ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter] เพื่อนบ้านของฉันคือ 'เซเวอรัส สเนป' (SS/OC)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตรอกช่างปั่นฝ้ายกับชายในชุดดำ

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 64


    ตอนที่1

    ตรอกช่างปั่นฝ้ายกับชายในชุดดำ

    ---------------------------------------

    ฉันนั่งถอนหายใจทิ้งบนโซฟาของบ้านที่ไม่มีใครนอกจากฉัน.. กำลังคิดทบทวนถึงสิ่งที่ทำให้ฉันนั่งอยู่ตรงนี้

    บางที... มันอาจเป็นแค่ความฝันที่ทำให้ฉันมาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้? เพราะฉันก็ไม่ใส่ใช่เจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย

    ..เจ้าของบ้านตัวจริงน่ะ

    เขาหนีไปแล้ว!!!!

    เมื่อคืนนี้เองด้วย!!

    คงงงเป็นไก่ตาแตกกันละสิ

    ฉันก็งงเหมือนกัน!

    เพราะพอฉันตื่นมา ก็ได้รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนไม่รู้เว้ย!

    ฉันจำได้ว่าตัวเองนอนบนเตียงนุ่มๆ ของตัวเองอยู่ดีๆ ใช่ปะ ตื่นมาฉันก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งคร่อมบนร่างฉัน แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาใหญ่เลย

    ตอนนั้นฉันตกใจอานะ เกือบจะออกปากปลอบละ แต่นอกจากจะถูกมือสั่นๆ ของเธอปิดปากไว้แล้ว แสงสะท้อนจากมีดในมือเธอก็ทำให้รู้ได้ในทันทีเลยว่าเธอกำลังจะฆ่าฉัน!

    แต่ก็ยังดีเธอไม่ได้ทำอานะ

    จากนั้นหล่อนก็วิ่งพรวดออกจากห้องนอน แล้วก็ออกไปจากบ้านเลย ฉันได้แต่มองตามเธอผ่านหน้าต่างห้องนอนชั้นสองตาละห้อย

    เธอวิ่งร้องไห้ไปด้วยแล้วก็หายไปในถนนที่มืดสนิทไปแล้ว

    โธ่... ฉันสงสารนะ

    สงสารตัวเองนี่แหละ!!

    มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!? พระเจ้า!!

    อยากจะตะโกนให้เสียงทะลุเมฆหมอกเข้าหูพระเจ้าว่าทำอะไรกับฉัน!?

    แล้วก็เป็นที่มา ที่ฉันมานั่งตาค้างมาตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า ไม่ใช่ไม่อยากนอนนะ แต่จะให้ฉันนอนในบ้านใครก็ไม่รู้มันก็ใช่เรื่องไหม?

    มันนอนไม่ลงเลย ในหัวก็คิด ประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างๆ ในนี้มันเหมือนจริงเกินฝัน

    และฉันก็ไม่น่าจะหลับได้นานขนาดนี้ด้วย มันต้องมีคนมาปลุกฉันไปทิ้งขยะบ้างแหละ แต่นี่มัน.. นานมากๆ นานเกินไป ฉันไม่ตื่นก็แสดงว่านี่.. ไม่ใช่ฝัน

    ฉันบีบนวดขมับตัวเองสักพัก และตัวเองใจเย็นพอจะคิดถึงวิธีหาคำตอบหลังจากนี้ แล้วถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายจึงเดินไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้หายง่วงแล้วค่อยมานั่งคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป

    และทันทีที่ฉันได้เห็นใบหน้าของ...ตัวเองหรอ? นี่ฉันหรอ?? เด็กผู้หญิงในกระจกที่น่าจะอายุสัก 9-10 ขวบได้มั้ง?

    ผิวของเธอไม่คล้ำไม่ขาวทั่วไปแต่กลับมีร่องรอยบาดแผลตามตัว ผมเผ้ายุ่งเหยิงสีน้ำตาล ดวงตาสีฟ้าสว่างที่จ้องกลับมามันเบิกโตตามความตะลึงของฉัน

    นี่ฉัน...

