ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SOS สำนักงานนักสืบเอสโอเอส จำกัด (มหาชน)

    ลำดับตอนที่ #2 : มนุษย์ผู้หลงตัวเอง

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 53


     

    กาลครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้...รู้แต่ว่า

    ...

    ข้ากำลังล่องลอยโดยใช้ปีก... ปีกสีเทาของข้าในดินแดนทุ่งหญ้า แสงแดดร้อนระอุของวันทำให้ข้ารู้สึกร้อนแทบตับแตก เหงื่อข้าไหลออกมาไม่ขาดสายราวกับแม่น้ำตกแห่งแดนบูรพา

              ซึ่ง...ข้าก็ไม่รู้จักมันเหมือนกัน ไอ้น้ำตกแห่งแดนบูรพาอะไรนั้นหนะ

              แค่พูดให้มันดูหรูหราเหมาะสมกับข้าที่กำลังร้อนตับแตก ลมที่พัดปะทะหน้าของข้าไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกร้อนแทบโลกจะแตกหายไป แต่กลับทำให้ข้ารู้สึกรำคาญกับสายลมที่เหมือนกำลังตบหน้าผู้ชายที่หล่อที่สุดในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งมันก็มีข้าอยู่แค่คนเดียวในดินแดนแห่งนี้

              ข้าลอยราวสัมภเวสีไปเรื่อยๆ จนร่อนลงที่ใต้ต้นอินทผลัม ลมสายหนึ่งพัดพาทรายปะทะหน้าข้าจนรู้สึกแสบร้อน ข้าสะบัดหน้าเพื่อให้ทรายบ้าหลุดออกไป แต่สายลมไอ้ยิ่งกว่าบ้าก็หอบทรายบ้านี่มาอีกจนข้าสุดแสนจะรำคาญ

              โว้ย! ภาวะโลกร้อน ร้อนจะตับแตกข้าบ่นพึมพำในใจ

              ข้าสะบัดหน้าจนแทบจะหลุดจากคอจนเหลือบไปเห็นโอเอซิสบ่อย่อมๆ ข้าเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไปล้างหน้าเพื่อเอาทรายบ้าๆ นี่เอาไปจากชีวิตอันงดงามของข้า

              สายน้ำเย็นช่ำช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนของใบหน้าข้า เงาตรงหน้าในน้ำข้าคือผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาราวกับประติมากรรมชั้นยอด นัยน์ตาสีไพลินราวกับท้องฟ้ายามเช้า เรือนผมสีเงินสะท้อนตั้งมุมเท่าไหร่ที่ข้าไม่รู้กับแสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุจนทำให้ผิวที่บอบบางของข้าแทบลอก

              คิ้วโก่งดังคันศร จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกำลังฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาวราวกับมุกทั่วปากทำให้เห็นลักยิ้มบุ๋มลงไปทั้งสองข้างแก้ม

              ซ่า

              เสียงน้ำกระเซ็นดังขึ้นขัดขวางข้าที่กำลังบรรยายพรรณนาถึงผู้ชายตรงหน้าข้าในน้ำ ข้ามุ่นคิ้วด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่ครั้งหนึ่งในรอบครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบจะได้บรรยายพรรณนาถึงความหล่อของข้า

              มองมาที่ข้า มองมาที่ข้า มองมาที่ข้า...

    เสียงแหบพร่าที่ข้าจำแนกแจกแจงไม่ได้ว่าเป็นเพศอะไรดังขึ้น ข้าละสายตาจากประติมากรรมชั้นยอดตรงหน้าข้ามาสนใจต้นเสียง แล้วข้าก็อยู่ในห้วงภวังค์...

    หญิงสาวใบหน้ารูปไข่รับกับเรือนผมสีทอง นัยน์ตาสีอำพันกระพริบตาครั้งราวกับกลั้นหยดน้ำผึ้งออกมา จมูกโด่งรั้นเชิด ริมฝีปากแดงระเรื่อ เศษผ้าน้อยชิ้นแนบเรือนร่างอันเต็มไปด้วยส่วนเว้าโค้งที่สวยงามและ...

    เต็มไม้เต็มมือดี !

    แล้วข้าก็อยู่ใต้มนต์สะกดของนาง...

    นางที่ข้าไม่ทราบนามว่ายน้ำมาหยุดตรงหน้าข้า ข้าไม่อาจะละสายตาได้จากนาง สายลมหอบทรายจำนวนนับไม่ถ้วนพัดปะทะหน้าข้าให้รู้สึกแสบร้อน หากข้าก็ไม่อาจละสายตาได้จากนาง

    ริมฝีปากแดงระเรื่อตรงหน้าใกล้แค่เอื้อมขยับอ้าแล้วหุบ หุบแล้วอ้า ข้ามองริมฝีปากแดงะเรื่อหุบแล้วอ้า อ้าแล้วหุบราวคนโง่งม มือเรียวบางขาวผ่องของนางเอื้อมมือมาใกล้ใบหน้าประติมากรรมของข้า แล้ว...มาหยุดตรงที่แก้มของข้า สัมผัสเพียงแผ่วเบาหากทำให้ขนกายของข้าพากันลุกชัน หูของข้าได้ยินเสียงแหบแห้งขากที่ไกลแสนไกล

    มองมาที่ข้า มองมาที่ข้า เห็นความต่างของชายชาตรีภายในเจ็ดวินาที...

    กาลครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้...ข้ามองร่างนางสวรรค์ตรงหน้าที่เลือนรางหายไปกับสายลมที่หอบเอาทรายบ้ามาปะทะหน้าข้าอีกครั้งจนข้ารู้สึกแสบร้อนไปทั่วใบหน้า ข้ากวักน้ำล้างหน้าเพื่อบรรเทาความร้อนทั่วหน้าก่อนที่จะชะงักเบิกตากว้างราวกับสัตว์ประหลาดมองหญิงสาวในน้ำ !

    นัยน์ตาของนางคือสีไพลิน เรือนผมของนางเป็นสีเงิน เวลานี้นางกำลังเบิกตากลมโตของนางจ้องมองข้าก่อนจะร้องเสียงดังว่า

    อ๊ากกกกกก ! เอาใบหน้าประติมากรรมของข้าคืนมา !”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×