ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #54 : โชคชะตาและคณะเดินทางอันแปลกประหลาด 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.61K
      423
      4 มิ.ย. 60

    การออกจากที่คุมขังมันทำให้ผมรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมานิดหน่อย หากไม่นับอาการบาดเจ็บที่ยังหลงเหลือจากการถูกรุมทำร้าย ผมคิดว่าตอนนี้ซี่โครงที่ร้าวก็ยังไม่ประสานตัวดี มันทำให้ผมรู้สึกเสียวแปลบๆทุกๆครั้งที่ขยับตัวผิดจังหวะ ยิ่งเวลาที่ไอหรือจาม จะยิ่งรู้สึกเจ็บ ตอนนี้สิ่งที่อยากได้ที่สุดคือการไปหาหมอเพื่อรักษาอาการ แต่ผมก็ทำอย่างที่คิดไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมไม่เหลือเงินติดตัวแม้แต่นิดเดียว หนำซ้ำการรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินมากกว่าปกติ นั่นหมายความว่าผมหมดโอกาสที่จะไปโรงพยาบาลโดยสิ้นเชิง

     

    ผมลองเสี่ยงกลับไปยังที่พักเดิมที่เคยอาศัยอยู่ ปรากฏว่าห้องเช่าของผมตอนนี้มีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนเป็นที่เรียบร้อย โชคยังมีอยู่บ้าง ข้าวของที่ผมทิ้งเอาไว้เจ้าของห้องพักไม่ได้ทิ้งหรือเอาไปขาย แกเก็บทุกอย่างในห้องกองรวมๆกันไว้ที่ห้องเก็บของชั้นดาดฟ้า ผมโดนแก่ด่านิดหน่อยเรื่องที่ผมเป็นต้นเหตุให้ห้องพักของแกพังจากฝีมือคนอื่นที่พยายามจะจับตัวผม นับว่าแกเป็นคนที่มีน้ำใจนะ ปกติไม่จ่ายค่าห้องนานๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงยึดเอาทุกอย่างไปหมดแล้ว แต่แกก็ไม่ทำ แถมยังอุตสาห์เก็บเอาไว้ให้อีก

     

    ผมรื้อๆของส่วนตัวเท่าที่มีปรากฏว่าเงินค่าจ้างจากงานหนก่อนยังเหลืออยู่ ผมเลยชักออกมาครึ่งเพื่อจ่ายค่าซ่อมแซมห้องให้แกไป จริงๆมันก็ไม่พอหรอก แต่เพราะตอนนี้มีเงินเหลือแค่นั้น แล้วตัวผมเองยังต้องใช้เงินที่เหลือเอาชีวิตรอด ผมขอโทษแกอีกครั้งที่ไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายให้ได้ทั้งหมด ผมสัญญากับแกว่าถ้ามีโอกาสจะรีบเอาส่วนที่เหลือมาใช้คืนที่หลัง เจ้าของห้องพักแกบอกกับผมว่าแกเอาแค่เท่าที่ผมมีจ่ายตอนนี้พอแล้ว ที่เหลือแกไม่เอา

     

    สุดท้ายก่อนผมจะออกมาผมยังต้องรบกวนให้แกเก็บของใช้ส่วนตัวของผมเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้ผมไม่มีปัญญาจะเอาอะไรติดไปด้วย

     

      ผมตัดสินใจกลับไปที่อู่รถอีกครั้ง ไม่ต่างจากเจ้าของห้องพักเท่าไหร่ ผมโดนเจ้าของอู่ด่าเอา โทษฐานที่ทำให้แกต้องเสียเวลาอยู่ในห้องสอบสวนเป็นอาทิตย์ แต่ผมได้สิบล้อของผมคืนพร้อมการซ่อมที่สมบูรณ์แบบ ผมเลยตัดสินใจเอารถสิบล้อกลับไปขนข้าวของออกจากห้องเช่า ในระหว่างยกของผมรู้สึกเสียวบริเวณที่โดนเตะจนซี่โครงร้าวขึ้นมาอีก แต่ก็ต้องปล่อยให้ความรู้สึกผิดปกตินั้นเป็นไปตามสภาพ     ถึงตอนนี้เงินเท่าที่มีคงไม่พอที่จะหาหมอหรือจ้างคนอื่นมาช่วยยกของ ในที่สุดก็ต้องเลือกคนเอาสิ่งที่พอจะยกไหว ส่วนไอ้พวกชิ้นใหญ่เกินกว่าจะขนได้ ผมก็ให้เจ้าของหอเขาไป

     

    หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จ ผมหยุดหาอะไรกินในเพิงขายอาหารราคาถูกริมถนน มีข่าวจากทางสภาเมืองออกมาว่าแม่สาวจากทวีปหลักหลบหนีออกจากสถานที่คุมขังเป็นครั้งที่สอง ของให้ทุกคนที่พบเห็น ชี้เบาะแสเพื่อจับกุมเธอให้ได้ สำหรับคดีที่เธอไปสร้างเอาไว้คือการทำร้ายร่างกายชาวออชิเดนและลักพาตัวเจ้าหน้าที่ของชาวออชิเดนคนหนึ่งแต่ถูกจับกุมได้หลังจากป่วยเป็นมาลาเรียและถูกนำตัวกลับมารักษาในเมือง ผู้ที่สามารถชี้เป้าจนนำไปสู่การจับกุมจะได้รับรางวัลนำจับ

     

    “ ทีตอนกูเอาตัวมาส่งนะ กูติดคุกเอง ทีงี้เสือกมีรางวัลนำจับ “  ผมบ่นกับตัวเองหลังจากได้ยินข่าว

     

     หลังจากกินจนอิ่ม ผมเลือกที่จะขนสิ่งของที่มีอยู่บนรถสิบล้อไปตั้งแผงขายเลหลังในโซนคนจนของเมือง หวังเอาไว้ลึกๆว่าคงจะหาเงินเพิ่มได้บ้างอีกซักเล็กน้อย ถึงตอนนี้ผมยังมืดแปดด้านไม่รู้ว่าจะขยับตัวยังไงต่อ มันเหมือนกับต้องสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นใหม่อีกรอบ ผมคิดเอาว่าวิธีนี้คงทำให้ผมทุนเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย อย่างน้อยก็ใช้เป็นค่าน้ำมันรถเพื่อวิ่งทางไกล

     

    แต่กลายเป็นว่าผมคิดผิด พวกเขาซื้อของกันเพียงไม่กี่คน  ที่เหลืออีกเป็นสิบฉวยโอกาสตอนเผลอขโมยของ คืออาศัยลูกชุลมุนหยิบแล้ววิ่งหนีไปเลยดื้อๆ ผมอยากจะวิ่งไปเอาเรื่องแต่ในที่สุดก็ทำไม่ได้เนื่องจากความวุ่นวายของคนอื่นๆที่เข้ามาซื้อของ สุดท้ายต้องยอมแพ้ ได้เงินคืนมานิดหน่อยแต่ของที่หายไปมีเยอะกว่า ต้องรีบเก็บของแล้วหนีออกจากตรงนั้นโดยเร็ว ผมอยากจะโกรธคนพวกนั้นแต่มันก็โกรธไม่ลง สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขามันแย่มากจริงๆ ถ้าไม่ลำบากจัดๆบางที พวกเขาคงไม่เหี้ยได้เท่านี้

     

      แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังต้องรีบหลบออกมาก่อน เพราะของในรถอาจโดนขโมยอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดีไม่ดีจะมีเรื่องมีราวอีกรอบ สภาพร่างกายตอนนี้ไม่พร้อมเอาเลย.....ในขณะที่ผมหมดอาลัยตายอยาก จู่ๆผมก็นึกถึงเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในบ้านหลังที่ผมพบเข้ากับอีสาวสองคนนั่น  ผมตัดสินใจเติมน้ำมันให้กับรถบรรทุกก่อนจะรีบขับตรงไปยังบ้านหลังนั้นอีกครั้ง

    ไอ้รูปหล่อคันนั้นมันยังจอดอยู่ที่เดิมเหมือนกับครั้งแรกที่ผมเจอ เห็นมันแล้วรู้สึกเสียดาย รถคันนี้สวยเอามากๆผมอยากจะเก็บเอาไว้เอง แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ หลังจากที่เข็นขึ้นมาไว้ด้านหลังรถบรรทุกผมนั่งมองมันอยู่นานสองนานเพราะไม่อยากจะขาย  ถ้าขายแบบรีบเอาเงินผมก็จะโดนคนกดราคา แต่ถ้าไม่เอามันไปขายผมเองก็ตกที่นั่งลำบาก ในที่สุดก็ต้องตัดใจ ผมพามันกลับเข้าเมืองมายังร้านขายรถมอเตอร์ไซค์


    แล้วก็เป็นเหมือนที่คิดแกกดราคาผมซะต่ำ

     

    “ 2 แสน เครดิต ” เจ้าของร้านบอกราคา

    “ เฮีย ทรงนี้มันได้แพงกว่านี้นะ ตอนผมมานี้ผมเห็นเฮียขาย ตั้ง 8 แสน ” ผมตอบ

    “ ต้องเข้าใจนะว่าเฮียก็ต้องการกำไรด้วย ” เจ้าของร้านตอบ

     

    ผมถอนหายใจเซ็งๆแต่ยังไม่ทันจะตอบตกลง ....โชคดีก็หล่นมาทับ เมื่อในร้านมีลูกค้าสองคนได้ยินในสิ่งที่ผมกับเฮียเจ้าของร้านคุยกัน


    “ ขอโทษนะครับผมไม่ได้อยากสอดแต่ถ้าพี่จะขายจริงๆ ผมซื้อต่อ 8 แสน ” ลูกค้าคนนั้นพูดขึ้นจนผมและเจ้าของร้านหันกลับไปดู

