[YUNJAE] Just kiss |before enlistment| - [YUNJAE] Just kiss |before enlistment| นิยาย [YUNJAE] Just kiss |before enlistment| : Dek-D.com - Writer

[YUNJAE] Just kiss |before enlistment|

Just kiss from YUNHO before enlistment

ผู้เข้าชมรวม

840

ผู้เข้าชมเดือนนี้

6

ผู้เข้าชมรวม


840

ความคิดเห็น


4

คนติดตาม


8
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  27 ธ.ค. 59 / 23:05 น.

แท็กนิยาย

yunjae ยุนแจ



ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

Just kiss     [Before Enlistment]  













             ร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่ห้าสิบของวันนี้  ท่อนบนเปลือยเปล่า ท่ามกลางเหล่าโคดี้นูน่าและเมคอัพสไตลิส กำลังรุมจัดแจงความเรียบร้อย  แขนเรียวทว่าเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ กำลังยัดแขนเข้าไปในเชิ้ตสีดำตัวบางแทบเป็นซีทรูอย่างลวกๆ  ทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง  ขาเรียวยาวก็ก้าวลงอ่างจากุซชี่   ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงแล้วโพสท่าอย่างรวดเร็ว  

ขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้น แถมยังเสื้อเชิ้ตที่คลุมได้แค่ไหล่  ผมสีทองที่ถูกเสยให้ตั้งขึ้น กับสโมกกี้อาย ตัดกับผิวขาวดั่งน้ำนม และริมฝีปากแดงเอิบอิ่มยิ่งทำให้ดูเย้ายวน เนี่ยแหละ คิมแจจุง เสน่ห์ของคิม แจจุง  ทุกคนจงจดจำความน่าหลงใหลที่สวยงามแบบนี้เอาไว้ .. ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตลูกผู้ชายจะมาถึง   

แสงแฟลชกำลังรัวเร็วในทุกท่วงท่า  ด้วยความเป็นมืออาชีพ และดวยเวลาที่กระชั้น   ร่างบางยังโพสท่าไปเรื่อยๆ พลางคิดถึงแผนงานอันต่อไปที่จะต้องทำ  เมื่อสิ้นเสียงผู้กำกับสั่งคัทเลิกโปรเจคนี้ แจจุงรีบผุดลุกขึ้นมาอย่างไว  ขาเรียวก้าวฉับๆ ไปที่โต๊ะที่วางเรียงรายไปด้วยเมคอัพ เหล่าโคดี้นูน่ากลับมารุมร่างบางอีกครั้งราวกับไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว  มือบางถือกระดาษที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของโปรเจคต่อไปที่เขาวางไว้  ทุกคนยังคงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ในสตูดิโอที่ไม่มีนาฬิกาแบบนี้ ไม่เห็นแสงเดือนและดาวคอยบอกเวลา  ..เวลาจึงไม่จำเป็นสำรับเขาอีกต่อไป .. แต่ถึงอย่างนั้น ในหัวเขากลับได้ยินแค่เพียงเสียงของเข็มนาฬิกาที่กำลังดังก้อง  ..เวลาของเขา ..เวลาของนักร้องคิมแจจุง กำลังจะหมดลงแล้ว 
..และไม่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีในตอนนี้ ..ในอีกเกือบสองปี เขาจะยังมีเหมือนแบบในวันนี้ไหม 


ความรักของแฟนๆ 
อิสระในการร้องเพลง
เมคอัพและเสื้อผ้าที่เขามีส่วนตัดสินใจเอง
ธุรกิจก็กำลังเป็นไปได้สวย 
ไหนจะยังมีงานละครที่ติดต่อมา แล้วเขาเองก็อยากจะลองเล่นอีกเป็นตั้ง ...


สำรับเขาช่วงเวลานี้เหมือนจะเป็นเวลาที่สดใสที่สุด  หลังจากผ่านช่วงที่เรียกว่ามรสุมชีวิตเลยก็ว่าได้  ... ทุกอย่างที่เขาพยายามมาจนถึงวันนี้ .. ดูราวกับจะสลายไปในพริบตา  ..เพียงแค่เขาหลับตาแล้วตื่นขึ้นมา  ภายใต้ชุดสีเขียวลายพราง  

เขาเลยต้องพยายามอย่างหนักที่สุด เพื่อไม่ให้มีช่วงเวลาใดๆที่ขาดหายไป..เลย ..ถ้าทำได้ 



“ แจจุง ”  


“โปรเจคต่อไปเริ่มเซตฉากหรือยังฮะ ? แล้วกล้องกับผู้กำกับพร้อมไหม  เสื้อผ้าล่ะ ผมต้องล้างเมคอัพแล้วแต่งใหม่มั้ย ? ”


