โรมิโอกับจูเลียต
เป็นฟิคที่แต่งขึ้นเพื่อทำเป็นละครแสดงในงานรับน้องครับ^^
ผู้เข้าชมรวม
1,163
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Character Profile:
โรมิโอ: ตัวเอกฝ่ายชาย เป็นหัวขโมย เกิดใน 'นอเฟรม' ตระกูลนักขโมยมือหนึ่งแห่งเมืองรามา ซึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลโรนอฟ มีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว เจ้าเล่ห์ แต่เวลาที่เอาจริงก็น่ากลัวและเป็นคนจริงจังกับชีวิต
จูเลียต: ตัวเอกฝ่ายหญิง เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูล 'โรนอฟ' ตระกูลที่เป็นอภิมหาเศรษฐีของเมืองรามา มีนิสัยห้าว มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เชื่อถือเรื่องโชคลาง นอกจากนี้ยังเป็นคุณหนูที่มือหนักเท้าหนัก ใครพูดไม่เข้าหูเป็นต้องลงไม้ลงมือ ตอนแรกเกลียดโรมิโอเข้าไส้แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนความรู้สึกนั้นเป็นความรักเพราะโรมิโอเคยช่วยชีวิตตนไว้ เป็นคนที่จริงจังกับชีวิตและค่อนข้างคิดมาก
กาเบลี่ยน: พ่อของจูเลียต เศรษฐีประจำเมืองและยังเป็นผู้นำของตระกูลโรนอฟอีกด้วย เป็นคนหน้าตาดุทำให้ผู้คนต่างเกรงกลัว แต่จะยิ้มแย้มต่อหน้าลูกสาว ใจดีกับลูกสาวเท่านั้น เป็นคนมีความยุติธรรมสูง ไม่อ่อนข้อให้ความผิด รักลูกสาวเหนืออื่นใด เกลียดคนของตระกูลนอเฟรม โดยเฉพาะบาเรี่ยนและลูก
บาเรี่ยน: พ่อของโรมิโอ เป็นคนที่สืบทอดความเจ้าเล่ห์ให้กับโรมิโอ เป็นหัวหน้าตระกูลหัวขโมยอันเลื่องลือของเมืองรามา และเป็นคู่รักคู่แค้นกับกาเบลี่ยนตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนกัน
(คนอื่นๆ ก็เบ๊, ต้นไม้, ก้อนหินฯ ไปละกันนะหุหุ) ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ หมู่ดาวน้อยใหญ่ต่างพากันเปล่งแสงออกมาราวกับจะเป็นการต้อนรับการมาถึงของฤดูเหมันต์ ความเย็นเยือกของลมหนาวในยามยามค่ำคืนนี้คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองรามานี้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบตามแต่ที่มันควรจะเป็น แต่แล้วกลับมีเสียงฝีเท้า เสียงตะโกนของผู้คนจำนวนหนึ่งดังมาไกลๆ
"เฮ้....หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันให้สั่งแกหยุดไง" ชายหนุ่มชุดดำในกลุ่มนั้นตะโกนด้วยเสียงดังด้วยอารมณ์โมโหพลางวิ่งตามคู่หนุ่มสาวที่จูงมือหนีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"เรื่องแน่ะหยุดก็โดนยิงตายน่ะซิ" ชายหนุ่มหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาให้ผู้ชายกลุ่มดังกล่าวด้วยอารมณ์ร่าเริงเต็มที่โดยไม่ได้สนใจเหล่ายมทูตที่กำลังตามมาคร่าชีวิตใกล้ๆ เลย
ชายหนุ่มพาหญิงสาววิ่งซอกแซกไปตามมุมอับภายในตัวเมือง เขาวิ่งวกไปวนมาเพื่อสร้างความสับสนให้บอดี้การ์ดของหญิงสาวเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา เขาจึงพาเธอวิ่งเข้าไปในทางเดินเล็กๆ ที่มีตึกใหญ่ขนาบอยู่เพื่อตรงเข้าไปในที่เฉพาะสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
"เป็นไงบ้าง ไหวไหม" ชายหนุ่มหันมาถามเธอหลังจากที่เขาพาเธอมานั่งลงที่พื้นและลงกลอนประตูเรียบร้อยแล้ว
