ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #11 : แทน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.7K
      84
      19 ต.ค. 62







    'ห้อง 915 ชั้น 9'


    ต้องขอขอบคุณไอแชงที่รู้สึกผิดแทนฉันซะจนผ่านไปไม่ถึงวันมันก็สามารถหาเลขที่ห้องของยัยพี่เจนนี่คิมมาได้


    ฉันในตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าหอของตัวเอง ในมือมีถุงข้าวต้มที่ไปต่อแถวซื้อในชั่วโมงเร่งด่วนมาเมื่อกี๊นี้ 


    ฉันก็เพิ่งมารู้นี่แหละว่ายัยพี่ดาวคณะนี่ก็อยู่หอเดียวกับฉัน!!


    "เฮ้อ"  ฉันสูดลมเข้าลึกๆแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างเครียดๆ ...ทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นกันนะ?


    อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ดันมาเล่นงานผิดคน หรือเป็นเพราะต้องขึ้นไปบนห้องคนที่ตัวเองเกลียดที่สุด หรือเพราะอะไรก็ไม่รู้ ไอเพื่อนสนิทก็ดันพลีตัวไปหาพี่จีซูเรียบร้อยแล้วตั้งแต่หลังเลิกเรียน นี่ฉันก็มายืนอยู่ตรงนี้ได้สักพักแล้วหลังจากที่จอดรถ ด้วยความที่ว่าหัวสมองยังคงคิดไม่ตกเลยไม่กล้าขึ้นไปในตอนนี้


    ขึ้นไปแล้วนางเห็นฉันจะว่ายังไง? แล้วฉันจะพูดว่าอะไร? อย่างนึงที่แน่ๆคือต้องโกหกให้เนียนและไม่ต้องพูดเรื่องแก๊งโคถึกเด็ดขาด นั่นอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ฉันรู้สึกหวาดๆตอนนี้ก็เป็นได้ เพราะปกติฉันไม่ชอบโกหกแล้วก็แทบไม่เคยโกหกเลยด้วย


    ยกเว้นที่บอกยัยมิ้นต์ว่าฉันรู้จักกับพี่เจนนี่คิมแล้วนางก็ชอบฉันเป็นพิเศษน่ะนะ-_-


    แล้วอีกอย่าง... ในความเป็นจริงฉันไม่ได้รู้จักคนๆนี้ขนาดนั้น ดาวคณะที่เย่อหยิ่ง มีชื่อเสียงแล้วก็หลงตัวเอง ดูไม่แคร์คนอื่น นิสัยแย่ตรงข้ามกับหน้าตา นั่นเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวฉันเมื่อนึกถึงคนๆนี้ แต่เอาจริงๆแล้วนางเป็นใครมาจากไหนฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ มีอำนาจอะไรขนาดไหน เลวร้ายขนาดไหนก็มีแต่ข่าวลือเท่านั้นที่บอกต่อๆกันมา เชื่อถือไม่ได้


    "เอาวะ... คนเหมือนกัน ยัยบ้านั่นคงไม่ทำอะไรแปลกๆหรอกมั้ง แค่เอาข้าวต้มขึ้นไปให้ก็จบ"  ฉันให้กำลังใจตัวเอง แล้วก็เริ่มก้าวเข้าไปยังหอพักอันคุ้นเคย อย่างน้อยนางก็เดี้ยงอยู่...คนได้เปรียบคือฉันอยู่แล้ว ทำคูลไว้ลลิษา


    เมื่อลิฟต์เปิดออกฉันก็ก้าวเข้าไปแล้วกดปิดประตูทันที ฉันเข้ามาในลิฟต์คนเดียวซึ่งนั่นก็ดี เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอใครทั้งสิ้น ต้องตั้งสติเข้าไว้ 


    นิ้วเรียวใช้บัตรแตะบนเครื่องอ่านบัตรในลิฟต์อย่างเคยชินเป็นการปลดล็อค แล้วก็กดลงบนตัวเลขทันทีด้วยความประหม่า


    'ชั้น 9'


    ตู้สี่เหลี่ยมที่ทำงานด้วยเครื่องกลค่อยๆยกฉันขึ้นจากพื้นดินของชั้นหนึ่ง ตัวเลขสีส้มบนหน้าจอเล็กๆของลิฟต์ค่อยๆนับเรียงขึ้นไปเรื่อยๆตามชั้นของหอพัก


    2... 3... 4...


