ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #9 : เข้าใจผิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.71K
      95
      19 ต.ค. 62







    ปึง!!!


    ฉันผลักประตูห้องล็อคเกอร์เข้าไป แล้วก็พบกับยัย 'มิ้นต์' ที่กำลังยืนอยู่คนเดียว ทันทีที่นางเห็นฉันนางก็รีบปิดล็อคเกอร์ของตัวเอง แล้วหันมามองฉันด้วยสายตากวนประสาททันที


    "แก!"  ฉันเรียกนางด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรก่อนที่จะสาวเท้าเข้าไปใกล้ด้วยความหงุดหงิด


    "อะไรเหรอ?"  นางทำหน้าตาไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งๆที่จริงๆแล้วฉันรู้อยู่แล้วว่ามันปลอม!!


    "แกเป็นคนเอาเข็มไปโรยสินะ... ที่ลู่วิ่งน่ะ ไม่มีความสามารถก็เลยโกงว่างั้น?"  ฉันเอาหน้าเข้าไปใกล้ยัยเพิ้งนี่อย่างเดือดดาล นางที่เดินถอยหนีจนมาติดกับล็อคเกอร์แล้วก็ยังคงทำหน้าตาไม่เกรงกลัวฉัน แต่ก็มองซ้ายทีขวาทีเหมือนจะกำลังหาทางหนีทีรอดอยู่


    "แกพูดอะไรไร้สาระ ฉันไม่ปัญญาอ่อนมาเล่นอะไรกับแกแบบนั้นหรอก!"


    ปัง!!!


    มือข้างขวาของฉันทุบลงไปบนล็อคเกอร์ข้างหลังคนตรงหน้าอย่างแรงโดยที่เฉียดหัวนางไปเพียงนิดเดียว และนั่นก็ส่งผลให้หน้าเพิ้งๆของยัยนี้สะดุ้งไปเลยทีเดียว


    ฉันอาศัยจังหวะนั้นเปิดตู้ล็อคเกอร์ออกอย่างรวดเร็ว คนตรงหน้าที่พยายามเอาตัวบังตู้เอาไว้นั้นกำลังตกใจอยู่จึงไม่ทันที่จะห้ามฉันได้ ฝาเหล็กถูกเปิดกว้างแล้วก็เผยให้เห็นของที่วางอยู่ข้างในนั้น


    กล่องเข็มหมุดที่ข้างในมีเข็มเล็กๆที่แหลมคมอยู่เป็นร้อยๆเข็ม


    นางหันหลังไปมองสิ่งที่ฉันกำลังจ้องแล้วก็หันกลับมาอย่างเลิ่กลั่ก


    "อ..เอ่อ"


    "..." ฉันเงียบแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาอันหวาดหวั่นของฝ่ายตรงข้ามอย่างดุดัน


    หึ... ยัยนี่ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นอยู่กับใคร ฉันนึกขอบคุณตัวเองที่ตาไวพอที่จะเห็นสิ่งในตู้ก่อนที่นางจะปิดมันลงในตอนแรก


    เมื่อเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่มีข้อแก้ตัว ฉันจึงไล่ต้อนเหยื่อตรงหน้าต่อด้วยคำถามที่ต้องการสืบให้รู้ความจริง


    "แล้วเรื่องข่าวลือบ้าๆนั่นที่แกเอามาอ้างเพื่อดักรุมฉันน่ะ... แกเองก็เป็นคนสร้างเรื่องแล้วปล่อยข่าวสินะ"


    "คนที่ปล่อยข่าวน่ะคือพี่เจ-"


    "อย่ามาโกหก!!!!" ฉันตะคอกเสียงดังจนคนที่ยังพูดไม่จบต้องสะดุ้งอีกรอบ ฉันมองเข้าไปในแววตาก็รู้ว่าถึงแม้จะมีความเกลียดชังแต่ตอนนี้นางกำลังกลัวฉันแค่ไหน


    ดี... กลัวเข้าไป ฉันยังน่ากลัวกว่านี้ได้อีกเยอะ


    "ยัยดาวคณะนั่นไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าว คนที่ปล่อยน่ะคือแก" ฉันพูดอย่างมั่นใจ ถึงใจจริงจะยังไม่รู้แน่แท้จนกว่ายัยบ้านี่จะยอมรับออกมาเองก็เถอะ


    "แกรู้ได้ยังไง อย่ามาใส่ความฉันนะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ"


    "ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคนปล่อย?"


