[MINMON] CALL YOU MINE - [MINMON] CALL YOU MINE นิยาย [MINMON] CALL YOU MINE : Dek-D.com - Writer

    [MINMON] CALL YOU MINE

    ไม่มีใครหน้าไหนที่คู่ควรกับร่างกายของคุณไปมากกว่าผมอีกแล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    809

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    809

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    31
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มิ.ย. 62 / 00:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    “ CALL YOU MINE ”


    Type : Nightlife and Violence

    Couple : #Minmon #Minjoon

    Seme/Top : Jimin

    Uke/Bottom : Namjoon

    Writer : zakolr (@zakolr)




     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      มือหนารินกรอกเครื่องดื่มมึนเมาสีใสสะอาดลงคอแก้วแล้วแก้วเล่าเหมือนเป็นการชะล้างวันแย่ๆออกไปจากชีวิต ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดด้วยส่วนสูงมาตรฐานชายทั่วไปนั่งดื่มอยู่ที่บาร์เดี่ยวมาตั้งแต่เกือบชั่วโมงที่แล้ว ไม่มีคำพูดหรือบทสนทนาใดๆหลุดจากปากของเขาเลยนอกจากการสั่งเครื่องดื่มในตอนแรกแล้วก็ยังคงสั่งเพิ่มด้วยชื่อเรียกเดิมๆ

      ‘Sambuca’ แซมบูก้า แอลกอฮอล์สีใสเหมือนน้ำเปล่าที่อำนาจทำลายล้างสูงมาก รสชาติออกไปทางหวานผสมกับกลิ่นชะเอมที่ผ่านการกลั้นมาอย่าพิถีพิถัน เหมาะกับชายหนุ่มหน้าหวานแต่ใจเสืออย่าง ‘จีมิน’ เป็นที่สุด

      แสงไฟสลัวสีม่วงครามสลับกับแสงสะท้อนจากลูกดิสโก้ขนาดใหญ่ที่ทำให้เห็นหน้าคนอื่นไม่ค่อยจะชัดเสียเท่าไร เสียงดนตรีที่ดังอย่างต่อเนื่องปลุกชีวิตเฮงซวยของเขาให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง รวมทั้งเหล้าในมือที่ถูกกระดกลงคอไปอีกแก้ว

      “วันนี้หนักกว่าทุกวันหรอ”

      “อืม”

      “หน้าคุณเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ ให้ผมเรียกคนมารับไหม”

      “ไม่”

      บาร์เทนเดอร์ผิวแทนเลือกที่จะไม่ถามต่อเพราะดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้อยากเสวนากับเขาสักนิด ลูกค้าหน้าหวานที่มักใช้เวลาสุดสัปดาห์แบบนี้มาล่าเหยื่อสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ๆกลับไปด้วย จีมินยังคงกวาดสายตาไปตามโต๊ะกลางร้านและ Dancefloor ที่หลายชีวิตกำลังสนุกสนานไปกับเสียงเบส EDM ที่คอยปั้มหัวใจให้ตื่นเต้นและครื้นเครงไปกับบรรยากาศของทางร้าน

      ทุกสุดสัปดาห์หนุ่มหน้าหวานคนนี้มักจะมาที่ร้านนี้เป็นประจำ บางครั้งก็มากับกลุ่มเพื่อน บางครั้งก็มาตัวคนเดียว แต่ทุกครั้งที่มาเขาไม่เคยต้องกลับไปมือเปล่าเลยสักครั้ง ด้วยหน้าตาจิ้มลิ้มที่เป็นที่ถูกใจของทั้งสาวใหญ่สาวเล็กทำให้จีมินเป็นหนุ่มสุดฮอตในสถานที่แบบนี้ หลายคนอยากควงเขาซ้ำในครั้งต่อๆไป หากแต่ทุกคนล้วนถูกปฏิเสธอย่างไร้ค่า ถ่อยคำหยาบโลนเอ่ยไล่ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนอดีตคู่นอนทั้งหลายไม่มีใครกล้าเสนอตัวมาหาเข้าเป็นครั้งที่สาม

      “จีมินใช่ไหมคะ”

      “ครับ”

      “จำเราได้ไหม ที่อาทิตย์ก่อนเราไปสนุกด้วยกัน วันนี้มีคนนั่งเป็นเพื่อนรึยังเอ่ย”

      “กลับโต๊ะคุณไปซะ”

      “แหม่ ไม่คิดถึงกันเลยหรอคะ”

      “ไปซะ อย่าให้ผมต้องพูดดัง”

      แล้วก็เป็นอีกคนที่โดนปฏิเสธตามสไตล์ของจีมิน เขาไม่ได้ชอบความซ้ำซากเอาซะเลย แค่งานของเขามันก็น่าเบื่อเต็มกลืนแล้ว ถ้ายังให้มาซ้ำซากกับพวกวันไนต์สแตนด์ที่ชอบมาซ้ำอีกมันยิ่งน่าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

      ชายหนุ่มผมสีชมพูอ่อนจากการเฟดของสีที่ถูกย้อมมาไม่ต่ำกว่าสี่วันถูกเสยขึ้นด้วยมือหนาของเจ้าตัว เผยให้เห็นเครื่องหน้าที่เหมือนถูกคัดสรรมาอย่างดีให้เหมาะกับการเป็นนักล่ายามค่ำคืนแบบนี้ ด้วยสีผมที่ไม่ค่อยมีผู้ชายที่ไหนทำกันเพราะมันจะดูออกสาวไปหน่อย แต่สำหรับจีมินผมสีชมพูไม่ได้ทำให้ความเป็นเสือของเขาลดลงเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขามักมากับผมสีดำขลับเสมอ แต่เมื่อสีผมเปลี่ยน ภาพลักษณ์ก็เปลี่ยน