    ตึ้ก!


    ฉันรีบกดลงไปบนปุ่มที่มีตัวเลข 7 ทันทีก่อนที่ลิฟต์ตัวนี้จะพาฉันขึ้นไปยังจุดหมายได้


    "ชั้นเจ็ด, Seventh floor"


    ครืดดด


    เสียงอัตโนมัติของลิฟต์พูดขึ้นตามด้วยเสียงประตูลิฟต์ที่เปิดออกจากกัน ก่อนที่ฉันจะรีบก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยความเหงื่อตกแล้วถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่


    "เฮ้อ"


    ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่หน้าลิฟต์ซึ่งมีตัวเลขของชั้น 7 เด่นหราอยู่บนผนังกำแพงระหว่างลิฟต์สองตัวของที่นี่


    ใช่... นี่คือชั้นของห้องฉันเองแหละ ด้วยความที่ป๊อดไม่กล้าขึ้นไปเลยทำให้ไอ้มือบ้ากดชั้นของตัวเองไปซะก่อน- -"


    'ไอลิซ!!'  ฉันด่าตัวเองในใจด้วยความหงุดหงิด แบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ยยยย


    แง... นี่ถ้าไอแชงมันอยู่กับฉันตอนนี้มันคงจะด่าฉันแหง ดีนะที่ฉันมาคนเดียว แต่ก็ไม่ดีหรอกเพราะถ้าเป็นแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ฉันจะเอาไปให้ยัยนั่นได้สำเร็จกันเล่า!?


    เสียงของฝีเท้าใครบางคนดังมาจากข้างหลังทำให้ฉันหันไปมอง แล้วก็พบกับ...


    ยัยเพิ้ง


    โอย... มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกมั้ย


    ยัยเพิ้งที่เห็นว่าเป็นฉันก็มีสีหน้าผงะไปเล็กน้อย แต่เราทั้งสองคนก็ไม่ได้มีใครพูดอะไรขึ้นมา นางมองมาที่ฉันอย่างหวาดๆแล้วก็มองลงมายังถุงข้าวต้มที่ฉันถืออยู่ ฉันหันกลับมาแล้วกลอกตาบนอย่างหงุดหงิดที่ต้องมาเจอยัยนี่ในสถานการณ์แบบนี้อีก 


    เมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้สนใจ นางก็ค่อยๆเดินไปกดลิฟต์ลงแล้วก็รอจนลิฟต์มา ฉันสังเกตได้จากหางตาว่านางยังคงมองมาที่ถุงข้าวต้มฉันอยู่อย่างไม่วางตา จนในที่สุดลิฟต์ของนางก็มา ยัยมิ้นต์ก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วก็เหมือนจะรอว่าฉันจะไม่เข้าไปเหรอ? ฉันยืนมองไปทางอื่นอย่างรำคาญจนนางกดปิดลิฟต์แล้วก็ไปให้พ้นจากสายตาสักที


    ห้องของยัยบ้านั่นก็อยู่ชั้นเดียวกับฉันสินะ... เยี่ยมไปเลย-_-


    เนื่องจากความอารมณ์ไม่ดีจากการเจอยัยเพิ้งหรืออะไรก็แล้วแต่ ในที่สุดฉันก็ทำใจกดลิฟต์ได้อีกครั้ง รอเพียงอึดใจประตูลิฟต์ตรงหน้าก็เปิดออกเป็นการเชื้อเชิญด้วยสัญลักษณ์ลูกศร 'ขึ้น' ที่สว่างเด่นอยู่หน้าลิฟต์


    ฉันกดชั้น 9 อีกครั้งโดยไม่ลังเล ในใจก็คิดว่ายังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว รีบทำให้เสร็จๆไปจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องอยู่ให้เหม็นหน้ากันนาน


    'เจอกันอีกครั้งนะ เจนนี่คิม'


    ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับเสียงของลิฟต์ที่บ่งบอกว่ามาไม่ผิดชั้นแน่ ฉันก็ก้าวออกมาแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องจุดหมายทันที


    เดินไปตามทางไม่ไกล ตัวเลขห้องที่ฉันนับไล่มาเรื่อยๆก็มาหยุดอยู่กับเลขที่ไอแชงบอกไว้


    'ห้อง 915'  


    นี่สินะ...


