ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฏิหาริย์รัก นางคณิกา

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 : ผิดแผน...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 313
      1
      22 พ.ย. 58





    คนบนหอบุปผาฟ้าประทานตกใจกันไม่น้อย มีหลายคนที่กรีดร้องอย่างหวาดกลัว พวกนางรู้จักหน้าตาเสวี่ยถิงดี แค่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นเพื่อนที่หายไปกว่าสองชั่วยาม แต่ดันมาปรากฏกายจนขบวนเสด็จต้องหยุด ใครบ้างจะไม่รู้ว่าการไปขัดขบวนราชนิกูลทุกพระองค์ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุไหนนั้นมีโทษร้ายแรงเพียงใด คงมีเพียงนายหญิงใหญ่จินที่เฝ้ามองอย่างนิ่งสงบ

     

     

              “จับตัวนางไว้ !” เสียงหัวหน้าองครักษ์หลวงสั่งเสียงเข้ม ขณะที่เหล่าลูกน้องสองคนเดินไปหิ้วปีกร่างกายปวกเปียกของคนแกล้งทำขึ้นมากันคนละข้าง ร่างบางโอนเอนอย่างทรงตัวไม่อยู่ เหงื่อชุ่มไปทั่วตัว ใบหน้างดงามจับใจช้อนตามองอย่างน่าสงสาร

     

     

              แต่ก่อนที่จะมีใครทันการสอบสวน ฝูงชนก็มีอันต้องแตกฮือเมื่อเหล่าบุรุษสวมชุดดำโผล่พรวดออกมาจากหลังคาด้านข้างและเข้าบุกล้อมขบวนเสด็จประพาสขององค์ฮ่องเต้ นางกำนัลหวีดร้องก่อนพุ่งเข้าไปกอดกันกลมอย่างหวาดกลัว ทันทีที่มีการปะทะเกิดขึ้น เสวี่ยถิงก็ยกชายกระโปรงวิ่งไม่คิดหน้าคิดหลังเมื่อตระหนักว่าบัดนี้เกิดอะไรขึ้น

     

     

              ทุกอย่างผิดแผนไปหมดแล้ว !

     

     

              กลางวันแสก ๆ  ไยพวกคนชุดดำเหล่านี้กล้าหาญชาญชัยมาล้อมวงตีกับเหล่าทหารหลวง !

     

     

              แต่วิ่งได้ไม่กี่ก้าว ผมยาว ๆ ของนางก็เป็นตัวทำลายหนทางรอด เจ้าโจรกบฏหันมาเห็นและลากหัวนางมาอยู่ในอ้อมแขนเหม็นสาบ ตัวดาบที่สะท้อนแสงพระอาทิตย์วับ ๆ แวม ๆ ย้ายมาจ่ออยู่ที่ลำคอระหง ใช้แรงเพียงนิดเดียว คอของนางคงถูกตัดขาดสะบั้น...

     

     

              รอบข้างนั้นดูเคว้งคว้าง มีเพียงเหล่าชายชุดดำและทหารองครักษ์ที่กำลังต่อสู้ตวัดดาบซ้ายทีขวาทีสังหารกันและกันให้ได้มากที่สุด ดีหน่อยที่โจรเหล่านี้ไม่ได้หมายตาชาวบ้าน พวกมันมุ่งโจมตีไปยังคนในขบวน ชาวบ้านจึงวิ่งหนีกันหายไปได้ แม้แต่คนบนหอสูงที่มีทั้งร้านอาหารและหอนางโลมก็ไม่มีใครอาจหาญมามองการต่อสู้ด้วยกลัวลูกหลง

     

     

              ถ้ามันไม่ได้หมายตาชาวบ้าน แล้วทำไมต้องเอามีดมาจี้คอนางด้วยเล่า !!!