    “ เฮัยพี่ผมก็อยากได้ ผมให้ 9 แสนเลย ”

     " เฮ้ยคุณจะมาทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ " ชายคนแรกที่บอกราคาแปดแสนพูด

    " ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะคุณ ใครทุ่มได้มากกว่าก็ต้องได้ไปซิครับ "  ชายอีกคนหนึ่งพูด


    จากนั้น ลูกค้าสองคนเริ่มทะเลาะกันเอง  พวกเขาพยายามจะซื้อรถคันนี้ให้ได้ เจ้าของร้านหงุดหงิดเพราะกลายเป็นว่าแทนที่แกจะได้เงิน กลับถูกลูกค้าจริงๆพยายามแข่งกันเพื่อซื้อต่อรถโดยตรงจากผม จบสุดท้ายคนที่ได้ไปซื้อต่อผมไปในราคาล้านสี่ มากกว่าที่คิดเอาไว้แบบที่ตัวผมก็นึกไม่ถึง  ผมขอให้คนซื้อเอาเงินสองแสนจากราคาที่ให้ผม จ่ายให้เฮียเจ้าของร้านที่ยืนเครียดในระหว่างที่ได้ยินไอ้คนรวยสองคนนั้นบอกราคาแข่งกัน


    นั่นทำให้แกยิ้มออกมาได้บ้าง

     

    หลังจากรับเงิน ผมก็เอาเงินทั้งหมดไปฝากไว้กับธนาคารและรีบขับรถต่อไปยังโรงพยาบาลทันที

     

    ปรากฏว่าผลตรวจมันมีอาการปอดช้ำ  แต่มันไม่รุนแรงอย่างที่ผมกังวล ผมต้องนอนพักอยู่นี้เพื่อรอดูอาการต่อไปอีกสองอาทิตย์ เพราะต้องระวังโรคแทรกซ้อนและการอักเสบ หลักจากพักฟื้นจนกลับมาเป็นปกติ ผมก็จัดการหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด ครึ่งหนึ่งหลังจากรักษาตัว ผมส่งกลับบ้าน ที่เหลือจ่ายให้เจ้าของบ้านพักที่ผมยังค้างเขาเอาไว้ และตอบแทนอีแพ๊ตตี้สำหรับการช่วยเหลือนิดหน่อย ถึงตรงนี้ผมต้องเริ่มหางานทำอีกครั้ง

     

    สองสามวันถัดจากนั้น  ผมอ่านข่าวเพื่อหางานที่เหมาะกับตัวเองและเหลือบไปเห็นข่าวหนึ่งที่ช่วงนี้ได้ยินบ่อย

     

    ครั้งแรกที่ได้ฟังคือ ในระหว่างที่นอนป่วย มีข่าวเตือน เรื่องการออกปล้นของโจรทีเป็นพวกพันธ์พิเศษ หนึ่งในพวกมันชำนาญการพรางตัวและโจมตีในตำแหน่งที่มองไม่เห็น พวกที่โดนปล้นส่วนใหญ่ไม่มีใครรอด สิ่งที่เหลือให้รู้เป็นเบาะแสคือรอยแผลที่เกิดขึ้นบนยางรถของเหยื่อและเครื่องยนต์ที่ระเบิด มันมีรูปแบบเหมือนกันทุกคัน สำหรับคนโดยสารส่วนใหญ่ไม่พบแม้กระทั่งศพ ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกกินคน คงลากซากเหล่านั้นไปจัดการ  ซึ่งจากรายล่าสุดที่เพิ่งอ่านเมื่อครู่ ถ้าจะนับก็เป็นรายที่ 6  เข้าไปแล้วในรอบไม่กี่เดือน

     

    เรื่องนี้ผมเองต้องตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมันเกี่ยวกับงานของผมตรงๆ  ถ้ารู้ก่อนก็ระวังตัวได้ง่ายขึ้น โอกาสเสี่ยงก็น้อยลง แต่หลังจากอ่านข่าวนี้จนจบผมก็เหลือบไปเห็นข่าวประกาศหารถ  ที่สามารถส่งคนข้ามเมืองเป็นกรณีพิเศษ ผมรีบติดต่อไปยังคนที่ออกประกาศงานตัวนี้ทันที


    รายละเอียดของงานพวกเขาไม่ได้บอก บอกเพียงแค่มีคนจ้างเขามาอีกทอด ซึ่งผมจะต้องไปเจอกับนายต้างตัวจริงหลังจากนี้ไม่นาน ผมรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเพราะนี่เป็นงานจริงๆงานแรกหลังจากใช้ชีวิตแบบบ้าๆบอมานานหลายเดือน พูดเลยว่าโคตรจะรู้สึกดีใจ

     

    แต่เมื่อถึงเวลาผมพบกับคนว่าจ้าง ผมก็แทบหันหลังกลับ.......คุณมิเรียมอีกแล้ว......


    นรก !  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×