    ฉันหลับตาลงทำใจสองสามวิ แล้วก็ยื่นนิ้วชี้เรียวของตัวเองไปกดออดหน้าห้องหนึ่งครั้ง


    ดิ๊งด่องง


    แง... ฉันกดไปแล้ว ไม่อยากเห็นหน้ายัยนั่นเลยT T


    "ใครคะ?"  เสียงหวานที่ฟังทีไรก็ระคายหูฉันเป็นบ้าถามขึ้น แล้วก็มีเสียงเหมือนคนเดินข้างในที่ใกล้ประตูเข้ามาเรื่อยๆ


    ฉันไม่ตอบ ปล่อยให้เจ้าตัวมาส่องตาแมวประตูเอาเองก็แล้วกัน


    เมื่อเสียงฝีเท้าหยุดลง ฉันก็ทำหน้าให้เป็นปรกติที่สุด แต่ในใจก็เต้นแรงด้วยความประหม่าว่านางจะตอบสนองอย่างไรเมื่อเห็นว่าเป็นฉันที่อยู่หน้าห้อง


    แกร๊ก


    ประตูสีน้ำตาลเปิดออกประมาณหนึ่งคืบกว่าๆ ใบหน้าสวยยื่นออกมาเอียงๆแล้วก็มองฉันนิ่งโดยไม่พูดอะไร ฉันสังเกตได้ถึงรอยสีแดงที่อยู่ตรงมุมปากนางแล้วก็รู้ได้เลยว่ามาจากอะไร


    ปากแตกจริงๆด้วยสินะ... แปลกจริงๆ ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกดีใจหรือสะใจเลย


    "เอ่อ... ฉัน เอาข้าวต้มมาฝาก"  ฉันพูดขึ้นก่อนที่จะชูข้าวต้มที่ซ่อนไว้ข้างหลังให้นางเห็น นางละสายตาจากที่หน้าฉันลงไปมองข้าวต้มแว้บหนึ่งแล้วก็กลับมามองฉันอีกรอบด้วยใบหน้านิ่งๆตามเคย


    "อืม แค่นั้นเหรอ?"


    "ใช่"


    "ขอบใจ"  นางรับถุงข้าวต้มจากมือฉันไป แล้วก็ปิดประตูลงแค่นั้น


    ปึง


    แปลกแฮะ... ขอบใจงั้นเหรอ?


    ฉันเผลอกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อประตูปิดสนิทลงแล้ว...


    บ้าน่า!! ก็แค่คำขอบคุณสั้นๆที่ไม่ได้หวังจะได้รับจากคนประเภทนั้นเท่านั้น


    ฉันขยี้หัวตัวเองแล้วก็เดินออกมาจากห้องนั้นกลับไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังห้องของตัวเอง ภารกิจเสร็จง่ายกว่าที่คิดแฮะ ยัยนั่นคงไม่รู้เลยว่าคนที่จ้างแก๊งไปดักตบนางก็คือฉัน แถมยังรับข้าวต้มไปง่ายๆแล้วก็ขอบคุณอีก


    แต่ที่น่าแปลกคือ... ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกพอใจกับการที่ได้เห็นผลลัพท์ของการกระทำตัวเองเลยนะ ทั้งๆที่ควรสะใจแท้ๆ แต่ภาพของใบหน้าหยิ่งๆกับรอยที่เพิ่งโดนความรุนแรงนั่นกลับทำให้ฉันรู้สึก... ผิด


    รู้สึกเหมือนตัวเองควรรับผิดชอบยัยนั่นซะงั้นแหละ


    ลลิษา มโนบาล... แกบ้าไปแล้วใช่มั้ย?