"ก็...นะ ทีหลังไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ โรมิโอ...เหนื่อยมากเลยอ่ะ" หญิงสาวหันมามองหน้าพูดขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน เธอยิ้มน้อยๆ ให้เขาซึ่งทำให้ชายหนุ่มนามว่าโรมิโอหน้าก่ำสีขึ้นมาเล็กน้อยพลางบิดตัวไปมา ซึ่งทำเอาหญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหน้าเหยขึ้นมาทันทีพร้อมกับคำว่า 'ท่าจะบ้า' ที่ลอยมาตามลมเบาๆ
"ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงฟะ ห๊ะ จูเลียต!!" ชายหนุ่มร้องโวยวายเมื่อเห็นสายตาที่ 'จูเลียต' มองมา
"เปล๊า" เธอพูดเสียงสูงพร้อมส่ายหน้าไปมาจนมันทำให้ผมนุ่มของเธอมันลงมาปิดหน้า ผมที่เคยเรียบยามนี้กลับฟูและชี้ไปคนละทาง เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ โดยมีผมยาวของเธอปรกลงมาปิดหน้าปิดตาจนมองไม่เห็น บวกกับหลอดไฟที่เพดานซึ่งไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าใดนักกระพริบแสงติดๆ ดับๆ เสียงหวีดหวิวที่รอดมาตามซี่ไม้จากตัวบ้านสร้างความสะเทือนใจอย่างรุนแรงให้กับโรมิโอจนชายหนุ่มตกใจแล้วกระโดดไปข้างหลังทำหน้าทำหน้าอย่างกับเห็นผี Junno หลุดออกมาจากจอ
"เป็นบ้าอะไรของเธอ" หญิงสาวหันมาเห็นอาการของชายหนุ่มที่แสดงอาการตกใจเต็มที่จึงแหวใส่ ชายหนุ่มจึงคลายอาการลงแล้วก็เธอเข้าไปนั่งข้างๆ เธอด้วยอาการหวาดๆ เล็กน้อย
"ฉัน...ถามเธอจริงๆ นะ" โรมิโอตีสีหน้าเครียดและพูดด้วยเสียงที่เครียดไม่แพ้กัน "เธอ...รู้สึกอึดอัดไหมกับ....สภาพของเราตอนนี้" ชายหนุ่มถามเธอ ซึ่งเธอก็พอจะรับรู้ได้ถึงความเครียดและความโศกเศร้าที่อยู่ในน้ำเสียงของเขา เธอหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนพลางกุมมือเขาไว้
"ก็ไม่นี่...ฉันก็เข้าใจ แต่จะทำยังไงได้หล่ะ ก็ในเมื่อเราต่างก็เป็นศัตรูกัน" เธอพูดด้วยเสียงสั่นน้อยๆ ราวกับพยายามเก็บความขมขื่นภายในจิตใจไว้
"ท่านกาเบลี่ยน....พ่อของเธอ คงแค้นฉันหน้าดูนะ ที่ฉันทำกับท่านแบบนี้" ชายหนุ่มพูดขึ้นพลางนึกถึงหน้าที่กำลังโมโหและโวยวายสั่งการให้ลูกน้องวิ่งไล่ล่าเขา ทำให้เขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"เดี๋ยวเถอะ หัวเราะอะไรน่ะ มานินทาพ่อคนอื่นให้ลูกสาวเขาฟังแล้วยังจะมาหัวเราะใส่อีกเนี่ยนะ" จูเลียตหันมามองค้อนขวับเข้าให้
"ฮ่ะๆ ก็มันน่าขำจริงๆ นี่นา" ชายหนุ่มยังคงพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะต่อไปด้วยอารมณ์นึกสนุกอยากแกล้ง
"ยังไม่หยุดอีกเหรอคะ คุณนักขโมย" หญิงสาวหันมายิ้มมุมปากให้เขา พลางหันมามองหน้าชายหนุ่ม ซึ่งหากสังเกตดีๆ แล้วจะเห็นเส้นเลือดขึ้นที่ขมับของเธอ จนชายหนุ่มสะดุ้งโหยงและเซถลาไปข้างหน้าเมื่อฝ่ามือสวยตบที่กลางหลังเต็มแรง เขานอนบิดด้วยความเจ็บอยู่ที่พื้นพลางจ้องมองเจ้าของมือสวยที่ทำร้ายร่างกายเขาด้วยอาการเซ็งสุดชีวิต
"ในเมื่อฉันมันเป็นหัวขโมยอะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องเอามันมาให้ได้" ชายหนุ่มลุกกลับมานั่งข้างๆ เธอตามเดิม เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังและตั้งมั่น
"แล้ว...จะขโมยอะไรหล่ะ" จูเลียตถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัว
