Cheers! สะดุดรัก หนุ่มนักเชียร์!
เมื่อ ยูคิโนะ ฮานะ เด็กสาว อายุ 16 ผู้คลั่งไคล้ในการเชียร์ ต้องมาพบปะกับประธาน ชมรมเชียร์ชายรูปหล่อ มันจะเป็นยังไง คนเขียนก็ยังไม่คิดเลย...
ผู้เข้าชมรวม
198
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Part 1 แรกพบ
วันแห่งการเปิดเทอมใหม่... วันที่ฉันเฝ้ารอคอย วันที่ฉันเฝ้าคนึงหา วันที่ฉัน ยูคิโนะ ฮานะ คนนี้
จะได้ไปเรียนไฮสคูล ณ โรงเรียนมัธยมโฮชินที่เฝ้าใฝ่ฝันมานาน
“ปี๊ป ๆ ๆ ๆ” .....
“เสียงอะไรน่ะ...หนวกหูจริง ๆ เลย คนเขาจะหลับจะนอน.....”
ฉันพูดพลางขยี้ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนของฉันอย่างรุนแรง เพื่อหวังให้ก้อนปฏิกูลแถวใต้ดวงตามันออก ๆ ไปซะ สายตาของฉันกวาดมองไปรอบ ๆ ตัว พร้อมกับค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นจากเตียงนอนสีฟ้าอ่อน เดินไปสู่หน้าต่างบานคู่สีน้ำตาล ที่อยู่ทางด้านขวาของเตียงนอน ฉันค่อย ๆ เอามือของฉันกวาดผ้าม่านสีฟ้าออกอย่างช้า ๆ
“โอ๊ะ!!ทำไมแดดมันถึงได้จ้าอย่างงี้นะ!!??”
ฉันอุทานเสียงดังลั่น หลังจากที่แสงแดดเจิดจ้ายามเช้า สาดแสงลงมากระทบกับเลนส์ตาของฉันอย่างรุนแรง ถึงกระนั้นฉันก็ยังพยายามพาร่างอันหนักอึ้งและตาอันพร่ามัวของฉันกลับไปทางเตียงนอนอันอ่อนนุ่ม ฉันบรรจง ปัด พับ และจัด ทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย พลันสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นวัตถุชิ้นหนึ่ง มันคือนาฬิกาลายโดราเอมอนที่ในตอนนี้ หนวดสั้น ๆ ของมัน ห่างกับเลขแปดเพียงแค่หนึ่งขีดเท่านั้น
“หว๋า..จะแปดโมงแล้วเหรอเนี่ย...ตายล่ะ... เปิดเทอมวันแรกก็สายแล้วรึเนี่ยฉัน!!”
ฉันตะโกนพร้อมกรีดร้องโวยวายลั่นบ้าน ด้วยอาการและใบหน้าที่ตื่นตระหนก ฉันพยายามเบิกตาตัวเองให้กว้างที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ พร้อมลากสังขารตัวเองกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ประตูบานใหญ่ที่อยู่ปลายเตียง มันคือห้องน้ำฉันพยายามรีบอาบน้ำด้วยสปีดที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกกันว่า “วิ่งผ่านน้ำ” ฉันในตอนนี้ไม่สนใจแล้วว่า เนื้อตัวของฉันมันจะสะอาดหรือไม่ ฉันยอมให้กระแสน้ำจากฝักบัวสีขาว วิ่งผ่านตัวฉันไปได้เพียง 30 วินาที เท่านั้น ฉันก็ปิดมัน และยื่นมือหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวห่อหุ้มตัวเองไว้ และรีบออกไปเปลี่ยนชุดนักเรียนตัวใหม่ ที่ฉันเพิ่งจะเคยได้ใส่มันวันนี้เป็นวันแรก
มันเป็นชุดนักเรียนที่น่ารักมาก คอเหลี่ยม มีพาดสีดำ เสื้อตัวในสีขาว เสื้อคลุมตัวนอกสีดำปักอักษรย่อของโรงเรียนใหม่ของฉัน กระโปรงสีขาวแถบดำ ยาวเหนือเข่ามาประมาณสามคืบเห็นจะได้ สิ่งที่ฉันกล่าวมาทั้งหมดนั้น ถูกนำมาสวมใส่โดยฉัน
“ไม่กินข้าวเหรอลูกฮานะ!?”
