เงาในกระจก
เงาในกระจก เป็นเรื่องราวของคน 3 คนที่มีความสัมพันธ์กันทางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่แง่คิดที่ได้แตกต่างกันตามสถานภาพของแต่ละคน
ผู้เข้าชมรวม
156
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"เงาในกระจก" เป็นงานทีสีทของผมเองครับ พอดีว่าผมต้องทำเป็นบทภาพยนตร์ บทสคริป ที่จะเอาไปทำเป็นอนิเมชั่น บอกตามตรงว่าผมมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนน้อยมาก ผมเลยต้องการให้เพื่อนๆที่อยู่ในเวปนี้ช่วยวิจารณ์ แนะนำกันด้วยครับ
อันที่ลงมานี้เป็นบทแบบหยาบๆๆๆมากเลยครับแต่ว่าก็จบเรื่องอยู่ ซึ่งบทหยาบๆๆๆนี้ผมกะลังจะพยายามเอาไปพัฒนาเป็นสคริป และกลายเป็นสตอรี่บอร์ด ยังไงก็ขอรบกวนช่วย วิจารณ์กันด้วยครับ!! ขอร้องจริงๆ ผมไม่คิดว่างานผมดี แต่ก็อยากให้มันดีครับ!!
บทที่ 1
ชายผู้ที่เข้าดื่มกาแฟในร้านแล้วบังเอิญเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่แตะตาเขาซึ่งก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งในร้าน เขาอยากจะเข้าไปทักเธอ แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าไปหาเธอ จึงทำได้แค่นั่งเฝ้าดูเธออยู่ห่างๆ เขาพยายามเรียนรู้ในตัวของเธอจากการสังเกตการณ์ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว เขาคาดเดาว่า อายุของเธอน่าจะอยู่ที่ 27-30 ปี ดูสง่าผ่าเผยในชุดที่ดูเข้ากับเธอเป็นพิเศษ เธอดูเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง บุคลิคและท่าทางของเธอดูเป็นธรรมชาติปราศจากการเสรแสร้ง เธอใส่แว่นสีดำสนิทปกปิดดวงตาของเธอจากคนอื่น แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอนอกจากความงามภายนอก นั่นก็คือ บรรยากาศของความสงบ ความเหงา ที่อยู่รอบๆตัวเธอ แต่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้เขาไม่กล้าเข้าไปหาเธอ
บุหรี่ที่เธอสูบกำลังจะหมดมวน เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขาหากเขาไม่ลุกไปหาเธอตอนนี้เขาอาจจะไม่เจอเธออีกก็ได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับตัวเธอ เขาต้องไปหาเธอก่อนที่เธอจะลุกออกไป เมื่อคิดได้ เขาก็พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดของตัวเอง หาเหตุผลต่างๆมารองรับความกล้าของตนเอง และในที่สุดเขาก็สามารถที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตนเองได้และเริ่มเดินไปที่โต๊ะของเธอ ในหัวของเขาคิดถึงแต่คำพูดแรกที่จะพูดกับเธอวกไปวนมา ทบทวนอยู่ในสมอง สายตาที่มุ่งมั่นไปที่โต๊ะของเธอ จนทำให้เขามองไม่เห็นหญิงสาวที่เดินยกถาดกาแฟตรงเข้ามาทางของเขา และทั้งคู่ก็เดินเข้าไปชนกันอย่างแรง เสียงของถ้วยกาแฟดังพอที่จะเรียกความสนใจคนทั้งร้านได้ เขารีบก้มลงไปช่วยเธอเก็บเศษแก้วที่กระจายอยู่บนพื้นด้วยความเขินอาย ในใจของเขากำลังกลัวว่าผู้หญิงที่เขาสนใจจะเห็นความซุ่มซ่ามของเขา ลืมแม้กระทั่งมารยาทที่จะกล่าวคำขอโทษผู้หญิงที่เขาเดินชน แต่ก็ไม่ลืมเรื่องที่จะเข้าไปทักผู้หญิงที่นั่งอยู้หน้าร้าน แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆที่เขาละสายตาจากเธอระหว่างที่เก็บเศษแก้วพอหันไปทางเธออีกที เธอก็ลุกออกไปจากที่นั่งของเธอแล้วเหลือเพียงแต่แว่นตาสีดำสนิท กับเศษบุหรี่ไม่กี่ตัวที่เขี่ยทิ้งไว้ในที่เขี่ยบุหรี่เท่านั้น