      จีมินที่ดูดุดันยามที่กระดกเหล้าสีอำพันตามด้วยการเสยผมสีดำสนิทขึ้นไปจนเห็นหน้าผากแคบเป็นภาพจำของใครคนหนึ่งที่เฝ้ามองเขามาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่เขาเปลี่ยนสีผมแล้วกลับเข้ามาอีกครั้งในลุคที่แปลกตาแต่กลับทำให้ใจเต้นแรงกว่าเดิม

      จากความชอบ กลายเป็นความหลงใหล แล้วพัฒนาเป็นความคลั่งไคลที่คนผมสีสายไหมเองไม่มีทางคาดเดาได้แน่นอน

      ใบหน้าสีแดงอ่อนๆจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความ ‘หวงและห่วง’ ของใครบางคนพุ่งแตะเพดานเพียงเพราะกลัวว่าชายหนุ่มคนนี้จะถูกกระทำจากผู้ไม่หวังดีอย่างสาวใหญ่ที่จ้องมองมาจากโต๊ะไกลๆ หรือจะเป็นน้องหมวยที่ส่งคงส่งสายตาท่าทียั่วยวนมาถึงจีมินจากที่โต๊ะที่อยู่ไม่ห่างออกไป หรือแม้กระทั้งชายผิวขาวซีดในเสื้อเชิ้ตสีเลือดหมูที่ยังคงลอบมองคนผมชมพูของเขามาสักพักแล้ว ทั้งๆที่แฟนหนุ่มหน้าหวานของเขาเองก็ยังซบคาอกอยู่แบบนั้น

      “ไงคะสุดหล่อ วันนี้มาคนเดียวหรอ”

      รอยยิ้มเคลือบยาพิษปรากฏบนใบหน้าของจีมินเป็นการบอกว่าการล่าได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อมีสาวสวยหน้าใหม่ที่เขายังไม่เคยลิ้มลองเข้ามาเปิดบทสนทนาด้วย ถึงน้ำเสียงและการพูดจะทำให้เดาได้ว่าเธอคนนี้เริ่มเมาในระดับนึงแล้วก็ตาม

      “ใช่ครับ แล้วคุณล่ะ”

      “ลิลลี่มากับเพื่อนค่ะ แต่ลิลลี่อยากกลับกับคุณ”

      “เกรงว่าผมอาจจะพาคุณไปส่งที่บ้านไม่ได้นะครับ”

      “ก็ไม่ได้อยากกลับบ้านสักหน่อย”

      ร่างบอบบางเบียดหน้าอกอวบนูนเข้ากอดท่อนแขนแกร่งของจีมินอย่างออดอ้อนพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมาเพื่อเป็นการมอมเมาชายตรงหน้า กรอบหน้าเล็กเข้ารูปกับผิวพรรณขาวเนียน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนคล้ายเยลลี่ที่ชวนให้ลิ้มลองยื่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนจีมินเองก็เริ่มควบคุมสันชาติญาณนักล่าเอาไว้ไม่อยู่ แต่ริมฝีปากทั้งคู่ยังไม่ทันได้สัมผัสกัน ร่างเล็กของหญิงสาวนามว่าลิลลี่ก็ถูกดึงออกไปจนแขนที่เคยเกาะนั้นหลุดออกไปด้วย

      “ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ พอดีเพื่อนเมาแล้วน่ะค่ะ มันทะเลาะกับแฟนมาด้วย ต้องขอโทษที่มันมารบกวนคุณด้วยนะคะ ขอตัวค่ะ อิลิลลี่มึงนี่มัน!#$%^&^!$”

      ชายหนุ่มหน้าหวานพยักหน้าด้วยความจำใจก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจด้วยความเสียดายปนหงุดหงิดแล้วจึงเอ่ยสั่งเครื่องดื่มเพิ่มมาอีกแก้ว

      แซมบูก้าที่คุ้นเคยถูกนำมาวางตรงหน้าเขาแต่กลับไม่ถูกเสิร์ฟ สายตาคมที่ยังคงอารมณ์เสียการจากพลาดเหยื่อคนล่าสุดเลื่อนขึ้นมองหน้าบาร์เทนเดอร์แต่กลับพบใครอีกคนที่ไม่ได้ประจำอยู่ตรงจุดนี้มายืนแทนนักชงคนเดิม

      จีมินไม่เคยได้กินเหล้าจากบาร์เทนเดอร์คนนี้เลยเพราะเขาเป็นที่นิยมในกลุ่มสาวๆในบาร์ถัดไป กลุ่มลูกค้าสาวสวยที่มักจับกลุ่มกันมาดูโชว์ลีลาการควงขวดเครื่องดื่มและการเสิร์ฟเหล้าหลากสีอย่างสนุกสนานไปพร้อมกับการหยอดมุกจีบพนักงานหนุ่มตลอดทั้งคืน แต่ตอนนี้เขากลับมายืนตรงหน้านี้เพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับลูกค้าเดี่ยวที่นั่งอยู่คนเดียวแทน