    เป็นใครอะ??

    คลับคล้ายฉันตัวจริงอยู่หรอก แต่ไม่ใช่ผมสีน้ำตาลกับตาฟ้านี่อะ

    แล้วเด็กคนนี้ก็ผอมเป็นบ้าเลย จวนจะเห็นซี่โครงแล้วมั้งเนี่ย ฉันลดเสื้อที่ดูจะใหญ่จากตัวลงหลังสำรวจร่างกายตัวเองถี่ถ้วนแล้ว จะว่าไปผู้หญิงเจ้าของบ้านคนเมื่อคืนก็น่าจะสีผมเดียวกันกับฉันนะ

    เอ่อ... หมายถึงร่างนี้อานะ

    (ถึงตอนที่เขาง้างมีดจ่อหน้าฉัน ห้องมันจะมืดก็เถอะแต่ก็ยังเห็นแสงจากไฟนอกห้องอยู่)

    สงสัยต้องกลับไปดูที่เกิดเหตุแล้วสิ

    -----------------------------------------

    หลังล้างหน้าให้ตาสว่าง ฉันก็รู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาก็เลยอาบน้ำให้ร่างนี้ให้ซะเลย แต่แล้วพวกคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าไอ้รอยแผลตามแขนตามหน้าว่าเยอะแล้วนะ ภายในชุดตัวใหญ่ๆ นี่มันเยอะยิ่งกว่าอีก!?

    "ไปทำอะไรมาเนี่ย ให้ตาย!? "

    หรือว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงคนนั้น? ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นอะไรกันกับร่างที่ฉันอยู่ตอนนี้แต่ของด่วนสรุปว่าเป็นแม่ละกัน ก็ดูมีความเหมือนกันอยู่นะ

    หลังอาบน้ำซึ่งเป็นกิจวัตรของฉันเองแหละ ไม่ใช่ของเจ้าของร่างนี้หรอก ฉันก็ค้นหาเสื้อผ้าในตู้ที่กองกันเละเทะไปหมด แล้วแต่ละตัวก็ตัวใหญ่กว่าตัวฉันในตอนนี้มากๆ ด้วย ช่างมันละกัน ใส่ๆ ไปเถอะ

    ฉันก้าวเท้าของเด็ก 9 ขวบขึ้นตามบันไดไปยังห้องนอนที่เกิดเรื่องก่อนหน้านี้ ว่าด้วยเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่มีแบบนับชิ้นได้ในห้องก่อนละกัน เช่น เตียงไม้ทั่วไปที่มีหมอนตกไปข้างเตียงและผ้าห่มยับยู่ยี่ไปหมด แสงอาทิตย์ตอนแปดโมงจากหน้าต่างบานเดียวในห้องส่องให้เห็นถึงละอองฝุ่นที่ล่องลอยในอากาศ ตอนที่ฉันปัดฝุ่นจากโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงนัก ข้างหน้าต่างมีผ้าม่านดูเก่าและสกปรกจนฉันไม่กล้าจะจับมันเลยด้วยซ้ำ

    โอ้... ดูเหมือนจะเจอบางอย่างเข้าให้แล้ว

    (โปรดจินตนาการซาวด์โคนันตอนสืบคดีไปด้วย)

    ขวดยาสีขาวที่ตกหล่นอยู่ใต้เตียง ตามด้วยเม็ดยาขนาดใหญ่ของมันที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้น ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของแม่หรือเด็กกันแน่แหะ? แต่ที่รู้ๆ คือคนที่กินไปคือเด็กเจ้าของร่างนี้แน่ๆ --

    แล้วไม่ทันจะสันนิษฐานอะไรต่อ ฉันก็เซตัวลงบนเตียงด้วยอาการปวดหัวตุบๆ ปวดแบบสุดๆ

    เหมือนมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลย!

    ฉันหลับตาปี๋ข่มควาเจ็บ มือทั้งสองก็บีบหัวคนละข้าง จู่ๆ ก็มีภาพต่างๆ ปรากฏขึ้นมาในหัวของฉัน จากมุมมองของเจ้าของร่างเก่า

    เธอมักจะเห็นแม่มีสีหน้าเศร้าตลอดที่อยู่กับเธอ..

