ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #55 : โชคชะตาและคณะเดินทางอันแปลกประหลาด 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.59K
      419
      13 มิ.ย. 60

     “ สวัสดีอิน เราเจอกันอีกแล้ว “ เธอพูด

    “ ผมบอกตรงๆ พวกคุณคือสิ่งสุดท้ายในโลกที่ผมอยากเจอ ”

    “ เสียใจด้วย ที่มันไม่เป็นอย่างที่คิด”

    “ แต่ผมไม่คิดว่า คุณรู้สึกอย่างที่พูดออกมา ” ผมบอกอย่างที่รู้สึก

    มิเรียมหัวเราะ

    “ ตกลงเราจะกวนตีนกันไปเรื่อยๆ หรือคุยเรื่องงานกันให้เคลียร์ ”

    “แปลกใจนะ นึกว่าคุณไม่อยากรับงานนี้ซะอีก”

    อันนั้นก็ใช่  แต่ทุกอย่างมันเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละถ้าผมได้ตังค์”

    “ แล้วถ้าฉันจะจ้างให้คุณพาไป ที่อยู่ของดร. วิลเลี่ยมล่ะ”

    “ ไม่ไป ” ผมตอบทันที

    “ จ่ายดีนะ”

    “ ขี้เกียจ ”

    “ อะไรนะ!  ขี้เกียจ คุณพูดบ้าอะไรของคุณ ”

    “ ก็อย่างที่ได้ยิน ผมจะไม่พาพวกคุณไปที่นั่น”

    “ ไหนคุณบอกว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าคุณได้เงิน ”

    “ ทุกอย่างมีข้อยกเว้น “ ผมตอบ

    “ คิดดูดีๆนะ” มิเรียมพูด

    “ คิดดีแล้ว ผมจะไม่พาคุณไป”

    “ เหตุผลของคุณคืออะไร ”

    “ ขี้เกียจ ”

    มิเรียมจ้องผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

    “ คุณซ่อนความจริงจากฉันได้ไม่นานหรอก ”

    “ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณอยากจะได้จากผมในตอนนี้ คุณควรหาคนขับรถคนอื่น” ผมตอบโดยไม่หลบสายตาคู่นั้น

     

    ผมทำเรื่องโง่ๆลงไปอีกแล้ว ผมรู้ตัว นี้มันเหมือนกับบอกออกไปโต่งๆว่า ผมรู้บางอย่างในสิ่งที่เธอต้องการ สำหรับผู้หญิงคนนี้อะไรบางอย่างทำให้ผมรู้สึกว่า การพูดโกหกกับเธอมันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็จะไม่ปริปากพูดในสิ่งที่ผมรู้ แต่ก่อนที่บรรยากาศของเราจะแย่มากไปกว่านี้ ชายคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นเดินเข้ามาและกระซิบบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนเรื่องพูดคุย

     

    “ ฉันอยากให้คุณไปส่งเรากลับแคมป์หลักที่เมืองหลวง ราคาคุณเรียกร้องได้ตามสบาย”  มิเรียมพูดอย่างจริงจัง

    “ เรามีเวลาเตรียมตัวแค่ไหนก่อนออกเดินทาง” ผมถามกลับ

    “ เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ เธอบอกกับผม

    “ แต่คุณรู้ใช้ไหมว่าตอนนี้ ถึงเราจะเดินทางกลางวัน มันก็ไม่มีความปลอดภัย ”

    “ คุณกำลังบอกฉันว่าคุณกลัว ?

    “ ก็แล้วแต่คุณจะเรียก สำหรับผมมันคือความไม่ประมาท ”

     

    มิเรียมกำลังใคร่ครวญ ผมตัดสินใจบอกในสิ่งที่คิด

    “ ถ้าคุณรีบเราควรเดินทางกลางคืน รถของผมมันอาจไม่ใกล้เคียงคำว่าปลอดภัย แต่อย่างน้อยผมคิดว่ามันมีโอกาสที่เราจะไปถึงมากกว่า เพราะพวกกินคนมันก็ไม่ใช่พวกที่คิดอะไรซับซ้อน แต่สำหรับโจรพวกนั้น ผมไม่รู้เลยว่าพวกมันทำอะไรได้บ้าง ผมไม่เคยรับมือหรือรู้จักพวกพันธุ์พิเศษ สำหรับผมสิ่งที่ไม่รู้จักมันอันตรายกว่า”

     

    “ ไม่ฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีนั้นอิน เราจะเดินทางกลางวัน ฉันไม่คิดว่าโจรแค่ไม่กี่คนจะอันตรายกว่าพวกกินคนที่อยู่เป็นฝูง” เธอตอบ

