ไป๋หนิงอิงเหนื่อยล้าจากการวิ่งหลบหนีจากการตามล่าอย่างหนักของชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ ร่างบอบบางทั้งไม่เคยออกกำลังกายเลยนั้นจึงทำให้การหายใจในขณะวิ่งเข้าไปและหลบกิ่งไม้ส่งผลให้ร่างกายนางเสียพลังงานไปมหาศาล
ไป๋หนิงอิงรู้ตัวดีถึงขีดจำกัดของร่างกาย ไม่นานจากนั้นนางก็ต้องหยุดการหนีลงและหลบซ่อนตัวหลังพุ่มไม้แทน
"นางหนีไปได้ไม่ไกลแน่ขอรับ ตัวเล็กเพียงนั้นจะเร็วแค่ไหนกัน"
"ถึงอย่างไรก็ตาม รีบหานางให้เจอก่อนครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นสักตำลึงก็ไม่มีใครได้!"
"ขอรับ!"
ไป๋หนิงอิงแอบฟังพวกเขาคุยกันจนพอจับใจความได้บ้าง แม้จะมิค่อยได้ออกมาเที่ยวเล่นภายนอกจวนนัก แต่ก็มิใช่คนเขลา ชายฉกรรจ์เหล่านั้นตั้งใจดักรอนางระหว่างทางหลังจากกลับมาจากวัดบนเขาซูจูเป็นแน่
หากใช่อย่างที่นางคิด เบื้องหลังต้องเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจเป็นแน่ ท่านพ่อข้าเป็นถึงอมาตย์ฝ่ายขวา ผู้ที่ฮ่องเต้ให้ความไว้วางใจ จับข้าไปเพื่อบีบบังคับให้ท่านพ่อทำตามที่ต้องการอาจส่งผลต่อการเมือง
ข้าคงอ่านหนังสือมากไปจริงๆอย่างที่ท่านพ่อกล่าวเป็นแน่ การเมืองไม่เหมาะกับสตรี เรื่องเช่นนี้หลีกเลี่ยงมิได้
เมื่อนางซ่อนจนคนเหล่านั้นหายไปจากสายตาเป็นเวลานาน นางจึงออกจากที่ซ่อนด้วยอาการสงบเสงี่ยมดั่งหญิงสาวในห้องหอเช่นที่ท่านแม่มักจะสั่งสอน
สตรีผู้นิ่งสงบต่อสถานการณ์ได้ถือว่าหายากยิ่ง นางจึงฝึกฝนจิตรใจให้เป็นดั่งหยกงามล้ำค่า และหากไม่มีสิ่งใดผิดพลาดอีกหนึ่งปีข้างหน้าข้าจะได้แต่งเข้าวังเป็นสนมของห้องเต้
แต่นั้นแหละ หากมิได้มีสิ่งใดผิดพลาด ....
อีกเพียงปีเดียวข้าคงได้แต่งงานเหมือนผู้อื่นเสียที
"เฮ้ย! นางอยู่ทางนั้น ข้าเห็นนาง!"
"ตามไปเร็วเข้า"
ฝีเท้าเบาแล้วเช่นไรหากหูตาสับปะรสมากมายคอยมองหา
ไม่รอช้าให้ถูกจับ ไป๋หนิงอิงวิ่งหนีพวกเขาทัันที ในใจขบคิดเกี่ยวกับสถานที่ชายป่าชานเมืองแห่งนี้เคยมเรื่องเล่าใดบ้างที่พอช่วยนางได้ จนเมื่อนางวิ่งมาไกลจนมาหยุดพักข้างธารน้ำ สายตาหวานใสกระพริบตานึกคิดเกี่ยวกับเสียงลือเล่าอ้างมากมาย
หากข้ามแม่น้ำแห่งนี้ไปจะเข้าเขตต้องห้ามอันเป็นที่อยู่ของอสูร
นิทานหลอกเด็กที่ท่านแม่เคยเล่าให้ฟังจะเชื่อถือได้เพียงใดไม่อาจรู้ได้
แต่เมื่อนางเพียงมอง สภาพสองฝั่งของแม่น้ำก็ต่างกันอย่่างชัดเจน ป่าไม้สีเขียวบนพื้นที่นางเหยียบย้ำช่างต่างกับพื้นดินฝั่งตรงข้ามที่ต้นไม้ล่วนมืดมัว แห้งแล้งไม่น่าอยู่
"นางอยู่นั้น! ข้างแม่น้ำข้ามป่าอสูร!"
"ไปจับนางให้ได้ หากข้ามป่าไปงานหยาบเป็นแน่"
เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น ร่างในชุดผ้าไหมสีเขียวอ่อนกระโดดลงแม่น้ำหนีทันที หากพวกเขาบอกว่าป่าฝั่งนั้นไม่ควรย่างกาย สถานที่แห่งนั้นคงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้รอดจากพวกเขา
"นางกระโดดน้ำไปแล้ว"
"ตามจับนางให้ได้ ลงไปเอาตัวนางมา"
เสียงกระโดดน้ำตาหลังมาหลายครั้งทำให้ไป๋หนิงอิงต้องรีบว่ายน้ำข้ามฝั่งด้วยควาเร็วที่มากขึ้น แม้จะเหนื่อยกายและช้ำหลายส่วนแต่ก็ไม่มีเวลามาคำนึงมากนัก
เมื่อนางข้ามมาถึงฝั่งก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าป่าต่อทันที ในเวลานี้จะเจอกับเสือหรือหมีล่วนไม่น่ากลัวอีกแล้ว หากจะต้องตายด้วยน้ำมือสัตว์ร้ายก็ดีกว่าถูกใช้เป็นเบี้ยในเกมการเมือง
"อะ!" เสียงหวานร้องออกเมื่อชุดนางเกี่ยวเข้ากับกิ่งไม้
แค่ก!
ไป๋หนิงอิงตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วยการฉีกผ้าส่วนนั้นทิ้งแล้ววิ่งต่อ แต่เมื่อวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวร่างกายกลับกลิ้งตกลงไปในหลุมขนาดยักที่มองไม่เห็น
"กรี๊ดดด!"
อนิจจา สัตย์ป่าคงตื่นกันหมดแล้ว....
ความคิดเห็น