นี่เป็นประโยคแรกที่ฉันเจอ หลังจากที่ฉันเพิ่งจะวิ่งลงบันไดมาจากห้องนอนของฉัน
“ไม่ล่ะค่ะแม่!!หนูสายแล้ว”
ฉันตอบแม่ด้วยน้ำเสียงที่ดูลุกลี้ลุกลนจนสังเกตุได้ พร้อมกับที่วิ่งผ่านโต๊ะกับข้าวไปสู่ ประตูหน้าบ้านบานใหญ่สีครีม
“เฮ้อ...ไปวันแรกก็สายซะแล้วลูกคนนี้....”
ผู้เป็นแม่บ่นออกมากับสามีของเธอ
“แหม....วัยรุ่นก็หยั่งงี้ล่ะจ๊ะ ที่รัก”
ณ โรงเรียน ไฮสคูลโฮชิน
“ตายล่ะ ประตูมันจะปิดแล้วทำยังไงดีเนี่ยยย...กรี๊ด ๆ”
ฉันร้องโวยวายขึ้นมาอีก หลังจากที่ฉันวิ่งมาถึงหน้าสถานศึกษาแห่งใหม่ของฉัน เนื่องจากว่า ในตอนนี้ประตูโรงเรียนแห่งนี้กำลังจะปิดลง ฉันรู้ดีว่า ถ้าหากฉันเข้าไปไม่ทันตอนนี้ฉันต้องโดนลงทันณ์อย่างสงสัยมิได้ และแล้วประตูโรงเรียนสีเทาบานใหญ่ก็ปิดลง....ฉันไม่สามารถฝ่าฝูงชนที่เออออกันอยู่หน้าประตูเพื่อแย่งกันเข้าไปได้... แต่ฉันคนนี้ก็จะไม่ยอมโดนทำโทษง่าย ๆ หรอก...ฉันพยายามเดินรอบรั้วโรงเรียนแห่งนี้ พร้อมทั้งมองหามุมกำแพงงแจ่ม ๆ ซักมุมหนึ่ง เพื่อที่จะปีนมันเข้าไปในโรงเรียนแห่งนี้ ฉันรู้ดีว่ามันผิดระเบียบ แต่เพื่อความอยู่รอดของฉัน ฉันจำเป็นต้องทำ ในที่สุดฉัน ฉันก็ได้พบ กำแพงทางหลังโรงเรียน มันเหมาะมากสำหรับคนที่มาแอบดอดมาเข้าโรงเรียนสายอย่างฉัน หลังกำแพงนั้น ฉันจับความรู้สึกได้ว่า มันช่างเงียบ ฉันมั่นใจมาก ว่าอาจารย์หรือพวกนักเรียนคงจะไม่อยู่ที่นี่กันในตอนนี้ ความมั่นใจบวกกับเวลาที่ใกล้จะเริ่มเข้าคาบหนึ่งเข้าไปทุกที มันทำให้ฉันตัดสินใจปีนไปอีกฝั่งของกำแพงที่ว่านั่น
“บึก!!”......”อั่ก!!!!”
“.....เอ๊ะ!!เสียงอะไรน่ะ เราลงมาทับอะไรหรือเปล่านะ....? อ๊ะ!!!!!!”
เมื่อก้นของฉันลงมาถึงอีกฝั่งของกำแพง ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าทับอะไรบางอย่างอยู่ มันคงเป็นสิ่งมีชีวิตแน่ ๆ เพราะมันร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่ฉันหล่นไปทับมัน แต่แล้วฉันก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อสายตาของฉันที่ค่อย ๆ มองต่ำลงไปที่ตรงข้างล่างตัวของฉันเป็นมนุษย์เพศชาย...
“ขะ....ขอโทษนะคะ!!ไม่นึกเลยว่าจะมีคนมานอนแถวนี้ในตอนเช้า ๆ แบบนี้....><”
ฉันพยามยามขอโทษเขาด้วยน้ำเสียงที่เขินอายเล็กน้อย พร้อมก้มหัวผงก ๆ เป็นจังหวะกับที่บอกขอโทษเขา
“........... .. .... . .. .. .. “
ฉันได้ยินเขาพูดอะไรก็ไม่รู้อึมอำ ๆ พึมพำ ๆ อยู่ในคออยู่ประมาณประโยคหนึ่ง แต่เขาพูดเบามาก จนฉันไม่สามารถได้ยินได้ ฉันจึงได้ถามเขาออกไป
“อะไรนะคะ....ได้ยินไม่ชัดเลย....”
