ชีวิตที่รออยู่ - ชีวิตที่รออยู่ นิยาย ชีวิตที่รออยู่ : Dek-D.com - Writer

    ชีวิตที่รออยู่

    เด็กน้อยทุกคนคงจะคิดกันว่าอยากโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เมื่อผู้ใหญ่ได้ยินก็จะตอบว่าพวกท่านอยากจะกลับไปเป็นเด็ก เพราะอะไรกันล่ะ!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    216

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    216

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 พ.ค. 50 / 15:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ตั้งแต่หนุเป็นเด็กหนูอยากโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ อยากทำงาน อยากหาเงินมาซื้อของที่อยากได้โดยที่ไม่รู้เลยว่าชีวิตที่รออยู่นั้นเป็นเช่นไร
      พวกผู้ใหญ่ไม่ค่อยอธิบายอะไรให้หนูฟังมากมาย เพียงแต่บอกว่า พวกท่านอยากกลับไปเป็นเด็ก อยากมีวันหยุดปิดเทอม อยากมีเวลาว่างๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย ชีวิตมันลำบาก
      ในวันนั้นหนูฟังแล้วไม่เข้าใจ ในเมื่อพวกท่านหาเงินกันได้ สามารถซื้ออะไรก็ได้ สามารถไปไหนมาไหนเองได้ ไม่ต้องขออนุญาต

      ในวันนี้หนูเข้าใจแล้ว
      หนูอยากกลับไปเป็นเด็ก หนูไม่อยากโตไปมากกว่านี้ หนูอยากใช้ชีวิตเป็นเด็กตลอดไป เพราะอะไรน่ะเหรอ
      เมื่อสองปีก่อนหลังจากที่หนูเรียนจบชั้นมัธยม 6 หนูกำลังจะเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย แม่ของหนูซึ่งทำงานอยู่ในกรุงเทพล้มป่วย
      หนูพยายามเป็นสองเท่าของที่เคยเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพ
      แต่ด้วยความที่แม่ไม่สบายหนัก หนูจึงต้องเดินทางเข้ากรุงเทพมาดูแลแม่
      เวลาเกือบทั้งหมดของหนูใช้ไปกับการเฝ้าอาการแม่ พาแม่ไปหาหมอ เช็ดตัว ทำอาหารให้แม่ทาน ทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ
      หนูแทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย แต่ด้วยความกตัญญูของหนูมั้งถึงทำให้หนูสอบเข้ามหาลัยในกรุงเทพได้

      ช่วงเปิดเรียน โชคดีที่แม่เริ่มดีขึ้น แม่กลับไปทำงานเป็นแม่ครัวที่ร้านอาหาร
      เจ้าของร้านใจดีมาก ท่านยังคงรับให้แม่เข้าทำงานเหมือนเดิม เพียงแต่ท่านให้เงินตามความสามารถ ซึ่งรายได้ของแม่นั้นก็ลดลงตามสภาพ
      แม้ว่าหนูจะต้องเรียนหนักเพียงใด หนูก็ต้องการงาน งานที่จะช่วยแบ่งเบา ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของแม่ได้
      เจ้าของร้านที่ใจดี ก็รับหนูเข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟที่นั่น ทำให้หนูได้ทำงานพร้อมกับดูแลแม่ไปด้วยกัน

      ขึ้นชื่อว่าเด็กเสิร์ฟ หลายคนยิ่งประเทศไทยคงจะดูถูก และคงคิดว่าหน้าที่มีเพียงรับลูกค้า รับรายการอาหาร ยกอาหารมาเสิร์ฟเท่านั้น
      ในความเป็นจริงนั้นหนูต้องคอยเตรียมสิ่งต่างๆ มากมาย เริ่มจากเข้าร้านก่อนเวลาเปิดร้าน เพื่อถูพื้น ยกเก้าอี้ลงจากโต๊ะ เช็ดโต๊ะ ตักน้ำแข็ง และจัดวางช้อนส้อมแก้วน้ำเตรียมไว้บนโต๊ะ
      ตรวจดูความเรียบร้อยของห้องน้ำ ทำความสะอาด เติมกระดาษชำระ
      เมื่อเจ้าของร้านมาถึง ก็ออกไปช่วยขนของซึ่งเป็นพวกผักบ้าง เนื้อบ้าง แป้ง น้ำตาล แล้วแต่ว่าในครัวเหลืออะไรน้อย รวมทั้งเครื่องกระป๋อง น้ำอัดลม
      สิ่งเหล่านี้ต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะถึงเวลาเปิดร้าน

