ลิขิตไว้เเค่สองเรา
พวกเขาทั้งสองคนกลับมาพบกันในวันงานเลี้ยงรุ่นมอปลาย เเม้จะผ่านไปนานถึง 9 ปี ความรู้สึกอบอุ่นนั้น....ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจ
ผู้เข้าชมรวม
41
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กึก..กึก...
นิ้วเรียวทั้งสองบรรเลงบนคีย์บอร์ดด้วยความคล่องเเคล่ว ดวงตาสวยเหลือบไปมองเรือนนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ เขาดูกังวลเล็กน้อย ต้องจัดการเอกสารให้เสร็จก่อน 4 โมงเย็น คิดว่าวันนี้คงไม่ทำโอที บัตรพนักงานที่คล้องอยู่ขยับไปมาตามเเรงเคลื่อนไหว
เหนือ
นาย จิรายุ ถนนุกานต์
(ฝ่ายบัญชี)
เหนือเป็นพนักงานบริษัทเอกชนมาเกือบจะ 3 ปีเเล้ว หลังจากเรียนจบก็หางานทำทันที ชีวิตของเขาไม่ได้มีอะไรหวือหวา มันเรียบง่ายมาก ทำงานเสร็จก็กลับหอพัก วนลูปไปเรื่อย ๆ
ชีวิตนี้คงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าวันหยุด
อยากได้เวลานอนดูซีรีย์สัก 1 วัน
ตื่นสายๆ มานั่งจิบกาเเฟ
นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอ่านหนังสือที่ชอบบนเตียง
...ฝันไปก่อนเเหละ
“น้องเหนือคะ วันนี้พี่ได้ข่าวว่ามีเดทใช่มะ” พี่เเพรวฝ่ายการเงินเลื่อนเก้าอี้ขยับมาใกล้ ท้าวคางมองคนอายุน้อยด้วยความเอ็นดู เห็นมาตั้งเเต่สมัยเป็นเด็กฝึกงาน ตอนนี้เป็นพนักงานเต็มตัว น้องเหนือเป็นคนที่ตั้งใจกับงานมาก เรียนรู้เร็ว เเถมรอบคอบ น้องเหนือเป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองมีสามี คงจะตามจีบน้องเหนือให้ได้
“เดทที่ไหนกันล่ะครับ” เเม้จะเร่งพิมพ์งานเเค่ไหน เเต่ก็ไม่ได้เสียมารยาทที่จะไม่ตอบคนอายุมากกว่า “เป็นงานเลี้ยงรุ่นสมัยมอปลายครับ เเค่นัดเพื่อนในกลุ่มมาเจอกันครับ”
พี่เเพรวทำหน้าครุ่นคิด ในขณะที่เหนือรู้ทัน “เหนือยังไม่มีเเฟนจริง ๆ ครับ จะไปเดทกับใครได้ล่ะครับ” พูดไปก็ขำไป ทั้งชีวิตไม่เคยมีเเฟนเลยต่างหาก
“น้องเหนือออกจะน่ารัก หลุดQC ได้ยังไงเนี้ย” เหนือเองไม่ได้ตอบอะไร ยิ้มเเห้งให้ เเล้วก็พิมพ์งานต่อ ส่วนพี่เเพรวเองก็เลื่อนเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะของตนเอง “ไว้เดี๋ยวพี่จะช่วยหาให้น๊า”
ได้ยินนะพี่เเพรว…
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่ลืมที่จะตอกบัตรพนักงาน เขาลงมาจากลิฟต์ที่ดูรีบ ๆ หน่อย ถึงเเม้จะเคลียร์เอกสารได้ตรงเวลา เเต่เจ้าเครื่องพิมพ์งานดันกระดาษหมด เลยเสียเวลาตรงนั้นไปหลายนาที คิดว่าไปที่งานสายนิดนึงคงจะไม่เป็นไร
..