     

     

              เสวี่ยถิงได้แต่กรีดร้องในใจขณะเดินทุลักทุเลตามแรงบังคับของโจรโฉดที่ปิดหน้าปิดตาแต่กลิ่นตัวแรงชัดเจนมาอยู่กลางขบวน ชายชุดดำมีมากพอสมควร แต่หากให้เทียบกับขบวนเสด็จและเหล่าทหารกองปราบที่นำกำลังเสริมมาล้อมก็มีมากกว่าถึง 30 ต่อ 1 เพราะเหตุนี้เองกระมัง มันจึงเลือกชีวิตเล็ก ๆ ของนางมาเป็นตัวประกัน

     

     

              แต่ชีวิตชาวบ้านคนเดียวใครจะสนล่ะเจ้าคะ...

     

     

              พอทุกคนเห็นนาง ความชุลมุนก็หยุดหลง ต่างคนต่างไว้ท่าที ขณะเหล่ากบฏค่อย ๆ เดินมาอยู่หลังพรรคพวกและเตรียมหนี คงคิดจะมาสร้างความวุ่นวาย องครักษ์เองก็ไม่กล้าทำอะไรมากด้วยชีวิตตรงหน้าเป็นหญิงชาวบ้านคนหนึ่ง เกี้ยวสีทองถูกแทงพรุนนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีร่องรอยความเสียหายของตัวบุคคลด้านใน รอบ ๆ ต่างเป็นร่างไร้ลมหายใจของทหารผู้ปกป้องนายจนตัวตายกว่าสิบชีวิตปนไปกับร่างเหม็น ๆ ของชายชุดดำ

     

     

              ไม่ทันได้ต่อรองอะไรกัน เสียงร้องของชายชาตรีก็ดังขึ้นติด ๆ กันเบื้องหลัง แม้เหล่าผู้ร้ายจะมีทักษะการต่อสู้ แต่ด้วยความประมาทเพียงนิดน้อย หายนะก็พัดเข้าสู่พวกมันจนตั้งรับกันไม่เป็นขบวน ต้นเหตุที่ทำให้พวกมันต้องร่นหนีกลายเป็นถูกล้อมหน้าล้อมหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เหล่าทหารกองปราบและองครักษ์หลวงหน่วยก้านดีบางส่วนถูกนำมาห้อมล้อมทั้งหน้าและหลังไม่มีทางหนี เว้นเพียงแต่จะสามารถเหาะเหินขึ้นไปบนอากาศที่เป็นเพียงทางเลือกเดียว

     

     

              อย่างไรเสียก็คงไม่พ้นคมธนูของทหารลับที่แฝงกายอยู่ตามตัวอาคารต่าง ๆ ที่ง้างธนูเตรียมยิง

     

     

              แย่หน่อยตรงที่นึกว่าพวกมันจะมีอะไรมากกว่านั้น เลยยกพวกกันมาล้อมเสียเยอะ แต่สุดท้ายพอโดนลอบทำร้ายก็ร้องกันไม่เป็นภาษา จุดประสงค์คงเพียงแค่ก่อกวนให้เป้าหมายตื่นตัว

     

     

              น่าเสียดายที่ เป้าหมายของพวกมันไหวตัวทันและเปลี่ยนมายืนจ้องพวกมันอย่างนิ่งเฉย ทว่ารังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาก็ชวนให้คนที่รับรู้ความรู้สึกนั้นได้ขนลุกซู่อย่างไม่ทราบสาเหตุ แม้แต่เสวี่ยถิงที่ถูกเจ้าโจรโฉดบังไม่ให้เห็นเหตุการณ์อะไรมากนักก็ยังร้อน ๆ หนาว ๆ

     

     

              จำนวนคนของพรรคพวกถูกกำจัดไปเกือบสิ้น ไม่นับคมธนูที่พร้อมจะพุ่งมาเจาะหัวของมันได้ทุกเมื่อ ทำให้เจ้าคนที่ริจับผู้หญิงมาเป็นตัวประกันตัวสั่นมากกว่าใครเพื่อน ไม่ใช่ว่ามันขี้ขลาดกว่าใครหรอกหรือ จึงวิ่งไปหาตัวประกันมารักษาชีวิตตนเอาไว้...

