ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #57 : โชคชะตาและคณะเดินทางอันแปลกประหลาด 6 จบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.33K
      388
      16 มิ.ย. 60

    “ เป็น ”

    “ นิยามคำว่าว่ายน้ำเป็น ของคุณให้ผมฟังซิ”

    “ ฉันน้ำได้ว่ายเร็วพอควร แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ฉันต้องอยู่ในน้ำนานแค่ไหน ”

    “ ฮ่าๆ  คุณคงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะนะ เพราะถ้ามีความจำเป็น เราคงต้องอยู่ในน้ำทั้งคืน ”

     

    ผมขับรถออกจากบริเวณหน้าประตูเมืองอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่สงสัย ผมรู้ได้ในทันที่ว่าเวลานี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก ที่ต้องทำคือคิดหาทางออกให้ไวและต้องใจเย็น พลาดมาทีคราวนี้คงรอดยาก จุดหมายปลายทางที่ผมเลือกคือตลิ่งริมแม่น้ำ ที่ไหลผ่านส่วนหนึ่งในเขตเมือง แม่น้ำเป็นปราการธรรมชาติที่ป้องกันพวกกินคนไม่ให้บุกเข้ามาในเมือง แม้จะเป็นจุดที่ปลอดภัยจากพวกกินคน แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่องว่างที่มีการป้องกันน้อยที่สุด  แต่หากใครคิดว่า การจะหนีออกจากเมืองทางน้ำเป็นเรื่องที่ง่าย อันนั้นคือพวกไม่รู้จักกลัวตาย กระแสน้ำสองแบบที่ต่างกันระหว่างผิวน้ำกับใต้น้ำคือปัญหาหลัก หลายคนจมหายไปกับน้ำเพราะคิดว่าตัวเองว่ายน้ำเก่งมีมาแล้วนักต่อนัก เพราะถ้ามองจากผิวน้ำจะไม่ทราบเลยว่าตรงไหนที่เป็นจุดที่อันตราย นี่ยังไม่ไม่ได้พูดถึง ผู้รักษาความปลอดภัยตามธรรมชาติ ที่คนในเมืองปล่อยพวกมันเอาไว้โดยไม่ทำอันตรายอีกนะ  จะบอกว่าคนเมืองนี้เลี้ยงจระเข้เอาไว้ก็ไม่ผิด เพราะพวกมันเป็นยามอย่างดีที่คอยจับพวกกินคน กินเป็นอาหาร

    เพียงแต่พวกเราเองในบางครั้งก็ถูกพวกมันจับกินไปบ้างเหมือนกัน !

     

    ผมรู้สึกหงุดหงิดที่การหลบหนีของเราต้องมีแม่สาวทวีปหลักที่ถูกจับมัด ร่วมทางมาด้วย นอกจากจะเพิ่มภาระในการเดินทาง    มันยังทำให้การเอาตัวรอดทำได้ยากขึ้นอีกด้วย

     

    “ คุณไม่ควรเอาเธอไปด้วย ” ผมบอกกับมิเรียม

    “ ฉันไม่มีทางเลือก เธออยู่ในความรับผิดชอบของฉัน และเธออันตรายเกินไป ถ้าเธอหนีไปจากเราได้ “

    “ อย่างน้อยก็ควรปลดเชือกที่มัดขาของเธอไว้นะ”

    “ เชื่อฉันเถอะอิน ผู้ชายแข็งแรงสามสี่คนที่คุณต้องหนี ยังถูกเธอถีบหงายหลังเพียงเพราะเราไม่ได้มัดขาของเธอเอาไว้ ในสภาพของเธอตอนนี้เราจะปลอดภัยกว่า”

    “ บอกตามตรง...ผมไม่อยากเห็นใครตาย แต่ถ้าเราเอาเธอมาด้วยในสภาพนี้ คุณอาจไม่ได้พาเธอกลับไปแบบเป็นๆ ”

    “ มันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเรื่องนั้นมันเกิดขึ้น ” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามิเรียมค่อนข้างเลือดเย็น

    “ เอาเหอะผมไม่รู้ว่าพวกคุณมีอะไรกัน ผมแค่ทำหน้าที่ตามที่คุณจ้างผม  ถึงตอนนี้ผมจะซวยไปด้วย แต่อะไรที่ผมรับปากไว้แล้วผมจะทำมันให้จบ  สำหรับเรื่องระหว่างพวกคุณ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยว อันนั้นคือสิ่งที่ผมอยากให้พวกคุณทั้งคู่รู้เอาไว้ ”

    “ นั่นคือที่ฉันต้องการ อิน ฉันต้องการแค่นั้น ”

    “ ผมอยากจะพูดอีกรอบ ว่ามีเธอไปด้วย จะทำให้พวกเราเดินทางลำบาก ”

    “ ฉันรู้ แต่ฉันยืนยันว่า ยังไงฉันก็จะพาเธอไปด้วย ”

    “ ก็ตามใจนะ ”

     

    ผมพาพวกเขามาถึงริมน้ำหลังจากนั้นไม่นาน ตอนแรกกะจะหนีออกไปเงียบๆด้วยห่วงยาง โดยปล่อยให้กระแสน้ำมันพาเราออกนอกเมือง แต่จากสภาพและสิ่งที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าวิธีที่ผมตั้งใจที่แรกคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะขโมยเรือที่จอดเอาไว้ริมน้ำ แต่วิธีนี้มันก็มีปัญหา อย่างแรก ผมไม่เคยขับเรือมาก่อน อย่างที่สอง ....มีการ์ดสองสามคนที่คอยดูแลเรือพวกนั้นไม่ให้ใครขโมยไปได้