      เมื่อลูกค้าเข้าร้าน อย่างที่ทุกคนรู้กัน หน้าที่ก็คือต้อนรับลูกค้า พาไปนั่ง วางเมนู เทน้ำ รับออร์เดอร์ แล้วก็เอาไปส่งในครัว
      หากเป็นลูกค้าขาประจำก็สบายหน่อย เขาจะรู้จักอาหารเป็นอย่างดีช่วยผ่อนภาระของหนูไปได้มาก
      หากเป็นลูกค้าใหม่ ต้องอธิบายเมนูต่างๆ ให้ลูกค้า
      ร้านนี้มีขายน้ำปั่น หากลูกค้าสั่ง ก็เป็นหน้าที่หนูอีกแหละ ที่ต้องทำให้ลูกค้า
      เม็ดแมงลักเม็ดโตๆ ที่กินกันกับน้ำปั่นนั้นก็เป็นหน้าที่หนูอีกน่ะแหละ ที่ต้องเข้าไปต้ม
      รวมไปถึงชาและกาแฟ ที่ต้องทำเตรียมไว้เป็นถังๆ

      เมื่ออาหารพร้อม หนูก็ไปยกมาเสิร์ฟให้ลูกค้า
      หากโชคดี ลูกค้าไม่จู้จี้ ที่เหลือก็คือ คอยเติมน้ำ เก็บจานและเก็บเงิน
      แต่หากเจอคนเรื่องมาก บ่นนู่นนี้ ต้องคอยอธิบาย หากเกินวิสัยที่จะตัดสินใจเองได้ก็ต้องไปเรียกเจ้าของมาคุย บางครั้งก็โอเคผ่านไปได้ บางครั้งก็ต้องไปทำจานใหม่มาให้
      เมื่ออาหารมาวางบนโต๊ะ คุณไม่รู้หรอกว่า จานใบสวย หนาๆ ที่ดูอลังการนั้นหนักแค่ไหน
      และเพื่อความรวดเร็ว หนูต้องยกออกมาทีละหลายๆ จาน จนสาวน้อยอย่างหนูถูกเพื่อนๆ แซวว่าเป็น 'มิสมัสเซิ้ล' เพราะมีกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ
      เมื่อคุณกินอาหารกันเลอะเทอะ ทิ้งของลงพื้นอย่างมักง่าย หนูก็ต้องคอยเช็ดโต๊ะ กวาดพื้นอยู่ตลอด

      เวลาที่ไม่มีลูกค้า อย่าเพิ่งคิดว่าหนูจะว่าง
      ตอนที่คุณเข้ามาในร้าน คุณเห็นช้อนส้อมสอดไว้ในกระดาษที่พับไว้อย่างดี
      นั่นก็เป็นหน้าที่หนูที่ต้องพับมันเตรียมไว้ให้พร้อมหยิบมาจัดโต๊ะ
      หากคุณเข้ามาสั่งแบบแพคกลับบ้าน คุณจะได้น้ำจิ้มต่างๆ ติดไปด้วย
      ซี่งนี่ก็เป็นหน้าที่หนูด้วยเช่นกันที่ต้องเตรียมน้ำจิ้มใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วปิดฝา เรียงเก็บไว้

