The Empire -Spirit - นิยาย The Empire -Spirit : Dek-D.com - Writer
×

    The Empire -Spirit

    'วันนั้น' เป็นวันที่ผมเสียใจมากที่สุด 'วันนั้น'เป็นวันที่ผมถูกทรยศ​ 'วันนั้น'เป็นวันที่คนเกือบทุกคนมีความสุข​ 'วันนั้น' เป็นวันที่ผมเริ่มต้นการล้างเเค้น

    ผู้เข้าชมรวม

    194

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    194

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ม.ค. 67 / 22:44 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "ช่วยด้วยย!! "

    "ใครก็ได้! " 

    "กรี๊ดดกด!! "

    "ร้อนๆๆ! "

    "อ๊ากกกก!! "

    เสียงโหยหวนของเหล่าพวกพ้องต่างดังก้องอยู่ในหัวผม​พวกพ้องที่เมื่อวานยังนอนเล่นกันอยู่ปกติ​เเต่ทำไม​ วันนี้ถึง...  

    เหล่านักเวทย์ที่กำลังฆ่าเพื่อนของเรา​หน้าตาช่างคุ้นเคย​ราวกับ..เป็นคนที่รู้จักกันมานาน

    ​"พวกเเกทรยศงั้นเหรอ... "

    นํ้าเสียงเต็มไปด้วยความเเค้นเเต่เเผ่วเบา​ดวงตานั้นไร้ซึ่งนํ้าตาของความเศร้าเเต่เต็มไปด้วยไฟเเห่งความเเค้น

    วันนั้นเป็นคืนเดือนดับ เเต่กลับมีเเสงไฟสว่างไปทั่วป่าลึกทางใต้ของเกาะจนถึงเเม้ว่าจะอยู่ห่างไปเป็นกิโลก็สามารถสังเกตสิ่งผิดปกติได้ 

    วันนั้นเป็นวันที่ประชาชนทั่วโลกต่างสรรเสริญว่าเป็นวันตายของกลุ่มรีค กลุ่มปฏิวัติที่นําโดยเหล่าลูกรึ่งปีศาจเเละหัวหน้าของพวกมัน

    วันนั้น เป็นวันที่กลุ่มสปิริต กองกำลังพิเศษของเมสาร์กเเลกชีวิตของตนเพื่อปกป้องคนทั้งโลกจากการก่อการร้าย 

    วันนั้นทุกอย่างที่เกิดในในป่าลึกเป็นเพียงปริศนาที่ไม่อาจจะมีใครคาดการณ์ได้ ทั้งเพราะกว่าจะรู้ตัวอีกทีไฟก็ดับเเละเป็นเพราะไม่มีมนุษย์คนใดรอดจากสนามนั้น

    เเละในใจกลางของสงครามอันยุ่งเหยิง ชายที่สูญเสียทุกสิ่งได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น

    เขาพุ่งเข้าหานักเวทย์ที่อยู่ใกล้ตนมากสุด ก่อนจะชักดาบที่หนีบไว้ที่เอวออกมาและฟันใส่ศัตรูที่เคยคิดว่าเป็นเพื่อนอย่างไร้ความลังเล

    "ฉึก" 

    ชายหนุ่มดึงคาตานะสีดำออกจากคอของศัตรูอย่างไร้ความประณีก่อนจะถีบร่างนั้นออกไปให้พ้นทาง

    ดาบที่ถืออยู่ในมือนั้นถูกกำอย่างเเน่นราวกับต้องการหาสิ่งพึ่งพิงจากความกลัวเเละความโกรธที่เต็มไปทั่วร่างกาบ

    "มีคนยังไม่ตายเว้ย"

    หลังจากที่เห็นว่าฝั่งตนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เหล่านักเวทย์ก็ค่อยๆเดินเข้ามาผู้ที่ฆ่าเพื่อนของตนอย่างช้าๆ นักรบที่ผ่านการฝึกฝนนับสิบคนล้อมรอบวิสัยทัศน์ของเด็กหนุ่ม​

    แม้ว่าร่างกายจะมีบาดแผลที่เกิดจากการถูกโจมตีมากแค่ไหน แตความโกรธแค้นที่เกินกว่าเด็กอายุ14ปีคนนึงจะรับไหวกกลับทำให้ความเจ็บปวดเล็กน้อยอย่างนั้นหายไปจนหมด

    "ขยะอย่างเเก​ตายมันอยู่ในสนามรบนี่เเหละ"

    'อะไรกันทั้งๆที่ทำอย่างนี้เพื่อพวกเเกเเท้ๆ'​

    "เงินจากการฆ่าพวกเเกครั้งนี้​องค์ราชาคงจะให้เยอะเลยเนอะ"

    "เนอะ" 

    "เนอะ" 

    เหล่าคนทรยศหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน​ภาพนั้นทำให้สติผู้ที่มองอยู่เเทบจะเเตก

    'ทั้งๆที่ตั้งใจจะทำเพื่อประเทศเเท้ๆ'​

    "เฮ้ยหนุ่ม.. ยอมมอบตัวดีกว่า"

    'ทำไม'​

    "เงียบอีก"

    "งั้นฆ่าเเม่งเลย! " 

    'ต้องทำเรื่องอย่างงี้ด้วยวะ'​

    ความคิดต่างๆนานาต่างเข้ามาในหัวของผม

    "ตายซะไอปีศาจ" 