     

    ผมแอบเอารถมาจอดห่างจากท่าเรือไม่ไกล

    “ มิเรียม”

    “ ฮื่อ”

    “ คุณคิดว่าตัวคุณสามารถ ทำให้ผู้ชายเกิดอาการหื่นได้บ้างไหม ”

      คุณถามทำไม “

    “ มันจำเป็นนะซิ ”

    “ ฉันคิดว่าหลายๆครั้งคุณเองก็รู้สึก อย่างนั้นกับฉันนะ คำถามนี้หยาบคายมาก ”

    “ ผมอาจเคยเผลอคิดแบบนั้นบ้าง แต่หลังจากรู้จักคุณมากขึ้นผมคิดว่า อาการพวกนั้นมันหมดไปนานแล้ว”

    “ ตั๊บ !” เธอทุบผมอย่างแรงที่ไหล่ข้างหนึ่งเล่นเอาสำลัก

     เล่าแผนของคุณมา คุณอยากให้ฉันทำยังไง ”

    “ คุณเห็นการ์ดสองคนที่อยู่ตรงนั้นไม๊ ผมอยากให้คุณดึงความสนใจพวกเขาซักพัก”

    “ ฉันคิดว่าพอทำได้...แต่ก้คงได้ไม่นาน ฉันไม่รู้จะหยุดพวกเขายังไง “

    “ งั้นเอางี้ ” ผมบอกแผนให้เธอฟัง

     

    มิเรียมพยักหน้ารับและเริ่มแผนของเราทันที เธอลงทุนถอดกางเกงที่สวมออกเหลือเพียงชั้นในบางๆ ถึงตรงนี้อย่าว่าแต่การ์ดเลย ผมเองก็เริ่ม...รู้สึกแปลกๆ เธอปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวม จนเห็นผิวขาวๆที่เคยซ่อนอยู่ตรงนั้นอย่างมิดชิด อาการตอนนี้ผมเริ่มแย่ไปด้วยแฮะ มิเรียมลงจากรถ และย่องลงน้ำจนเปียกทั้งตัว ก่อนเดินกลับขึ้นมาหลังจากนั้นครู่หนึ่ง

    มิเรียมวิ่งตรงไปยังการ์ดที่เฝ้าท่าเรือ แผนนี้ของเธอแสบดีจริงๆ ไอ้น้ำที่เปียกตัวเธอนั่นมันทำให้ผมเห็นถึงความโปร่งของผ้าเปียกที่แนบไปกับผิวเนื้อ ยามเมื่อแสงไฟกลางคืนกระทบร่าง...คือเล่นเอาผมปั่นป่วนจนนึกไม่ถึง ผมแค่บอกให้เธอรู้ว่า เธอควรดึงการ์ดทั้งคู่ให้ละความสนใจจากหน้าที่


    แต่ที่ผมไม่ได้คิดเอาไว้ก่อน คือการที่เธอเพิ่มความรุนแรง ให้กับวิธีที่ผมบอกให้หนักมากขึ้นไปอีก

     

    และมันได้ผล

     

    ครู่หนึ่งการ์ดสองคน ก็วิ่งตามเธอมาใกล้ๆกับรถ และที่ที่ผมรออยู่ ความมืดและความตกใจทำให้การ์ดพวกนั้นไม่ทันระวัง ผมพุ่งเข้าใส่การ์ดคนแรก โยนเข่าเข้ากลางลิ้นปี่เต็มๆ ชายคนนั้นลงไปนอนกองกับพื้น สำหรับอีกคนที่กำลังตกใจก็โดนมิเรียมทุบเข้าที่กกหูจนล้มลงไปกองอีกคน

     

    ผมจับชายชายทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าและมัดเอาไว้ท้ายสิบล้อก่อนจะขับรถเข้าไปยังท่าเรือ


    “ โทษทีพี่ชายมันจำเป็น” ผมบอกกับการ์ดสองคนนั่นในขณะที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ท้ายรถ หลังจากนั้นก็จัดแจงอุ้มสาวทวีปหลักลงเรือ  ผมทิ้งจดหมายขอขมากับเจ้าของเรือเอาไว้ในรถ บอกว่าผมจำเป็นต้องใช้เรือ ขอโทษที่เอาไปโดยที่เจ้าของเรือไม่ยินดี ผมขอยกสิบล้อคันนี้ให้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน  จริงๆผมว่าราคามันต่างกันคนละเรื่องเลยนะ  เจ้าของเรือคงโกรธน่าดู

     

      เพียงครู่หนึ่ง ผมก็พาเรือยนต์ลำใหญ่ วิ่งไปตามลำน้ำท่ามกลางความมืด ทางที่ผมไปมันออกสู่ปากอ่าวซึ่งเป็นคนละทางกับที่มิเรียมจะต้องไป แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะทิศที่เป็นต้นนั้า เรือมันวิ่งออกไปได้แค่ไม่กี่กิโล  ตอนนี้ผมเดินทางโดยมีสาวสวยสองคนที่พยายามจะฆ่ากันเอง เป็นผู้โดยสาร ซึ่งผมเองไม่เคยรู้เลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะได้อยู่ในเมืองแห่งนี้ จะพูดให้ถูก นี่คือก้าวแรกในการออกไปท่องโลกกว้างด้วยความบังเอิญ โดยที่ไม่มีความเต็มใจเลยแม้แต่น้อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×