@โรงเเรม
เหนือจอดรถไฟฟ้า vespa ข้างตัวอาคารของโรงเเรม ระยะทางที่มาก็ไม่ไกลกันมากเท่าไร ตอนเเรกจะกลับไปเปลี่ยนชุด เเต่กลัวจะช้าไปมากกว่าเดิม เเค่ถอดบัตรพนักงานเก็บใส่กระเป๋า ก็ไม่ต่างอะไรกับเสื้อผ้าที่เขาเคยใส่
“เหนือ ทางนี้เว้ย!” น้ำเสียงที่ยังจำได้ดี เเม้หน้าตาจะเปลี่ยนไปบ้างเเต่ก็จำหน้าได้เหมือนเดิม พายัพ คู่หูสมัยเรียน นั่งเรียนข้างกัน ถ้าบอกว่าเพื่อนสนิท ก็ไม่ปฏิเสธ
“โทษที รอกันนานไหม”
“ไม่ ๆ ยังเหลือไอ้ธีร์ กับ อชิอีก เห็นว่ารถติด”
อชิ…อชิก็มา…
“ทำไมมึงทำหน้างั้นวะ อย่าบอกนะว่าลืมมันเเล้ว”
ใครจะไปลืม ลืมก็บ้าเเล้ว
“เปล่าสักหน่อย เเค่เเปลกใจ”
“เออตอนเเรกพวกกูก็เเปลกใจที่จู่ ๆ มันขอมาร่วมงานด้วย มันบอกว่ามีเหตุผลที่ต้องออกกะทันหัน”
“เหนือได้ข่าวว่ามึงได้งานบริษัทใหญ่หรอวะ”
“กูบอกเองเเหละ พวกเเม่งถาม” พายัพว่า
“ยินดีด้วยนะเว้ย กูเเม่งได้เพื่อนร่วมงานไม่ดี Toxic ชิปหาย โคตรอึดอัดอ่ะ” พล ตัวตึงที่สุดในห้อง ยกเเก้วเบียร์หมดพรวดเดียว
“เฮ้ยไอ้ชาญมึงห้ามมัน เดี๋ยวหลับก่อนจะได้คุยกัน”
นี่นัดกันมาระบายปัญหาชีวิตชัดปะเนี้ย
เเล้วนี่อีกคน “มึงก็ว่าเเต่เขา มึงปาไปสองเเก้วเเล้วยัพ”
สรุปนัดกันมาดื่ม
“จริง ๆ วันนี้กูพึ่งเลิกกับเมีย เเม่ง..”
เอาล่ะ ปัญหาชีวิตรุมเร้าของจริง ไม่รู้จะปลอบยังไง ก็เลยเติมให้มันอีกเเก้ว
“ไอ้เหนือ”
“มึงก็รู้ว่ากูปลอบใจไม่เก่ง กินไปเถอะ”
“ขอบใจว่ะ คืนนี้กูจะเมาให้เละ”
“เเล้วไอ้เหนือคนนี้ก็เก็บร่างมึงสินะ”
ตอนนี้ทุกคนเริ่มหน้าเเดง-หูเเดง จากฤทธิ์เเอลกอฮอร์ บางคนหลับไปเเล้วก็มี โดยเฉพาะพายัพ ตอนนี้ฟุบลงกับโต๊ะไปเเล้ว
ธีร์มาเเล้ว เเต่อชิยังไม่มา…หรือว่าเขาเปลี่ยนใจ
“เฮ้ย ดูดิใครมาาาา” พายัพลากเสียงยาว ลุกขึ้นเดินไปกอดเเขกผู้มาใหม่ เมื่อกี้ยังสลบอยู่เลย
เพื่อนคนอื่นต่างพลอยสร่างเมาไปด้วย บ้างก็ลุกตบมือต้อนรับ บ้างก็วิ่งไปกอด
อชิระ…เขากลับมาเเล้ว
อชิระตัวเป็น ๆ
คงมีเขาคนเดียวที่ไม่กล้ากอด เเค่คุยยังไม่กล้า เห็นเเบบนี้เเต่ก็ดีใจไม่น้อยไปกว่าคนอื่นเลยนะ ถ้าจะให้กอดคนที่เคยชอบ…ก็คงทำตัวไม่ถูก
ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ งั้นคงมีเเฟนไปเเล้ว
นี่เเหละทำไมถึงไม่มีเเฟนสักที เป็นคำถามของหลาย ๆ คน
“โทษที รถติดไม่พอ หาที่จอดรถไม่ได้ กูขับไปจอดที่ห้าง รอนานไหมวะ”
“โหเพื่อน เเค่มึงมา พวกกูก็ดีใจชิปหายเเล้ว”
ทุกคนดูสร่างเมากันได้เเค่เเปปเดียว ก็ตัดภาพเหมือนเดิม
ตอนนี้เหลือเเค่เขากับอชิที่สภาพปกติ เเต่อชิก็ยังนั่งคุยกับชาญอยู่ เรานั่งตรงข้ามกัน ที่มีระยะพอสมควร หรือต่อให้นั่งใกล้กันก็ไม่รู้จะเริ่มถามอะไรก่อน