      คนผมชมพูหันไปดูตรงจุดที่เขาควรอยู่ก็พบบาร์เทนเดอร์ที่เคยเป็นคนเสิร์ฟตรงหน้าเขาที่กำลังโชว์การควงขวดมิกซ์เซอร์แทนซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ต่างจากคนตรงหน้าเขาเลย

      นิ้วเรียวจุ่มลงในแก้วแซมบูก้าของเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะจุดไฟไปที่นิ้วชุ่มแอลกอฮอล์ เปลวไฟสีฟ้าลุกไหม้อยู่บนนิ้วเรียวของบาร์เทนเดอร์แต่มันกลับดูไม่ร้อนอะไรเลยเพราะสีหน้านิ่งเฉยของหนุ่มนักชง นิ้วเรียวจุ่มซ้ำลงไปในแก้วเหล้าใบเดิมเพื่อให้ไฟจากมือถูกส่งต่อไปที่เครื่องดื่มตรงหน้าเป็นการเสร็จสิ้นเมนูขั้นกว่าของเมนูที่จีมินสั่ง




      Flaming Sambuca ของคุณ”

      “ผมไม่ได้สั่ง”

      “ผมเลี้ยง”

      บาร์เทนเดอร์ยกยิ้มมุมปากขึ้นโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าที่รับหลอดไปจากมือเขาและดูดเหล้าจากแก้วช็อตจนหมดในรวดเดียว ทำเอานักชงอย่างเขาพอใจไม่น้อย

      ใบหน้าที่เคยแดงอ่อนๆตอนนี้กลายเป็นแดงก่ำเพราะฤทธิ์เฟลมมิ่งแซมบูก้าที่แรงกว่าตัวเดิมค่อนข้างมาก ดวงตาที่เคยใช้เพ่งหาเหยื่อเริ่มหรี่ลง และคงต้องยอมรับว่าวันนี้เขาดื่มไปหนักมากจริงๆ

      แต่แล้วดวงตาที่กำลังจะปิดด้วยแรงของเมนูเมื่อครู่กลับต้องตื่นขึ้นเพราะเหมือนจีมินจะเจอเหยื่อคนใหม่เข้าซะแล้ว

      สาวสวยรูปร่างดีออกไปทางสูงสักหน่อยแต่ก็ไม่ได้มากไปกว่าเขาเดินเข้ามานั่งข้างๆ ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยสั่ง Kamikaze Shot เป็นเมนูแรก ระหว่างที่เธอกำลังรอเครื่องดื่ม จีมินที่กำลังก้ำกึ่งระหว่างความเมากับความง่วงชิงเปิดบทสนทนาเองก่อนเพราะมั่นใจว่าเพิ่งเคยเห็นหญิงสาวคนนี้เป็นครั้งแรก

      “มาคนเดียวหรอครับ”

      “ค่ะ คุณก็มาคนเดียวเหมือนกันไม่ใช่หรอ”

      “คุณนี่ฉลาดจังนะ เดาถูกด้วย”

      “จูนไม่ได้เดาค่ะ แต่จูนรู้”

      “ชื่อจูนหรอครับ ชื่อคล้ายผมเลยนะ ผมจีมิน ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

      “ดูเหมือนคุณจะไม่ไหวแล้วนะคะ ขึ้นไปนอนข้างบนก่อนไหม เดี๋ยวจูนพาไป”

      “เปลี่ยนจากพาไปเป็นอยู่กับผมในคืนนี้แทนได้ไหมครับคุณจูน เผื่อว่าเราจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นด้วย”

      “คุณนี่รีบจังเลยนะคะ”

      “คุณก็น่าจะดูออกว่าผมคงนั่งอยู่ตรงนี้ได้อีกไม่นาน ผมดื่มไปเยอะแล้ว”

      “จูนไม่ชอบคนอ่อนแอเลยนะคะ เอางี้ไหม ถ้าคุณดื่มเมนูที่จูนสั่งให้จนหมดได้โดยที่คุณไม่หลับไปก่อน คืนนี้จูนจะดูแลคุณเอง”

      “สั่งมาเลยครับ ผมไหวอยู่แล้ว”

      “ดีค่ะ”

      ไม่นานแก้วมาตินีทรงสูงก็ถูกนำมาตั้งตรงหน้าของนักดื่มทั้งสอง หญิงสาวหน้าคมยกเครื่องที่เธอสั่งไปก่อนหน้าขึ้นดื่มเพื่อล้างคอรอดูเมนูอลังการที่กำลังถูกรินอย่างพิถีพิถัน เหล้าสามชนิดแบ่งชั้นอย่างชัดเจนด้วยการรินอย่างเบามือของบาร์เทนเดอร์ตัวสูงตรงหน้า คนเดียวกับคนที่ส่งเฟลมมิ่งแซมบูก้ามาวัดใจชายหน้าหวาน

      แก้วมาตินีที่เต็มไปด้วยเหล้าหลากชนิดถูกดันมาตรงหน้าจีมินเพื่อเป็นการบอกให้เขาเตรียมตัว แผ่นบาร์เบลดหรือที่เปิดขวดของบาร์เทนเดอร์ถูกวางบนปากแก้วตรงกลางพอดีแล้วต่อยอดให้สูงขึ้นเป็นทาวน์เวอร์ด้วยแก้วคว่ำต่างชนิดกันอีกสามใบจนตอนนี้ความสูงของมันเลยหัวของตัวบาร์เทนเดอร์เองไปแล้ว

