ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SOS สำนักงานนักสืบเอสโอเอส จำกัด (มหาชน)

    ลำดับตอนที่ #3 : ชื่อของข้าคือ...!!

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 54


    โครม !!!

    อ๊ากกกกก !” เสียงโวยวายน่ารำคาญดังขึ้นหลังจากเสียงตกของวัตถุมีมวล มีความเร่งหล่นตามแรงโน้มถ่วง ข้าลืมตาตื่นจากนิทรารมณ์ ลูบก้นอันบอบบางที่น่าสงสารจากการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

    ข้าเหลือบสายตาที่เต็มไปด้วยขี้ตาไปรอบๆ ก่อนที่จะหยุดลงที่...

    โป้ก !

    ค้อนไร้ที่มาทุบลงบนหัวข้า ก่อเกิดลูกชิ้นหนึ่งลูกบนศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเรือนผมสีเงินอันงดงามของข้า หากทว่าเรือนผมที่งดงามของข้านั้นเอง...

    ไอ้หัวหงอก ! กว่าจะตื่นได้ทำเอาข้าต้องทดสอบสมรรถภาพตีนของข้า

    ข้ามองชายวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังยืนหน้าถมึงทึงราวกับอสูรกายจำแลงก็ไม่ปาน เรือนผมสีนิลบริสุทธิ์ นัยน์ตาสีทัมทิบฉายรังสีอำมหิต โดยภาพรวมหน้าตาใช้ได้แต่ก็สู้ข้าไม่ซะหรอก

    โป้ก !

    ลูกชิ้นลูกที่สองตามมาติด ๆ

    มองอะไรของเจ้ากัน ! รีบสะบัดตูดของเจ้าไปเตรียมตัวออกเดินทางได้แล้ว ถ้าเกิดยังไม่รีบอีกจะไปไม่ทัน ถ้าตะวันมันจะไม่ทิ่มตูดเจ้าจนยับเยิน ข้านี่แหละโว้ย ! จะทำให้ก้นของเจ้ามีรอยอันน่าประทับใจเป็นรอยตีนข้า !” ชายวัยกลางคนขี้บ่นหิ้วปีกข้าก่อนจะถีบก้นอันแสนระบมที่น่าสงสารเตะข้าเข้าห้องส้วม

    โครม !!!

    ซู่ !

    อันเป็นเหตุให้ใบหน้าอันงดงามราวประติมากรรมชั้นยอดของข้าทิ่มลงไปในโถส้วม  รสชาติน้ำในปากทำให้ข้าสปริงตัวออกมาก่อนที่จะหันไปพ่นน้ำใส่บุรุษผู้ซึ่งถีบข้าจนหน้ากระเด็นยัดส้วม

              แล้วเสียงตึงตังก็ตามหลอกหลอนข้าในความฝันตลอดทั้งวันของวันนั้นราวกับเงาตามตัว จรวดไม่มีหูรูด ธนูปักอกทิ่มแทงความสุขของข้าจนมอดมลายสลายไปกับสายลม

     

              ท่านผู้มาสมัครทุกคนโปรดทราบขณะนี้กรุณาเข้าแถวรับใบสมัครโรงเรียนโกลด์เดิลเรย์อาร์เมอร์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ขอบคุณค่ะ

              ตอนนี้สองตากำลังมองสอดส่องไอ้สถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด (?) มากหน้าหลายตาที่เดินกันขวักไขว้เบียดซ้ายเบียดขวาจนร่างกายที่แสนบอบบางของข้าล้มลงส่งผลให้ก้นที่ระบมอยู่แล้วทิ่มพื้น

              ข้าทั้งเจ็บ ทั้งอายจนน้ำตาแทบเล็ด มองไอ้สัตว์ประหลาดหัวแดงหน้าคล้ายเทพบุตรแต่หล่อน้อยกว่าข้าที่กำลังยืนมองข้า สีหน้าประมาณสมเพชสุดๆ ! ในสายตาของข้า

              มีอะไรให้ช่วยไหม

              ไอ้เบื๊อก ! ข้าตั้งนามอันไพเราะนี้ให้แก่สัตว์ประหลาดตรงหน้ายื่นมือส่งมาตรงหน้าข้าที่กำลังคลำก้นน้อยๆ ที่น่าสงสาร

              โว้ย ! เมื่อเช้าข้าก็โดนตาลุงขี้บ่นถีบ แล้วนี่ ! ก็มาที่ก้นข้าอีกแล้ว โอ๊ย ! พวกเจ้าติดใจอะไรกับก้นของข้า

              บอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่ก้นสาธารณะโว้ย !

              มันคือส่วนเล็กๆ ที่น่าทะนุถนอมในร่างกายของข้า !!