“.......... ... . ... .... . . . .. ...”
ฉันยังไม่เข้าใจที่เขาพูดเช่นเดิม
“ห๋า...ไม่ได้ยินเลย....พูดดัง ๆ หน่อยสิ”
“ลุก...ออกไป...ซะที......สิ...ยัยอ้วน.....”
เต็ม ๆ หู เขาพูดด้วยใบหน้าที่ดูดุดันและก้าวร้าว ฉันเกือบที่จะทนไม่ได้ คนเพิ่งเจอกันครั้งแรกแท้ ๆ กลับมาหาว่าอ้วน แต่ครั้งนี้ถือเป็นโมฆะไป เพราะฉันผิดเองที่ไปนั่งทับเขา
“...ขอโทษที...ที่นั่งทับนายนะ เผอิญว่าไม่เคยรู้ว่าแถวนี้มันเป็นที่นอนเด็กเกน่ะ...”
ฉันตอบเขากลับไปด้วยใบหน้าที่ยียวนพร้อมกับลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากกระโปรงสีขาวของฉัน ฉันรู้สึกสะใจอยู่เล็ก ๆ ที่ฉันได้ย้อนเขาไปแบบนั้น เขาคงจะรู้สึกเจ็บแสบไม่น้อยเลยล่ะ
“เธอพูดอย่างงี้...ไม่รู้จักฉันหรือไง?”
เขาถามฉันกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดันกว่าเดิม ใบหน้าเขาดูคร่ำเคร่งขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันกลัวเขาได้หรอก ของแบบนี้ฉันเห็นพ่อกับแม่ทำกันจนชินแล้ว
“ไม่รู้จักหรอก...ฉันยังเฟรชชี่อยู่เพิ่งจะเข้าเรียนวันนี้เป็นวันแรก ทำไมเหรอ?”
ฉันถามเขากลับ สีหน้าของเขาดูอ่อนเบาลง พร้อมถอนหายใจอย่างช้า ๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาจะวิเศษวิโสยังไง เพียงแต่เขาไม่น่าจะพูดกับคนที่เพิ่งเจอกันเครั้งแรกแบบนั้น
“ช่างมันเถอะ...”
เขาพูดพลางลุกขึ้นยืนข้าง ๆ ฉัน เขาค่อย ๆ ปัดกางเกงของเขาอย่างรุนแรง อยู่ ๆ ลมก็พัดมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย กระโปรงและผมของฉันปลิวไปทางด้านหลังอย่างรุนแรง ฉันพยายามเบิกตาของตัวเองและเอามือทั้งสองข้างกดกระโปรง ไมให้มันกระดกขึ้นมากนัก สายตาของฉัน ค่อย ๆ เลาะผ่านท้องฟ้า ผ่านข้าง ลงมาเรื่อย ๆ จนไปสะดุดกับหน้าของเขา ด้วยความแรงของลมผมสีเทาของเขา ปลิวปัดไปข้างหลังเกือบทั้งหมด เผยให้เห็นใบหน้าของเขา
“....หล่อ...ใช่...เล่น...”
ฉันไม่อาจละสายตาของฉันไปจากใบหน้าของเขาได้ ความรู้สึกของฉันในช่วงเวลานั้นเหมือนมันถูกสต๊าฟ การทำงานของระบบสั่งการของร่างกายฉันเหมือนสะดุด เขาหน้าตาดูดีมาก
“มองอะไร..ยัยอ้วน เห็นกางเกงในแล้ว กี่ขวบแล้วจ๊ะ กางเกงในลายโดราเอมอนน่ะ”
เขาพูดขึ้นท่ามกลางเสียงสายลมโชยเอื่อย ๆ ใบหน้าของเขาดูกวน ๆ แต่แล้วฉันก็เพิ่งจะมานึกถึงคำพูดที่เขาพูด
“กรี๊ดด!!! ลามกจริง ๆ เลย นาย ...นาย..นี่มัน
เป็นผู้ชายที่...!”
