ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 - Hello Karasuno
[ 02 ] - Hello Karasuno
Haikyuu fiction - 命に嫌われている (feat. oc)
ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก , จากการเลี้ยงดูเกือบสิบกว่าปี นากามุระคงบอกได้คำเดียวว่าจิคากิคือเด็กมีปัญหา ไม่ว่าทางด้านอารมณ์หรือด้านแสดงออก คือปัญหาที่ทำอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่อาจแก้ได้ ดวงตาสีเขียวมะกอกมองหญิงสาวที่กลับมานั่งเป็นแมวตายซากอีกครั้ง โทรศัพท์ที่เหมือนเป็นอวัยวะส่วนที่สามสิบสามถูกทิ้งขว้างในทันที นั่นทำให้เขาแปลกใจอยู่หน่อย
ปกติแล้วจิคากิเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มาก จนเขายังต้องพยายามแก้ไขนิสัยพวกนั้น เขาตักเค้กเลม่อนใส่จานก่อนยื่นให้แมวตัวเขื่องที่กำลังนอนฟุบอยู่ จิกิเงยหน้ามองเมื่อได้กลิ่นเลม่อนจาง ๆ ลอยโชยมา ยื่นมือจับส้อมก่อนตักทานด้วยท่าทางเชื่องช้า เขาเท้าคางใช้ดวงตามองท่าทางของหญิงสาวที่อารมณ์แปรปรวนทุกวัน
"เป็นอะไรล่ะวันนี้"เขาพูดพร้อมสังเกต หัวเราะออกมาหลังเห็นสีหน้า "ฉันควรได้ค่าที่ปรึกษาด้วยนะ เธออารมณ์เสียทุกวันเลยนะ"
"เจ้าเด็กปากเป็ดนั่นบอกให้ฉันปลดบล็อก"หญิงสาวเบะปาก อารมณ์ผันผวนไปมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น "ฉันควรเปลี่ยนเบอร์ตามที่นายบอกจริง ๆ นั่นแหละ"
"แปลว่าเธอไม่รอเขาโทรมาแล้วเหรอ ?"นากามุระเลิกคิ้ว เขายังคงจำได้ดีแม้ว่าจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วเธอก็ยังไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนเบอร์ เหตุผลสุดคลาสสิคเพียงเพราะคำว่ารอ การรอนานนับสิบปีดูเป็นอะไรไร้สาระแต่เธอก็ยังคงรอเพื่อให้ใครสักคนโทรมา นากามุระเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนคนนั้นคือใคร
จิกิชะงัก บุ้ยปากพร้อมแกว่งส้อมในมือ "ยังไงก็ต้องรออยู่แล้วสิ !"
นากามุระหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทีเปลี่ยนไปของหญิงสาว อย่างไรการเปลี่ยนเรื่องสำหรับเธอคงจะดีกว่านั่นแหละ , จิกิกัดปากพร้อมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ ปลดล็อคหน้าจอก่อนจะเข้าไปปลดบล็อกเบอร์ มองเบอร์ในเครื่องที่น้อยจนสามารถนับนิ้วได้ข้างเดียว เธอเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่งจริง ๆ นั่นแหละ
ถึงจะปลดบล็อกให้ก็ใช่ว่าจะรับสายเสียหน่อย คิดเช่นนั้นเธอก็อารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย , ชายหนุ่มมองท่าทางนั้นด้วยรอยยิ้มก่อนหันหลังไปเช็ดแก้วกับจานต่อ พร้อมเอ่ยกำชับถึงหญิงสาวที่เพิ่งทานเสร็จให้ไปอาบน้ำล้างตัวเสีย เขาได้ยินเสียงขานรับกับเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไป ดวงตาเหลือบมองแผ่นหลังของเธอ