"ก็...ไปขโมยสมบัติที่ท่านพ่อตาหวงแหนที่สุดน่ะซิ" โรมิโอพูดขึ้นพร้อมหันหน้ามามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ มือหนาทั้งสองของเขาขยับมากุมมือเธอพร้อมยกขึ้นระดับอก ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับหน้าเข้าหาใบหน้าเนียนของหญิงสาว ซึ่งมันทำให้หน้าของเธอก่ำสีขึ้นมาทันที เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเอียงอาย
"แล้วตอนนี้ยังไม่ได้ไปอีกเหรอ" ซึ่งทำเอาชายหนุ่มหยุดกึกหันมามองทันที เขามองเธอด้วยความแปลกใจ เขายิ้มละมุมให้เธอพลางพูดขึ้น "ฉันรู้ว่าฉันได้ 'หัวใจของตระกูลโรนอฟ' มาแล้ว" เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอแล้วพูดต่อ "แต่ว่า...ฉันยังไม่ได้เธอมาครองไว้เลยนี่นา" เขาหัวเราะเสียงดัง ซึ่งเล่นเอา 'หัวใจของตระกูลโรนอฟ' รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีกับเสียงหัวเราะชั่วร้ายที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันของเขา เธอทำหน้าเอือมๆ แล้วก็ลำพึงกับตัวเองเบาๆ "นี่ตูไปคว้าไอ้บ้านี่มาทำแฟนได้ไงวะ"
เธอสั่นหน้าน้อยๆ ให้กับท่าทางของหัวขโมยหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าอาการทั้งหมดที่เขาแสดงออกมาคือการแสร้งทำ เมื่อเห็นเธอเผลอชายหนุ่มจึงโผเข้ากอดเธอไว้ เขากอดเธอไว้แน่นราวกับว่าเธอจะหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
"แค่เวลานี้...แค่เวลานี้เท่านั้น ขอให้ฉันได้อยู่แบบนี้ ขอให้เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอก ขอให้เธอนึกถึงแต่ฉันได้ไหม" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้น หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของชายหนุ่มผ่านอ้อมกอดแน่นของเขา เธอหลับตายิ้มพร้อมกับกอดเขาเพื่อตอบรับความรู้สึกของชายหนุ่ม "ได้ซิ...ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อนึกถึงเธอและมองเธอเพียงคนเดียว เพราะชีวิตและหัวใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ..." หญิงสาวพูดข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ฉันเอง...ก็เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเช่นกัน...." ชายหนุ่มตอบเสียงนุ่ม ทั้งสองหลับตาลงราวกับจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเขาตลอดไป
ทั้งคู่กอดกันแน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าตนจะหายไปท่ามกลางลำแสงของวันใหม่ที่ลอดผ่านซี่ไม้ตามตัวบ้านเก่าๆ
"ไปกันเถอะ เรารีบมาจัดการเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นนี้ให้จบโดยเร็วกันดีกว่า" โรมิโอพูดขึ้นอย่างตั้งมั่นหลังจากที่คลายอ้อมกอดออก เขาลืมตาขึ้นแล้วหันมามองเธอด้วยใบหน้าสดใส จูเลียตเห็นดังนั้นจึงพยักหน้ารับคำ ชายหนุ่มยิ้มและชันตัวลุกขึ้นจากนั้นก็ประคองเธอขึ้นมาและทั้งสองก็ออกวิ่งอีกครั้งโดยในใจนั้นระลึกอยู่เสมอว่าหลังจากผ่านประตูบานนี้ไปแล้วไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาเจอจะเป็นอะไร แต่พวกเขาก็จะร่วมกันฟันผ่าอุปสรรคนั้นไปให้ได้
แกร๊ก!! เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก สองหนุ่มสาวจูงมือกันวิ่งไปข้างหน้าไปทางเหนือโดยมีจุดหมายอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลโรนอฟ...