“ที่ หล่อ...ใช่...เล่น ใช่ไหมล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เขาพูดเหมือนอ่านใจฉันออกว่าฉันคิดยังไงตอนที่ฉันเห็นใบหน้าของเขาอย่างจัง ๆ ฉันไม่คิดที่จะเจรจาพาทีกับเขาต่อแล้ว ในตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันพ่ายแพ้ เขาอย่างสิ้นเชิง ฉันพยายามวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะไปเข้าห้องโฮมรูมของตน เมื่อฉันเดินไปประมาณสิบก้าวฉันได้ยินเขาพูดออกมาประโยคหนึ่ง ฉันจับใจความได้ไม่ค่อยชัดแต่รู้สึกว่าเขาจะพูดว่า “ระวังตัวเอาไว้ล่ะ” ฉันไม่เห็นหน้าเขาตอนพูด ฉันจึงไม่สามารถเดาได้ ว่าเขาพูดออกมาเพราะคิดร้าย หรือพูดเพราะเป็นห่วงฉันกันแน่ แต่ฉันคิดว่ามันต้องเป็นอย่างแรกอย่างแน่นอน
ณ ห้องโฮมรูม
“ฮานะ! ไปไหนมาน่ะ ทำไมมาช้าอย่างงี้ล่ะ ฉันนึกว่าเธอโดนรถชนตายไปซะแล้ว..”
เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นหลังจากที่ฉันเลื่อนประตูบานเลื่อนสีขาว เข้าไปสู่ห้องโฮมรูมชั้น 1-B
“ยูริโนะ...นี่เธอแช่งฉันรึเปล่าเนี่ย มิน่าเจอเรื่องซวย ๆ แต่เช้าเลย..”
ฉันตอบยูริโนะเพื่อนสนิทของฉัน ด้วยใบหน้าที่ดูละเหี่ยอย่างเต็มที่
“แหะ ๆ เปล่าเลยจ๊ะ..ไปหาที่นั่งกันเหอะ มุมดี ๆ โดนแย่งไปหมดแล้วมั้งเนี่ย”
ยูริโนะชวนฉันไปหาที่สิงสถิต ที่จะใช้ในทุก ๆ ชั่วโมงเรียนที่มีในห้องโฮมรูมนี้ ทากาซึกะ ยูริโนะ เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของฉัน เธอเป็นเด็กน่ารัก ผมบ๊อบสั้น ของเธอดูเข้ากับใบหน้าที่ ขาวเรียวของเธอเป็นอย่างมาก เธอเรียนที่โรงเรียนโฮชินนี้มาตั้งแต่ มัธยมต้น ฉันเลยอาศัยเธอติวข้อสอบ สอบเข้าโรงเรียนนี้ให้
“อ๊ะ!!ริมหน้าต่างยังมีที่หลงเหลืออยู่อีกหรือนี่!!สวรรค์ยังมีตานะเนี่ย มุมนี้ก็ใช้ได้นะ ยูริโนะ ดูสิเห็นตึกข้าง ๆ ด้วย”
ฉันพยายามลากยูริโนะเพื่อนรักของฉันไปทางฝั่งซ้ายมือ เพื่อไปนั่งที่ริมหน้าต่าง ที่สามารถมองเห็นตึกชั้นปีสองซึ่งอยู่ข้าง ๆ ได้
“ปะ..ไปหาที่ใหม่กันดีกว่านะ...ฮานะ..มัน..มัน”
ยูริโนะ พยายามบอกปัดดูท่าทางเธอคงไม่อยากที่จะนั่งริมหน้าต่าง ทั้ง ๆ ที่ฉันคิดว่ามันเป็นมุมที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ริมหน้าต่างนั้นมันมักจะมีลมเอื่อย ๆ เย็น ๆ โชยมาตลอดเวลามันทำให้ฉันหลับสบายในยามที่หลับในชั่วโมงเรียน
“ทำไมล่ะ..ที่อื่นไม่มีให้นั่งแล้วนะ เอาตรงนี้แหละ”
พูดจบฉันก็เอาตัวของฉันนั่งลงไปบนเก้าอี้สีน้ำตาลอ่อนทันที เพราะฉันรู้ดีว่า ถ้าฉันนั่งไปแล้ว เธอคงไม่ไปที่อื่นเพราะเห็นว่าฉันตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
“...อะ..โอเค..ได้ ๆ แต่เธอต้องนั่งฝั่งริมหน้าต่างไปตลอดนะ”
แปลก..แล้วฉันจะย้ายทำไม ริมหน้าต่างมันเป็นมุมที่ฉันโปรดปรานที่สุด ในบรรดาที่นั่งในห้องเรียนเลยนะ แล้วฉันจะย้ายไปที่ที่ฉันไม่ชอบทำไม
“โอเค...สัญญาเอาไว้เลย!!”