     มันก็จริงนะ ถ้าเรารู้ว่าพวกนั้นทำอะไรได้บ้าง”

    “ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเก่งเรื่องหาข้อมูล จนคุณคิดไม่ถึงเลยล่ะ” เธอบอก

    “ ให้มันจริง แต่ครั้งสุดท้ายที่พวกคุณบอกกับผมแบบนี้ก็เละกันยกทีมนะ” ผมยิ้มกวนตีนเพราะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เธอพูด

     ถ้าคุณไม่เชื่อ เรามาหาข้อมูลของคนพวกนั้นก่อนดีไม๊ ”

    “ โอเค ผมเห็นด้วย ”

    “ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาคุณ แล้วเราออกไปสืบเรื่องนี้ด้วยกัน ”

    “ เอาซิ ... ว่าแต่คุณรู้แล้วหรอว่าผมอยู่ที่ไหน ” ผมถามเธอ

    “ จะแปลกใจไม๊ ถ้าฉันจะบอกว่า ที่อยู่ใหม่ของคุณฉันรู้แล้ว ”

     

    ประโยคทำเอาผมเสียวสันหลัง ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริงๆ

    “ งั้นวันนี้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปนะ”

    “ อื่อ”

    ผมกำลังเดินออกจากที่ตรงนั้น ผมถูกมิเรียมเรียกซ้ำ

    “ อิน ที่คุณบอกว่าไม่รู้จักพวกพิเศษนั่น ฉันว่าไม่จริงนะ ”

    “ หือ ...หมายความว่าไง ”

    เธอไม่ตอบสิ่งที่ผมถาม เพียงแค่ยิ้มแปลกๆแล้วเดินจากไป เป็นผมเสียเองที่ต้องมานั่งคิด

    “ ผมไปรู้จักกับพวกพันธุ์พิเศษกับเค้าตอนไหนวะ ”

     

    .......................

     

    ตื่นมาวันรุ่งขึ้นก็มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ เมื่อวานนางบอกผมว่านางจะมาหาที่ห้อง แต่ไม่ได้บอกว่ากี่โมง ผมยังนอนโก่งตูดอยู่บนเตียง จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเขี่ยๆที่หลัง ลืมตาตื่นก็เห็นคุณมิเรียมเอาเท้าขึ้นมาเหยียบบนกลางหลัง คือนางทำเหมือนกับเคยมาที่นี้จนชินทั้งๆที่ผมก็เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ไม่กี่วัน สนิทกันก็เปล่า ฝรั่งนี่แม่งโคตรไม่มีมารยาท แต่พอนึกขึ้นได้ว่าไฟล์ข้อมูลของ ดร. วิลเลี่ยมผมยังเก็บเอาไว้กับตัว ไอ้ความงัวเงียที่มีมันหายไปเป็นปลิดทิ้ง

     

    “ ที่บ้านของคุณ เขาสอนในสิ่งที่เรียกว่ามารยาท หรือความเหมาะสมบ้างไม๊ “  ผมโวย

    “ ไม่เอาน่า อิน ก็คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันจะมา ”

    “ ใครจะนึก ว่าเข้ามาหาถึงห้องนอนละเฮ้ย!

    “ ก็คุณนอนไม่ยอมตื่น ปล่อยให้ฉันเคาะประตูอยู่ตั้งนาน ”

    “ รู้จักที่จะรอกันบ้างดิ แล้วเข้ามาได้ยัง “

    “ ฉันเข้ามาทางหน้าต่าง “ เธอตอบหน้าตาเฉย

    “ กวนตีนสัส “ ผมบ่นอย่างหัวเสีย

    “ คุณเองต้องรู้นะว่า การเดินทางครั้งนี้มันสำคัญ ฉันมาเสียเวลาเพราะความช้าของคุณไม่ได้หรอก “

    “ เออๆ รู้แล้ว ” ผมลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ

     

    สภาพคนตื่นนอนไม่ใช่สิ่งที่คนไม่สนิทกันควรจะเห็น มันมีอะไรหลายๆอย่างที่อุจาดเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ในเมื่อเธอบุกเข้ามาที่นี่ อะไรที่เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่งที่เธอจะต้องเห็นไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ผมเดินเป้าตุงผ่านหน้าเธอไปอย่างไม่แยแส ....