    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ยัยนั่นก็ยังคงไม่มาเรียนอีกตามเคย เหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะเพราะนางเป็นดาวคณะที่มีชื่อเสียง หากออกมาเดินเพ่นพ่านด้วยรอยแผลบนหน้าแบบนั้นแน่นอนว่าผู้คนก็จะต้องสงสัยแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ นางจึงต้องหลีกเลี่ยงข่าวลือทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นโดยการไม่มาให้คนเห็นเลยจนกว่าแผลจะหายสนิท


    แต่นั่นก็เป็นแค่การคาดเดาของฉันล่ะนะ
     

    "กีฬาระหว่างมหาลัยอาทิตย์หน้าละนะ พร้อมยังไอลิซ"  พัคแชยอง เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ(?)ของฉันถามขึ้นในขณะที่กำลังรอฉันกินข้าวให้หมดในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย


    "ยังว่ะ สงสัยต้องไปซ้อมอีกหน่อย"  ฉันพูดไปตามจริง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะเข้าแข่งในกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมั่นใจในฝีมือตัวเองขนาดไหนก็ต้องซ้อมแบบจริงจังอยู่ดี เพราะการแข่งครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันฝีมือดีของแต่ละมหาลัยก็ต่างมาเข้าร่วม ต้องไม่ง่ายแน่ๆ


    "เออ ฉันก็เหมือนกัน แถมพี่จีซูจะไปเชียร์ด้วย จะยอมแพ้ไม่ได้"  มันพูดยิ้มๆทำให้หน้าเหมือนชิปมังก์มากกว่าเดิม


    "เออ ฉันไม่มีคนไปเชียร์ แต่ก็หนักใจอยู่ดี"  ฉันพูดอย่างเซ็งๆ แล้วก็ตักข้าวกินอีกคำ


    "ฮ่าๆๆๆ อย่าเพิ่งเศร้าไป เดี๋ยวฉันไปเชียร์แกเอง"  ไอแชงยื่นมือมาตบบ่าฉันอย่างให้กำลังใจ


    "กว่าแกจะมาฉันวิ่งเสร็จพอดี


    "เออออน่า ฉันจะรีบไปละกัน แกก็ระวังตัวนะ อย่าลืมว่ามิ้นต์ก็ไปแข่งกับแกแค่ลงคนละรายการ"  จริงอย่างที่มันพูด แต่คราวนี้ยัยมิ้นต์นั่นคงไม่กล้าหืออือกับฉันแล้วล่ะมั้ง เป็นไปได้ฉันจะพยายามอยู่ห่างๆนางเอาไว้ ทั้งตอนเปลี่ยนชุดหรือตอนนั่งบัสไปสนามแข่ง จะได้ไม่ต้องเหม็นหน้ากันมาก


    "เออฉันระวังอยู่ละ ไอแชง... เย็นนี้ไปกินส้มตำกัน หลังเลิกแกคงไม่ได้นัดกับพี่ซูไว้ใช่มั้ย"


    "จริงๆก็นัดไว้แหละ แต่เดี๋ยวไปกับแกก่อนก็ได้ พอดีเพื่อนสำคัญกว่า"  มันพูดแล้วหันมายิ้มเห็นฟันให้อย่างน่าหมั่นไส้


    "เหรอออออจ๊ะ แหม่... พี่เค้าเรียนเลิกช้ากว่าล่ะสิ ชั้นรู้หรอก!"  ฉันพูดอย่างรู้ทัน ซึ่งก็ส่งผลให้ไอเพื่อนตัวแสบมันขำขึ้นมาเสียงดังทันที สงสัยจะจริงสินะ... ไอบ้านี่ ฉันรู้จักแกไม่ผิดจริงๆ


    "เก่งค่ะเก่งงงง เออ... ชั้นคบกันแล้วนะ กับพี่จีซูอะ"  มันพูดแล้วก็ยิ้มหน้าบานอย่างเขินแบบปิดไม่มิด ฉันได้ยินดังนั้นก็กรีดร้องออกมาทันทีโดยไม่สนใจว่าคนรอบๆจะหันมามองหรือไม่


    "โอ๊ยยยยยยยย ฉันว่าแล้วววววว อีแชงงงงงงง"  พูดจบฉันก็หันไปตีมันรัวๆ ยังไม่ทันได้แซวเพื่อนสนิทตัวดีมันก็เขินจนแทบมุดดินอยู่แล้ว ฉันจะบ้าตาย... นี่ไม่ยอมบอกเพื่อนมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเนี่ย!?