      นอกจากนี้งานในครัวก็มีมากมาย โดยเฉพาะที่แม่อยู่ในครัว ดังนั้นหากมีโอกาส หนูก็จะเอางานบางอย่างออกมาทำข้างนอก
      อย่าเพิ่งแปลกใจคิดไปว่า ในครัวทำแต่อาหาร ทำไมมีงานให้เด็กเสิร์ฟเอามาทำข้างนอกได้
      คุณอย่าลืมว่า จะทำอาหารได้นั้น ต้องมีวัตถุดิบ และวัตถุดิบนั้นไม่ใช่ว่าซื้อมาแบบสำเร็จรูปไปซะทุกอย่าง
      ร้านทุกร้านย่อมมีความเป็นเอกลักษณ์ในอาหาร สูตรลับต่างๆ ก็ต้องทำเองกันทั้งนั้น เชื่อเถอะค่ะ ว่าวัตถุดิบที่ซื้อแบบสำเร็จรูปนั้นมีไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซนต์
      ร้านนี้มีรับส่งอาหารด้วย แน่นอน ต้องเริ่มจากรับโทรศัพท์ เมื่ออาหารเสร็จก็ต้องแพค เช็คความเรียบร้อยแล้วจึงส่งให้คนส่งเอาไปส่ง
      หากบางวันวิกฤต คนล้างจานไม่มาทำงาน ก็หนูอีกน่ะแหละที่เป็นคนเข้าไปล้างจาน
      และแน่นอนเมื่อล้างจานเสร็จก็ต้องเอามาเช็ดเก็บให้เรียบร้อย

      มาถึงตรงนี้แล้ว รู้สึกว่างานนั้นมากน้อยแค่ไหน
      หากคุณคิดว่าน้อย ลองนึกดูว่า งานเหล่านี้นั้นเริ่มตั้งแต่ 10.30 ถึง 22.30 น.
      แล้วลูกค้าไม่ได้เข้ามาคนเดียว ไม่ได้มาทีละโต๊ะเดียว ไม่ได้สั่งอาหารแค่จานเดียว

      แต่งานยังไม่จบแค่นี้
      ก่อนที่จะปิดร้าน แน่นอน เพื่อความสะอาดก็ต้อง ยกเก้าอี้ขึ้น แล้วกวาดเศษต่างๆ ฝุ่นบ้าง ขยะบ้าง
      คุณลูกค้าที่ชอบมาดึกๆ ทั้งหลาย ช่วยสงสารหนูหน่อยเถอะค่ะ อย่ามาใกล้เวลาปิดร้านเลย
      ยิ่งคุณเข้าร้านดึกเท่าไหร่ ร้านก็ต้องปิดดึกขึ้น แล้วหนูก็ต้องกลับบ้านดึกขึ้นไปอีก
      และที่สำคัญร้านนี้ ไม่ได้เปิดแค่วันเดียว
      ทุกวันที่ร้านเปิดหนูจะต้องมาทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดอยู่เสมอ ซ้ำไปซ้ำมา

      คุณอาจจะลืมไปแล้วว่าหนูกำลังเรียนอยู่ระดับปริญญาตรีอยู่ หนูยังต้องแบ่งเวลาไปเรียน
      สัปดาห์นึงร้านจะหยุดวันจันทร์ นั่นแหละเป็นเวลาเรียนของหนู
      และยังมีตอนเช้าของวันอังคารกับพฤหัสบดีที่มีพี่คนนึงมาเป็นเด็กเสิร์ฟให้
      หนุได้เข้าเรียนเฉพาะวิชาที่สำคัญๆ เท่านั้น

      บอกตรงๆ เลยว่าหนูเหนื่อย หนูอยากกลับไปเป็นเด็กน้อยๆ ที่วิ่งเล่นสนุกไปวันๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่ต้องทำงานอะไรมากมาย
      อีกทางหนึ่งที่จะทำให้หนูพ้นไปจากสิ่งเหล่านี้คือหนูต้องเรียนให้ได้ดี หางานที่เบาๆ ทำ แต่แน่นอน ไม่มีงานไหนเบาหรอกค่ะ

      นี่แหละคือชีวิตที่รออยู่ ชีวิตอีกด้านนึงของความฝัน ชีวิตจริงที่เด็กน้อยทั้งหลายคิดไม่ถึง
      ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องมาเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่ไม่ว่าอาชีพไหนก็ตามก็จะต้องเจอกับงานที่ซ้ำไปซ้ำมา
      และงานอีกมุมที่มองไม่เห็นในมุมมองของเด็กๆ
      เด็กๆ ทั้งหลายที่กำลังสนุกสนานไปวันๆ พร้อมหรือยังกับชีวิตที่รออยู่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×