร็วบ้างสลับกันไปตามแต่ความปรารถนาอันร้อนแรงของทั้งคู่ จวบจนกระทั่งแสงแรกแห่งรุ่งเช้ามาเยือนจึงได้เวลาเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน
********************************************************
โอ๊ย!! ตายๆ ขอเลือดด่วนค่าาาาา พี่อาทิตย์น่ารักมากกกกกก
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ
งุ้ย รางวัลของพี่อาทิตย์นี่ทั้งเด็ด ทั้งน่ารัก ทั้งเซ็กซี่ งื่ออออ บรรยายพี่อาทิตย์ได้น่าง่ำมาก และก้องภพก็หื่นเช่นเคย หุหุหุ
นี่อยากเห็นพี่อาทิตย์ในชุดกี่เพ้าเลยอ้ะ ง้อยยยยย ผิวขาวผ่องตัดกับสีแดง หูยยย ก้องภพเก่งเนาะที่ไม่รวบเอวโยนขึ้นเตีงตั้งแต่แรกเห็น คิคิคิ
ชอบแขกรับเชิญอ้ะ นึกหน้าน้องกันงอนๆ ออกเลย งุ้ย ><
ปล.คนขี้อ่อยโดนต่อยแบบนี้ คนขี้อ่อยก็ฟินไปสิเนาะ หุหุหุ
เอาอีกๆๆๆเราจาเอาอีกกกกกกกกกก
ส่วนความหื่นของน้องก้องนั้น น่าจะได้เชื้อมาจากฉากทั้งหลายที่หายไปหน่อยๆ นะคะ แต่ก็นับถือความอดทนของน้องที่ไม่จับสาวกี่เพ้ากินตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำเหมือนกัน แต่น้องคงคำนวณมาดีแล้วว่าทำแบบนี้น่าจะได้กำไรกว่า ไม่งั้นมีหวังโดนต่อยจริงๆ แน่เลยค่ะ
แขกรับเชิญอย่างน้องกัน มาเพื่อสนองนี้ดคนแต่งเองค่ะ อยากจะมีโมเม้นต์คริสกันเบาๆ แต่ไปๆ มาๆ จะรบกันเองซะแล้ว
ขอบคุณที่ชอบนะคะ ส่วนรีเควสนางสงกรานต์ ขอคิดพล็อตแป๊บ 5555+
พี่อาทิตย์น่ะนิสัยเสียเพราะก้องภพจริงแหละ ขี้งอน ขี้วีน ขี้โวยวาย โดนแกล้งแบบนี้บ้างก็ดี แต่ถ้าความแตก ก้องภพเอ๊ยยยยยยย อดกินซาละเปานุ่มๆ กันเป็นปีแหง
ภาษาสวยมาก ดีงามมาก มีการเล่นคำ เล่นสำนวนได้อย่างเหมาะสม ทำให้เห็นภาพ(ปลาอ้าปากพะงาบๆ)
พี่อาทิตย์ในชุดกี่เพ้า จะต้องสวยมากแน่ๆ ก้องภพถึงได้ตะลึงขนาดนั้น ว่าแต่ รูปที่เซฟไว้น่ะ ลบแล้วจริงดิ
ส่วนพี่อาทิตย์นี่ เป็นธรรมดาของคนสวย ก็จะมีความเล่นตัว ขี้เหวี่ยงขี้วีนหน่อยๆ แฟนสปอยล์อะค่ะ ทำไงได้ แต่ถ้าแผนแตกขึ้นมาจริงๆ นี่ว่าก้องภพโดนสั่งวิ่งรอบสนาม 100 รอบ แถมอดเตะบอลไปสักเดือนแน่นอน
ขอบคุณสำหรับคำติชมเรื่องภาษาด้วยนะคะ เราค่อนข้างติดการเขียนแบบบรรยายยืดยาว บางทีก็แอบคิดว่าคนอ่านจะเบื่อไหม แต่ถ้ามีแต่บทพูดอย่างเดียว มันก็จะไม่เห็นภาพอะไรเลย ยังไงก็แนะนำมาได้นะคะ จะค่อยๆ ปรับไปทีละนิดค่า
ทำไมช่วงนี้มีแต่คนเขียนให้พี่อาทิตย์(หรือร่างอวตาร)ต้องง้อก้องภพ 555 อันนี้เหมือนร่วมมือกันจับพี่อาทิตย์ใส่พานให้ก้องภพเป็นกระบวนการเลยอะ ชอบๆ 555
สุขสันต์ตรุษจีนย้อนหลังนะคะ
เพื่อนๆ ของก้องภพก็เจ้าเล่ห์กันทุกคน แต่พี่น็อตก็ร่วมมือด้วยเนี่ย เพราะอยากเห็นความน่ารักของเพื่อนล้วนๆ ค่ะ