"คิดซะว่า ปรโลกคือบ้านของเจ้าก็แล้วกัน"
เพ่ย นางกระโจนข่วนหน้าท่านพญามัจจุราชผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ ปรโลกนะมิใช่สวนหลังบ้านข้า นางมองยมฑูตขาว ยมฑูตดำ พวกเขาต่างหลบหน้านาง
"วิญญาณของข้าต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนเจ้าค่ะ"
"อืม จนกว่าจะหาที่ไปให้วิญญาณเจ้าได้" นางได้แต่ก่นด่าภายในใจหากไม่มีที่ให้นางไปนางไม่ต้องล่องลอยอยู่ปรโลกเป็นยายแก่เลยเหรอ
"เจ้าเลิกก่นด่าข้าทางสายตาได้แล้ว"ดูนางหนูนี่ไม่ต่อว่า ไม่โวยวายหากแต่สายตาของนาง หากฆ่าคนได้เขาคงตายไปแล้ว จิกกัดจนเขาแทบจะมุดพสุธาหนีแล้ว
"เอ่อ ขออภัยขอรับ"
นางมองผู้มาใหม่ไม่วางตา บุรุษผู้นี้เดินไปกระซิบอะไรสักอย่างกับท่านพญามัจจุราช
"ดี ดียิ่ง ไปยมฑูตดำ ยมฑูตขาว พวกเจ้าทั้งสองพาแม่หนูน้อย เอ่อ แม่นางไป"
ยมฑูตดำ ขาว มองหน้ากันฉงน ผู้เป็นนายจะให้พวกเขาพานางไปที่ใด เมื่อวิญญาณของนางอีกนานกว่าจะสิ้นอายุขัย พวกเขาได้แต่สงสัยหากแต่ก็นำทางให้นาง เดินตามผู้ส่งสารที่เข้ามาเมื่อสักครู่ ก่อนพ้นประตูกลับมีเสียงกระซิบที่ได้ยินเพียงเขาสองคน
"พานางไปหาโอกาสถีบดวงวิญญาณของนางลงไปเสีย มิต้องกล่าวอันใดให้นางรู้ตัว" ดำ ขาว มองหน้ากันตะลึงพรึ่งพรืด ให้ถีบนางเข้าร่างผู้อื่น
นางเดินตามบุรุษผู้นี้มาสักพักก็เจอกับสะพานยาวสุดลูกหูลูกตา นางมิรู้ว่าสะพานนี้จะนำพานางไปที่ใด สองข้างทางของสะพานมีเพียงหมอกขาวปกคลุม ทำให้มองไม่เห็นว่าข้างล่างมีสิ่งใด นางสังเกตยมฑูตขาว ดำ พวกเขาดูลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ ตั้งแต่เริ่มออกจากห้องพิพากษา
"พวกท่าน มีสิ่งใดกล่าวกับข้าหรือไม่"นางเป็นพวกไม่ชอบให้มีอะไรคาใจ สงสัยก็ถาม
"แม่นาง ขอโทษด้วย" ดำ ขาว กล่าวพร้อมกัน หากแต่คนฟังได้แต่ฉงน สุดท้ายนางก็เข้าใจว่าเหตุใดพวกเขาจึงขอโทษ ร่างบางรอยริ้วปลิวลงไปในสายหมอกด้วยกำลังขาของบุรษสองคน
มารดาเถอะใครสั่งใครสอนให้พวกท่านถีบสตรีเช่นนี้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น