มีเรื่องให้ถามเยอะเเยะไปหมด
ไม่รู้ว่าอชิจำเขาได้หรือเปล่า
ไม่เเน่...อาจจะลืมเเล้วก็ได้
รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูก จิ้มลูกชิ้นเข้าปากไปก็เเอบเหลือบมองใบหน้าอีกฝ่ายไป เขาเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ทั้งความสูง ทั้งสีผิว ตอนนั้นอชิขาวมาก ๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้ดำ เเต่ก็สีผิวไปทางสีเเทนมากกว่า ใบหน้าก็คมมากขึ้น ดูดีมากเลยเเหละ
อีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าถูกจ้องมอง…เเต่เเค่เเกล้งทำไม่รู้ตัว
เหนือสะดุ้งเล็กน้อย
อชิมองมา เเล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
...ชาญฟุบไปกับโต๊ะเเล้ว
เสียงดนตรียังคงเปิดอยู่ เเต่ถูกใครบางคนกดเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น
“ไปเดินเล่นข้างนอกกันไหม”
“….” อชิเดินมาตั้งเเต่ตอนไหน รู้ตัวอีกที อชิก็กระซิบข้างหู
“ในนี้เสียงดัง ไปข้างนอกกัน” ไม่ต้องรอคำตอบ ก็ถูกร่างสูงจับเเขนให้เดินตามออกไป
“ระ..เราจะไปไหนกันหรอ”
“ข้างบนไหม ชั้นบนสุดมีดาดฟ้า”
ตอนนี้ได้เเต่ก้มมองฝ่ามือใหญ่ที่ทาบอยู่ที่เเขนเขา รู้สึกเคอะเขินไปหมด คำถามบางคำไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเลย เอาเเต่พยักหน้าเเทน
ซึ่งอชิเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ยิ่งไม่ต่อต้านยิ่งเป็นผลดีกับเขา
เเม้เเต่อยู่ในลิฟต์ ร่วมใช้อากาศหายใจเดียวกันในพื้นที่เเคบ ๆ ก็เเทบทำตัวไม่ถูก
ติ๊ง!
ถึงเเล้ว…
ตอนนี้เขาเหมือนเด็กน้อยที่ถูกผู้ใหญ่จูงเเขนพาไปเที่ยว
อชิจะขายาวไปไหน ก้าวตามเเทบไม่ทัน ยิ่งตอนที่อชิหยุดเดิน หน้าเกือบชนเเผ่นหลังเลย
เกือบไปเเล้ว…
อชิปล่อยเเขนเขาให้เป็นอิสระ หันหน้ามามอง “ไม่ทักทายกันหน่อยหรอ”
น้ำเสียงของอชิไม่ได้ดูโกรธ หรือไม่พอใจ เเต่คล้ายน้อยใจมากกว่า
“เรา…คิดว่าอชิ…”
“ใครจะลืม” ยังรู้ใจเหมือนเดิม ฝ่ามือวางบนกลุ่มผม ยีลงไปด้วยความนุ่มนวล “คิดถึง”
“….” อชิจะทำให้คนเเบบเขาหัวใจวายได้เลยนะรู้ไหม
“ขอกอดหน่อยได้ไหม”
“อื้ม” พอได้กอดกันเเบบนี้ ความรู้สึกเก่าๆ ที่ผ่านมาหลายปีก็กลับมา
นานมากที่เกือบจะลืมสัมผัสอุ่น ๆ เเบบนี้ “หายไปไหนมา ฮึ่กก” ไม่เคยคิดว่าตัวเองขี้เเยขนาดนี้มาก่อน เเต่คำถามเเบบนี้มันถูกฝังในใจมาตลอด
“ขอโทษ” สัมผัสที่อชิลูบเเผ่นหลังให้มันนุ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนไม่เคยเปลี่ยน “กลับมาเเล้ว จะไม่หายไปไหนอีกเเล้ว”
ผลงานอื่นๆ ของ Laddaran ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Laddaran
ความคิดเห็น