     

     

              “ปละ...ปล่อย ปล่อยข้าเถิด จะ..เจ้าค่ะ” เสวี่ยถิงไม่กล้าแม้แต่จะกลืนน้ำลายด้วยกลัวการสั่นไหวของลำคอจะไปถูกคมดาบเข้า สิ่งสูงสุดที่ต้องรักษาไว้ของคนทำอาชีพเช่นนางไม่พ้นเรื่องความงาม ให้ตายศพไม่สวย หรือโชคดีรอดได้แต่ดันได้แผลเป็นกลับไปคงไม่สู้ดีต่อจิตใจนางนัก

     

     

              “หากอยากให้นางมีชีวิตรอด ก็ปล่อยพวกข้าไปซะ !” ไม่เพียงกลิ่นตัวที่แรง กลิ่นปากเจ้านี่ก็แรงเช่นกัน เสวี่ยถิงนึกสงสัยว่าพวกเขาไม่ได้อาบน้ำกันเลยหรืออย่างไร ใบหน้าซีดเซียวเปลี่ยนมาเป็นเทาอมเขียวเมื่อต้องกลั้นทั้งการหายใจและต้องคอยขยับคอให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

     

              ในหัวนึกถึงคนในหอบุปผาฯเสียจริง ๆ  นางจะถูกปล่อยให้ตายก่อนได้เข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้อีกหรือนี่...

     

     

              “ปล่อยนางซะ” เป็นเสียงหัวหน้าองครักษ์ที่เคยสั่งให้คนจับตัวนางเมื่อไม่กี่เพลาก่อนหน้า

     

     

              เมื่อยังเห็นว่าพวกมันที่เหลือกันไม่ถึงสิบไม่มีทีท่าจะปล่อยตัวประกัน เขาจึงทำมือเป็นสัญญาณให้เริ่มยิงธนูใส่ผู้ร้ายโทษประหารเหล่านี้ทีละคนสองคน สร้างสงครามจิตวิทยาให้แก่คนที่เหลืออยู่ แต่หากปล่อยให้ตายไปหมด ทุกอย่างที่เตรียมมาก็คงไม่ได้ผลอะไรกลับไป

     

     

              ชายชุดดำล้วนอยากฆ่าตัวตายให้สิ้นเสียตรงนั้น แต่พวกมันก็ยังมีจิตสำนึกที่กลัวตายอยู่ไม่น้อย ทำได้เพียงกดดาบเน้นหนักลงไปบนคอของเด็กสาวที่จับมา ช่วงแรกนั้นนางรู้สึกชา แต่พอผ่านไปสักพักอาการเจ็บแปลบก็แล่นมาพร้อมกับความชื้นที่หุ้มลำคอเอาไว้ ใบหน้านางยิ่งตระหนก พอดิ้นรนดาบยิ่งกดลึก

     

     

              เห็นท่าไม่ดีว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังวิ่งไปหายมบาลอย่างไม่รู้สึกตัว ทหารองครักษ์ใช้โอกาสคนร้ายเผลอเพียงชั่วพริบตายิงธนูใส่ขาใส่ไหล่จนทรุดกันเป็นแถบราวกับยุงถูกเด็ดปลีกกลางอากาศ

     

     

              ร่างของเสวี่ยถิงก็ถูกเจ้าคนร้ายทับเอาไว้ด้วยน้ำหนักมหาศาล แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือนางเหม็นตัวพวกมันจนขมคอไปหมด ทำได้เพียงดิ้นออกห่างจากเจ้าคนร้ายที่นอนนิ่ง ขยับไหวไม่ได้เพราะถูกลูกธนูตรึงทั้งแขนและขาอยู่กับพื้น มีสติและรับรู้ถึงความเจ็บปวดทุกอย่าง แต่กลับทำได้เพียงกลอกตาที่มีน้ำไหลไปมาอย่างหมดหนทาง พวกมันไม่ได้คาดเดาว่าจะถูกจับอย่างง่ายดายเพียงนี้ อาชีพกุ๊ยรีดไถเงินที่เคยทำมาก่อนนั้นง่ายดายสำหรับการฆ่าคนสักคน แต่ตอนนี้พวกมันกลับถูกกระทำเสียเอง...