ยุนโฮยืนถอนหายใจกับร่างบางที่ยังคงสั่งนู่นสั่งนี่ไม่หยุด จนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกของเขา  ใต้ตาดำคล้ำยิ่งทำให้โคดี้นูน่าใช้ความพยายามในการกลบเกลื่อนความเหนื่อยล้ามากขึ้น  สตาฟทุกคนมีสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด .. ในสตูดิโอตอนนี้ราวกับนักรบเพิ่งผ่านศึกมาไม่ปาน     


แจจุง .. ” 


ยุนโฮยุดแขนร่างบางที่กำลังจะเดินไปเข้าฉากเอาไว้  ร่างบางที่ตอนแรกแทบจะสะบัดมือแล้วเดินหนีไปด้วยซ้ำ ถ้ายุนโฮไม่บีบเข้าที่ข้อมือแรงๆ 



อ้อ..ยุนโฮ 

...แป๊บนึงนะ ฉันกำลังยุ่งมาก อีกโปรเจคนึงจะเสร็จละ
” 



ทำงานติดกันมากี่ชั่วโมงแล้ว


ยุนโฮไม่ยอมปล่อยร่างบางไปง่ายๆ  เมื่อเห็นสภาพอิดโรยของคนตรงหน้าที่ยังจะฝืนทำงานให้จบ  ..ปล่อยไปแบบนี้มีหวังได้ป่วยไปเข้ากรมตั้งแต่วันแรกแน่ๆ 


“ยี่สิ
...ไม่รู้อ่ะ ”    


แจจุงยังมองไปที่ฉากอย่างลุกลี้ลุกลน  เขาจะต้องเริ่มถ่ายเอ็มวีเพลงไตเติ้ลแล้ว  ก่อนจะไม่มีเวลา  สตาฟเร่งมือกันเซตฉากกันอย่างแข็งขัน ..ทั้งๆที่สภาพร่างกายของแต่ละคนกำลังเรียกร้องขีดจำกัดแล้ว 


22 ชั่วโมง นายทำงานติดกันมาจะวันนึงแล้วนะ แจจุง..


“เหอะน่า  ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำอีกตั้งเกือบสองปี ตอนนี้ฉันยุ่งมากเลย ขอตัวก่อน .. อุ๊บ”



ริมฝีปากหนาของยุนโฮบดเบียดกับริมฝีบางอิ่มของแจจุงอย่างหนักหน่วง สัมผัสอุ่นร้อนจนทำให้แจจุงแทบละลาย  แผนงานเต็มหัวเมื่อครู่ก็เลือนหายไป กลายเป็นสีขาวโพลน  ลมหายใจร้อนที่รดรินลงบนแก้มทำให้ร่างกายที่เย็นเยียบของแจจุงจากการใส่เสือผ้าน้อยชิ้นรู้สึกอบอุ่นขึ้น  มือใหญ่ของยุนโฮที่กอบกุมมือของเขาไว้ยิ่งทำให้รู้สึกอุ่น  ริมฝีปากหนาของยุนโฮยังคงส่งมอบความนุ่มและอบอุ่นให้แจจุงอย่างนั้น ... 


แต่มันไม่ควรเป็นกลางสตูดิโอแบบนี้


 
“แฮ่ก
ปล่อยนะ ”  


วงแขนแข็งแรงยังคงรวบตัวของแจจุงไว้ในอ้อมกอด  มือทั้งสองข้างของเขาก็ถูกยุนโฮรวบไว้ด้วยมือเดียว  ทันทีที่สติกลับมา เสียงโห่ฮาจากสตาฟก็แซวกันเกรียวกราว  .. ให้ตายเถอะ วันนี้คนเยอะด้วย ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย
!


“ยืนยังจะไม่อยู่เลย  จะให้ปล่อยจริงๆหรอ ”  

เสียงทุ้มของยุนโฮแกล้งกระซิบเขาที่ข้างหูของแจจุง ความรู้สึกร้อนผ่าวที่ส่งจากลมหายใจมันเสียวซ่าน จนร่างบางต้องเบือนหน้าหลบ  มือบางได้แต่พยายามทุบเข้าที่อกแกร่ง เมื่อเถียงอะไรไม่ได้  


“ถ้าไม่อยากอายก็ไปต่อกันที่ห้องเถอะ ”
 

เดี๋ยว
! ไม่ได้! ยังทำงานไม่เสร็จ ”   


แจจุงรีบยันตัวออกเมื่อยุนโฮตั้งท่าจะอุ้มเขาออกไปซะดื้อๆ   ยุนโฮเลยตีสีหน้าเคร่งขึ้นมา 