บทที่ 2
เธอรับช่วงกิจการร้านกาแฟต่อจากพ่อของเธอมาตั้งแต่เธอเรียนจบการศึกษามัธยมปลาย หากพ่อของเธอไม่ด่วนจากไปอย่างกระทันหันเสียก่อน ตอนนี้เธอคงได้เรียนต่อในมหาลัยและคงได้รับใบปริญญาไปแล้ว แม้ร้านกาแฟของพ่อเธอจะมีชื่อเสียงแต่ฐานะการเงินของครอบครัวเธอนั้นอยู่ในระดับกลางๆและร้านกาแฟก็เป็นเพียงร้านเล็กๆเท่านั้น และก่อนที่พ่อเธอจะเสียไปไม่กี่ปี พ่อของเธอก็พึ่งจะใช้เงินก้อนใหญ่ในการปรับปรุงร้านขนานใหญ่จากที่ขายกาแฟโบราณอย่างเดียวมาเป็นขายกาแฟสดด้วย เธออยู่ด้วยกับพ่อตามลำพัง 2 คนในอดีต ส่วนปัจจุบัน เธออยู่คนเดียวโดยที่ยังไม่คิดจะหาใครหรือจ้างลูกมือมาช่วย เจ้าของกิจการที่อายุเพียง 22 ปีอาจจะดูอ่อนวัยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเธอที่ต้องคอยช่วยงานพ่ออยู่ตลอดเวลาบวกกับความชอบในการบริหารร้านกาแฟอยู่แล้ว ทำให้เธอมีประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟและการงานในร้านมากเป็นพิเศษ แม้จะไม่ได้เรียนมหาลัยแต่การได้ทำงานในร้านทำให้เธอไม่ได้รู้สึกต่ำต้อยไปกว่าคนที่ใบปริญญาสักนิดเดียว ลูกค้าประจำหลายคนที่ไว้ใจในฝีมือการชงกาแฟของเธอ มีลูกค้าบางรายที่ชอบบรรยากาศการตกแต่งภายในร้านที่พ่อเธอประดับไว้ด้วยของเก่าหลายๆชิ้นและการตกแต่งเสริมของเธอในช่วงหลังๆ ของเก่าในร้านที่พ่อซื้อมามีหลายชิ้นที่มีราคาสูงและมีส่วนที่ทำให้เงินเก็บในครอบครัวมีไม่เยอะแต่เธอก็ไม่เคยคิดจะขายแม้แต่ชิ้นเดียว เธอรักรูปแบบของร้านที่พ่องเธอได้วางเอาไว้ และรักในการทำกิจการร้านกาแฟ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีเรื่องที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน อาจเป็นความคิดในอุดมคติของเธอที่ร้านกาแฟคือที่ในการพักหย่อนใจ ดื่มด่ำไปกับรสชาตของกาแฟ ชื่นชมกับบรรยากาศภายในร้าน แต่สิ่งที่เธอเห็นส่วนใหญ่ในตัวคนที่เข้ามาในร้านของเธอ คือคนที่เข้ามาเพื่อที่จะให้คนอื่นเห็นความมีรสนิยมของตนเอง น้อยคนที่จะรู้คุณค่าที่มากับราคาของกาแฟที่เธอปรุง น้อยคนที่จะเข้าถึงบรรยากาศของร้าน บางคนเข้ามานั่งวางมาดในร้านปล่อยกาแฟที่ต้องกินร้อนๆนั้นเย็นชืด บางคนคุยโทรศัพท์เสียงดังประกาศเรื่องราวอลังการของตนเองให้คนในร้านได้ยิน คนบางกลุ่มก็นั่งคุยกันเสียงถึงเรื่องราวต่างๆที่อยากจะโอ้อวดทางอ้อมให้โต๊ะข้างได้ยิน จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งที่เข้ามาในร้านของเธอ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษในสายตาของเธอในครั้งแรกที่เธอเห็น ที่ๆเขานั่งอยู่นั้นอยู่ใกล้กับเคาเตอร์บาร์ของร้าน ทำให้ตำแหน่งของเขาอยู่ในขอบเขตสายตาของเธออยู่เกือบจะตลอดเวลา