      ชายหนุ่มผมสีชมพูนั่งเท้าคางด้วยแขนขวามองใบหน้าของผู้หญิงเจ้าเสน่ห์อย่างชื่นชม จีมินไม่ได้เจอผู้หญิงที่มีแรงดึงดูดสูงขนาดนี้มานานมากแล้ว สาวเจ้ายื่นหลอดสีขาวมาให้และจีมินก็รับมาแต่โดยดี เขาไม่แสดงอาการของคนเมาออกมาเลยสักนิด มีเพียงดวงตาเรียวที่มันชักจะหรี่ลงอีกแล้ว

      แขนเสื้อของบาร์เทนเดอร์ตัวสูงถูกถกขึ้นไปไว้ที่ข้อศอกเพื่อความปลอดภัยของยูนิฟอร์ม เผยให้เห็นเรียวแขนบอบบางที่ไม่ยักจะเข้ากับส่วนสูงของเจ้าตัวสักเท่าไร นิ้วเรียวใช้ไฟแช็คอันเดิมจุดไฟใส่เหล้าสีใสในแก้วบรั่นดีอีกใบ มือของบาร์เทนเดอร์ผมบลอนซ์เทาเหวียงหมุนแก้วในมือเบาๆเพื่อให้เปลวไฟสีฟ้าหมุนตามเหมือนกับพายุไฟเล็กๆแล้วราดไปที่แก้วใบบนสุด ไฟสีฟ้าไหลตามแอลกอฮอล์จากยอดแก้วช็อตลงสู่แก้วมาตินีใบล่างสุด ทาวน์เวอร์ของแก้วเหล้าทั้งสามใบถูกเคลือบไว้ด้วยเพลิงสีฟ้าดูน่าหลงใหลไม่น้อยสำหรับนักดื่มหลายๆคน

      จีมินกดปลายหลอดไปที่ผิวเครื่องดื่มชั้นบนสุดในแก้วมาตินีใบล่าง ริมฝีปากหยักค่อยๆดูดเครื่องมอมเมาตรงหน้าอย่างระมัดระวังจนหมดในไม่กี่วินาที

      “คุณนี่สุดยอดเลยนะคุณจูน ปกติผมไม่เคยสั่ง Flaming Lamborghini เลยนะ”

      “ทำไมล่ะ จูนว่ามันสวยดีออก แถมความแรงก็น่าจะเหมาะกับผู้ชายฮอตๆอย่างคุณอีกด้วย”

      “อย่าเสียเวลาเลยคุณจูน ผมทำตามที่คุณท้าไปแล้ว รบกวนทำตามสัญญาด้วยนะครับ”





      หญิงสาวเดินนำชายหนุ่มหน้าหวานขึ้นไปที่ชั้นสองของคลับด้วยทีท่าสง่างามเหมือนกับนางแบบที่กำลังโชว์ตัวอยู่บนแคทวอร์ก การก้าวเท้าที่สม่ำเสมอ ท่วงท่าการเดินที่มั่นคงเข้ากับบุคลิกสาวมั่นของผู้หญิงตรงหน้าทำเอาจีมินเดินยิ้มมาตลอดทางด้วยความพอใจในเหยื่อ

      รองเท้าส้นสูงสีดำเดินมาหยุดลงตรงหน้าประตูห้อง มือเล็กเปิดให้ชายผู้ซึ่งกำลังเมาได้ที่เดินเข้าไปก่อน แต่สาวเจ้ากลับไม่เดินตามเข้ามาในทันที ประตูไม้สีดำถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา ทำให้จีมินงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อย เขารู้สึกเหมือนจะโดนคนนอกห้องหลอกเข้าแล้ว มือหนาคว้าเข้าที่ลูกบิดเพื่อหวังจะเปิดออกไปคุยกับหญิงข้างนอกให้รู้เรื่องว่าเธอกำลังทำอะไรกันแน่ แต่ยังไม่มันได้เปิดเขาก็ได้ยินเสียงของ ‘จูน’ กำลังคุยกับใครบางคนอยู่

      “เอาเครื่องดื่มมาส่งที่ห้องได้เลยค่ะพี่จุน”

      “‘จุน’ งั้นหรอ ใครวะ”

      แต่ไม่ทันที่จีมินจะได้คิดอะไรต่อ ประตูบานเดิมก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่เดินนำเขาในตอนแรกกำลังย้ายทรวดทรง องเอวเข้ามาประชิดตัวเขา ท่อนแขนบอบบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มผมชมพูตรงหน้าแล้วมอบจูบเร้าร้อนให้กับเขาเพื่อเป็นรางวัลในการรอเมื่อสักครู่ แต่จีมินกลับรู้สึกเหมือนมันกำลังจะเป็นจูบสุดท้ายจากหญิงตรงหน้าแทน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาสแขนแกร่งของจีมินรวบเอาเอวสาวร่างสูงตรงหน้าเข้ามาแนบชิดตัวจนรู้สึกถึงหน้าอกอวบนูนที่ดันตัวเขาไว้อยู่

      ก๊อก ก๊อก ก๊อก

      เสียงเคาะเรียกจากบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญจากประตูบานเดิมดังขึ้นขัดจังหวะ จีมินขมวดคิ้วเข้ามากันอย่างหงุดหงิด

      “คงเป็นเหล้าที่สั่งไปน่ะค่ะ”