ยังจะทำงานอีก นายมองไปรอบๆตัวสิแจจุง ทุกคนจะไม่ไหวกันแล้วนะ
! ” 


ยุนโฮพูดเสียงเข้มใส่จนแจจุงเผลอสะดุ้ง  แต่ถึงอย่างนั้นก็เหมือนเรียกสติร่างบางได้อย่างดี  เขาหันมองไปที่สีหน้าของ
สตาฟแต่ละคน  ทั้งโคดี้นูน่าเอง  ผู้กำกับ ...นั่นสินะ   ทุกคนก็ทำงานติกกันมาจะวันนึงแล้ว  ...เหมือนกันกับเขา ที่ตอนนี้
ถ้ายุนโฮไม่ยึดเอาไว้  ก็พร้อมจะล้มพับลงได้ทุกเมื่อ 


ค่อยทำต่อพรุ่งนี้นะ แจจุง  ตอนนี้ทุกคนต้องการการพักผ่อนก่อน .. นายเองก็ด้วย ” 


แจจุงจ้องตาของยุนโฮที่แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด  เขารู้ดี  แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ... เขาก็ยังกลัวเสียงของนาฬิกาที่มันยังดังก้อง
ในหัวเขา แบบนี้ .. เวลา กำลังจะหมดลงไปเรื่อยๆแล้ว ...


“ฉัน... พรุ่งนี้ก็มีตารางงานอยู่แล้ว .. พรุ่งนี้ ..”


“พรุ่งนี้มันก็อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว  ถือซะว่าไปนอนพักเบรกแป๊บนึงแล้วกันนะ ”  


แจจจุงเริ่มคลล้อยตาม  มันก็อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงอย่างที่ยุนโฮว่าจริงๆแหละ แต่เขาก็อยากจะรันทุกอย่างให้เสร็จก่อน
แล้วค่อยไปนอนทีเดียว ..


“นายไม่สงสารคนอื่นบ้างหรอ ”  


ยุนโฮตัดสินใจจี้ที่จุดอ่อนของแจจุง  พลางพยักเพยิดให้หันหน้าไปมองสตาฟคนอื่นๆอีกเกือบ
20 ชีวิต ที่สภาพอิดโรยไม่ต่างกัน 
ด้วยความใจดีของแจจุง ในที่สุดแจจุงก็ต้องยอมแต่โดยดี


เฮ่อ
! ก็ได้  ทุกคนไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ

 
สิ้นเสียงพูดของแจจุง ทุกคนก็ถอนหายใจเฮือกและพร้อมกันทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยล้า  ถึงจะเป็นที่รู้กันว่าแจจุงบ้างาน แต่ก็ไม่เคยถึงขึ้นทำงานติดๆกันเกือบวันขนาดนี้เลย .. ถ้าไม่นับกิตติศัพท์ก่อนออกจากค่ายเดิม  


ยุนโฮยิ้มเมื่อเห็นแจจุงยอมคล้อยตาม  เขาค้อมหัวให้สตาฟพลางลากแจจุงออกมาจากสตูดิโอ  ทั้งผู้กำกับ ทั้งช่างไฟ และโคดี้นูน่าค้อมหัวกลับให้ยุนโฮแทบไม่ทัน  เพราะยุนโฮคือผู้ช่วยชีวิตทุกคนไว้



“เดินไหวมั้ย ” 


ยุนโฮหันมาถามแจจุงจุงที่ยังอยู่ในอ้อมแขนเขา เสื้อตัวบางที่จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่  ไม่มีประโยชน์ในการห่อหุ้มร่างกายให้อบอุ่นได้เลย 
มือหนาของยุนโฮกระชับเสื้อของแจจุงขึ้น แล้วถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเขาใส่ให้แจจุง  


“ อุ่นขึ้นมั้ย ” 


 มือหนาทั้งสองข้างของยุนโฮประคองแก้มนิ่มของแจจุงไว้ให้สามารถสบตากัน  ยุนโฮยิ้มหวานเมื่อเห็นคนสวยยังหน้ามุ่ย  คงจะยังกังวล
เรื่องงานอยู่ตามนิสัยบ้างานนั่นแหละ 


“ไอกู
ดูสิแจจุง ผิวนายเหี่ยวหมดแล้ว  ถ่ายวันนี้ก็ไม่สวยหรอก นอนหลับพักผ่อนซักแป๊บ ตื่นมาจะได้สดใส วิ้งวั้งไง ~ ” 


“ นี่นายว่าฉันเหี่ยวหรอ ” 


“ ถึงเหี่ยวแต่ก็สวยนะจ๊ะ  ” 