     

     

              “ซี๊ด....” เสวี่ยถิงสูดปากเมื่อจับลำคอของนาง กลัวเหลือเกินว่ามันจะขาดออกจากกันหากนางขยับมากเกินไป ดิ้นรนออกมาก็ได้แต่นั่งมองอย่างง ๆ กลิ่นคาวเลือดยังคละคลุ้ง คนที่ถูกแวดล้อมและโดนสั่งสอนมาเรื่องจริตมารยาและความอ่อนหวานของผู้หญิงจึงทำได้เพียงกะพริบตาปริบ ๆ  อย่างมึนงงสับสน

     

     

              “ไปซะ” เสียงเยือกเย็นด้านหลังทำให้ประสาทรับรู้ทุกส่วนกลับมาตื่นตัว พลันความรู้สึกอ่อนปวกเปียกก็แผ่ไปทั่วร่างกาย นางเป็นเพียงสามัญชนเล็ก ๆ ที่ไม่เคยมีความคิดอันใดในหัวนอกจากเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ  แต่บัดนี้ดูจากท่าทางขององครักษ์ด้านหน้าที่คุกเข่าลงทำความเคารพแล้วคงเดาได้ไม่ยาก ว่าคนที่เอนเอ่ยวาจาออกมาบอกนางเมื่อกี้คงเป็นใครไปไม่ได้

     

     

              นอกเสียจาก...

     

     

              องค์ฮ่องเต้ !

     

     

              เฮือก... ตุ้บ

     

     

              เสียงร่างเนื้อกระแทกพื้นพร้อมกับ ๆ ที่สติของนางดับวูบด้วยความรู้สึกตกใจขั้นสุด ปิดการรับรู้ทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันแม้แต่จะเห็นดวงพระพักตร์ของต้นเหตุทุกการกระทำที่นางทำลงไป...

     

     

              “ฝ่าบาท... นาง... หมดสติไปแล้วพะยะค่ะ” จากที่เคยตะโกนสั่งหมายจับตัวหญิงผู้บังอาจมาขัดขวางขบวน แต่บัดนี้น้ำเสียงเข้มเฉียบขาดกลับดูพะว้าพะวงด้วยชายชาตรีเช่นเขาไม่เคยต้องมาดูแลหญิงใด แต่นี่เป็นเพราะการกระทำที่ไม่รอบคอบในหน้าที่ จึงทำให้มีชาวบ้านบาดเจ็บ จะหาตัวคนรักผิดชอบก็ต้องเป็นพวกเขา...

     

     

              นางกำนัลกว่าสิบคนเลิกล้มอาการหวาดกลัวแล้ววิ่งเข้ามาดูเด็กสาวตรงหน้า แม้องค์ฮ่องเต้จะยังไม่ทรงตรัสอะไรออกมา ทำเพียงทอดพระเนตรเฉย ๆ  ราวกับบัดนี้พระองค์กลายเป็นหุ่นปั้นไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงเหล่าทหารที่ติดตามมาด้วยเริ่มกระสับกระส่ายกันอย่างทำตัวไม่ถูก

     

     

              “ตามหมอหลวง” ลู่หวั่นหลงเอ่ยออกมาเบา ๆ  ก่อนจะผินร่างกลับไปยังอาชาสีขาวคู่ใจแล้วควบกลับไปยังวังหลวง โดยมีเหล่าทหารหลายร้อยนายตามไปติด ๆ  ทิ้งให้กงกงคนสนิทและเหล่านางกำนัลช่วยกันดูแลตามหาญาติของแม่นางผู้นี้

     

     

     

     

              “ไม่ทันเจอพระพักตร์ ก็หมดสติไปเสียแล้ว เช่นนี้จะไหวได้เช่นไรกัน...” เสียงของหญิงสาวผู้มองเหตุการณ์ในมุมมืดมาตั้งแต่ต้นถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

     

     

     

     

              “ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ข่าวแล้วว่าพระองค์ทรงถูกเจ้าพวกกบฏชั่วช้าจำนวนมากลอบสังหารหรือเพคะ แถมยังโจ่งแจ้งที่สาธารณะอีกด้วย พวกมันทำเกินไปแล้ว ! ถ่ายทอดคำสั่งข้า ลงโทษตัดหัว 9 ชั่วโคตรให้สิ้นซาก !