    พริบตานั้น​นักเวทย์คนหนึ่งก็ร่ายคาถาไฟใส่ผม​ลูกบอลเพลิงยักษ์​เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ1เมตรได้พุ่งเข้ามา​ 

    'ศัตรูมีอยู่เกือบหลักร้อยคน ฝ่ายเรานั้นไม่ทราบจำนวน เป็นไปได้ว่าอาจจะตายหมดเเล้ว'

    ผมใช้ดาบคาตานะในมือฟันลูกไฟนั้นทิ้งอย่างง่ายดาย ลูกไฟเเตกกลายเป็นสะเก็ดไฟเล็กๆที่ไม่สามารถสร้างบาดเเผลได้ โดยหัวยังคงคิดวิธีที่จะจัดการศัตรู

    'เอาไงดี เเต่ละคนก็ฝีมือเเต่ละคนก็ระดับนักรบเวทย์ทั้งนั้น ปกติสามารถรับมือได้เต็มที่ก็ประมาณสิบคนนิดๆ'

    นักรบเวททย์คนนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดเล่มเล็กที่ดูไม่เข้ากับรูปร่างที่สูงใหญ่ของเขา 

    'ความเร็วก็ไม่มี เเรงก็ไม่ได้ งั้นก็...'

    ดาบในมือฟันใส่เส้นเลือดใหญ่ตรงคอของอีกฝ่ายอย่างเฉียบคม ศัตรูล้มลงพยายามใช้มือปิดบาดเเผลอย่างทรมาน

    หลังจากที่เห็นการเคลื่อนไหวของผม เหล่าคนที่เหลือก็ดูหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อย พวกเขาคงจะรู้ว่าฝีมือผมไม่เหมือนกับคนที่พวกเค้าฆ่ามา

    มีไอโง่อีกคนพุ่งเข้ามาหลังจากดูเชิงกันสักพัก ดูจากรูปร่างคงจะเป็นผู้หญิง

    ทันทีที่นักเวทย์คนนั้นคิดว่าจะได้ชีวิตของผู้อยู่ตรงหน้า นั้นกับเป็นความคิดสุดท้ายในหัวของเธอ 

    คอของเธอขาดสะบั้นในการฟันเพียงครั้งเดียว 

    ความเมตตาของผมน่ะมันหายไปนานเเล้ว

    ร่างไร้วิญญานนั้นล้มลงพร้อมกับคอที่ขาดออกมา

    'ไม่สิ.. ที่เเล้วมาเราสู้เพราะต้องฆ่าอีกฝ่าย..ครั้งนี้น่ะเเค่ต้องเอาชีวิตรอดไปให้ได้..พร้อมกับ...'

    เลือดของพวกมันอาบเท้าผม

    'เธอคนนี้'

    ​"หนีไป"

    ผู้หญิงผู้ที่อยู่ข้างหลังนั้นอาบอยู่ในกองเลือด ผมที่ถูกสีเลือดย้อมจนไม่รู้ว่าเดิมสีอะไร​​ตาที่หมดความหวังของเธอทำให้ผมถึงกับชะงัก​อย่างตกใจ นํ้าตาของเธอไหลรินออกมา​ก่อนจะตกลงพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกพ้องที่ตายไป

    "ฉันทิ้งเธอไปไม่ได้หรอก​"

    ผมกล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกลัว​เเต่ถึงกระนั้นก็รวบรวมความกล้าที่มีหันประจันหน้ากับศัตรู

    "นายน่ะ...สู้ทั้งหมดไม่ไหวหรอกนะ"

    ผมก้มหยิบดาบอีกเล่มที่อยู่ในกองเลือดออกมา​ดาบคาตานะเล่มนั้นปกติมีสีขาว​เเต่ในตอนนี้กลับเป็นสีเเดงจากเลือด

    ผู้ที่นอนอยู่นั้นยังคงไม่ห่วงตัวเอง

    "นะ.. หนีไป... " 

    "ไม่" 

    "หนีไป"

    "ก็บอกว่าไม่ไง​ อย่ามาพูดโง่ๆนะ"

    "เราน่ะ..ต้องรอดไปด้วยกัน"

    ผมกล่าวด้วยเสียงเบาจนเธอคงไม่ได้ยิน ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากให้เธอได้ยิน เพียงเเต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าสามารถรักษาคำพูดได้หรือไม่ 

    หลังจากหยั่งเชิงอยู่นาน คนจำนวนนับสิบพร้อมอาวุธครบมือพุ่งเข้ามาโจมตีผม ไม่มีทางที่จะมีมนุษย์คนไหนรอดจากการโจมตีนั้นได้เเน่ ภาพทั้งหมดตัดไป

    "อึกกกก"

    เรย์ตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึก​เค้าหันไปดูนาฬิกาที่กำลังชี้ไปที่เลขห้า​

    "ฝันอีกเเล้วเหรอวะเนี่ย"

    เรย์พูดพร้อมบิดขี้เกียจหนึ่งที​

    เรย์ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงต่อโดยพยายามลืมฝันร้ายที่เกาะกินจิตใจเขามาตลอด

    ​"ผ่านมา3ปีเเล้วสินะ..จากวันนั้น"

    ดวงตาสีดำนั้นดับลง

     

    .

    .

    .

       

     

     

     

     

     

     

     

    TB

     

     


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น