(ต่อไปเดินเข้าคฤหาสน์ไปเจอกาเบลี่ยนที่คฤหาสน์จากนั้นก็พูดคุยกันแล้วพ่อของโรมิโอก็มาช่วยพูดสมทบลูกชาย) ยังไม่สมบูรณ์เลยอ่ะครับแต่เอามาให้อ่านกันก่อน ว่าเข้าท่าไหม ถ้ายังไงช่วยเม้นท์ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^ ยังไม่สมบูรณ์เลยอ่ะครับแต่เอามาให้อ่านกันก่อน ว่าเข้าท่าไหม ถ้ายังไงช่วยเม้นท์ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^
------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------
ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ หมู่ดาวน้อยใหญ่ต่างพากันเปล่งแสงออกมาราวกับจะเป็นการต้อนรับการมาถึงของฤดูเหมันต์ ความเย็นเยือกของลมหนาวในยามยามค่ำคืนนี้คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองรามานี้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบตามแต่ที่มันควรจะเป็น แต่แล้วกลับมีเสียงฝีเท้า เสียงตะโกนของผู้คนจำนวนหนึ่งดังมาไกลๆ
"เฮ้....หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันให้สั่งแกหยุดไง" ชายหนุ่มชุดดำในกลุ่มนั้นตะโกนด้วยเสียงดังด้วยอารมณ์โมโหพลางวิ่งตามคู่หนุ่มสาวที่จูงมือหนีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"เรื่องแน่ะหยุดก็โดนยิงตายน่ะซิ" ชายหนุ่มหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาให้ผู้ชายกลุ่มดังกล่าวด้วยอารมณ์ร่าเริงเต็มที่โดยไม่ได้สนใจเหล่ายมทูตที่กำลังตามมาคร่าชีวิตใกล้ๆ เลย
ชายหนุ่มพาหญิงสาววิ่งซอกแซกไปตามมุมอับภายในตัวเมือง เขาวิ่งวกไปวนมาเพื่อสร้างความสับสนให้บอดี้การ์ดของหญิงสาวเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา เขาจึงพาเธอวิ่งเข้าไปในทางเดินเล็กๆ ที่มีตึกใหญ่ขนาบอยู่เพื่อตรงเข้าไปในที่เฉพาะสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
"เป็นไงบ้าง ไหวไหม" ชายหนุ่มหันมาถามเธอหลังจากที่เขาพาเธอมานั่งลงที่พื้นและลงกลอนประตูเรียบร้อยแล้ว
"ก็...นะ ทีหลังไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ โรมิโอ...เหนื่อยมากเลยอ่ะ" หญิงสาวหันมามองหน้าพูดขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน เธอยิ้มน้อยๆ ให้เขาซึ่งทำให้ชายหนุ่มนามว่าโรมิโอหน้าก่ำสีขึ้นมาเล็กน้อยพลางบิดตัวไปมา ซึ่งทำเอาหญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหน้าเหยขึ้นมาทันทีพร้อมกับคำว่า 'ท่าจะบ้า' ที่ลอยมาตามลมเบาๆ
"ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงฟะ ห๊ะ จูเลียต!!" ชายหนุ่มร้องโวยวายเมื่อเห็นสายตาที่ 'จูเลียต' มองมา
"เปล๊า" เธอพูดเสียงสูงพร้อมส่ายหน้าไปมาจนมันทำให้ผมนุ่มของเธอมันลงมาปิดหน้า ผมที่เคยเรียบยามนี้กลับฟูและชี้ไปคนละทาง เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ โดยมีผมยาวของเธอปรกลงมาปิดหน้าปิดตาจนมองไม่เห็น บวกกับหลอดไฟที่เพดานซึ่งไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าใดนักกระพริบแสงติดๆ ดับๆ เสียงหวีดหวิวที่รอดมาตามซี่ไม้จากตัวบ้านสร้างความสะเทือนใจอย่างรุนแรงให้กับโรมิโอจนชายหนุ่มตกใจแล้วกระโดดไปข้างหลังทำหน้าทำหน้าอย่างกับเห็นผี Junno หลุดออกมาจากจอ
