ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Haikyuu fiction - 命に嫌われている (OC) (end.)

    ลำดับตอนที่ #3 : 02 - Hello Karasuno

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.88K
      393
      30 พ.ย. 63


    [ 02 ] - Hello Karasuno
      
    Haikyuu fiction - 命に嫌われている (feat. oc)




              ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก , จากการเลี้ยงดูเกือบสิบกว่าปี นากามุระคงบอกได้คำเดียวว่าจิคากิคือเด็กมีปัญหา ไม่ว่าทางด้านอารมณ์หรือด้านแสดงออก คือปัญหาที่ทำอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่อาจแก้ได้ ดวงตาสีเขียวมะกอกมองหญิงสาวที่กลับมานั่งเป็นแมวตายซากอีกครั้ง โทรศัพท์ที่เหมือนเป็นอวัยวะส่วนที่สามสิบสามถูกทิ้งขว้างในทันที นั่นทำให้เขาแปลกใจอยู่หน่อย

              ปกติแล้วจิคากิเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มาก จนเขายังต้องพยายามแก้ไขนิสัยพวกนั้น เขาตักเค้กเลม่อนใส่จานก่อนยื่นให้แมวตัวเขื่องที่กำลังนอนฟุบอยู่ จิกิเงยหน้ามองเมื่อได้กลิ่นเลม่อนจาง ๆ ลอยโชยมา ยื่นมือจับส้อมก่อนตักทานด้วยท่าทางเชื่องช้า เขาเท้าคางใช้ดวงตามองท่าทางของหญิงสาวที่อารมณ์แปรปรวนทุกวัน


              "เป็นอะไรล่ะวันนี้"เขาพูดพร้อมสังเกต หัวเราะออกมาหลังเห็นสีหน้า "ฉันควรได้ค่าที่ปรึกษาด้วยนะ เธออารมณ์เสียทุกวันเลยนะ"

              "เจ้าเด็กปากเป็ดนั่นบอกให้ฉันปลดบล็อก"หญิงสาวเบะปาก อารมณ์ผันผวนไปมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น "ฉันควรเปลี่ยนเบอร์ตามที่นายบอกจริง ๆ นั่นแหละ"

              "แปลว่าเธอไม่รอเขาโทรมาแล้วเหรอ ?"นากามุระเลิกคิ้ว เขายังคงจำได้ดีแม้ว่าจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วเธอก็ยังไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนเบอร์ เหตุผลสุดคลาสสิคเพียงเพราะคำว่ารอ การรอนานนับสิบปีดูเป็นอะไรไร้สาระแต่เธอก็ยังคงรอเพื่อให้ใครสักคนโทรมา นากามุระเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนคนนั้นคือใคร

              จิกิชะงัก บุ้ยปากพร้อมแกว่งส้อมในมือ "ยังไงก็ต้องรออยู่แล้วสิ !"


              นากามุระหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทีเปลี่ยนไปของหญิงสาว อย่างไรการเปลี่ยนเรื่องสำหรับเธอคงจะดีกว่านั่นแหละ , จิกิกัดปากพร้อมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ ปลดล็อคหน้าจอก่อนจะเข้าไปปลดบล็อกเบอร์ มองเบอร์ในเครื่องที่น้อยจนสามารถนับนิ้วได้ข้างเดียว เธอเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่งจริง ๆ นั่นแหละ

              ถึงจะปลดบล็อกให้ก็ใช่ว่าจะรับสายเสียหน่อย คิดเช่นนั้นเธอก็อารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย , ชายหนุ่มมองท่าทางนั้นด้วยรอยยิ้มก่อนหันหลังไปเช็ดแก้วกับจานต่อ พร้อมเอ่ยกำชับถึงหญิงสาวที่เพิ่งทานเสร็จให้ไปอาบน้ำล้างตัวเสีย เขาได้ยินเสียงขานรับกับเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไป ดวงตาเหลือบมองแผ่นหลังของเธอ

              นี่คงย่างก้าวปีที่สิบเอ็ดแล้วที่นากามุระดูแลหญิงสาว เขายังคงจำได้อยู่เลยว่าในตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กตัวกระเปี๊ยก เก็บตัวและผอมแห้ง เขามองเธอที่อยู่บ้านข้างเรือนเคียง นั่งกอดเข่าทำท่าสิ้นหวัง ใครจะไปคิดกันว่าแค่เอ่ยปากชวนเธอดันตอบรับง่าย ๆ แบบนั้นกัน และเขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะสามารถเลี้ยงเธอได้มาเป็นสิบปีขนาดนี้