นี่คงย่างก้าวปีที่สิบเอ็ดแล้วที่นากามุระดูแลหญิงสาว เขายังคงจำได้อยู่เลยว่าในตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กตัวกระเปี๊ยก เก็บตัวและผอมแห้ง เขามองเธอที่อยู่บ้านข้างเรือนเคียง นั่งกอดเข่าทำท่าสิ้นหวัง ใครจะไปคิดกันว่าแค่เอ่ยปากชวนเธอดันตอบรับง่าย ๆ แบบนั้นกัน และเขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะสามารถเลี้ยงเธอได้มาเป็นสิบปีขนาดนี้
แต่อย่างว่าเพราะอยู่กันมาเกือบสิบปีแบบนี้ใครหลายคนจึงคิดว่าเขาเป็นแฟนกับเธอ เคยปล่อยให้แยกกันอยู่แล้วเหมือนกันทว่าก็ดูไปไม่รอดจนสุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ตอนนั้นเขาตลกแทบตายเมื่อเห็นว่าจิคากิไปไม่เป็น เคว้งคว้างจนต้องกลับมาไม่ต่างจากเขาที่เหี่ยวเฉาเมื่อขาดจิคากิ อาจเป็นเพราะอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้
ระหว่างรำลึกความหลัง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทว่ามันไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ของเขาเสียหน่อย นากามุระบ่นเสียงงึมงำเมื่อเห็นว่าหล่อนลืมโทรศัพท์ตัวเอง นิสัยขี้หลงขี้ลืมก็ยังแก้ไม่หาย ดวงตาสีเขียวมะกอกฉายแววฉงนเมื่อเห็นเบอร์แปลกไม่คุ้นเคย เขาจำได้หมดแหละว่าเธอเมมเบอร์ใครไว้บ้าง ยกเว้นเบอร์นี้ที่ไม่มีแม้แต่ชื่อผู้ติดต่อ
บางทีคงโทรผิดล่ะมั้ง
"สวัสดีครับ"
["ชิราฟุเงะซัง—"]เขาเลิกคิ้วเมื่อได้ยิน เสียงจากปลายสายดูยังเด็กอยู่เลย คาดเดาได้ง่ายดายว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร ["คุณเป็นใครครับ ?"]
"ผู้ปกครองของจิกิน่ะ แล้วคุณมีธุระอะไรกับจิกิเหรอ"นากามุระวางมือจากการทำความสะอาดก่อนก้าวบันไดขึ้นชั้นสองอันเป็นห้องนอนของหญิงสาว เขายังไม่ได้ยินเสียงน้ำแปลว่าเธอยังคงนอนเปื่อยอยู่บนเตียง มือเคาะประตูห้องพอเป็นมารยาทก่อนจะบิดลูกบิดประตูเพื่อก้าวเข้าไป
["ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับชิราฟุเงะซังน่ะครับ"]
"ได้ยินแล้วใช่ไหมจิกิ มีคนอยากคุยกับเธอน่ะ"ชายหนุ่มยิ้มกระหย่องยามเห็นสีหน้าของเด็กตรงหน้า ยื่นโทรศัพท์ให้แม้ว่าเธอจะทำหน้ากินหัวเขาก็ตามที
"ฉันอุตส่าห์ไม่คิดจะรับสาย นายยังจะใจดีรับให้อีกนะ"
"อะไรกัน ฉันแค่เอาของมาคืนเธอเอง รีบรับสิ"เขายักไหล่คะยั้นคะยอให้เธอรับโทรศัพท์ไปคุยต่อ หญิงสาวจิปากยอมรับโทรศัพท์มาคุยต่อหลังจากเตะก้นคนทรยศออกจากห้องนอน
["ชิราฟุเงะซังสินะครับ"]