คำพูดนี้ คงทำให้เธอมั่นใจขึ้น ว่าฉันจะนั่งริมหน้าต่างนี้ตลอดไป
“...อิอิ..จ้า..ค่อยโล่งใจหน่อย..”
แปลก...ทำไมเธอต้องพูดพร้อมกับการถอนหายใจอย่างหายห่วงแบบนั้นด้วยนะ...ฉันในตอนนี้เริ่มงงนิด ๆ
“ว่าแต่..ฮานะ..เรื่องซวย ๆ ที่ว่ามันคืออะไรเหรอ เล่าให้ฉันฟังได้ไหม?”
ยูริโนะถามฉันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวเทพธิดา และแน่นอนว่าฉันต้องเล่าถึงความปากจัดของผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือคนนั้นออกไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“ก็...เมื่อเช้าน่ะ...”
“เพล้ง!!!!!!!!!!!!”
“เฮ้ย!!!!”
ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ กระจกที่อยู่ข้าง ๆ ฉันเกิดแตกขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าที่อยู่ ๆ มันแตกคงไม่ใช่เพราะไสยศาสตร์ แต่มีคนขว้างอะไรมาโดนมันแน่ ๆ เศษกระจก นับร้อย ไม่ว่าจะเป็นฝอย หรือเศษเล็กเศษน้อยเฉี่ยวหน้าฉันไปอย่างหวุดหวิด ปรอทความโมโหของฉันพุ่งขึ้นเต็มแมกซ์ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งของฉันพลางหันไปมองทางตึกตรงข้ามซึ่งเป็นตึกของมัธยมปลายปีสอง สายตาของฉันดูโกรธเกรี้ยวและกวาดมองดูต้นเหตุที่ทำให้ฉันเกือบเสียโฉมและแล้วสายตาฉันก็ไปสะดุดกับคน คนหนึ่งเข้า
“นายลามกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!”
ฉันตะโกนสุดเสียงหลังจากที่ฉัน เห็นผู้ชายที่ว่าฉันว่าอ้วนเมื่อเช้าด้วยความโมโห และดูเหมือนเขาจะได้ยินที่ฉันเรียกเขา เขาเดินมาเกาะหน้าต่างฝั่งเขา พร้อมทำหน้ายิ้มทะเล้น เยาะเย้ยฉัน
“นายใช่ไหม!! ที่ขว้างอะไรก็ไม่รู้มาโดนกระจกห้องฉันน่ะ!!!!”
จะใช่หรือไม่ใช่ก็แล้วแต่ เพราะความโมโหของฉันตอนนี้ บวกกับเห็นใบหน้าที่ทะเล้นของเขาแล้ว ทำให้ฉันฟันธงเลยว่า เขาแน่ ๆ ที่คิดจะลอบฆ่าฉันทางเศษกระจก
“บอกแล้วไง..ว่าให้ระวังตัว...ยัยหนูโดราเอมอน...”
“*0*!!!!!! กรี๊ดดดดด นายพูดอะไรของนายน่ะ เงียบไปเลยน่ะ แล้วก็ชดใช้ค่าเสียหายที่ทำฉันเกือบตายมาด้วยนะ!!”