              แต่อย่างว่าเพราะอยู่กันมาเกือบสิบปีแบบนี้ใครหลายคนจึงคิดว่าเขาเป็นแฟนกับเธอ เคยปล่อยให้แยกกันอยู่แล้วเหมือนกันทว่าก็ดูไปไม่รอดจนสุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ตอนนั้นเขาตลกแทบตายเมื่อเห็นว่าจิคากิไปไม่เป็น เคว้งคว้างจนต้องกลับมาไม่ต่างจากเขาที่เหี่ยวเฉาเมื่อขาดจิคากิ อาจเป็นเพราะอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้

              ระหว่างรำลึกความหลัง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทว่ามันไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ของเขาเสียหน่อย นากามุระบ่นเสียงงึมงำเมื่อเห็นว่าหล่อนลืมโทรศัพท์ตัวเอง นิสัยขี้หลงขี้ลืมก็ยังแก้ไม่หาย ดวงตาสีเขียวมะกอกฉายแววฉงนเมื่อเห็นเบอร์แปลกไม่คุ้นเคย เขาจำได้หมดแหละว่าเธอเมมเบอร์ใครไว้บ้าง ยกเว้นเบอร์นี้ที่ไม่มีแม้แต่ชื่อผู้ติดต่อ

              บางทีคงโทรผิดล่ะมั้ง


              "สวัสดีครับ"

              ["ชิราฟุเงะซัง—"]เขาเลิกคิ้วเมื่อได้ยิน เสียงจากปลายสายดูยังเด็กอยู่เลย คาดเดาได้ง่ายดายว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร ["คุณเป็นใครครับ ?"]

              "ผู้ปกครองของจิกิน่ะ แล้วคุณมีธุระอะไรกับจิกิเหรอ"นากามุระวางมือจากการทำความสะอาดก่อนก้าวบันไดขึ้นชั้นสองอันเป็นห้องนอนของหญิงสาว เขายังไม่ได้ยินเสียงน้ำแปลว่าเธอยังคงนอนเปื่อยอยู่บนเตียง มือเคาะประตูห้องพอเป็นมารยาทก่อนจะบิดลูกบิดประตูเพื่อก้าวเข้าไป

              ["ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับชิราฟุเงะซังน่ะครับ"]

              "ได้ยินแล้วใช่ไหมจิกิ มีคนอยากคุยกับเธอน่ะ"ชายหนุ่มยิ้มกระหย่องยามเห็นสีหน้าของเด็กตรงหน้า ยื่นโทรศัพท์ให้แม้ว่าเธอจะทำหน้ากินหัวเขาก็ตามที

              "ฉันอุตส่าห์ไม่คิดจะรับสาย นายยังจะใจดีรับให้อีกนะ"

              "อะไรกัน ฉันแค่เอาของมาคืนเธอเอง รีบรับสิ"เขายักไหล่คะยั้นคะยอให้เธอรับโทรศัพท์ไปคุยต่อ หญิงสาวจิปากยอมรับโทรศัพท์มาคุยต่อหลังจากเตะก้นคนทรยศออกจากห้องนอน

              ["ชิราฟุเงะซังสินะครับ"]

              "เออ โทรมาทำไมเนี่ย"เสียงหน่ายรำคาญพวกนั้นไม่ได้กระทบถึงปลายสายสักนิดเดียว จิกิยังคงสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นจากในน้ำเสียงที่ส่งผ่านโทรศัพท์ ดวงตาสีผสมกรอกมองนึกเหนื่อยหน่ายต่อชีวิตตัวเอง ทั้งที่คิดว่าจะได้อาบน้ำตามที่คาดหวังแต่กลับต้องมานั่งเปื่อยกับเด็กที่อายุห่างกันเกือบสิบปี

              ["ผมก็ต้องมาทวงสัญญาที่คุณให้ไว้สิครับ"]

              "สัญญาไร—"

              ["ก็ที่คุณบอกว่าถ้าผมชนะในแมตช์ซ้อมกับเซย์โจว คุณจะมาเป็นโค้ชให้ผม"]


              จิกิขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปลายสาย ดวงตาสีผสมกลิ้งกรอกหวนนึกถึงวันแรกที่คุยกับอีกฝ่าย คงเป็นช่วงกลางดึกที่เธอพยายามไล่เขาไปนอน อาจเพราะตอนนั้นกำลังสะลึมสะลือเลยไม่ค่อยมีสติสักเท่าไร บทสนทนาที่เคยคุยกันเลยเลือนราง พอพินิจคิดดูแล้วก็พอจำได้นิดหน่อย เธอเมินเสียงที่เขากำลังพูดในสายไปโดยปริยาย

              คงใกล้ช่วงที่เธอจะนอนกระมัง เสียงของเขาที่ยังพูดถึงวอลเลย์บอลพวกนั้นยังคงติดหู คงพูดถึงเกี่ยวกับแมตช์ซ้อมเหล่านั้นแล้วจู่ ๆ เขาก็พูดว่า


              ["ถ้าผมชนะ.. ชิราฟุเงะซังต้องเป็นโค้ชให้ผม คุณจำได้หรือยัง"]

              "เออ จำได้แล้ว"หญิงสาวพ่นลมหายใจหงุดหงิด ด่าตัวเองในอดีตที่ปากพล่อยรับปากไปทั้งแบบนั้น "นายแข่งชนะรึไง"

              ["ชนะครับ เพราะงั้นชิราฟุเงะซังช่วยทำตามสัญญาด้วยนะครับ"]กล่าวเป็นมั่นเป็นเหมาะ เธอคงจินตนาการได้ถึงสีหน้าของเขาในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน และเธอเองก็คงเดาสีหน้าตัวเองได้เหมือนกันว่าเป็นเช่นไร

              "รู้แล้วน่ะ แล้วจะให้เริ่มวันไหน"

              ["พรุ่งนี้ครับ ตอนเย็นที่คาราสึโนะ จะให้ผมไปรับรึเปล่าครับ"]

              "ฉันเดินไปถูก แค่นี้ล่ะ—รีบนอนได้แล้ว"


              สายถูกตัดทันทีพร้อมกับเสียงสบถของจิกิที่ดังลั่นห้อง ใบหน้ามุดลงกับหมอนพร้อมก่นด่าตัวเองที่ดันไปรับปากแบบนั้น ทั้งที่จะไม่พาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกหลากสีพวกนั้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องกลับไปเพราะดันไปสัญญากับคนที่ไม่รู้จักอีก ทว่าน่าเสียดายที่ต่อให้จิกิคิดจะหนีปัญหาพวกนั้นแต่เธอคิดว่านากามุระคงไม่ยอมแน่นอน

              อย่างที่นากามุระเคยบอก เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือน เปิดร้านได้ถึงไม่กี่อาทิตย์ จะให้จิกิหนีไปแบบนี้เขาคงไม่ยอม คงดีใจที่เห็นเธอก้าวขากลับไปวงการนั้นมากกว่า

              หญิงสาวหลับตา

              อา—เธอไม่อยากกลับไปเลย



              เช้าวันนี้หญิงสาวก็ยังคงโดนปลุกด้วยแสงแดดเหมือนเดิม ฝีมือนากามุระที่กำลังนั่งขอบเตียงพร้อมพร่ำเพ้อบ่นว่าเธอเหมือนเด็กที่ต้องคอยปลุกทุกเช้า แม้ว่าจะดึงผ้าห่มมาปิดหน้า ใช้หมอนปิดหูแล้วก็ตามแต่เขาก็ยังคงตามหลอกหลอนโดยกระชากผ้าห่มออก จิกิเบ้หน้ายอมลุกแต่โดยดี ผลักเขาออกจากขอบเตียง

              นากามุระยักไหล่ ยอมออกจากห้องแต่โดยดีพร้อมเอ่ยกำชับถึงอาหารเช้าในวันนี้ นากามุระกลัวว่าเธอคงได้ไปนอนในห้องน้ำต่อมากกว่าจึงต้องกำชับ , ไข่ลวกถูกเขี่ยลงบนจาน มองไข่แดงที่กำลังเด้งดึ๋งบนแฮม ขนมปังนุ่มนิ่มที่เขาทำถูกวางเคียง ดวงตาสีเขียวมะกอกฉายแววพึงพอใจ วางแก้วนมกับน้ำผลไม้ไว้ด้านข้างแต่ละจาน จานสลัดจานใหญ่ถูกวางเป็นจานสุดท้าย