    "เพิ่งคบเองงงง ชั้นบอกแกคนแรกเลยนะ"  มันพูดอย่างรู้ทันความคิดฉันอีกตามเคย


    "ละอะไร ยังไง ใครเป็นคนขอ... แกใช่มั้ย? เล่า!"  ฉันซักเพื่อนอย่างไม่เว้นจังหวะให้หายใจ มันที่กำลังบิดไปบิดมาด้วยความเขินก็ตอบด้วยน้ำเสียงอ้อนแอ้น


    "พี่เค้าเป็นคนขอชั้นคบ ฟินมั้ยล่ะ? อร๊ายยยยย"  โอ๊ยยยยทำไมฉันถึงได้เขินแทนเพื่อนได้ขนาดนี้ แต่ถึงจะรู้สึกตามยังไงฉันก็ยังไม่วายทำหน้าเบะปากใส่มันด้วยความหมั่นไส้ตามสเต็ป อย่างนี้แหละไอคนมีความรัก... นี่ถ้าวันนี้พี่เค้าเลิกเร็วมันก็คงทิ้งฉันให้ไปซื้อข้าวต้มคนเดียวแน่นอน!


    "เบื่อค่ะเบื่อ ลิซ่าจะไม่ทนค่ะ"  ฉันทำท่าปิดหูอย่างหมั่นไส้มัน ในขณะที่ไอแชงกำลังขำฉัน จู่ๆก็มีคนสะกิดฉันจากข้างหลังทำให้ทั้งฉันและมันหันไปมองคนที่มาใหม่พร้อมกัน


    "น้องลิซ่า ลลิษา มโนบาลรึเปล่าคะ?"


    นักศึกษาคนหนึ่งที่ดูจากภายนอกก็พอจะรู้ว่าน่าจะแก่กว่าพวกเรากำลังยืนอยู่ข้างๆฉัน ฉันและแชยองหันมามองหน้ากันแว้บหนึ่งก่อนที่จะเงยหน้ามองรุ่นพี่ที่เพิ่งจะเรียกชื่อเต็มของฉันอย่างงงๆทั้งคู่


    "ค่ะ มีอะไรเหรอคะ?"  ฉันถามแล้วก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าในมือของนางถือคลิปบอร์ดอยู่หนึ่งอันซึ่งหนีบเอกสารไว้ประมาณสามสี่แผ่น


    "พอดีว่าพี่เป็นคนคุมพาเหรดของคณะเรา แล้วในงานกีฬาระหว่างมหาลัยที่จะถึงเนี่ยเราก็ต้องส่งดรัมเมเยอร์ของคณะไปใช่มะ ทีนี้พี่ก็เลยอยากจะมาถามว่าน้องสนใจจะเป็นหรือเปล่า ซ้อมอาทิตย์นึงน่าจะทันอยู่แล้ว"  ฉันกับแชงมองหน้ากันทันทีที่ได้ยินสิ่งที่รุ่นพี่คนนี้พูด


    "เอ่อ... แล้วทำไมถึงเป็นหนูอะคะ?"  ฉันถามไปอย่างซื่อๆ 


    ก็จริงนี่นา... คนคณะนี้มีตั้งเป็นร้อย แถมฉันยังเพิ่งเข้ามาเป็นปีหนึ่งด้วย จะให้ฉันไปเป็นดรัมเมเยอร์เนี่ยนะ?


    "เพื่อนพี่แนะนำเรามา บอกว่าเราอะเป็นนักกีฬา หัวก็ดีน่าจะเรียนท่าของดรัมได้เร็ว แล้วที่สำคัญหุ่นเราอะดีมากๆเลยนะ หน้าตาก็น่ารัก... ไปเป็นหน้าเป็นตาให้กับคณะเราได้เลย"  แหม่... ชมกันซะเขินเลยทีเดียว ฉันรู้สึกได้ถึงรัศมีจากอีแชงที่ไม่ต้องพูดก็รู้ว่ามันคงกำลังยิ้มกริ่มแล้วแซวฉันทางจิตเป็นแน่


    "ต..แต่ว่าหนูเป็นนักกีฬาแล้วนะคะ ลงสองอย่างเลยมัน-"


    "โอ๊ยยยย เป็นนักวิ่งใช่มะพี่รู้หรอก! ไม่ต้องห่วงๆ พวกพาเหรด ดรัมเมเยอร์ กองเชียร์น่ะตอนเช้าหมดเลย ไม่ไปเกี่ยวกับกรีฑาตอนบ่ายแน่นอน"  รุ่นพี่คนสวยพูดขึ้นมาอย่างรู้ทัน ฉันยิ้มแห้งๆให้นางโดยที่ในใจกำลังคิดหนักสุดๆ


