“เจ้าเอย” นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านมาบุญครอง ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เธอเรียนจบและเธอตั้งใจทำงานในโรงพยาบาลสัตว์อย่างจริงจัง เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้สำหรับเปิดคลินิครักษาสัตว์ตามความฝันของตัวเอง
“อะไรนะคะคุณแม่” หญิงสาวทำหน้าตาบูดบึ้งและเสียงดังต่อหน้าคุณจันทร์วาดผู้เป็นมารดาของเธอ
“ใช่...แกฟังไม่ผิด เจ้าขา.! แกเรียนจบฝึกงานเสร็จจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยและเตรียมตัวย้ายไปอยู่เชียงรายกับน้ามณีในฐานะลูกสะไภ้ไร่ภูสวรรค์ แม่คิดว่าแม่เคยคุยกับลูกเรื่องนี้ไปแล้วนะ” ผู้เป็นแม่พยายามมองหน้าลูกสาวคนเล็กด้วยสายตาที่โอนโยนและขอร้อง
“คุณแม่คะ ลูกเข้าใจแต่ลูกเพิ่งเรียนจบ ก็อยากจะทำงานอีกสักปีไม่ได้หรอคะ ลูกเรียนสัตวแพทย์มาตั้ง6ปี และลูกก็กำลังจะได้งานในโรงพยาบาลใหญ่ด้วยนะคะ ทำไมคุณแม่ไม่ให้พี่เจ้าเอยไปแทนล่ะคะ พี่เขาเรียนบริหารถึงอเมริกามาเลยนะคะ น่าจะทำประโยชน์ให้บ้านนั้นมากกว่าหนูนะแม่” หญิงสาวเถียงขึ้นทันควัน พยายามจะต่อรองกับเรื่องนี้ให้ยาวนานที่สุด
“แม่มีลูกอยู่แค่2คนนะ ทางนั้นเขาระบุเป็นแกมาตั้งหลาย10ปีแล้ว จะให้แม่เปลี่ยนตัวง่ายๆได้ที่ใหน คิดหน่อย คิด! ทางนั้นเขาก็ช่วยเรามาตั้งเยอะ หลายปีแล้วด้วย ใหนจะค่าเล่าเรียนลูกทั้ง2คน มันไม่ใช่เงินน้อยๆเลยนะ ใหนจะเรื่องธุรกิจที่บ้าน พ่อแกก็ตายไปตั้งนานละ คิดว่าฉันคนเดียวจะเลี้ยงดูพวกแก2คนมาได้ดีขนาดนี้เชียวหรอ พี่สาวแกก็ต้องช่วยงานทางนี้ ไม่งั้นโรงงานของเราก็จะไปไม่รอด” คุณจันทร์วาดผู้เป็นแม่พยายามที่จะพูดถึงบุญคุณต่างๆนาๆที่ทางไร่ภูสวรรค์เคยช่วยเหลือไว้
“โอเคค่ะ” หญิงสาวตอบรับ และ เดินก้มหน้ากลับเข้าไปในห้องของตัวเอง
—————————————————————————
ใช่ค่ะ ฉันคือ เจ้าขา นักศึกษาสัตวแพทย์ เกียรตินิยมอันดับ1 และนี้คือชีวิตของฉันที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ด้วยพันธะสัญญาบางอย่างที่คุณแม่ของฉันและคุณน้ามณีได้ทำไว้เมื่อ10ปีที่แล้ว คุณป้ามณีได้ช่วยเหลือโรงงานทำพลาสติกของเราเนื่องจากโดนไฟไหม้อย่างหนัก คุณน้าได้เข้ามาช่วยเรื่องเงินทุนต่างๆและเงินฟื้นฟูโรงงาน แถมยังช่วยเรื่องค่าใช่จ่ายของพี่เจ้าเอย ที่ส่งให้ไปเรียนบริหารถึงอเมริกา และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนสัตวแพทย์ของฉันตลอด6ปีที่ผ่านมา โดยที่แม่ของฉันไม่ได้เสียเงินส่วนนั้นแม้แต่แดงเดียว ก็ใช่น่ะซิ! บ้านเราถังแตก ไม่เหลือเงินสำรองใดๆนอกจากโรงงานพลาสติกที่เหลืออยู่ ทั้งๆที่สมัยนี้ไม่มีใครเขาอยากใช้พลาสติกกันแล้ว คุณแม่ของฉันกับคุณน้ามณีเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลที่เรียนมาด้วยกันและสนิทกันมากที่สุด เรา2ครอบครัวไปมาหาสู่กันปล่อยๆตั้งแต่ฉันยังเด็ก คุณน้ามณีได้สามีเป็นเศรษฐีชาวเยอรมัน และได้สมบัติมหาศาลหลังจากการตายของสามีเธอ คุณน้ามณีและลูกชายเพียงคนเดียวได้กลับมาเมืองไทยและตั้งรกรากปลูกไร่ชาขนาด3พันไร่ บนยอดดอยสูง จังหวัดเชียงราย และได้หมั่นหมายให้ลูกชายเพียงคนเดียวแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนรักที่สุด และเงินช่วยเหลือต่างๆที่ผ่านมาถือว่าเป็นสินสอด! ใช่ค่ะ....มันคือสินสอด เพราะคุณแม่ของฉันเคยช่วยเรื่องเงินที่ต้องใช้ทำวิซ่าไปอเมริกา เพราะคุณน้ามณีอยากมีชีวิตที่ดีและเงินเดือนสูงๆก็เลยตัดสินใจไปทำงานที่อเมริกาและได้เจอสามีชาวเยอรมันที่มาเที่ยวที่นั้น....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น