"เป็นบ้าอะไรของเธอ" หญิงสาวหันมาเห็นอาการของชายหนุ่มที่แสดงอาการตกใจเต็มที่จึงแหวใส่ ชายหนุ่มจึงคลายอาการลงแล้วก็เธอเข้าไปนั่งข้างๆ เธอด้วยอาการหวาดๆ เล็กน้อย
"ฉัน...ถามเธอจริงๆ นะ" โรมิโอตีสีหน้าเครียดและพูดด้วยเสียงที่เครียดไม่แพ้กัน "เธอ...รู้สึกอึดอัดไหมกับ....สภาพของเราตอนนี้" ชายหนุ่มถามเธอ ซึ่งเธอก็พอจะรับรู้ได้ถึงความเครียดและความโศกเศร้าที่อยู่ในน้ำเสียงของเขา เธอหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนพลางกุมมือเขาไว้
"ก็ไม่นี่...ฉันก็เข้าใจ แต่จะทำยังไงได้หล่ะ ก็ในเมื่อเราต่างก็เป็นศัตรูกัน" เธอพูดด้วยเสียงสั่นน้อยๆ ราวกับพยายามเก็บความขมขื่นภายในจิตใจไว้
"ท่านกาเบลี่ยน....พ่อของเธอ คงแค้นฉันหน้าดูนะ ที่ฉันทำกับท่านแบบนี้" ชายหนุ่มพูดขึ้นพลางนึกถึงหน้าที่กำลังโมโหและโวยวายสั่งการให้ลูกน้องวิ่งไล่ล่าเขา ทำให้เขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"เดี๋ยวเถอะ หัวเราะอะไรน่ะ มานินทาพ่อคนอื่นให้ลูกสาวเขาฟังแล้วยังจะมาหัวเราะใส่อีกเนี่ยนะ" จูเลียตหันมามองค้อนขวับเข้าให้
"ฮ่ะๆ ก็มันน่าขำจริงๆ นี่นา" ชายหนุ่มยังคงพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะต่อไปด้วยอารมณ์นึกสนุกอยากแกล้ง
"ยังไม่หยุดอีกเหรอคะ คุณนักขโมย" หญิงสาวหันมายิ้มมุมปากให้เขา พลางหันมามองหน้าชายหนุ่ม ซึ่งหากสังเกตดีๆ แล้วจะเห็นเส้นเลือดขึ้นที่ขมับของเธอ จนชายหนุ่มสะดุ้งโหยงและเซถลาไปข้างหน้าเมื่อฝ่ามือสวยตบที่กลางหลังเต็มแรง เขานอนบิดด้วยความเจ็บอยู่ที่พื้นพลางจ้องมองเจ้าของมือสวยที่ทำร้ายร่างกายเขาด้วยอาการเซ็งสุดชีวิต
"ในเมื่อฉันมันเป็นหัวขโมยอะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องเอามันมาให้ได้" ชายหนุ่มลุกกลับมานั่งข้างๆ เธอตามเดิม เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังและตั้งมั่น
"แล้ว...จะขโมยอะไรหล่ะ" จูเลียตถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัว
"ก็...ไปขโมยสมบัติที่ท่านพ่อตาหวงแหนที่สุดน่ะซิ" โรมิโอพูดขึ้นพร้อมหันหน้ามามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ มือหนาทั้งสองของเขาขยับมากุมมือเธอพร้อมยกขึ้นระดับอก ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับหน้าเข้าหาใบหน้าเนียนของหญิงสาว ซึ่งมันทำให้หน้าของเธอก่ำสีขึ้นมาทันที เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเอียงอาย
"แล้วตอนนี้ยังไม่ได้ไปอีกเหรอ" ซึ่งทำเอาชายหนุ่มหยุดกึกหันมามองทันที เขามองเธอด้วยความแปลกใจ เขายิ้มละมุมให้เธอพลางพูดขึ้น "ฉันรู้ว่าฉันได้ 'หัวใจของตระกูลโรนอฟ' มาแล้ว" เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอแล้วพูดต่อ "แต่ว่า...ฉันยังไม่ได้เธอมาครองไว้เลยนี่นา" เขาหัวเราะเสียงดัง ซึ่งเล่นเอา 'หัวใจของตระกูลโรนอฟ' รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีกับเสียงหัวเราะชั่วร้ายที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันของเขา เธอทำหน้าเอือมๆ แล้วก็ลำพึงกับตัวเองเบาๆ "นี่ตูไปคว้าไอ้บ้านี่มาทำแฟนได้ไงวะ"
