วิถีตนดนตรี-โหมโรง - นิยาย วิถีตนดนตรี-โหมโรง : Dek-D.com - Writer
×

    วิถีตนดนตรี-โหมโรง

    ผู้เข้าชมรวม

    157

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    157

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ค. 65 / 18:23 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ช่วงเช้าวันที่05 กันยายน 2035 ณ สถานีรถไฟฟ้าบางเขน ข้ามีชื่อว่า ราม เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งย่านสะพานตากสิน อาชีพข้าคือ call center รพ.แห่งหนึ่ง ข้าทำงานที่นี้ได้จะ20ปีแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาทำงานที่นี้ได้อย่างไร ทั้งทีข้าจบปริญญาสาขาดนตรีไทยมา จะบอกว่าทุกๆวันข้านั้นคิดถึงการเล่นดนตรีไม่ว่าเวลาว่างๆ หรือตอนเหม่องลอย ข้าก็มักจะเคาะโน้นนี้เป็นจังหวะจนคนอื่นลำคานเลยก็ว่าได้ ถามว่าทำไมข้าถึงไม่ทำงานเกี่ยวกับดนตรีที่ข้ารักละ ก็ต้องย้อนไปเมื่อตอนที่ข้าจบมาใหม่ๆตอนนั้นช่วงโควิคระบาดคนตายกันมาก เศรษฐกิจก็พัง งานก็หายากเลยจำใจมาทำงานนี้อาจเป็นเพราะเป็นงานที่ได้ช่วยเหลือคนด้วยข้าจึงไม่ค่อยเบื่อนัก และวันนี้ก็เป็นวันพฤหัสธรรมดาวันหนึ่ง ข้าทำงานจนดึกระหว่างที่กำลังเดินทางกลับห้องนั้นข้าได้เห็นโจรกำลังปล้นผู้หญิงคนหนึ่งมันใช้ปืนขู่ตอนนั้นข้าตกใจมากแต่ร่างกายข้าขยับไปเองสมองข้าคิดแค่ว่าต้องช่วย ต้องช่วย ข้าได้พุ่งไปต่อยที่ใบหน้าโจรผู้นั้นล้มลงไปสักพักข้าได้ยินเสียงคนจำนวนมากเดินมาบริเวณหลังของข้า ในใจข้าคิดซวยแล้วมั้ยละขณะที่ตัดสินใจว่าจะสู้หันกลับไป เซอร์ไพร์!! เป็นเพื่อนๆที่ทำงานข้าจัดเค้กอวยพรวันเกิดข้า นี่ข้าทำงานจนลืมวันเกิดของตัวเองแล้วหรือฮ่าๆ คืนนั้นข้าได้สังสรรค์กับเพื่อนจนถึงกลางดึกคืนนั้นเวลา 04.59น.เพื่อนๆข้าเมาหนักนอนหลับกันบนเตียงหมด ส่วนข้าเจ้าของห้องนอนระเบียงอากาศดีเป็นบ้าแต่วันนี้ข้ายังไม่ได้ขอพรวันเกิดข้าเลย พ่อแม่ข้าก็เสียหมดแล้วชีวิตข้าก็โสดมีแต่เพื่อนส่วนเพื่อนก็มีเมียหมดแล้วโอ้ชีวิตฮ่าๆ ข้าเลยไม่รู้จะขอพรอะไรข้าเลยหลับตาใต้แสงจันทร์แต่เอ้ะแสงจันทร์คืนนี้เป็นสีแดงสวยเหมือนกุหลาบหรือว่าข้ากำลังจะได้พบรักกันนะขณะที่ข้าหลับตาอยู่นั้นข้าได้ยินเสียงดนตรีไทยเป็นเสียงที่คุณเคยทำให้ข้ามีความสุขมากจากนั้นลืมตาตื่นขึ้นมาข้าได้ตื่นมาที่สถานที่ๆคุ้นเคยได้เจอรุ่นพี่เก่าๆที่ตอนสมัยเรียนอยู่มัธยมที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ข้าคิดว่าฝันข้าเลยเข้าห้องน้ำข้าดูกระจกก็ทำให้ข้าตกใจ ทั้งร่างกายข้าได้ย้อนกลับไปตอนที่ข้าอยู่ม.4 ข้าพยายามตั้งสติขณะที่รุ่นพี่กำลังมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ ในหอนี้มีรุ่นพี่5คน ส่วนข้าเป็นรุ่นน้องคนเดียว 1.พี่สว่างเป็นคนเครื่องหนังอยู่ ม.6 2-3.พี่มากและพี่ตรงเป็นคนปี่ อยู่ม.6 4.พี่แชมป์เป็นคนระนาดเอกม.6 5.พี่เพรชเป็นคนระนาดทุ่ อยู่ม.6 รุ่นพี่สว่างตะโกนไอ้ราม!! จะไปเรียนหรือยังอีก10นาทีนะ ผมซึ่งยังไม่หายตกใจพอตั้งสติได้ก็เรียบแต่งตัวขณะที่ซ่อนรถรุ่นพี่ไปวิทยาลัยนาฏศิลปก็ถามพี่ว่าวันนี้วันอะไรครับ ก็โดนรุ่นพี่ตบกะบานว่านี้ความจำเสื่อมหรือไงวันนี้เปิดเทอมวันแรกแล้วก็วันนี้เองต้องไปสอบคัดแยกกุ่มเด็กนักเรียนเก่า-ใหม่ด้วยอย่าทำใหครูผิดหวังละ ซึ่งผมจำได้ดีวันนั้นผมได้ทำออกมาได้ไม่ดีเลยได้จับให้ไปอยู่กับเด็กใหม่คือต้องเริ่มต้นพื้นฐานใหม่หมดเลยซึ่งแตกต่างกับเด็กเก่าจะได้เรียนวิชาเพลงการที่ดีกว่าจึงทำให้แบ่งชนชั้นกันระหว่างเด็กเก่าและเด็กใหม่ แต่วันนี้เป็นวันที่ผมได้ย้อนเวลามาผมจะไม่ทำให้ครูผิดหวังอีกแน่ ในขณะที่ถึงรร.