    ถึงดรัมเมเยอร์จะเป็นอะไรที่มีหลายคนไฝ่ฝันอยากจะได้เป็นก็เถอะ... แต่ฉันไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่ๆ แค่วิ่งก็เหนื่อยอยู่แล้ว ถามว่าเป็นได้มั้ยฉันก็เป็นได้อยู่หรอก... ปกติฉันก็ชอบเต้นชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องมานั่งซ้อมท่าดรัมเมเยอร์ทุกวันล่ะก็เหรียญทองวิ่งคงจะไม่ได้มาง่ายๆแน่


    "เอ่อ... แต่หนูเพิ่งอยู่ปีหนึ่งเองนะคะ ปกติคณะเราไม่ได้มีคนที่เป็นดรัมอยู่แล้วเหรอคะ?"  ฉันถามด้วยน้ำเสียงแหยๆ เรื่องปฏิเสธคนนี่ฉันไม่เก่งสุดๆ


    "เฮ้อ... ก็มีอยู่หรอก"  รุ่นพี่ทำหน้าลำบากใจแล้วก็เสยผมตัวเองหนึ่งทีก่อนที่จะพูดต่อ


    "ก็น้องเจนนี่คิมนั่นแหละ"


    "แต่นางไม่มาเรียนหลายวันแล้ว... จะตามมาซ้อมก็คงยิ่งเป็นไปไม่ได้ พี่ก็เลยต้องหาตัวแทน"


    ยัยนั่นก็เป็นดรัมเมเยอร์งั้นเหรอ!? เอ้ะ... แต่ก็ถูกแล้วนี่นะ ถ้าคณะเราจะส่งคนไปเป็นดรัมเมเยอร์ก็คงต้องเป็นดาวคณะนี่แหละ ทั้งหน้าตาทั้งหุ่นยัยนั่นยังไงก็ได้อยู่แล้ว 


    "แล้วถ้าพี่เจนนี่กลับมาทันล่ะคะ?"


    "หายไปเป็นอาทิตย์แล้วคงเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีใครเห็นนางเลยด้วย น้องลิซ่าเหมาะสุดแล้วเชื่อพี่ นะๆๆๆพี่รู้ว่าตอนนี้น้องอาจจะไม่อยากเป็น แต่ช่วยพวกพี่หน่อยนะ"  น้ำเสียงอ้อนๆกับหน้าตาสวยๆของรุ่นพี่คนนี้ทำให้ฉันปฏิเสธขาดไม่ลง แต่จะให้ตกลงไปเป็นก็ไม่อยากเป็น ทำยังไงดี T-T


    "ถ้างั้นหนูขอคิดดูก่อนได้มั้ยคะ ระหว่างนี้พี่ก็หาคนอื่นไว้เผื่อๆด้วยจะดีมากเลยค่ะ"  แง... ไอแชงช่วยด้วย


    "แหมพี่รู้ว่าแค่นี้น้องลิซ่าทำให้พี่ได้อยู่แล้ว... เนอะ^^ ให้คำตอบพี่ก่อนวันศุกร์นะ"  รุ่นพี่คนสวยโปรยยิ้มมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะวางกระดาษใบเล็กๆแผ่นนึงลงบนโต๊ะแล้วก็เดินจากไป ในกระดาษมีเบอร์โทรติดต่อ ไลน์ และอินสตาแกรมเขียนอยู่ พร้อมกับตัวอักษรภาษาไทยลายมือน่ารักๆที่เขียนไว้ว่า 'พี่พร้อม'


    "พี่พร้อม"  ฉันอ่านออกเสียงให้เพื่อนได้ยิน ไอแชงที่เพิ่งจะทำหน้าหายเอ๋อได้ก็หันมามองฉันสลับกับกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ


    "ชื่อพี่คนเมื่อกี๊อ่อ? แจกไลน์ซะด้วย"


    "เออน่าจะ... พี่เค้าสวยว่ะปฏิเสธไม่ลงเลย"  ฉันทำหน้าเซ็งๆ แต่เอาจริงๆจะเป็นใครมาทาบทามฉันก็ปฏิเสธไม่เก่งอยู่ดีนั่นแหละ


    "เออสวยจริง ละนี่แกเอาไงวะ? หนักใจแทนเลย"