              ใบหน้าผินมองหญิงสาวที่กำลังก้าวลงบันได สีหน้าดูบูดบึ้งกว่าปกติที่เคยเป็น มือข้างนึงถือโทรศัพท์หนึ่งเครื่องคาดว่าคงเปิดแอพนกสีฟ้านั่นแล , จิกิตัดขนมปังกับไข่จนไข่แดงไหลเยิ้มผสมกับซอสที่ราดไว้รอบด้าน เธอจิ้มขนมปังก่อนจะปาดซอสพวกนั้นเข้าปาก ดวงตาสีผสมยังคงไม่ละจากหน้าจอ


              "ทำหน้าแบบนี้แปลว่าอาหารที่ฉันทำไม่อร่อยสินะ"นากามุระว่าหลังจากเห็นสีหน้าที่ยังคงขุ่นมัว "อื้อ ๆ อาหารฉันมันไม่อร่อยนี่เนอะ ขนาดที่ว่าทำให้เธออารมณ์เสียได้เลยนี่"

              "พูดอะไรของนายน่ะนากามุระ"จิกิย่นคิ้วเมื่อเห็นชายหนุ่มเอ่ยตัดพ้อ ก็เป็นซะแบบนี้ไม่แปลกใจเลยที่หาแฟนไม่ได้ เธอเบือนหน้าหนีพร้อมถอนหายใจ "ตอนเย็นฉันต้องไปคาราสึโนะ"

              "มีเรื่องอะไรถึงต้องไปหาถึงโรงเรียนน่ะ"

              "ฉันต้องไปเป็นโค้ชซ้อมให้เด็กน่ะสิ ปากพาซวยแท้ ๆ"เธอได้ยินเสียงหัวเราะจากปากของเขา ดูชอบอกชอบใจที่เธอต้องกลับไปอยู่ในวงการนั้นอีกครั้ง คงมีแต่เขาน่ะสิที่ชอบ ไม่ใช่กับจิกิที่แทบจะย้ายตัวเองไปอยู่ในต่างประเทศ อยากจะลบตัวตนตัวเองทิ้งเสียให้หมดเลยด้วยซ้ำแต่ก็ไม่อาจทำได้

              "แหม ฉันต้องขอบคุณเด็กคนนั้นสินะ"



    ◐  命に嫌われている  ◑



              ครั้งแรกที่เจอกันตอนนั้นรู้สึกยังไงกันนะ ตื่นเต้น ดีใจหรือว่าคาดไม่ถึงกัน มันเป็นสิ่งแรกที่คาเงยามะรู้สึกเมื่อเห็นหน้าหญิงสาว ภาพที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์หรือตามนิตยสารสัมภาษณ์ เป็นเซตเตอร์ที่มีความสามารถและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอทำให้โดดเด่น ในเรื่องรูปลักษณ์ดวงตาสีผสมกับเรือนผมสีดำขลับแถบขาว เขาจำได้เลยว่าตัวเองนั้นตื่นเต้นแค่ไหนเมื่อเห็นลูกเซตของเธอ

              ทว่าข่าวลาออกของเธอทำให้คาเงยามะไม่เข้าใจ

              หลายข่าวลือ หลายคนกระซิบกระซาบกัน ไม่นานนักหญิงสาวก็หายไปจากวงการถาวร คาเงยามะแทบไม่นึกคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะได้เจอเธอ และแทบไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้ตอนเย็นจะได้เจอนักกีฬาทีมชาติอย่างเธออีกครั้งในฐานะโค้ช นั่นทำให้เด็กหนุ่มตื่นเต้นยามก้าวเท้าไปทางโรงยิมเหลือเกิน


              "ช่วงนี้คาเงยามะดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะ"

              "นั่นสิ ทำหน้าแปลก ๆ ตลอดเลย"

              เด็กหนุ่มหน้ากระตุก หันกลับไปแว้ดใส่ "ฉันได้ยินนะเจ้าพวกบ้า !"