ฉันพูดประโยคที่ยาวมาก เพื่อหวังให้เขาได้สำนึก แต่เขา ไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย พูดจบเขาก็เดินหัวเราะไปนั่งที่ของเขาซึ่งมันไม่ไกลจากที่เมื่อกี้ซักเท่าไหร่ เพราะมันอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามฉันนี่เอง
“ได้ยินที่ฉันพูดมั๊ย!!ห๊า!จ่ายมานะ นายลามก”
คราวนี้ไม่เพียงแต่เขาจะทำหูทวนลมแต่เขากลับปิดหน้าต่างของเขาแล้วนอนหลับอย่างสบายอารมณ์
“หนอย....ฉันชักจะโมโหแล้วนะ.....”
“ครูก็เริ่มโมโหเหมือนกัน เมื่อไหร่เธอจะนั่งลงซะที ครูสอนไม่ได้เข้าใจไหม ไปยืนต่อหน้าห้องไป!!”
ฉันค่อย ๆ หันไปทางต้นเสียงอย่างช้า ๆ ภาพตรงหน้าฉันปรากฎเป็นชายวัยประมาน ยี่สิบถึงยี่สิบห้า แต่งตัวดูภูมิฐานฉันคาดการณ์ว่าเขาต้องเป็นครูอย่างแน่นอน เพราะการออกคำสั่งของเขาทำให้ฉันทำตามอย่างขัดขืนมิได้ ฉันพยายามพาร่างที่อารมณ์เดือดอย่างสุด ๆ ออกไปยืนหน้าห้องเรียนแต่โดยดี ฉันยืนอยู่ข้างหน้าห้องเรียนนั้น พลางคิดถึงผู้ชายที่ทำให้ฉันต้องมายืนแบบนี้ด้วยความเคียดแค้น จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนกลางวันเมื่อไหร่ฉันก็ไม่รู้ตัวฉันเองเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้ฉันไม่ต้องยืนที่หน้าห้องต่อไป เมื่อเสียงออดดังขึ้น ยูริโนะเดินออกมาจากในห้องตรงเข้ามาหาฉัน ที่ยืนพิงผนังอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับประตู
“เป็นไงมั่งล่ะ โฮมรูมวันแรกสนุกมั๊ย?”
ฉันถามเธอด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งรอยยิ้ม อารมณ์ของฉันตอนนี้ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่หายขาด
“เอ่อ..ก็ดีจ๊ะ...อาจารย์บอกให้ไปสมัครชมรมตั้งแต่วันนี้น่ะจ๊ะ...อะ!นี่ ใบสมัครเข้าชมรมของเธอน่ะ”
ยูริโนะยื่นกระดาษซีร็อกซ์มาให้ฉันแผ่นหนึ่ง บนกระดาษแผ่นนั้นมีอักขระ เยอะอยู่พอดู เมื่อฉันได้รับกระดาษนั้น ฉันรู้สึกได้เลยว่าตัวเองอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้ฉันอยากเข้าโรงเรียนโฮชินแห่งนี้ มีสามประการหลัก ๆ หนึ่งคือ ชุดนักเรียนหญิงของที่นี่น่ารักมาก สองเพราะยูริโนะอยู่ที่นี่ด้วย และประการสุดท้ายสำคัญมาก ๆ เพราะที่ฉันอยากเข้าโรงเรียนแห่งนี้ก็เพราะ ฉันได้เห็นการประกวดเชียร์ลีดเดอร์หญิงที่ร่วมมือกับชมรมเชียร์ชายของโรงเรียนนี้ทางทีวี มันสวยงามมาก จนฉันเห็นแล้วขนลุกเกรียวเลยทีเดียว ความมหัศจรรย์ของการเต้นของชมรมเชียร์โรงเรียนนี้ทำให้ใจฉันหวั่นไหวอยากเข้าบวกกับสองประการแรกทำให้ฉันตัดสินใจเข้าโรงเรียนแห่งนี้อย่างไม่ลังเล
“จะไปกันหรือยังล่ะ....ชมรมเชียร์ลีดเดอร์น่ะ?”