              มะ...

              ไอ้เบื๊อกไม่ยอมให้ข้าพูดจบก็ดึงแขนอันบอบบางของข้าขึ้น ข้ากลับมายืนปัดก้นแล้วหลังจากที่ลงไปนั่งให้ก้นคลุกฝุ่นอยู่นานสองนาน

              ไม่เป็นไรใช่ไหม สาวน้อย?

              ขวับ !

              ข้าคิดว่าข้าหันกลับไปมองเจ้าตัวประหลาดนี้ด้วยความเร็วแสง แคะขี้หูที่วันนี้ (?) ดูจะเยอะผิดปกติ (?) ออกก่อนที่จะเอียงคอด้วยสีหน้าไร้เดียงสาเท่าที่ข้าทำได้

              นี่เจ้าเรียกข้าเรอะ !? ข้าได้ยินเสียงตัวข้าเองพูดอย่างนั้นกับไอ้เบื๊อกที่กำลังยิ้มแย้มจนเห็นเขี้ยวสีขาววาววับสะท้อนเข้าตาข้า

              “เป็นอะไรหรือสาวน้อย?”

              ไอ้เบื๊อกทำหน้างุนงงจนข้าแทบทึ้งผมสีเงินอันงดงามของข้า

              “ข้าไม่ใช่สาวน้อยโว้ย ! ไอ้เบื๊อก !” ข้าในเวลานี้กำลังทึ้งหัวตัวเอง แล้วยิ่งกระทืบเท้าเร่าๆ อย่างขัดใจเมื่อไอ้เบื๊อกทำหน้ามึนใส่ข้า

              “เจ้าไม่ใช่สาวน้อย?”

              “โว้ย ! บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไงโว้ย ! ข้าน่ะแมนแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่สิ่งใดเจือปน ! นี่เจ้าจะให้ข้าโชว์ไอ้นั่นไอ้นี้ให้เจ้าด้วยด้วยรึไงห๊ะ!”

              ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

              ข้าคิดว่าตอนนี้ข้ากำลังประสบเคราะห์ซัดกรรมซ้อนอันใดไม่ทราบ ข้ามาที่นี้เพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่สำคัญที่ช่างไม่เหมาะสำหรับสุดหล่อคนนี้ที่จะเสี่ยง แล้วข้าก็ต้องมาเจอกับคำว่าเคราะห์กรรม ไอ้เบื๊อกตรงหน้าข้าก็หาใช่ผู้เป็นคน มือสั่นระริกอย่างกับเป็นโรคขาดสารอาหารแล้วกำลังชักกระตุก หัวเราะปากกว้างอย่างไร้มาด แต่ทำไมรังสีรอบๆ ถึงแสบตาล่ะวะ !

              อย่ามาแย่งซีนของข้าโว้ย !

              ข้าชักจะถูกชะตากับเจ้าแล้ว

              ช้ามองไอ้เบื๊อกที่ยื้มน้อยๆ พร้อมด้วยออร่าแผ่กระจายอยู่รอบๆ อย่างพ่อพระที่แสนดี จิตใจเมตตาอารี แต่โทษทีเถอะ แต่ที่ข้าอยากจะบอกก็คือข้าแสบตา !

              หวังว่าคงจะมีโอกาสได้พบกันอีกในโอกาสหน้า

              อย่า...อย่าเลย ข้าไม่อยากจะอารมณ์เสียมากไปกว่านี้

              พูดจบไอ้เบื๊อกก็เดินหายไปจากบริเวณที่ข้ายืนอยู่ เสียงประกาศใสๆ ที่ข้าฟังแล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นดังขึ้นที่ลำโพงขยายเสียง ข้าเดินตามเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหลายที่ดูเหมือนจะรีบเร่งตามเสียงประกาศใสๆ นั้นที่บอกว่า...

              ซุบซิบๆๆ ซุบๆๆ ซิบๆๆ

              อะไรนะ?

              ข้าเอียงหูมองลำโพงยักษ์ที่ฟังไม่ได้ศัพท์

              กระซุบ กระซิบ ซุบซิบๆๆๆ

              อาคารใหญ่โตมหารอยู่ตรงหน้า แต่ข้าสงสัยว่าในเมื่อมีอาคารที่สูงใหญ่ แต่ทำไมไม่มีงบประมาณซื้อลำโพงที่ดีกว่านี้ หรือว่าเอางบไปทุ่มให้กับอาคารหมด?

              ช่างเถอะนั้นไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะต้องสนใจ แล้วสิ่งที่ข้าต้องสนใจมันคืออะไร?