    เธอถูกเด็กในหมู่บ้านกลั่นแกล้ง ทั้งยังโดนแม่ตีซ้ำ พล่ำบอกบางอย่างแล้วส่งท้ายคำว่า

    'ฉันเกลียดเธอ!'

    ว้าว.. ชีวิตบัดซบของแท้เลย

    น่าสงสารจริงๆ ทำไมถึงทำแบบนั้นกันนะ?

    งั้นแสดงว่าก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะขึ้นคร่อมแล้วมีดจ่อคอเธอ เด็กคนนี้ก็ตายไปก่อนแล้วน่ะสิ เพราะกินยาเกินขนาดน่ะ..

    แล้วทำไม.. ถึงต้องกลายเป็นฉันมาอยู่ร่างนี้แทนกันละ? แล้วร่างจริงๆ ฉันจะเป็นอย่างไรบ้างละเนี่ย..

    -------------------------------

    แสงอาทิตย์ตอนสายเริ่มร้อนจนแผดเผาผิวของฉันตอนเดินออกมาจากบ้าน ฉันได้พบว่าบ้านใกล้เรือนเคียงของฉันมักเป็นคนแก่ไม่ก็พวกคนที่สวมชุดคนงาน บ้างก็มอมแมมทั้งตัว

    ดูเหมือนย่านแถวนี้จะเป็นบ้านของคนงาน ไม่ก็คนฐานะปานกลางไปจนถึงยากจน เพราะดูจากสไตล์บ้านที่เหมือนกันไม่เล็กไม่ใหญ่มาก และวิวที่มีควันดำๆประกอบจากโรงงานที่อยู่ไม่ไกลนัก

    สิ่งแวดล้อมแบบนี้.. ไม่ใช่ที่คุ้นเคยที่ฉันรู้จักมาก่อนเลย

    มีเด็กตัวเล็กตัวน้อยเล่นวิ่งไล่จับกัน แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นฉัน เด็กๆก็พากันวิ่งหนีเข้าบ้านไปเลย

    อ้าว ฉันทำอะไรผิดหรอ?

    "เมอร์ซี่ นั่นเธอหรอ? "

    ฉันหันตามเสียงเรียกอันสั่นคลอนตามฉบับคนแก่ง้ำเหงือก เธอเป็นหญิงชราธรรมดาทั่วไปที่ชอบนั่งเก้าอี้โยกหน้าบ้าน ผมของเธอเป็นสีขาวหงอกไปทั่ว

    แล้วเมื่อฉันเดินเข้าไปหาเธอถึงหน้าบ้านก็แทบจะได้กลิ่นเหมือนพายอบๆออกมาจากบ้านด้วย

    "คุณรู้จักหนูหรอคะ? "

    "โอ้.. ให้ตาย แม่ของเธอตีจนเสียสติเลยงั้นหรอเนี่ย"

    เธอหยุดโยกเก้าอี้แล้วจะเอื้อมมือมาจับหน้าฉัน

    "มีแผลให้ฉันช่วยทายาให้ไหม ฉันตาพล่าไปมากเลย เธอไปหยิบกล่องพยาบาลในบ้านฉันเอาเองนะ"

    มือหยาบกร้านของเธอจับๆ แตะๆ ไปทั่วหน้าฉัน เหมือนคนตาบอดที่กำลังสัมผัสรูปปั้นเสียอย่างนั้น

    "ไม่ค่ะขอบคุณ หนูไม่เป็นไร ยายบอกหนูได้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน? "

    คุณยายเงียบไปสักพัก ฉันจับมือเธอออกจากหน้าตัวเองแล้วลดตัวลงนั่นข้างๆ เก้าอี้โยกของเธอ

    ฉันว่าเธอดูใจดีสุดในตรอกนี้แล้วแหละ คนอื่นๆที่เห็นฉันก็มองที่ฉันจนน่ากลัว ถ้าเข้าไปทักต้องโดนขวานจามหน้าแน่ๆ

    "ที่นี่คือตรอกช่างปั่นฝ้าย ในเมืองโค้กเวิร์ธจ้ะ"

    ฉันเบิกตาโต เหมือนจะรู้จักมันมาก่อน...