    "เออเอาไงดีวะ"  ฉันถามมันด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก ทำไงดีเนี่ย... ทำไมต้องมาเป็นฉันด้วย แต่จะว่าไปก็เหมือนกรรมตามสนอง เพราะฉันก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ดาวคณะมาเรียนไม่ได้ ตอนนี้ฉันก็เลยต้องมาชดใช้กรรมโดยการมาเป็นดรัมแทนนางอย่างนั้นเหรอT_T


    "แกจะเป็นมั้ยล่ะ ซ้อมหนักนะ"  มันพูดขึ้นด้วยแววตาที่กำลังจะบอกว่า 'ซ้อมหนักสุดๆถ้าเป็นไปได้อย่าไปลงเลย'


    "เออฉันก็รู้ไง แต่ดรัมตัวจริงมาเป็นไม่ได้ก็เพราะฉันไง"  ฮือ... จะเบะแล้วนะ


    "งั้นแกก็ไปตามพี่เจนนี่กลับมา"


    "แกจะบ้าหรือไงไอแชง แผลไม่หายเค้าก็ไม่ออกมาจากห้องหรอก"


    "แกก็ไปช่วยดูแผลให้เค้าสิ"

     
    "ฉันเกลียดยัยนั่นโว้ยยยย"  บ้าจริง!!! คนมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมฉันจะต้องมายุ่งเกี่ยวกับนางอยู่ได้เนี่ยยย


    "แต่มันก็เป็นทางเดียวที่แกจะไม่ต้องไปเป็นดรัมแทนนะ"  =_=


    "แล้วถ้าสมมุติฉันจะไปช่วยทำแผลทำอะไรให้จนนางหายจริงๆ แล้วนางไม่ยอมรับหน้าที่ล่ะ?"


    "แกก็ทำให้นางยอม"


    "ทำยังไง?"  ฉันถามขึ้นมาอย่างสนใจ 0_0


    "ตื๊อ"


    "อีแชง-_-!"  อีเพื่อนสนิทบ้านี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด ให้ตายสิ! ลิซ่าจะบ้า


    "เค้าไม่ได้เกลียดแกไม่ใช่เหรอ ยังไงทำไปมันก็ไม่เสียหายนะลิซ"  มันพูดขึ้น ไม่เสียหายตรงไหนฟะ? ทำน่ะฉันเสียศักดิ์ศรีสุดๆไปเลยไม่ใช่รึไง


    "ทำไมฉันต้องไปทำดีกับคนที่เกลียดวะ ละยัยนั่นน่ะก็เกลียดทุกคนนั่นแหละ คนนิสัยแบบนั้นฉันไม่อยากจะเข้าใกล้ที่สุด"


    "แกคิดเยอะไปละ ก็ไหนมาเล่าให้ฉันฟังไงว่าคราวที่แล้วที่เอาข้าวต้มไปให้นางก็ไม่ได้แย่มาก"  


    ก็นั่นมันแค่คราวนั้นนี่...


    "นี่ฉันต้องไปเทคแคร์นางจริงๆใช่มะ"  ฉันเอามือเท้าคางแล้วผลักจานข้าวออกจากตัวเล็กน้อย... กินต่อไม่ลงแล้ว


    "แค่เอาข้าวไปให้ละดูแผลให้หายแค่นั้นเอง"  นี่ฉันต้องเป็นเด็กส่งข้าวต้มให้นางแล้ว?


    "เฮ้อ ปฐมพยาบาลฉันก็ใช่ว่าจะเก่งนะ"


    "เดี๋ยวให้พี่จีซูบอกให้ว่าต้องทำอะไร"


    "ฮือ.. เอาแฟนแกมาทำแทนฉันได้ไหม"  แค่ได้ยินคำว่าแฟนมันก็เอามือมาตีฉันรัวๆด้วยความเขิน แหม ยิ้มใหญ่เลยนะไอนี่... ไม่สงสารเพื่อนอย่างฉันที่กำลังตกลำบากบ้างเลย


    "ไม่ได้!"


    และแล้วตอนเย็นนั้นฉันก็อดกินส้มตำ... ต้องไปแวะร้านข้าวต้มแทนเพื่อซื้อไปให้ใครบางคนที่ฉันไม่อยากจะเจอที่สุด




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×