             

              เจ้าชื่ออะไร

              เฮอโมโฮเมสเฟตัส

              เจ้าชื่ออะไรนะ

              เฮอโมโฮเมสเฟตัส

              อายุเท่าไหร่

              สิบห้า

              ภูมิลำเนาเดิม?

              ข้าใช้ชีวิตเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่ง

              ต่อไปจะเป็นคำถามง่ายๆ ขอให้เจ้าตอบตามความเป็นจริงบุรุษวัยกลางคนตรงหน้าข้าขยับแว่นตา นัยน์ตาสีแดงจ้องตรงมาที่ข้าอย่างแน่วแน่จนข้ารู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วกาย ในห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีเพียงเสียงแอร์ และเสียงลมหายใจเข้าออก

              ... ข้ากลืนน้ำลายเอื๊อกนั่งเรียบร้อยรอคอย

              พ่อแม่เจ้าชื่ออะไร?

              ห๊ะ?

              พ่อแม่เจ้าชื่ออะไร?บุรุษมาดภูมิฐานตรงหน้าข้าถามสีหน้าเคร่งเครียดจนข้าไม่กล้าหัวเราะเสียงดังด้วยใจหดหู่ ข้าถอนหายใจ

              ไม่มี...ข้าไม่มี !”

              ข้าได้ยินเสียงถอนหายใจของบุรุษตรงหน้ากับเสียงสมเพชเวทนาในหัว

              เดินตรงไปแล้วจะเจอทางออกขอให้โชคดี พูดจบก็มีแสงสว่างออร่าสีขาวบาดตา ข้าหรี่ตามองแสงสว่างตรงหน้าที่ค่อยๆ จางหายไปเผยให้เห็นทางเดินมืด...ชื้น

              ข้าเดินตรงไปตามที่บุรุษในชุดสูททักซิโด้บอก ตามทางมีเพียงแสงจากคบเพลิงข้างผนังเท่านั้นที่ให้แสงสว่างแก่ดวงตาของข้า ข้าหยุดเท้าลงที่หน้าประตูไม้แกะสลักเก่าๆ บานหนึ่ง ยังไม่ทันที่ข้าจะสัมผัสกับบานประตูเหมือนมีพลังอำนาจบางอย่างได้ผลักประตูเปิดกว้างให้ข้า

              แอ๊ด...

    เผยหลังประตูที่ข้าเห็นเพียงสีขาว แล้วในไม่นานข้าก็เห็น...

    อ๊ากกกกกก ! แสบตา !

    ข้าหรี่ตามองสีแดง สีเขียว สีเหลือง สีม่วง สีน้ำเงิน ที่ดูๆ ไปแล้วก็จะเห็นสีชมพูด้วย ผลึกแก้วหลากสีกำลังส่งแสงระยิบระยับสะท้อนเข้าตาข้า ข้าได้แต่นึกสงสารลูกตาของข้าที่ต้องมารับศึกหนักนี้

    เจอกันอีกแล้วนะ

    โอ๋?ผมสีแดงแบบนี้...

    ไอ้เบื๊อก !

    เห็นแล้วใช่ไหม? ไอ้เบื๊อกพูดพลางมองผลึกแก้วสีสันฉูดฉาดสายตา จนข้าต้องมองตามจึงเห็นว่าตรงกลางของผลึกแก้วเป็นกุญแจสีทอง...

    ลอยกลางอากาศ !

    ข้าเบิกตากลมๆ บ๊องแบ๊วที่น่ารักของข้ามองกุญแจลอยฟ้า เสียงของไอ้เบื๊อกดังนาบเนิบสะท้อนอยู่ในรูหูข้า กุญแจ?

    เอาล่ะๆ ครบกันซะที ก่อนที่ไอ้เบื๊อกผมสีแดงจะพูดอะไรสักอย่างกับข้า ไอ้เจ้าอ้วนในชุดสีขาวทั้งชุดผมล้านก็เดินมาหยุดยืนตรงกลางห้องที่ข้าเพิ่งสังเกตว่ายังมีเจ้าตัวประหลาดอีกมากมาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครหล่อสู้ข้าได้ !

    ง่ายๆ หาไอ้ผลึกแก้วเฮงซวยนี่จะได้ผลึกละสิบแต้ม ส่วนกุญแจทองนั่น...พันแต้ม ! ไอ้เจ้าอ้วนที่ข้าไม่ทราบนามทำอะไรสักอย่างกับผลึกแก้ว ข้าเห็นมันค่อยๆ เลือนรางหายไปราวกับสายหมอกยามเช้า เหลือเพียงกุญแจสีทองโดดเด่นเพียงดอกเดียว

    ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งที่โดดเด่นข้าคิดว่าน่าจะเป็นศีรษะที่สะท้อนแสงออร่าเข้าตาข้าของไอ้เจ้าอ้วนมากกว่า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×