"เออ โทรมาทำไมเนี่ย"เสียงหน่ายรำคาญพวกนั้นไม่ได้กระทบถึงปลายสายสักนิดเดียว จิกิยังคงสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นจากในน้ำเสียงที่ส่งผ่านโทรศัพท์ ดวงตาสีผสมกรอกมองนึกเหนื่อยหน่ายต่อชีวิตตัวเอง ทั้งที่คิดว่าจะได้อาบน้ำตามที่คาดหวังแต่กลับต้องมานั่งเปื่อยกับเด็กที่อายุห่างกันเกือบสิบปี
["ผมก็ต้องมาทวงสัญญาที่คุณให้ไว้สิครับ"]
"สัญญาไร—"
["ก็ที่คุณบอกว่าถ้าผมชนะในแมตช์ซ้อมกับเซย์โจว คุณจะมาเป็นโค้ชให้ผม"]
จิกิขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปลายสาย ดวงตาสีผสมกลิ้งกรอกหวนนึกถึงวันแรกที่คุยกับอีกฝ่าย คงเป็นช่วงกลางดึกที่เธอพยายามไล่เขาไปนอน อาจเพราะตอนนั้นกำลังสะลึมสะลือเลยไม่ค่อยมีสติสักเท่าไร บทสนทนาที่เคยคุยกันเลยเลือนราง พอพินิจคิดดูแล้วก็พอจำได้นิดหน่อย เธอเมินเสียงที่เขากำลังพูดในสายไปโดยปริยาย
คงใกล้ช่วงที่เธอจะนอนกระมัง เสียงของเขาที่ยังพูดถึงวอลเลย์บอลพวกนั้นยังคงติดหู คงพูดถึงเกี่ยวกับแมตช์ซ้อมเหล่านั้นแล้วจู่ ๆ เขาก็พูดว่า—
["ถ้าผมชนะ.. ชิราฟุเงะซังต้องเป็นโค้ชให้ผม คุณจำได้หรือยัง"]
"เออ จำได้แล้ว"หญิงสาวพ่นลมหายใจหงุดหงิด ด่าตัวเองในอดีตที่ปากพล่อยรับปากไปทั้งแบบนั้น "นายแข่งชนะรึไง"
["ชนะครับ เพราะงั้นชิราฟุเงะซังช่วยทำตามสัญญาด้วยนะครับ"]กล่าวเป็นมั่นเป็นเหมาะ เธอคงจินตนาการได้ถึงสีหน้าของเขาในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน และเธอเองก็คงเดาสีหน้าตัวเองได้เหมือนกันว่าเป็นเช่นไร
"รู้แล้วน่ะ แล้วจะให้เริ่มวันไหน"
["พรุ่งนี้ครับ ตอนเย็นที่คาราสึโนะ จะให้ผมไปรับรึเปล่าครับ"]
"ฉันเดินไปถูก แค่นี้ล่ะ—รีบนอนได้แล้ว"
สายถูกตัดทันทีพร้อมกับเสียงสบถของจิกิที่ดังลั่นห้อง ใบหน้ามุดลงกับหมอนพร้อมก่นด่าตัวเองที่ดันไปรับปากแบบนั้น ทั้งที่จะไม่พาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกหลากสีพวกนั้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องกลับไปเพราะดันไปสัญญากับคนที่ไม่รู้จักอีก ทว่าน่าเสียดายที่ต่อให้จิกิคิดจะหนีปัญหาพวกนั้นแต่เธอคิดว่านากามุระคงไม่ยอมแน่นอน
อย่างที่นากามุระเคยบอก เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือน เปิดร้านได้ถึงไม่กี่อาทิตย์ จะให้จิกิหนีไปแบบนี้เขาคงไม่ยอม คงดีใจที่เห็นเธอก้าวขากลับไปวงการนั้นมากกว่า
หญิงสาวหลับตา
อา—เธอไม่อยากกลับไปเลย
เช้าวันนี้หญิงสาวก็ยังคงโดนปลุกด้วยแสงแดดเหมือนเดิม ฝีมือนากามุระที่กำลังนั่งขอบเตียงพร้อมพร่ำเพ้อบ่นว่าเธอเหมือนเด็กที่ต้องคอยปลุกทุกเช้า แม้ว่าจะดึงผ้าห่มมาปิดหน้า ใช้หมอนปิดหูแล้วก็ตามแต่เขาก็ยังคงตามหลอกหลอนโดยกระชากผ้าห่มออก จิกิเบ้หน้ายอมลุกแต่โดยดี ผลักเขาออกจากขอบเตียง