      จูนเปิดประตูให้พนักงานนำเครื่องดื่มเข้ามาเสิร์ฟไว้ที่โต๊ะภายในห้อง ทุกอย่างดูปกติดียกเว้นพนักงานที่นำเครื่องดื่มมานั้นเป็นบาร์เทนเดอร์คนเดิมที่ชงเฟลมมิ่งแรมโบกินี่เมื่อสักครู่ ชายร่างสูงกว่าเขาเดินเข้ามาช้าๆก่อนจะเริ่มชงเครื่องดื่มแบบที่ทำตรงบาร์เป็นประจำ

      “ไม่ต้องชง ออกไปได้แล้ว”

      จีมินเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์

      “เดี๋ยวก่อนสิ จูนยังไม่ได้ดื่มเลยนะ ให้เขาชงให้จูนก่อน”

      “ตามใจ”

      หนุ่มหน้าหวานเดินไปนั่งรอบนเตียงด้วยความใจเย็นเพราะไม่อยากจะขัดความต้องการของหญิงสาวที่เขาควงมาได้ในคืนนี้ ไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับมาหาเขาพร้อมกับแก้วสองใบในมือ ท่อนขาเรียวยาวเดินมาอยู่ตรงหน้าของหนุ่มผมสายไหมสีชมพู

      “แก้วสุดท้ายค่ะ”

      “สุดท้ายจริงๆแล้วนะครับจูน ผมจะดื่มไม่ไหวแล้วนะ”

      “สุดท้ายจริงๆค่ะ”

      มือหนากระดกเหล้าสีเขียวตัวแรงที่สุดเข้าไปโดยไม่รู้ตัวเพราะคิดว่ามันก็คือเหล้าปกติที่เขาเคยกิน แต่ไม่ใกล้เคียงเลย เพราะเหล้าที่จูนส่งให้เขามันคืออัปแซ็งต์ (Absinthe) เหล้าที่รับฉายาว่า ‘เจ้าภูติเขียว’ มีตำนานเล่าว่าผู้ใดที่ได้ดื่มมันจะเกิดอาการหลอนเห็นภาพจินตนาการต่างๆไปจนถึงเห็นภูติเขียว จึงเป็นฉายาประหลาดของเหล้าชนิดนี้ และด้วยปริมาณแอกอฮอล์ 45-74% นั้นทำให้หลายคนที่ได้ลองถึงขั้นต้องถามหาที่นอนกันเลยทีเดียว

      กลิ่นน้ำตาลไหม้ติดที่ปลายจมูกบ่งบอกถึงการชงสไตล์คลาสสิกมาเป็นอย่างดีโดยบาร์เทนเดอร์ที่เอามือไขว้หลังยืนมองเขามาจากโต๊ะที่วางเครื่องดื่ม สายตาจีมินเหลือบขึ้นมองหน้าของชายนักชงที่เหมือนเขากำลังยกยิ้มอย่างพอใจ ไม่กี่วินาทีต่อมาจีมินก็ไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้อีกต่อไป ร่างหนาทิ้งน้ำหนักลงที่เตียงสีแดงขนาดใหญ่อย่างเต็มแรงแก้วเหล้าอัปแซ็งต์ตัวต้นเหตุล้มกลิ้งไปตามพื้นห้อง

      ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะตัวจีมินเองที่ประมาทเสียจนไม่รู้ว่าเขาได้ทำให้แผนการของใครบางที่หวงและห่วงเขามาก...สำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว

      เสียงในหูอื้ออึงจนทำให้จนคนที่กึ่งเมากึ่งหลอนอย่างจีมินไม่สามารถจับประโยคที่ชายหญิงสองคนกำลังคุยกันได้เลย สิ่งที่เขาได้ยินมีเพียงแค่

      “อุปกรณ์... ใต้เตียง... ระวังด้วย...”

      “ขอบใจมากน้อง...ที่รัก”

      “เพื่อพี่จุน... จูนทำให้ได้...”

      แล้วสติอันน้อยนิดที่มีของชายหนุ่มนักเที่ยวก็พลันดับวูบไป

      .

      .

      .

      ดวงตารีเล็กค่อยๆเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ภาพตรงหน้าปรากฏเตียงนอนสีแดงหลังเดิมที่จำได้ว่าเขาหมดสติลงไปบนนั้นแต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ ร่างของชายที่ยังไม่สร่างจากอาการเมาและยังคงมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายถูกมัดมือไขว้หลังไว้กับเก้าอี้ เสื้อยืดสีดำและแจ็คเก็ตยีนส์ที่เคยใส่หายไปจากร่างกายท่อนบนของเขาแล้ว เหลือไว้เพียงกางเกงยีนส์สีอ่อนตัวเก่งที่ใส่มาตั้งแต่แรก แผงอกเปลือยเปล่าสัมผัสความเย็นจากเครื่องปรับอากาศจนพ่อเสือนักล่าเริ่มตัวสั่นเพราะความหนาว

      สัมผัสเย็นเฉียบและแหลมคมจากโลหะลากผ่านแผ่นหลังมาจนถึงหัวไหล่พร้อมกับร่างของชายคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากำลังเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้าเขา