     

     

    ไทเฮาผู้เป็นห่วงพระโอรสแท้ ๆ ถลามาจับพระวรกายของฮ่องเต้อย่างนึกเป็นห่วง ก่อนจะหันไปตวาดสั่งข้ารับใช้รอบข้างในห้องโถงใหญ่ของตำหนักลู่ซือ ซึ่งเป็นตำหนักที่องค์ฮ่องเต้ราชวงศ์ลู่สร้างขึ้นมาเกือบร้อยปีแล้ว

     

     

              “ไม่ต้องหรอกพะยะค่ะ เสด็จแม่ ลูกให้องครักษ์จับตัวพวกมันไว้สอบสวน อย่าพึ่งทำอะไรบุ่มบ่ามเลย” หวั่นหลงระงับคำสั่ง ด้วยทราบดีว่าพระมารดาเป็นคนขี้กังวลและมักทำอะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง เขาต้องคอยตามเช็ดตามเก็บให้ทุกครั้ง ตอนนี้พวกมันยังมีประโยชน์ คุกหลวงจึงได้รับนักโทษฉกรรจ์เพิ่มไปอีก

     

     

              “แต่ว่า...” ไทเฮาทำท่าจะคัดค้าน แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังที่พระโอรสมักใช้มองพระนางเวลาต้องการห้ามปรามจึงหยุดไว้เพียงเท่านั้นแล้วเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น “พระองค์ไม่เป็นไรแน่นะเพคะฝ่าบาท เดี๋ยวหม่อมฉันจะให้หมอหลวงมาตรวจพระวรกายนะเพคะ”

     

     

              “ลูกสบายดี ไม่บาดเจ็บอันใดเลย” หวั่นหลงตอบ ก่อนจะเรียกให้เหล่านางกำนัลมาพาไทเฮากลับตำหนักซื่อกง และยังถ่ายทอดคำสั่งให้นำตัวแม่ทัพทั้ง 8 กองธงเข้าพบ

     

     

              ฉากหน้าเรื่องนี้ก็คงเป็นการลอบก่อกวนธรรมดา แต่เบื้องลึกมันมีอะไรมากกว่าที่หลายคนคาดคิด

     

     

              สิ่งใดทำให้แผ่นดินลู่ต้องสั่นคลอน เขาจะไม่ปล่อยสิ่งนั้นไว้ !

     

     


     



    -         ตอนนี้อาจจะดูงง ๆ เนอะ... คือฝ่าบาทแกเป็นคนไม่ค่อยพูดค่ะ การแสดงออกก็เลยดูงง ๆ ไม่มีอะไรให้รู้สึกเท่ ไม่เร้าใจอะไรเลย 555555+

     

    ส่วนเสวี่ยถิง... ก็นั่นแหละ นางมโนว่าเรื่องยั่วยวนฮ่องเต้นี่มันง่าย ๆ ทำอะไรก็ไม่ค่อยวางแผนอะไรเท่าไหร่ ทุกอย่างเลยผิดแผนตามชื่อตอน

    ตัวหลักละครเรื่องนี้ไม่สมบูรณ์กันสักคนค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับอ่าน...

    ที่จริงตอนนี้เน้นไปทางเรื่องลับของราชสำนักมากกว่า แต่ด้วยประสบการณ์อ่อนด้อย จึงแต่งออกมาไม่ตรงตามเป้า แถมยังไปปนกับแผนของแม่นางเสวี่ยถิงอีก เลยขอออกมาชี้แจงนิดนึง เพราะตอนนี้มันก็ผิดแผนของนักเขียนด้วยเหมือนกัน T^T ทิ้งเรื่องนี้ไปเป็นปี เลยยังงง ๆ กับพล็อตเก่าตัวเอง(ไม่)นิดหน่อย หลังจากนี้คงได้ปรับแต่งกันยาว ได้งงทั้งเรื่องอ่ะค่ะ 5555555+     -





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×