    ไม่อะ ฉันไม่รู้จักหรอก แต่ที่รู้ๆ คือมันไม่ใช่ที่ๆ ฉันเคยอยู่แน่ๆ นี่ฉันถูกลักพาตัวหรอ? หรือมีใครแกล้งอะไรฉันเนี่ย??

    และถ้าเป็นความฝัน ขอละ!

    รีบตื่นทีเถอะ

    "งั้นเธอก็ไม่ใช่เมอร์ซี่สินะ? "

    เสียงสั่นคลอนถามขึ้น เธอแนะนำตัวว่าชื่อ 'บาร์เน็ตต์' ก่อนที่เธอจะเล่าเรื่องของเด็กหญิงเจ้าของร่างนี้และเธอว่าทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านเดียวที่ช่วยเหลือเด็กเจ้าของร่างนี้ บอกว่าเธอมักจะเป็นคนทำแผลให้เด็กคนนี้ในตอนที่ถูกแม่หรือเด็กคนอื่นทำร้ายมา

    เธอดูเงียบขึ้นหลังจากรู้ว่าฉันไม่ใช่เด็กที่เธอคอยช่วยเหลือบ่อยๆ

    "อันที่จริง.. หนูก็ไม่ใช่เธอหรอก แต่หนูก็ชื่อเมอร์ซี่เหมือนกันนะ

    "โอ้... แล้ว.. เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนั้น"

    ฉันอ้ำๆ อึ้งๆ ไปสักพัก ไม่อยากจะพูดมันออกมาสักเท่าไหร่เพราะกลัวว่าจะทำร้ายจิตใจของหญิงชราแสนดีคนนี้เข้า จากที่ฟังมาคุณบาร์เน็ตต์ค่อนข้างสนิทกับเด็กร่างนี้พอควรเลย แล้วก็มักจะมาหากันด้วย

    "ลูกหลานฉันน่ะแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เด็กคนนั้นน่าสงสารมากๆ เลย.. แต่เดี๋ยวนี้เธอไม่มาหาฉันเท่าไหร่ พอมารู้สึกตัวอีกที ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนหลานคนหนึ่งไปซะแล้ว"

    คุณบาร์เน็ตต์หัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งฉันหัวเราะไม่ออกหรอก! ยิ่งเธอพูดถึงชีวิตอันน่าเศร้าของเจ้าของร่าง ฉันก็เริ่มคิดถึงพ่อแม่จริงๆ ตัวเองขึ้นมาบ้างเลย

    ที่แย่กว่านั้นคือฉันก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปในที่ไปฉันจากมาได้ยังไงเนี่ยสิ

    "หนูเสียใจด้วยค่ะคุณบาร์เน็ตต์ เด็กคนนั้น... ตายแล้ว"

    หญิงชราไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอพยักหน้ารับรู้และเอนหลังของเธอกับเก้าอี้ก่อนจะโยกมันเบาๆ

    และระหว่างที่ฉันกำลังแปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอ เธอก็พูดออกมาราวกับรับรู้ในสิ่งที่ฉันสงสัย

    "ความจริง.. ฉันก็คิดไว้แล้วแหละว่าเด็กคนนั้นอยู่ได้ไม่นานหรอก ฉันถึงพยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้ว แต่ดูเหมือนมันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกมั้ง? "

    "ไม่หรอก คุณช่วยเธอได้มากเลย แล้วคุณ..ไม่เสียใจกับเธอหน่อยหรอ? "

    "เสียใจสิฉันเสียใจ แต่การพบเจอและจากลากันกลายเป็นเรื่องปกติของฉันไปเสียแล้ว มันคือเรื่องธรรมชาติที่เราต้องทำใจยอมรับมัน"

    ถูกของคุณยายเลย ฉันรับฟังเธอแล้วก็พงกหัวเห็นด้วยไปด้วย ก่อนจะได้สบเข้ากับดวงตาสีหมอกของเธอที่จ้องมองมาทางฉัน

    "ฉันก็เสียใจกับเธอด้วยเช่นกันนะแม่หนู"

    "คะ? "

    "ที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่แทนเด็กคนนั้น มารับเคราะห์แทนเธอซะเอง"

    อ้อ.. เรื่องนี้นี่เอง

    "ค่ะ.. หนูยังหวังให้มันเป็นเพียงความฝันอยู่เลย.."