เธอสั่นหน้าน้อยๆ ให้กับท่าทางของหัวขโมยหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าอาการทั้งหมดที่เขาแสดงออกมาคือการแสร้งทำ เมื่อเห็นเธอเผลอชายหนุ่มจึงโผเข้ากอดเธอไว้ เขากอดเธอไว้แน่นราวกับว่าเธอจะหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
"แค่เวลานี้...แค่เวลานี้เท่านั้น ขอให้ฉันได้อยู่แบบนี้ ขอให้เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอก ขอให้เธอนึกถึงแต่ฉันได้ไหม" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้น หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของชายหนุ่มผ่านอ้อมกอดแน่นของเขา เธอหลับตายิ้มพร้อมกับกอดเขาเพื่อตอบรับความรู้สึกของชายหนุ่ม "ได้ซิ...ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อนึกถึงเธอและมองเธอเพียงคนเดียว เพราะชีวิตและหัวใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ..." หญิงสาวพูดข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ฉันเอง...ก็เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเช่นกัน...." ชายหนุ่มตอบเสียงนุ่ม ทั้งสองหลับตาลงราวกับจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเขาตลอดไป
ทั้งคู่กอดกันแน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าตนจะหายไปท่ามกลางลำแสงของวันใหม่ที่ลอดผ่านซี่ไม้ตามตัวบ้านเก่าๆ
"ไปกันเถอะ เรารีบมาจัดการเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นนี้ให้จบโดยเร็วกันดีกว่า" โรมิโอพูดขึ้นอย่างตั้งมั่นหลังจากที่คลายอ้อมกอดออก เขาลืมตาขึ้นแล้วหันมามองเธอด้วยใบหน้าสดใส จูเลียตเห็นดังนั้นจึงพยักหน้ารับคำ ชายหนุ่มยิ้มและชันตัวลุกขึ้นจากนั้นก็ประคองเธอขึ้นมาและทั้งสองก็ออกวิ่งอีกครั้งโดยในใจนั้นระลึกอยู่เสมอว่าหลังจากผ่านประตูบานนี้ไปแล้วไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาเจอจะเป็นอะไร แต่พวกเขาก็จะร่วมกันฟันผ่าอุปสรรคนั้นไปให้ได้
แกร๊ก!! เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก สองหนุ่มสาวจูงมือกันวิ่งไปข้างหน้าไปทางเหนือโดยมีจุดหมายอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลโรนอฟ...
(ต่อไปเดินเข้าคฤหาสน์ไปเจอกาเบลี่ยนที่คฤหาสน์จากนั้นก็พูดคุยกันแล้วพ่อของโรมิโอก็มาช่วยพูดสมทบลูกชาย) ยังไม่สมบูรณ์เลยอ่ะครับแต่เอามาให้อ่านกันก่อน ว่าเข้าท่าไหม ถ้ายังไงช่วยเม้นท์ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^
--------------------------------------------------------------
ยังไม่สมบูรณ์เลยอ่ะครับแต่เอามาให้อ่านกันก่อน ว่าเข้าท่าไหม ถ้ายังไงช่วยเม้นท์ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^
ผลงานอื่นๆ ของ L.Lunezglay ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ L.Lunezglay
ความคิดเห็น