    "พี่เจนนี่ คิม" ยัยบ้านี่ยังคงยืนยันคำเดิม


    ได้... ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนเราจะทนได้นานขนาดไหน


    "พี่เจนนี่ไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าว ฉันมั่นใจ" ยัยมิ้นต์ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เหมือนกำลังสงสัยว่าฉันนั้นไปเอาความมั่นใจมาจากไหน


    "แกเอาอะไรมาพูด"


    "ฉันกับพี่เจนนี่ เรารู้จักกัน" ยอมใช้สรรพนามเรียกพี่ซักครั้งก็ได้วะ เดี๋ยวจะโกหกไม่เนียน แต่จะว่าไปฉันก็เคยคุยกับนางครั้งสองครั้ง ถึงจะไม่เคยญาติดีกันก็เถอะ ...แบบนั้นจะเรียกรู้จักกันได้มั้ยนะ


    "ฉันไม่เชื่อหรอก" ยัยเพิ้งแหวออกมาทันทีที่ได้ยิน หน้าตาก็เหมือนจะตกใจแล้วก็ไม่แน่ใจว่าที่ฉันพูดมามันจริงรึเปล่า


    ก็นะ... แม้แต่ฉันยังไม่รู้เลย


    "ฉันไม่เหมือนแกหรอกนะที่วันๆเอาแต่คอยตามตูดยัยนั่นโง่ๆโดยที่ยัยดาวนั่นแทบจะไม่รู้จักแกด้วยซ้ำน่ะ แถมดูเหมือนนางจะชอบฉันเป็นพิเศษซะด้วย" ท้ายประโยคฉันยักคิ้วให้นางกวนๆอย่างผู้ชนะ หลอกไปแล้วก็ขอหลอกต่ออีกหน่อยละกัน โง่ๆอย่างยัยนี่น่ะไม่รู้หรอก แล้วในความเป็นจริงนางก็เป็นแค่แฟนคลับที่ไม่ได้รับความสนใจจริงๆนั่นแหละ


    "แก!! แกคิดว่าแกเป็นใครห้ะ!?" คนที่เพิ่งโดนด่าขึ้นเสียงใส่ฉันทันทีโดยที่ลืมไปว่าสถานการณ์ตอนนี้ใครกำลังถูกต้อนให้จนมุม


    "ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง! ตกลงแกเป็นคนปล่อยข่าวใช่มั้ย!?" ฉันเดินเข้าประชิดยัยเพิ้งนี่ให้ไม่มีทางหนี นางถอยหลังติดกับตู้ล็อคเกอร์อีกครั้ง แต่คราวนี้เมื่อฉันมีหลักฐานและปรุงแต่งเรื่องที่พี่เจนนี่ชอบฉันเป็นพิเศษนั่นเข้าไปอีกหน่อย นางก็ดูเหมือนจะเริ่มหมดทางเถียง


    "เปล่า"


    "อย่าให้ฉันต้องใช้กำลัง" ไม่พูดเปล่าฉันใช้มือข้างที่ถนัดบีบคอคนที่ตัวสูงพอๆกันเข้ากับตู้เหล็กข้างหลังนาง แต่ก็ไม่ได้แรงมาก แค่ให้หายใจติดขัดเป็นการขู่เท่านั้น


    "หึ ค..คิดว่าแกจะสามา-"


    ฟึ่บ!


    เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาตามรอยบาดของมีดที่ไม่ได้ลึกมาก แต่ก็พาดยาวตั้งแต่สันจมูกไปถึงเกือบติ่งหู


    คนที่เพิ่งถูกคมมีดปาดมองหน้าฉันอย่างไม่อยากเชื่อ ความเจ็บจากใบหน้าคงแล่นไปถึงเจ้าตัวเรียบร้อยแล้วเมื่อนางทำท่าเหมือนกำลังจะกรีดร้องออกมาสุดเสียง แต่ฉันก็ห้ามโดยการเอามือจุ๊ปากตัวเองแล้วยกมีดพกด้ามดำที่มีเลือดเปื้อนอยู่ขึ้นมาประกอบการพูด


    "อยากปากฉีกเหรอ?"


    ยัยบ้านี่หุบปากตัวเองทันที นางมองมาที่มีดตรงหน้าอย่างหวาดหวั่นดั่งโจรปล้นบ้านที่เห็นรถตำรวจแล้วกำลังไร้ทางหนี ฉันกระตุกยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะเปลี่ยนตำแหน่งมีดลงมาจ่อที่ต้นคอแทน


    "ตกลงจะบอกมาได้รึยัง แกเป็นคนปล่อยข่าวที่ว่าใช่ไหม? ตอบผิดมีดติดคอนะ^^"


    "ก..ก็ได้!!!"


    "ว่าไง?"  ฉันยังคงฉีกยิ้มอยู่ โดยที่อีกฝ่ายกำลังสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมาเหมือนกำลังพยายามตั้งสติที่กระเจิดกระเจิงของตัวเอง



    "ฉ..ฉันกับเพื่อนช่วยกันแต่งข่าวแล้วก็บอกต่อทุกคนโดยอ้างชื่อพี่เจนนี่ แกอย่าฆ่าฉันนะ" ยัยมิ้นต์ยกมือขึ้นมาสองข้างพลางหลับตาปี๋ ใจจริงฉันอยากจะต่อยหน้ายัยบ้านี่ซักทีให้ปากแตกด้วยโทสะ แต่ก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้ก่อนเพราะอย่างน้อยนางก็พูดความจริงออกมาแล้ว


    ระหว่างที่ยัยเพิ้งกำลังหลับตาแน่นอยู่ ฉันก็มองไปที่รอยกรีดบนหน้านางที่ตัวเองเพิ่งฝากไว้ แล้วก็หยิบกล่องเข็มออกมาจากตู้ก่อนที่จะค่อยๆเดินออกห่างคนที่ตอนนี้อยากจะเล่นงานมากที่สุด


    "ฟัง!" เสียงของฉันทำเอายัยมิ้นต์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งอย่างตื่นตระหนก ฉันชูกล่องเข็มขึ้นแล้วหันไปหานางอีกครั้งเพื่อฝากฝังเอาไว้อีกอย่างในฐานะที่นางเป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด


    "เรื่องครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้ แต่แกห้าม... ห้าม!! ไปบอกเรื่องนี้กับเพื่อนหรือใครก็ตามว่าฉันมากรีดหน้าแก ส่วนแกจะเป็นติ่งปัญญาอ่อนของยัยนั่นต่อไปก็เรื่องของแก แต่เลิกมายุ่งกับฉันซะ!! ไม่อย่างนั้นมีดเล่มนี้จะไม่จบอยู่แค่ที่หน้าแก... เข้าใจมั้ย?"


    "ข..เข้าใจ"


    "ดี"


    เพียงแค่นั้นฉันก็เดินออกจากห้องล็อคเกอร์ไป ภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือยัยบ้านั่นที่พยักหน้าหงึกๆด้วยความหวาดเกรง แม้แต่มือยังไม่กล้ายกขึ้นมาซับเลือดที่หน้าด้วยซ้ำ


    สะใจเป็นบ้า!