ยูริโนะถามฉันด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยม เพราะเธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเต้นเชียรลีดเดอร์ของโรงเรียนแห่งนี้ และตอนนี้เธอก็เคยอยู่ชมรมเชียร์ตอนมัธยมต้นมาแล้วสามปีเต็ม ฉันคิดว่าเธอคงสามารถจับฉันยัดลงไปในชมรมได้อย่างแน่นอน ฉันมั่นใจมากว่าฉันจะต้องเข้าได้ ฉันกับยูริโนะเดินจูงมือกันไปเรื่อย ๆ จนไปถึงหน้าห้องชมรมเชียร์ลีดเดอร์ที่ข้างหน้าถูกประดับด้วยอะไรก็ไม่รู้เพราะคนที่มาสมัครเข้านั้นเยอะมากมายเหลือเกิน
“แล้วฉันจะเข้าไปแทรกตรงหลืบไหนได้เนี่ย...ยูริโนะ?”
ฉันถามยูริโนะเสียงอ่อย เนื่องจากคลื่นมหาชนที่เข้ามาสมัครที่ชมรมนี้มันมากเหลือเกิน และแต่ละคนนั้น หุ่นเฟิร์มกันทั้งนั้น หน้าตาก็จิ้มลิ้ม ดูไปดูมาแล้ว พอฉันมาอยู่แถวนี้แล้ว ฉันเหมือนนกเหมือนกาไปเลยก็ว่าได้
“อย่างนี้...ฉันจะเข้าได้เหรอ ยูริโนะ”
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมหันไปพูดกับยูริโนะ ตอนนี้ฉันเริ่มไม่มั่นใจในตนเองซะแล้วว่าจะเข้าชมรมได้หรือไม่
“อะไร..โดราเอมอน..หุ่นเป็นแมวกระป๋องอย่างเธอน่ะเหรอ..จะมาสมัครชมรมเชียร์น่ะ?”
เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น ฉันรู้สึกคุ้นกับเสียงที่ว่านั้นมาก มันให้ความรู้สึกที่ยียวน กวนประสาท เทอร์โมมิเตอร์ความโมโหของฉันมันเริ่มพุ่งตะหงิด ๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะฉันรู้ดีว่าเจ้าของเสียงที่ว่านั่นเป็นใคร
“ทำไม...เกี่ยวอะไรกับนาย!....”
“เคียวโกะ!!!!”
ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบนายลามกก็ตะโกนเรียกใครบางคน ซึ่งฉันก็หันไปทางที่เสียงเขาเรียกไป ภาพที่ฉันเห็นเป็น ผู้หญิงผมยาวถึงกลางหลังสีดำขลับ ใบหน้าเรียวสวย ปากเอิบอิ่ม และหุ่นที่นางแบบของเธอทำเอาฉันตะลึงในความเพอร์เฟ็กซ์ของเธอ ฉันตาค้างทึ่งกับความสวยของผู้หญิงคนนั้นไปนานพอดูจนต้องสะดุ้งเมื่อนายลามกพูดกับเธอคนนั้น
“เคียวโกะ! รับยัยแมวกระป๋องข้าง ๆ ฉันเข้าชมรมด้วยนะ”
เป็นงั้นไป แล้วอยู่ ๆ เขามายุ่งอะไรกับชีวิตฉันด้วยเนี่ย ท่าทางไม่ชอบมาพากลซะแล้วเขาคิดจะทำอะไรของเขากันแน่นะ ฉันล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเขาต้องการอะไรจากฉัน
“ทำไมจะไม่เกี่ยวกับฉันน่ะเหรอ เกี่ยวสิ...”
เขาพูดพร้อมหันหน้ามาทางฉัน ฉันได้แต่ยืนงงฟังเขาพูดต่อ
“เกี่ยวมากด้วย ฉัน ยูชิงาคิ คาเงโตะ ประธานชมรมเชียร์ชาย และนี่ อาซาคาระ เคียวโกะ ประธานชมรมเชียร์ลีดเดอร์หญิง ชมรมสองชมรมนี้อยู่รวมกัน ซ้อมก็ซ้อมด้วยกัน สรุปแล้วเราสองคน เป็นประธานของชมรมเชียร์แห่งโรงเรียนโฮชิน”
“เพราะงั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธออยู่ชมรมเชียร์แล้วนะ..”
ทำไมเขาต้องช่วยฉันด้วยหรือว่าเขาจะเป็นคนดีเหมือนกัน เอ๊ะ...หรือว่า....เขาจะชอบฉัน..(หลงตัวเองจริง ๆ)
ผลงานอื่นๆ ของ Kagami-Fenrir ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kagami-Fenrir
ความคิดเห็น