นากามุระยักไหล่ ยอมออกจากห้องแต่โดยดีพร้อมเอ่ยกำชับถึงอาหารเช้าในวันนี้ นากามุระกลัวว่าเธอคงได้ไปนอนในห้องน้ำต่อมากกว่าจึงต้องกำชับ , ไข่ลวกถูกเขี่ยลงบนจาน มองไข่แดงที่กำลังเด้งดึ๋งบนแฮม ขนมปังนุ่มนิ่มที่เขาทำถูกวางเคียง ดวงตาสีเขียวมะกอกฉายแววพึงพอใจ วางแก้วนมกับน้ำผลไม้ไว้ด้านข้างแต่ละจาน จานสลัดจานใหญ่ถูกวางเป็นจานสุดท้าย
ใบหน้าผินมองหญิงสาวที่กำลังก้าวลงบันได สีหน้าดูบูดบึ้งกว่าปกติที่เคยเป็น มือข้างนึงถือโทรศัพท์หนึ่งเครื่องคาดว่าคงเปิดแอพนกสีฟ้านั่นแล , จิกิตัดขนมปังกับไข่จนไข่แดงไหลเยิ้มผสมกับซอสที่ราดไว้รอบด้าน เธอจิ้มขนมปังก่อนจะปาดซอสพวกนั้นเข้าปาก ดวงตาสีผสมยังคงไม่ละจากหน้าจอ
"ทำหน้าแบบนี้แปลว่าอาหารที่ฉันทำไม่อร่อยสินะ"นากามุระว่าหลังจากเห็นสีหน้าที่ยังคงขุ่นมัว "อื้อ ๆ อาหารฉันมันไม่อร่อยนี่เนอะ ขนาดที่ว่าทำให้เธออารมณ์เสียได้เลยนี่"
"พูดอะไรของนายน่ะนากามุระ"จิกิย่นคิ้วเมื่อเห็นชายหนุ่มเอ่ยตัดพ้อ ก็เป็นซะแบบนี้ไม่แปลกใจเลยที่หาแฟนไม่ได้ เธอเบือนหน้าหนีพร้อมถอนหายใจ "ตอนเย็นฉันต้องไปคาราสึโนะ"
"มีเรื่องอะไรถึงต้องไปหาถึงโรงเรียนน่ะ"
"ฉันต้องไปเป็นโค้ชซ้อมให้เด็กน่ะสิ ปากพาซวยแท้ ๆ"เธอได้ยินเสียงหัวเราะจากปากของเขา ดูชอบอกชอบใจที่เธอต้องกลับไปอยู่ในวงการนั้นอีกครั้ง คงมีแต่เขาน่ะสิที่ชอบ ไม่ใช่กับจิกิที่แทบจะย้ายตัวเองไปอยู่ในต่างประเทศ อยากจะลบตัวตนตัวเองทิ้งเสียให้หมดเลยด้วยซ้ำแต่ก็ไม่อาจทำได้
"แหม ฉันต้องขอบคุณเด็กคนนั้นสินะ"
◐ 命に嫌われている ◑
ครั้งแรกที่เจอกันตอนนั้นรู้สึกยังไงกันนะ ตื่นเต้น ดีใจหรือว่าคาดไม่ถึงกัน มันเป็นสิ่งแรกที่คาเงยามะรู้สึกเมื่อเห็นหน้าหญิงสาว ภาพที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์หรือตามนิตยสารสัมภาษณ์ เป็นเซตเตอร์ที่มีความสามารถและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอทำให้โดดเด่น ในเรื่องรูปลักษณ์ดวงตาสีผสมกับเรือนผมสีดำขลับแถบขาว เขาจำได้เลยว่าตัวเองนั้นตื่นเต้นแค่ไหนเมื่อเห็นลูกเซตของเธอ
ทว่าข่าวลาออกของเธอทำให้คาเงยามะไม่เข้าใจ
หลายข่าวลือ หลายคนกระซิบกระซาบกัน ไม่นานนักหญิงสาวก็หายไปจากวงการถาวร คาเงยามะแทบไม่นึกคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะได้เจอเธอ และแทบไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้ตอนเย็นจะได้เจอนักกีฬาทีมชาติอย่างเธออีกครั้งในฐานะโค้ช นั่นทำให้เด็กหนุ่มตื่นเต้นยามก้าวเท้าไปทางโรงยิมเหลือเกิน
"ช่วงนี้คาเงยามะดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะ"
"นั่นสิ ทำหน้าแปลก ๆ ตลอดเลย"
เด็กหนุ่มหน้ากระตุก หันกลับไปแว้ดใส่ "ฉันได้ยินนะเจ้าพวกบ้า !"