    และภาพต่อไปที่เห็นก็คือไอเพื่อนสนิทที่ฉันลืมไปแล้วว่ามันยืนรออยู่หน้าห้องตั้งแต่แรก


    "อ้าว รอนานมั้ยเนี่ย" ฉันทักด้วยหน้ามึนๆ นี่แสดงว่ามันก็ได้ยินหมดเลยงั้นดิ?


    "เออ ก็ไม่นานขนาดนั้น... โหดจังวะ" นั่นไง ได้ยินจริงๆด้วย


    "แต่ก็ได้รู้ความจริงมั้ยล่ะ แหม่ยัยนั่น... โดนแค่นี้ทำมาเป็นจ๋อย ทีตอนยกพวกมารุมฉันนี่มีทั้งมีดทั้งกำลังคน นี่ถ้าไม่ติดว่ายอมพูดความจริงนะ ฉันคงตื้บมันคาตู้ล็อคเกอร์นั่นไปละ" ฉันพูดอย่างแค้นเคือง


    "งั้นตกลงพี่เจนนี่ก็โดนตบฟรีอะดิ"


    เฮ้ย...


    "เออว่ะ... ลืมไปแล้ว! ไปช่วยทันมั้ยวะ?" ฉันหันไปจับแขนเพื่อนอย่างตกใจ บ้าจริง ลืมสนิทเลย!


    "ป่านนี้คงเรียบร้อยไปแล้วละมั้ง ไอแก๊งโคถึกของแกบอกว่าจะจัดการให้เรียบร้อยก่อนหมดพักเที่ยง แต่นี่เราก็สายคาบบ่ายมานิดนึงแล้ว"  ไอแชงพูดพร้อมกับมองนาฬิกาข้อมือให้แน่ใจ



    "ทำไงวะ?"  ฉันถามอย่างไร้ทางออก


    "ก็ไม่ทำไงอะ พี่เค้าก็โดนเป็นแพะรับบาปไป ชั้นก็บอกแล้วว่าให้เช็คดูดีๆก่อนว่าพี่เค้าไม่ได้เป็นคนทำแก"


    "วันนั้นเค้ามาหาฉันที่ห้องด้วย วันที่ฉันโดนรุมจนลุกไม่ได้อะ มาบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องแล้วก็ยังเป็นคนเอาข้าวต้มมาให้วันนั้นอีก"  ฉันพูดขึ้นแล้วก็เริ่มรู้สึกผิด ถึงจะเกลียดแค่ไหนแต่พอมารู้ว่ายัยนั่นพูดความจริงแล้วก็แอบเจ็บใจเหมือนกัน


    "ห้ะ.. จิงดิ!? ตกลงข้าวต้มนั่นพี่เจนนี่เป็นคนเอามาให้แกเหรอวะ หืม... ไม่แน่เค้าอาจจะชอบแกก็ได้นะ"  มันพูดอย่างใช้ความคิด ฉันจึงเขกกะโหลกมันไปหนึ่งที


    โป๊ก


    "โอ๊ยยย"


    "ชอบก็บ้าละ ฉันยอมเป็นแฟนกับหมายังจะดีกว่า แล้วจะว่าไปยัยนั่นโดนก็ดี แค่ได้นึกว่าหน้าสวยๆหยิ่งๆของยัยนั่นโดนตบซักสองสามรอบก็สะใจแล้ว"  ยังไงความเกลียดสะสมที่ฉันมีให้ยัยนั่นก็ยังชนะฝ่ายดีในตัว


    โดนข้อหาถูกหมั่นไส้ไปละกันนะ เจนนี่ คิม


    ฉันนึกขำอย่างพอใจกับตัวเอง ยังไงนางก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนจ้างแก๊งโคถึกนั่น 


    เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันก็เดินไปยังห้องเรียนตามปกติ โดยไม่คิดแม้แต่นิดว่าจะไปดูยัยดาวคณะที่น่าจะเพิ่งโดนดักตบอยู่หลังตึกคณะอันเปลี่ยวผู้คน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×