      หนุ่มผมบลอนซ์เทาสีคล้ายกับควันบุหรี่ที่พวยพุ่งออกจากริมฝีปากของเขา เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบเดียวกับที่บาร์เทนเดอร์คนอื่นๆใส่ถูกปล่อยชายละต้นขาเนียนอวดผิวสีน้ำผึ้งที่จีมินเองยังไม่เคยได้สัมผัสที่ไหน ชายตรงหน้าใส่เพียงเสื้อตัวเดียวกับถุงมือยางสีดำที่ไม่ค่อยเห็นกันได้ในสถานที่ทั่วไป ใบหน้าไม่สบอารมณ์ยื่นเข้าหาหนุ่มนักล่าที่กลายเป็นเหยื่อไปเสียเองอย่างสำรวจ

      “ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยพี่จุน”

      เสียงแหบพล่าของชายหนุ่มผมชมพูที่กำลังอ่อนแรงพยายามพูดกับคนตรงหน้า ความสับสนงุนงงต่างๆตีรวนกันในสมองที่ยังคงไม่ได้สติดี ไม่มีเหตุผลเลยที่จู่ๆบาร์เทนเดอร์จะมาจับเขามัดติดไว้กับเก้าอี้แบบนี้ ไหนจะการแต่งตัวที่ปลุกเร้าอารมณ์กับคมมีดในมือสวยนั่นอีก

      “ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าร่างกายของคุณมันน่า...”

      “หุบปากไปเถอะจีมิน คุณกำลังทำให้ผมโกรธ”

      ‘คิมนัมจุน’ บาร์เทนเดอร์ตัวท็อปของคลับแห่งนี้ ด้วยจำนวนแฟนคลับที่เป็นทั้งนักดื่มและผู้ชมที่ดีของเขา ทำให้นัมจุนมีชื่อเสียงในแวดวงบาร์เทนเดอร์มือดีในระดับนึงเลย แต่เขาจะเป็นใคร มาจากไหน หรือทำการงานอะไร มันก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าการที่เขาได้มาเจอกับชายหนุ่มคนนึงที่อายุน้อยกว่าแต่กลับเป็นเสือผู้หญิงอย่าง ‘พัคจีมิน’

      นัมจุนเฝ้ามองจีมินมานาน ทุกครั้งที่ชายคนนี้โผล่มาที่ร้าน เขามักจะออกมาโชว์ลีลาการควงมิกซ์เซอร์และรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มสุดอลังการทุกครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่มันกลับไม่เคยเป็นผลเลยสักครั้งเดียว เพราะชายคนนี้มาที่นี่เพื่อหาเหยื่อสาวๆสวยๆกลับไปนอนด้วยเท่านั้น เขาไม่เคยเป็นที่สนใจหรือเป็นคนที่จีมินต้องการเลย

      จนกระทั่งวันนี้ที่ชายผู้เป็นที่รักของบาร์เทนเดอร์หนุ่มกลับมาในลุคใหม่ที่ทำเอาหัวใจของนักชงเครื่องดื่มอันดับหนึ่งแทบหยุดเต้น เส้นผมสีชมพูอ่อนซึ่งเป็นสีโปรดของนัมจุนประดับกรอบหน้าของชายนักรักอย่างเข้ากันได้ดี ทำให้เส้นศีลธรรมและความถูกต้องขาดสะบั้นแทบจะทันทีที่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มคนนี้ สมองที่เคยคิดจะพิชิตใจชายหน้าหวานคนนี้ให้ได้ถูกพับเก็บและถูกเปิดออกใหม่ด้วยคำสั่งจากด้านมืดของจิตใจที่ว่า

      ‘ผมจะไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องคุณอีก’

       

      ด้ามมีดถูกเคาะเบาๆไปที่ข้างแก้มของคนที่ขัดขืนไม่ได้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ตื่นจากฤทธิ์น้ำเมา ร่างสูงหันหน้าเข้าและกดน้ำหนักลงไปที่ตักของจีมิน ในมือที่เคยควงมีดพับสีเงินเล่นถูกพับเก็บ สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอชายตรงหน้าแล้วออกแรงกอดด้วยความรักใคร่อย่างต้องการครอบครอง

      “ผมรู้ว่าพี่ต้องการผม... แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”

      “ปากให้หุบปากไง!”

      ใบมีดพับถูกกดให้เด้งออกมาอีกครั้งเพราะแรงโกรธกำลังจะประทุจากคำพูดของคนใต้ร่าง เป็นอีกครั้งที่สัมผัสเย็นเฉียบของใบมีดเหล็กแตะเข้าที่อวัยวะของร่างกายหากแต่ไม่ใช่แผ่นหลังเหมือนครั้งแรกแต่กลับเป็นริมฝีปากนิ่ม

      ใบมีดบางวางทาบไปกับริมฝีปากล่างเพื่อเป็นการสั่งให้หยุดพูด แต่แล้วเจ้าของอาวุธก็ต้องตาโตกับสิ่งที่คนใต้ร่างทำ เรียวลิ้นจากคนที่ยังไม่สร่างจากเครื่องดื่มนานาชนิดยื่นออกมาสัมผัสกับใบมีดด้วยความท้าทาย ลิ้นสากลากตามสันของใบมีดไปจนสุดปลายคม เลือดสีแดงสดเริ่มซิบออกจากริมฝีปากล่างที่ถูกคมมีดทาบไว้แต่เดิม

      ภาพตรงหน้าไม่ได้ทำให้นัมจุนตกใจเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกเพลิดเพลินกับสิ่งที่ได้เห็น การกระทำหวาดเสียวของจีมินทำเอาเจ้าของมีดใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาไม่คิดเลยว่าเด็กตรงหน้าจะเร้าร้อนขนาดนี้ทั้งๆที่ตัวเองยังคงมึนเมาจากการโดนมอมโดยเหล้าสารพัดชนิดที่บาร์เทนเนอร์ผมบลอนซ์เสิร์ฟให้ตลอดทั้งคืน