ได้มีการเช้คชื่อซึ่งผมได้ย้ายมาเรียนที่ม.4ที่รร.แห่งนี้เป็นวันแรกจึ่งไม่มีเพื่อนเลยสักคนมีแต่รุ่นพี่ที่รู้จักเพราะเป็นคนบ้านเดียวกันเป็นศิษย์ครูคนเดียวกัน ในขณะนั้นได้มีสายตาดูถูกจากหลายๆสถาบันได้มองมาที่ผมเพราะว่าที่รร.แห่งนี้มีชื่อเสียงสำหรับดนตรีไทยระดับต้นๆของประเทศจึ่งทำให้หลายๆสถาบันต้องการเข้ามาอยู่มาเรียนที่รร.แห่งนี้ ในขณะช่วงเช้านั้นได้มีนักเรียนมากฝีมือทดสอบคัดแยกกลุ่มได้แสดงฝีมือเล่นดนตรีเพลงเดี่ยวบ้างแสดงกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพื่อที่จะได้เข้าเรียนที่นี้ ในขณะที่นั่งทานข้าวอยู่มุมเดิมของผมก็ได้เจออดีตคนรักเก่าเธอเป็นเด็กนักเรียนเก่าซึ่งเรียนที่นี้ตั้งแต่ม.1อยู่แล้วเธอเรียนรำ หน้าตาน่ารักผสมสวยๆมีเสหน์เป็นคนดูแลตัวเองได้ซึ่งตอนนั้นผมกับเธอเลิกลากันด้วยเหตุผลบ้างอย่างแต่ตอนนี้ผมได้มีโอกาศใหม่ผมจะทำให้ดีกว่าเดิมผมจึงเดินเข้าไปทักชื่อเธอว่าเหมือนเราสนิทกันแต่ก่อนแต่ตอนนี้เธอยังไม่รุ้จักเราจึงทำให้เธอตกใจเอ้ะเราเคยรู้จักกันหรอกค่ะ ผมก็ลืมตัวเลยตอบไปว่าพอดีเห็นในป้ายรร.ว่าเป็นคนสวยและเก่งผมจึงเข้ามาทักนะครับพอดีไม่ค่อยได้เจอคนรำเก่งๆและผมเป็นเด็กใหม่ฝากตัวด้วยนะครับแล้วรีบชิ้งเดินหนีเลยให้เธองงอยู่แบบนั้นและ ฮ่าๆเกือบหลุดไปแล้วมั้ยละราม ช่วงบ่ายของการสอบคัดแยกเกณฑ์การประเมินคือจะต้องเป็นคนเล่นดนตรีที่ได้เสียงหนักแหน่ ท่าทางสุภาพ บรรเลงครบถ้วนทางเพลงดีซึ่งแต่ละคนก็ทำออกมาได้ดีผมจึงคิดอะไรบ้างอย่างออกถ้าเราแสดงฝีมือเต็มที่เราจะหาว่าแปลกประหลาดมั้ยนะและกล้ามเนื้อแขนเราก็ยังไม่สามารถตีเพลงดีๆออกมาได้เราพึ่งม.4เอง ขณะนั้นกรรมการก็เรียกชื่อเรานาย ปัฐวี ประเสริฐ (ราม) จากจังหวัดชัยนาท เราตื่นเต้นนิดหน่อยอาจเป็นเพราะว่าเราอายุเยอะแล้วและก็รู้จักครูทุกท่านที่อยู่แห่งนี้อีก ครูเจี้ยบบอกเอ้าเริ่มเลย เวลามีค่า ให้ห้องนั้นมีเครื่องดนตรีทุกเครื่องกับสายตาจากเด็กนักเรียนคนอื่นๆมองมาที่เรา ผมจึ่งไปนั้งที่ฆ้องวงใหญ่ เด็กๆได้พูดดูถูกว่าเป็นคนฆ้องเองหรอกหรือนึกว่าจะเก่งจะเดี่ยวระนาดเอกซะอีกไหนดูสิจะเก่งเหมือนท่าทางหรือป่าว ขณะที่คณะครูก็ต่างจ้องมองมาที่ผม ผมได้คิดไอเดียเพลงออกว่าจะบรรเลงเพลงอะไรดีผมจึ่งบรรเลงเพลงเหาะไปซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ง่ายๆเป็นทางฆ้องธรรมดาไม่พิศดารอะไร แต่ผมตีด้วยท่าทางสุภาพชนการว่างมือการประคบเสียง และผมตีเพลงเหาะออกมาได้7เสียงซึ่งปกติเพลงเหาะจะบรรเลงแค่3เสียงซึ่งทำให้คณะครูตกตลึ่งเจ้าเด็กนี่ครูอาจารย์เป็นใครกันแน่ทั้งทวงทีท่าทางเพลงการรวมถึงการควบคุมอารมณ์ใช้ได้มีพรสวรรค์ รวมทั้งนักเรียนจากสถาบับอื่นๆก็ตกใจด้วย คณะคุณครูเลยประกาศว่าผ่านและแยกไปอยู่กับเด็กเก่าได้ซึ่งก็เป็นไปตามคาดการณ์ไว้ การกลับมาในครั้งนี้ผมจะเป็นนักดนตรีที่เก่งที่สุดให้ได้ 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น