    ------------------------------

    ฉันพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคุณยายบาร์เน็ตต์ไปได้หลายชั่วโมงจนตกเย็นไปเสียแล้ว เธอจึงขอให้ฉันกินมื้อเย็นกับเธอก่อนกลับ

    แน่นอน! ฉันยินดีมากๆ เธอทำอาหารได้อร่อยจริงๆ

    ก่อนจะจากมาเธอสัญญาว่าจะปกปิดเรื่องลี้ลับของฉันให้ เพียงแค่ฉันมาเยี่ยมเธอบ้างก็เท่านั้น

    ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ดีมากเลย อาหารของคุณบาร์เน็ตต์ทำฉันอารมณ์ดีจนลืมไปเลยว่าตัวเองต้องหาที่มาการสลับร่างนี่ และสืบค้นว่าที่นี่ที่ไหน

    จะว่าไป.. ไอ้ตรอกช่างปั่นฝ้ายนี่มันก็คุ้นๆ นะ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรู้จักเลยแฮะ

    หรือฉันไปเจอจากที่ไหน แล้วลืมมันไปซะก่อนหรือเปล่านะ? สมองฉันยิ่งเบลอกว่าเด็กเจ็ดขวบซะอีก

    ฉันเดินนวดขมับไปด้วยจนไม่ทันได้มองทางเพราะมันค่อนข้างดึกมากแล้วด้วย ก็ได้สะดุดพื้นหน้าคว่ำไปจุมพิตกับพื้นหน้าบ้านใครก็ไม่รู้ไปหนึ่งดอก แล้วไฟตามทางของซอยนี่ก็ริบหรี่เหลือเกินนะ เหอะ เหมือนรัฐบาลจะไม่ดูแลบ้านแถวนี้สักเท่าไหร่เลยนะเนี่ย

    พรึ่บ!!

    ในขณะที่ฉันจะยันตัวลุกขึ้นมา ก็ปรากฏกลุ่มควันสีดำบางอย่างตรงหน้ามันวนกันไปมาสักพัก ตามด้วยร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏออกมา

    เขามีผิวขาวซีดน่ากลัวตัดกับชุดคลุมสีดำที่สวมใส่ ตามด้วยผมสีดำขลับมันยาวประคอ หน้ากากแปลกๆ สีเงินที่เคยปิดบังใบหน้าของเขา ค่อยๆ หายจนปรากฏใบหน้าอันไม่พอใจของเขาออกมา

    เขาเหยียดดวงตาสีดำนั่นมองมาที่ฉันแต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องชะงักค้างก็คือจมูกที่งองุ้มเป็นเอกลักษณ์ของเขานี่แหละ

    และฉันก็จดจำบทบาทของเขาได้ดีเลยละ

    เพราะเขา.. เป็นตัวละครในนวนิยายที่ฉันคลั่งไคล้..

    "คุณ..."

    เซเวอรัส สเนป!!?

    ------------------------------------------------------------------

    TALK with BP

    ฮ่า~ บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าเรื่องนี้ แต่งสนองนีทไรต์ล้วนๆ ???? อยากจะเน้นเอาฮาเพราะยัยเมอร์ซี่มันเด๋อค่ะ!! 5555

    เอาใจช่วยให้ยัยเมอร์ซี่ ไม่โดนสาปก่อนเข้าฮอกวอตส์ด้วยนะคะ555

    มีแท็คให้เล่นในทวิตด้วยนะคะ ไปยำกันได้ค่ะ55 #เพื่อนบ้านของฉันดุนะ

    (23/6/20) ✍️

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×