      “นายทำตัวเองทั้งนั้น จีมิน”

      ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตขาวดึงมือที่ถือมีดออกจากปากชายตรงหน้าแล้วกดทาบไปที่ใต้คางแทนเพื่อหวังจะขู่ให้เด็กนี่กลัว

      “ผมทำอะไร”

      “นายใช้ร่างกายไปกับผู้หญิงสกปรกพวกนั้น”

      “แต่ตัวผมก็ไม่ได้สะอาดนี่”

      ด้วยประโยคดูถูกตัวเองของเด็กหนุ่มทำให้มือขวาที่ถือมีดอยู่ออกแรงกดเข้าไปที่ผิวคอของจีมินจนเลือดเริ่มไหลซิบออกมาตามคมมีดที่ละนิด เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างได้แผลเพิ่มแล้วนัมจุนจึงผ่อนแรงลงเพื่อไม่ให้คมมีดเข้าลึกจนเกินไป เขาใช้ใบมีดเชยคางชายร่างหนาให้เงยหน้าขึ้นเพื่อที่เขาจะได้กดจูบซับเลือดที่ริมฝีปากให้ ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่สามารถเรียกเอาสติของจีมินกลับมาได้จนเกือบจะครบถ้วน

      จีมิน นายน่ะ...ดีเกินกว่าจะลงไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนั้น นายน่ะดีที่สุด นายไม่ควรต้องเป็นของใครทั้งนั้น ใครก็ตาม...มันไม่ควรคู่จะเป็นเจ้าของร่างกายนาย คู่นอนของนายที่ผ่านมาไม่มีใครสักคนที่คู่ควร พวกมันไม่เหมาะสมกับร่างกายของนายเลย นายไม่ควรตกเป็นของใครทั้งนั้น...

      ...เพราะร่างกายนายเป็นของพี่ จำไว้!! และพี่จะไม่ยอมให้นายเป็นของใครอีก”

      สิ้นเสียงของคนบนร่าง สัมผัสเจ็บแปลบที่หน้าอกทำให้จีมินตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก ปลายมีดแหลมคมกรีดเข้าที่แผงอกแกร่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนบนตักกำลังสลักข้อความบางอย่างไว้บนร่างกายของเขา กลิ่นเลือดคาวคลุ้งลอยเข้าประสาทรับกลิ่นของเขาจนสติที่เคยมีเริ่มเลือนลางไปอีกครั้ง

      จากอกขวาที่ถูกกรีดวนเป็นอักษรบางอย่างเพิ่มขึ้นตามแรงกดจากมือเล็กของคนที่อาจเรียกได้ว่ากำลังจะเป็นฆาตกรในขณะนี้ยังคงกรีดผิวขาวเนียนบนอกของจีมินต่อไปจนสิ้นสุดลงที่อกด้านซ้าย

      แต่แทนที่จะลดมีดลงหลังจากเพลิดเพลินกับการทำร้ายร่างกายเขาแล้ว นัมจุนกลับไม่ทำอย่างนั้น มือสองข้างกุมไปที่ด้ามมีดมั่น ปลายมีดชี้เข้าที่อกข้างซ้ายพอดีกับตำแหน่งของหัวใจแล้วออกแรงกดลงบนเนื้อแน่นของชายผมชมพูช้าๆ

      เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของจีมินดังระงมไปทั่วห้องอย่างขอความช่วยเหลือ แต่เหมือนจะไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเขาเลย

      เรียวปากเปื้อนเลือดยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจกับผลงานศิลปะปรากฎบนหน้าของนัมจุน แรงจากท่อนแขนเนียนสีน้ำผึ้งทั้งสองข้างยังคงกดคมมีดให้ลึกลงมาที่อกของตัวเขาเองอย่างต่อเนื่องจนเสียงร้องขอชีวิตของจีมินเงียบหายไปพร้อมกับสติของคนที่มีดคาอกอยู่

      .

      .

      .

      เฮือกกกกกกก

      ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นในสภาพเปลือยเปล่า ร่างหนาหอบหายใจกอบโกยอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเรียกสติตัวเอง ท่าทางเลิ่กลั่กหันซ้ายทีขวาทีด้วยความตื่นตระหนกเพราะความฝันที่เขาเพิ่งเจอเมื่อคืนมันช่างน่ากลัวจนเขาเองยังผวาไม่หาย

      จากการผลักตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วทำให้หัวสมองที่ยังไม่สร่างเมาเกิดอาการปวดตุบจนแทบระเบิด มือหนายกขึ้นกุมหัวด้วยความทรมานเพราะเมื่อวานเขาดื่มเกินขีดจำกัดความสามารถไปมาก แต่ยังดีที่รอดมาได้ ไม่ใช่ตายไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เสียแล้ว

      เมื่อความปวดจากการขยับเร็วเริ่มบรรเทา ความรู้สึกต่อมาจึงเป็นที่ร่างกายแทน เขารู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวแต่นั่นเป็นเรื่องปกติเพราะอาการแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากเสร็จกิจกรรมล่าแต้ม