              ดวงตาสีผสมเชยมองโรงเรียนตรงหน้า เธอจึงก้าวเดินไปด้วยท่าทางเฉื่อยชา หลายคนหันมองเพราะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ด้วยสวมเสื้อฮู้ดปิดบังหน้าตา หากไม่โดนรปภ.ตรวจตรงหน้าโรงเรียนคงโดนเขม่นมากกว่านี้อีกกระมัง จิกิถอนหายใจพร้อมลากเท้ามาถึงที่หมาย

              เสียงบอลกระทบดังในโรงยิม เสียงพูดคุยตะโกนใส่กันเหมือนที่เคยเห็นในอดีต จิกิสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูเข้าไป ทั่วทุกสารทิศเงียบสงัดเมื่อเห็นคนแปลกหน้าอย่างเธอ ดวงตาสีผสมใต้ฮู้ดกวาดมองทั่วโรงยิม มีคนคุ้นหน้าประมาณสองคนก็ไม่พ้นเจ้าเด็กที่ลากเธอมาที่นี่กับใครอีกคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ


              "ชิราฟุเงะซัง !"จิกิมองเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ มาทางเธอ หน้าตาตื่นตกใจผสมความตื่นเต้นดูระริกระรี้กว่าที่เคย หญิงสาวเหลือบมองไปทางอีกคนที่แสดงสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะทำท่านึกออกแล้ววิ่งมาทางเธอในทันที ท่ามกลางอาการตื่นตกใจทั้งหลายเมื่อเห็นโค้ชวิ่งมาด้วยท่าทางตื่นตกใจเช่นนั้น

              "ชิราฟุเงะสินะ ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย"

              "ออ ช่วยหยุดเขย่าฉันสักทีเถอะ"หญิงสาวพ่นลมหายใจหลังเขาหยุดเขย่า มองชายหนุ่มที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยในด้านเรื่องทรงผม ใครบ้างที่ย้อมสีบลอนด์ทั้งหัวกัน ดวงตาสีผสมมองสีหน้าคล้ายถามว่าเธอมาทำอะไรที่นี่จากอุไค "ฉันมาเพราะลูกทีมนายนั่นแหละ"

              "ใครล่ะ.. คาเงยามะเหรอ"

              "ครับ ผมขอให้ชิราฟุเงะซังมาเป็นโค้ชให้"

              เธอมองคนยินดี "จริงเหรอ !? แบบนั้นน่ะดีเลย"


              เธอมองคนดี๊ด๊าสองคนที่กำลังดีใจเหมือนถูกรางวัลก่อนหันไปอีกทาง เห็นใบหน้าละอ่อนของชายหนุ่มตัวเล็ก น่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมกระมัง ดวงตาสีผสมกวาดมองโรงยิมวอลเลย์บอลชาย มองสมาชิกที่ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไรแตกต่างจากตอนที่เธออยู่ที่นี่ มีคนจ้องมองด้วยความสงสัยผสมความตื่นเต้น

              อุไคลากตัวเธอมาอยู่ตรงใจกลางดงเด็กหนุ่มทั้งหลาย ขณะที่จิกิถอนหายใจแล้วดึงหมวกฮู้ดลง เผยใบหน้าโดยไม่สนสีหน้าตะลึงค้างของพวกเขา ขณะที่อุไคลูบคางพร้อมเปรยชมเบา ๆ ถึงใบหน้าสวยไม่สร่าง , ผิวกายขาวสว่าง ดวงตาสีผสมแทบจะดึงดูดทุกคนให้ตกอยู่ในห้วงฝัน เรือนผมสีดำขลับแถบขาวสะบัดจนพริ้วไสว มุมปากยกขึ้นจนเกิดรอยยิ้ม


              "ชิราฟุเงะ จิคากิ นับแต่วันนี้ฉันจะมาเป็นโค้ชให้พวกนาย"





              Talk with คนแต่ง

              ล่อยังไงให้แมวติดกับคะน้องโท้บ จิกิอายุยี่สิบหกเท่ากับโค้ชอุไคเลยค่ะ ดังนั้นก็ถือว่าเป็นรุ่นเดียวกันตอนอยู่โรงเรียนค่ะ ในที่สุดน้องก็จะได้เป็นโค้ชสักที ตามอนิเมะแล้วเกิดหลังจากแข่งกับเซย์โจวเสร็จค่ะ 

              ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ´・ᴗ・`♡
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×