ผนึกปิ่น : ภพพรากไม่อาจภพรัก (เล่ม1) - นิยาย ผนึกปิ่น : ภพพรากไม่อาจภพรัก (เล่ม1) : Dek-D.com - Writer
×

    ผนึกปิ่น : ภพพรากไม่อาจภพรัก (เล่ม1)

    ชายผู้เก่งกล้ามนต์ดำดวงชะตากำลังจะดับลงพร้อมดวงเมือง เขาต้องหาใครสักคนเพื่อมาแลกเปลี่ยนชะตากัน แต่เรื่องราวกลับกายเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าต้องพัวพันกันไปถึงภพหน้า แม้ภพนี้ต้องภพพรากแต่ภพหน้าขอภพรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    1,897

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    144

    ผู้เข้าชมรวม


    1.89K

    ความคิดเห็น


    23

    คนติดตาม


    32
    จำนวนตอน :  65 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ค. 67 / 07:18 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ ที่มาของปิ่นผนึกชะตา

    โบสถ์ไม้เก่าๆตั้งสูงทะมึนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ที่แผ่ใบปกคลุมอยู่จนแสงแดดส่องลงมาแทบไม่ถึงพื้น แสงแดดสีทองลอดทะลุหลังคาลงมากระทบร่างพระชราที่นั่งขัดตะหมาดอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มรูปร่างสูงใหญ่กำยำเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าที่สวมล้วนเป็นผ้าไหมราคาแพงและผ้าแพรเนื้อดี 

    พระชราทอดสายตามองชายหนุ่มด้วยความเมตตา “เจ้าเรือง พ่อของเจ้าเคยช่วยอาตมาไว้ตั้งแต่ตอนไปธุดงค์ทางใต้ อาตมาไม่เคยลืมบุญคุณนั้นแม้แต่วันเดียว” ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นอดที่จะคิดถึงวันแห่งความเป็นตายไม่ได้ราวกับเรื่องนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน “สุดท้ายแล้วก็ไม่มีผู้ใดฝืนสังขารไปได้ดอกอาตมาก็เช่นกัน ” ท่านกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยเข้าใจการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์

    ชายหนุ่มผู้นั้นนั่งหลังตรงหลับตารับฟังด้วยใจสงบนิ่ง “เจ้าเรืองจงฟังให้ดี ตัวเจ้ามีวาสนาสูงนักหากฝักใฝ่เป็นข้ารับใช้ก็จักได้เป็นถึงเจ้าพระยา แต่กรรมของเจ้าก็หนักเช่นกัน สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรมไม่มีผู้ใดหลีกหนีได้” ถึงครานี้ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยว่าตนมีกรรมหนักอันใดกัน 

    “เจ้าเรืองจงฟังให้ดีเรื่องนี้ห้ามเผยต่อผู้ใดเด็ดขาด ดวงเมืองกำลังจะดับลงเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ตัวเจ้าเองก็เก่งนักเรื่องโหราศาสตร์คงจะทำนายต่อได้กระมังว่าคือปีใด ดวงเมืองนั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว “ 

    ดวงตาคมเข้มของชายหนุ่มเหลือกโพลงตกใจจนใบหน้าเริ่มเปลี่ยนสี หลังได้ยินสิ่งที่พระชรากล่าวออกมา ถึงแม้หงสาวดีจะตั้งมั่นรุกรานอโยธยาเพียงใดแต่มันจะเก่งกาจถึงขั้นตีแตกอโยธยาได้เชียวหรือ

    “เจ้าเรืองดวงของเจ้าก็จะดับลงพร้อมดวงเมืองเช่นกัน หากไม่ใช่พ่อเจ้าที่ช่วยอาตมาไว้ครานั้น อาตมาก็คงเก็บคำทำนายนี้ไปจวบจนวันสิ้นอายุขัยของอาตมา” “แต่เอาเถิดเมื่อพ่อเจ้ารักเจ้าดังชีวิตของตน อาตมาก็อยากตอบแทนสิ่งที่โยมพ่อเจ้าทำ” 

    พระชรายื่นสิ่งของสองสิ่งให้กับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า “ใบลานโบราณนี้มีมานานแล้ว เจ้าจงอ่านให้ถี่ถ้วนแล้วจงเก็บไว้ให้ดี เจ้าคิดเห็นควรทำเช่นไรก็จงทำ สิ่งนี้จะต่ออายุขัยของเจ้าได้จงดูเอาจากบันทึกโบราณเล่มนี้เถิด” สองมือแข็งแรงรับใบลานเก่าครึพร้อมปิ่นสีทองฝังทับทิมแดงจากพระชรามาถือไว้ในมือ สายตากลอกกลิ้งไปมาด้วยความสับสน

    “หากเจ้าอยากเปลี่ยนชะตาก็จงคิดให้ถี่ถ้วนคิดให้ดี หากจะได้มาหนึ่งชีวิตก็ต้องเอาอีกชีวิตมาแลก” 

    “ในใบลานมีบันทึกคาถาผนึกชะตา จงตรองให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำสิ่งใดลงไป มีผู้เคยใช้คาถานี้มาแล้วแม้จะเปลี่ยนชะตาสำเร็จแต่ก็ใช้ชีวิตต่อด้วยความเศร้าโศกเสียใจ สุดท้ายก็จบชีวิตตนเองด้วยใจไม่กล้าแข็งพอ”

    หลังออกจากเมืองราชบุรีชายหนุ่มก็ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องดวงเมือง      หากตัวข้าต้องดับศูนย์ลงพร้อมดวงเมือง คงมีแต่การอพยพออกจากอโยธยาอีกครากระมังจึงจะหลีกหนีชะตานี้ได้ ถ้าหากว่าข้าไม่อาจหลีกหนีจากเมืองอโยธยาได้เล่า ชายหนุ่มพลิกดูปิ่นทองฝังทับทิมสีแดงในมือไปมาพลางครุ่นคิดสิ่งที่พระชราหรือหลวงลุงกล่าวไว้

    “ปิ่นเล่มนี้ลงคาถาผนึกชะตาเอาไว้ หากเจ้าคิดถี่ถ้วนดีแล้วว่าจักต่ออายุขัยตนเอง ก็จงทำพิธีเปิดผนึกชะตาแล้วมอบปิ่นให้กับหญิงคนที่เจ้าเลือกให้สละชีวิตแก่เจ้า ปิ่นจะผนึกชะตาของผู้รับปิ่นไว้แล้วค่อยๆเปลี่ยนชะตาของเจ้ากับผู้รับปิ่น หากถึงคราที่เจ้าต้องตายแต่เจ้าจะรอด ผู้ที่จะตายแทนเจ้าคือผู้รับปิ่นอันนี้”

    ชายหนุ่มปรายตามองปิ่นเล่มนี้อีกคราแล้วโยนลงหีบไม้เล็กๆข้างกาย สายตาพลันเหลือบไปเห็นคาถาผนึกชะตาที่ทำให้ชายหนุ่มคิดจนคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “คาถาที่โหดร้ายเช่นนี้ข้าจักทำได้รึ”

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น