      ความเจ็บปวดทั้งหมดควรจบลงไปเพียงแค่นั้น แต่เช้านี้กลับแปลกไปเพราะจีมินรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติที่หน้าอกซ้ายของตน เขาลองใช้มือคลำดูปรากฏว่ามันไม่ใช่แผลแต่อย่างใด แปลว่าความฝันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติของเหล้าอัปแซ็งต์หรือเข้าภูติเขียวเมื่อคืนที่ทำเขาหลอนไปไกลจนน่ากลัว

      “ครั้งเดียวพอนะอัปแซ็งต์ อย่าเจอกันอีกเลย”

      จีมินส่ายหัวไล่ความทรงจำสุดผวาเมื่อคืนออกไปจากหัวก่อนจะค่อยๆขยับตัวออกจากผ้าห่มโดยไม่ให้คนใต้ผ้าผืนหนานี้ตื่นขึ้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม สิ่งที่จีมินจะทำเช่นเดียวกับทุกครั้งคือต้องออกไปจากห้องก่อนที่อีกคนจะตื่น

      มือหนาคว้าเอาชั้นในและกางเกงยีนส์สีอ่อนตัวเดิมมาใส่ ตามด้วยการหยิบเอาเสื้อยืดสีดำของตนติดมือเข้าไปในห้องน้ำด้วยเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่แล้วก็ต้องตะลึงกับเงาสะท้อนในกระจก ภาพเหตุการณ์ในฝันเมื่อคืนฉากซ้ำอีกครั้งในสมองด้วยแรงสั่นไหวพร้อมกับภาพอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เหมือนจะเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่เป็นเหตุการณ์ที่ต่างออกไป

      ขายาวถอยออกจากกระจกหนึ่งก้าวด้วยท่าทีเหมือนจะล้มลงไปกองกับพื้นแต่ดีที่พยุงตัวเองไว้ทัน มือหนาเลือนเปิดประตูห้องน้ำเพื่อสำรวจข้าวของภายในห้องอีกครั้ง

      สายตาเขาไปสะดุดกับกล่องอุปกรณ์บางอย่างที่เคยเห็นเมื่อนานมาแล้วในช่วงที่เป็นวัยรุ่นใหม่ๆ บนเตียงสีแดงสดในมือของใครบางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคู่นอนของเขาเมื่อคืนโผล่ออกมานอกผ้าห่มพร้อมกับถุงมือสีดำแบบที่ช่างสักใส่กัน

      ขณะที่จีมินกำลังพยายามนึกหน้าคนที่ตัวร่วมเตียงด้วยเมื่อคืน เจ้าของร่างบอบบางก็ดึงผ้าออกจากหัวตัวเองที่คลุมโปงอยู่ในตอนแรก เผยให้เห็นเส้นผมสีบลอนซ์เทาต่างจากหญิงสาวที่เขาจำได้ว่าตามขึ้นมา ถึงเขาจะจำไม่ได้ว่าเธอชื่ออะไรแต่เขาจำได้แม่นว่าหญิงคนนั้นผมสีดำสนิทเหมือนกับเครื่องแต่งกายของเธอเมื่อคืนนี้

      แต่นี่มันไม่ใช่

      นี่มันบาร์เทนเดอร์!

      ปัง!!!

              จีมินเลื่อนปิดประตูกลับอย่างแรงคืนด้วยความตื่นตระหนกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาร่วมรักกับเพศเดียวกัน มือหนาออกแรงถูรอยสักบนออกของตัวเองอย่างแรงเพียงเพราะหวังว่ามันจะเป็นแค่รอยปากกาที่ถูกวาดเล่น แต่ยิ่งถูแรงเท่าไรมันก็ไม่ได้ทำให้ข้อความบนอกจางลงเลยแต่กลับเป็นสีแดงไปทั้งหน้าอกแทน

                หางตาคมเหลือบไปเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ที่หน้าประตู เขากำลังจะเลื่อนมือไปกดล็อคแต่ความเร็วแค่นั้นกลับไม่เพียงพอ กระจกฝ้าสีขาวขุ่นถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างของชายหนุ่มตัวสูงแต่หุ่นออกไปทางผอมยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า

      ท่อนขาเรียวยาวกับร่างกายโป๊เปลือยก้าวเข้าประชิดตัวเขา อ้อมแขนสีน้ำผึ้งโอบกอดเขาด้วยความโล่งอกซึ่งจีมินสามารถสัมผัสได้ เขารู้สึกเหมือนคนตรงหน้าไม่ใช่คนอันตรายและเขากำลังมอบความรักผ่านอ้อมกอดอบอุ่นที่จีมินไม่ได้สัมผัสมานานจนเขาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่ได้รับสัมผัสแบบนี้จากคนคนนี้

      “อย่าหนีพี่ไปไหนอีกนะ ร่างกายจีมินเป็นของพี่ ต้องให้พูดอีกกี่รอบถึงจะจำ”

      “บนอกของผมคืออะไร”

      “แสดงความเป็นเจ้าของไง”

      Namjoon's closet เนี่ยนะ”

      “ชื่อพี่ไม่ดีตรงไหน”

      แล้วก็เป็นอีกครั้งที่สัมผัสเย็นเฉียบจากคมมีดในฝันกลับมาแตะที่แผ่นหลังแกร่งของเขาอีก

      “รุนแรงจัง ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่จะบอกว่า...ชื่อนัมจุนก็เพราะดีนะครับ” 

      ___________________FIN___________________



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×