ดวงตาสีผสมเชยมองโรงเรียนตรงหน้า เธอจึงก้าวเดินไปด้วยท่าทางเฉื่อยชา หลายคนหันมองเพราะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ด้วยสวมเสื้อฮู้ดปิดบังหน้าตา หากไม่โดนรปภ.ตรวจตรงหน้าโรงเรียนคงโดนเขม่นมากกว่านี้อีกกระมัง จิกิถอนหายใจพร้อมลากเท้ามาถึงที่หมาย
เสียงบอลกระทบดังในโรงยิม เสียงพูดคุยตะโกนใส่กันเหมือนที่เคยเห็นในอดีต จิกิสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูเข้าไป ทั่วทุกสารทิศเงียบสงัดเมื่อเห็นคนแปลกหน้าอย่างเธอ ดวงตาสีผสมใต้ฮู้ดกวาดมองทั่วโรงยิม มีคนคุ้นหน้าประมาณสองคนก็ไม่พ้นเจ้าเด็กที่ลากเธอมาที่นี่กับใครอีกคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
"ชิราฟุเงะซัง !"จิกิมองเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ มาทางเธอ หน้าตาตื่นตกใจผสมความตื่นเต้นดูระริกระรี้กว่าที่เคย หญิงสาวเหลือบมองไปทางอีกคนที่แสดงสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะทำท่านึกออกแล้ววิ่งมาทางเธอในทันที ท่ามกลางอาการตื่นตกใจทั้งหลายเมื่อเห็นโค้ชวิ่งมาด้วยท่าทางตื่นตกใจเช่นนั้น
"ชิราฟุเงะสินะ ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย"
"ออ ช่วยหยุดเขย่าฉันสักทีเถอะ"หญิงสาวพ่นลมหายใจหลังเขาหยุดเขย่า มองชายหนุ่มที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยในด้านเรื่องทรงผม ใครบ้างที่ย้อมสีบลอนด์ทั้งหัวกัน ดวงตาสีผสมมองสีหน้าคล้ายถามว่าเธอมาทำอะไรที่นี่จากอุไค "ฉันมาเพราะลูกทีมนายนั่นแหละ"
"ใครล่ะ.. คาเงยามะเหรอ"
"ครับ ผมขอให้ชิราฟุเงะซังมาเป็นโค้ชให้"
เธอมองคนยินดี "จริงเหรอ !? แบบนั้นน่ะดีเลย"
เธอมองคนดี๊ด๊าสองคนที่กำลังดีใจเหมือนถูกรางวัลก่อนหันไปอีกทาง เห็นใบหน้าละอ่อนของชายหนุ่มตัวเล็ก น่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมกระมัง ดวงตาสีผสมกวาดมองโรงยิมวอลเลย์บอลชาย มองสมาชิกที่ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไรแตกต่างจากตอนที่เธออยู่ที่นี่ มีคนจ้องมองด้วยความสงสัยผสมความตื่นเต้น
อุไคลากตัวเธอมาอยู่ตรงใจกลางดงเด็กหนุ่มทั้งหลาย ขณะที่จิกิถอนหายใจแล้วดึงหมวกฮู้ดลง เผยใบหน้าโดยไม่สนสีหน้าตะลึงค้างของพวกเขา ขณะที่อุไคลูบคางพร้อมเปรยชมเบา ๆ ถึงใบหน้าสวยไม่สร่าง , ผิวกายขาวสว่าง ดวงตาสีผสมแทบจะดึงดูดทุกคนให้ตกอยู่ในห้วงฝัน เรือนผมสีดำขลับแถบขาวสะบัดจนพริ้วไสว มุมปากยกขึ้นจนเกิดรอยยิ้ม
"ชิราฟุเงะ จิคากิ นับแต่วันนี้ฉันจะมาเป็นโค้ชให้พวกนาย"
Talk with คนแต่ง
ล่อยังไงให้แมวติดกับคะน้องโท้บ จิกิอายุยี่สิบหกเท่ากับโค้ชอุไคเลยค่ะ ดังนั้นก็ถือว่าเป็นรุ่นเดียวกันตอนอยู่โรงเรียนค่ะ ในที่สุดน้องก็จะได้เป็นโค้ชสักที ตามอนิเมะแล้วเกิดหลังจากแข่งกับเซย์โจวเสร็จค่ะ
ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น