เขาแต่งตัวด้วยชุดเรียบง่ายไม่ฟู่ฟ่าหวือหวาเหมือนลูกค้าบางรายที่แต่งตัวจนเกินพอดี ดูเหมือนกำลังมีสมาธิกับอะไรบางอย่าง หรืออาจจะกำลังคิดอะไรอยู่ บุคลิคของเขาค่อยดึงดูดความสนใจของเธอไปทีละน้อย จนทำให้เธอเผลอนั่งมองเขาเป็นเวลานาน จนเธอรู้สึกตัวได้เองว่าเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่นานมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่ามีคนจ้องมองเขาอยู่ เธอเองก็เริ่มอยากที่จะรู้จักกับเขาให้มากขึ้นแต่เธอไม่ใช่คนที่จะไปสารภาพใครอย่างตรงไปตรงมา ว่าเธออยากจะคบหาด้วย คราวนี้เธอพยายามตั้งใจมองเขาเพื่อให้รู้สึกตัวแต่ก็ไม่ได้ผล เธอเลยลองทำอไรบางอย่างที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วยการเขียนข้อความในใจของเธอลงไปบนกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กๆแล้วแนบลงกับถ้วยกาแฟถ้วยพิเศษที่เขาไม่ได้สั่ง เธอนำใส่ถาดและเดินไปที่โต๊ะที่เขานั่งอยู่ ยิ่ง เธอเข้าใกล้โต๊ะของเขามากเท่าไรเธอก็ยิ่งมีความเขินมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเธอรู้สึกเขินมากเท่าไหร่เธอก็พยายามที่จะละสายตาจากโต๊ะที่เขานั่งอยู่ให้มากขึ้นเท่านั้น เธอไม่ทันสั่งเกตว่าชายคนนั้นลุกขึ้นจากที่นั่งของเขาและเดินมาชนเธอเข้าอย่างจัง น้ำกาแฟหกออกจากแก้วรดลงบนกระดาษข้อความของเธอ สีดำเข้มของกาแฟกลบตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนกระดาษจนอ่านไม่ออก เขารีบก้มลงไปเก็บเศษแก้วที่กระจายอยู่บนพื้น เธอเองเมื่อหายตกใจก็รีบก้มลงไปช่วยเก็บด้วยพร้อมกับกล่าวคำขอโทษตามมารยาทของเจ้าของร้าน เธอสังเกตว่ามือของเขาหยุดไปชั่วขณะเธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความสงสัย เธอเห็นเขากำลังหันหน้าไปทางทิศทางเดิมที่เขาเคยมอง เธอจึงรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้นั่งเหม่อลอยแต่กำลังจ้องใครบางคนอยู่ เธอหันหน้าไปทางทิศทางเดียวกับเขาแล้วก็เห็นโต๊ะว่างตัวหนึ่งนอกร้านมีแก้วกาแฟที่เคยมีน้ำกาแฟตั้งอยู่ กับเศษก้นบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่และแว่นตาสีดำสนิทที่เหมือนเจ้าของจะลืมทิ้งไว้ เธอจำเจ้าของแว่นคนนี้ได้ ถึงแม้จะไม่รู้จักอย่างเป็นทางการแต่ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเธอ และก็รู้ตัวแล้วว่าเธอกำลังหลงคนที่กำลังหลงคนอื่นอยู่ หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อยเธอก็เดินกลับไปที่เคาเตอร์บาร์ด้วยความผิดหวัง แต่เธอก็ยังนั่งจ้องมองชายคนนั้นอยู่ คราวนี้เขามองสังเกตเห็นว่าเธอมองจึงหันกลับไปยิ้มให้เล็กน้อยแต่ไม่ได้แสดงความสนใจอะไรเป็นพิเศษ เธอเห็นเขายิ้มให้ก็ยิ้มกลับเพียงเล็กน้อยแล้วก็หลบหน้าเข้าไปด้วยความอาย เธอรู้ว่ายิ้มของเขาไม่ใช่การตอบรับข้อความในใจของเธอ แต่เธอก็ยังอยากให้เขามองเธอในแบบที่เธอมองเขาบ้าง ในแบบที่เขามองลูกค้าประจำของเธอ
บทที่ 3 เงาในกระจก
ผลงานอื่นๆ ของ นิ้วสั้น ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นิ้วสั้น
ความคิดเห็น