    “ ป๊าด”  เสียงระบบขับถ่ายมันทำงานตามธรรมชาติในตอนเช้า ผมตดเสียงดังลั่นห้อง และตามมาด้วยกลิ่นที่ฟุ้งกระจาย

    “ นี่คุณตดเหรอ คุณทำอย่างงี้กับฉันได้ยังไง ! “

    “ นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับ เมื่อคุณบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น ”  ผมพูดโดยไม่ให้ไปมอง ฟังจากน้ำเสียงแม่นางคงหัวเสียไม่น้อย

     

    ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำพักใหญ่ เมื่อกลับออกมาปรากฏว่านายจ้างของผมหายออกไปรอที่ด้านนอก ผมตรวจสอบไฟล์ข้อมูลที่เก็บเอาไว้ในเสื้อแจ็คเกต...มันยังอยู่ เธอไม่ได้แอบมาหยิบเอาไป สิบนาทีต่อมาผมก็พร้อม ถึงมันจะยังมีอาการงัวเงียอยู่ แต่ก็เรียกได้ว่าพร้อม ผมเดินหาวหวอดออกมาจากห้องในขณะที่เธอรออยู่นอกห้องนอน

     

    “ แล้วเราจะไปไหนกัน “ ผมถาม

    “ มาเหอะเดี๋ยวคุณก็รู้เอง ”

     

    เราเดินทางมาจนถึง สุสานรถเก่า คนของเธอรออยู่แล้วที่นั่น พวกเขายืนอยู่ใกล้ๆกับซากรถขนส่งจำนวนสามถึงสี่คัน  ถ้าคิดไม่ผิดไอ้รถพวกนี้มันคืนรถของคนที่โดนปล้น  ผมเดินวนไปวนมารอบรถทีละคัน โดยไม่ได้สนใจคนอื่น สิ่งที่ผมเห็น มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ยางล้อของรถทุกคันระเบิด เมื่อเปิดดูเครื่องยนต์ ปรากฏว่าในส่วนของแกนใบพัดของระบบระบายความร้อนมันละลาย ไอ้นี่มันคนละเรื่องกับข่าวที่ผมได้ยิน อาการที่ว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้น มันไม่ได้มีคนมากรีดล้อจากด้านนอกแน่ๆมันเป็นไปไม่ได้ ยิ่งถ้าขับรถทางไกลบ่อยๆจะรู้เลยว่าไอ้ที่ผมเห็นอยู่ ถ้าไม่ได้เตรียมการให้เกิดขึ้นมาก่อน มันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีหรอกที่จะขับรถแล้วยางระเบิดพร้อมๆกัน ทั้ง 4 ล้อ แถมตัวระบายความร้อนของรถยังถูกทำลาย ซึ่งนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ระเบิด แต่มันก็มีเรื่องที่น่าสงสัยอยู่เต็มไปหมด แกนพัดลมระบายความร้อนคือส่วนที่ทนต่อความร้อนของเครื่องยนต์ได้มาก อุณหภูมิที่ทำให้มันละลายต้องสูงกว่าปกติอย่างเทียบกันไม่ได้ ซึ่งถ้าความร้อนมันสูงขนาดนั้น คนขับน่าจะเอะใจก่อน แต่ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นคนบังคับรถไม่รู้ตั้งแต่ที่แรก 


    ก็หมายความว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นพร้อมกันในทันที จนคนขับตั้งตัวไม่ทัน......

     

    ผมคิดไม่ออกว่า โจรมันทำเรื่องนี้ได้ยังไง ....แล้วเสียงของมิเรียมก็พูดขึ้นจนทำให้ผมต้องละจากสิ่งที่ใช้สมาธิอยู่ เพื่อหันกลับมาฟัง

     

    “ ลักษณะของการระเบิดไม่ได้เกิดขึ้นการการถูกเสียดสีหรือเจาะ การระเบิดแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้กับยางของรถขนาดใหญ่ จากสิ่งที่เห็นดูเหมือนความร้อนเริ่มต้นขึ้นจากดุมล้อและละลายในส่วนที่สัมผัสกับขอบยางด้านใน เห็นได้จากการเสียรูปของดุมล้อ ไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงกระแทก แสดงว่าเกิดความร้อนสูงขึ้นที่กระทะล้อทั้ง 4 ทำให้ยางรถระเบิดขึ้นพร้อมกัน สำหรับตัวเครื่องที่ระเบิด เกิดขึ้นเพราะระบบระบายความร้อนล้มเหลว แต่ไม่ได้มีร่องรอยที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนหรือการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ คงเพราะเกิดจากความร้อนที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน  เป็นไปได้ว่าพวกพันธุ์พิเศษจะมีส่วนในเรื่องนี้”  มิเรียมพูดขึ้นด้วยเสียงที่ฟังชัด

     

    “ รู้ขนาดนั้นได้ไงวะ” ผมอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×