กำปั้นขาวๆของแจจุงทุบเข้าที่อกกว้างของคนตัวโตกว่าอย่างหมั่นไส้  คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังฉันหรอไอ้หมีบ้า 


 ยุนโฮเห็นแจจุงโมโหก็หัวเราะร่วน  กลับมาเป็นแจจุงยัยขี้วีนคนเดิมของเขาแล้ว   แต่ใบหน้าขาวเผือดของแจจุงยิ่งดูซีดลง บวกกับขอบตาที่ดูอิดโรยแม้จะผ่านการกลบเกลื่อนด้วยเมคอัพก็ตาม  ยุนโฮรวบกำปั้นขาวๆ ก่อนจะยุดแขนดึงร่างบางมากอดไว้ 


เหนื่อยมั้ย ? ” 



แจจุงที่จู่ๆก็ถูกรวบมาอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นนิ่งเงียบ   น้ำเสียงอบอุ่นของยุนโฮเหมือนดึงความรู้สึกในจิตใจส่วนลึกออกมา .. 


เหนื่อยสิ 
เพลียมากด้วย
ปวดหัวปวดตาไปหมด   
... แต่กลัวมากกว่า  




 มือหนาของยุนโฮลูบผมนุ่มของแจจุงอย่างทะนุถนอม  ถึงแจจุงไม่ได้พูดอะไร แต่น้ำตาที่เปียกเสื้อที่อกเขาตอนนี้บอกทุกอย่างได้อย่างดี  วงแขนแข็งแรงกระชับอ้อมแขนขึ้น ให้คนในอ้อมกอดรู้สึกมั่นคง  แจจุงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา 


“ไม่เป็นไรนะ  ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ตรงนี้ ”    
 

น้ำเสียงที่อ่อนโยน และความอบอุ่นมั่นคงในอ้อมกอดบอกแจจุงว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียว  ยุนโฮยังคอยกระชับอ้อมแขนให้แจจุงรู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้  แจจุงปล่อยให้ความเหนื่อยล้า ความกังวลใจ และความกลัวการเปลี่ยนแปลง  ...ทั้งหมด 
เขากำลังปล่อยมันไปกับหยาดน้ำตา  น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกแย่เลยซักนิด  เหมือนพลังใจและความอบอุ่นถูกส่งมาจากอ้อมแขนและอ้อมอกอันแข็งแรงของยุนโฮ .. ที่ๆเขารู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย  

 

 

 

 

 



 “ นอนไม่หลับหรอ ?”  


ยุนโฮยันตัวขึ้นมองคนร่างบาง ที่ตอนนี้อาบน้ำอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้ว กำลังขยุกขยิกอยู่ข้างกายเขา 
  

“..อืมม ” 

แจจุงตอบกลับเสียงอ่อย  ตอนนี้เขารู้สึกหนักๆที่ตัว แถมปวดหัวตุบๆ กับกระบอกตา  ... ไม่รู้เพราะทำงานเยอะเกินหรือเพราะร้องไห้ ..
หรืออาจจะทั้งสองอย่าง 


ยุนโฮมองคนสวยกำลังพยายามข่มตานอนหลับ ยิ่งทำให้หน้าสวยยู่ยี่  มือหนาเลยรวบร่างบางมากอดไว้  มืออีกข้างก็ลูบศรีษะเบาๆ 


“กลัวหรอ ?” 


แจจุงพยักหน้ากับอ้อมอกของยุนโฮ ..แค่นั้น...เพราะเขารู้สึกหนักอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก 



“กังวลอยู่ใช่มั้ย ”  


แจจุงพยักหน้าอีกรอบ  แก้มนิ่มซุกเข้าหาอกของยุนโฮ ยิ่งทำให้ยุนโฮเข้าใจความรู้สึกของคนในอ้อมแขนมากขึ้น


ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย  นายเก่งขนาดนี้   ”   


แจจุงหันควับ จ้องหน้ากับยุนโฮ  เก่งอะไรล่ะ เข้าไปอยู่ในกรมทั้งๆที่อายุก็เยอะขนาดนี้แล้ว แถมยังเป็นไอดอลอีก ต้องโดนเกลียด
โดนแกล้งแน่ๆ 


“เชื่อฉันมั้ย ? ”


“เรื่องอะไร ? ”


“ ก็เรื่องที่นายเป็นคนเก่งไง ” 


  ตากลมโตของแจจุงยังจ้องยุนโฮปริบๆ  ยุนโฮส่งยิ้มสบายๆมาให้แจจุงที่ยังทำท่าข้องใจไม่เลิก 


“เชื่อฉันสิ  นายจะต้องเป็นที่รักของทุกคน  เหมือนที่นายเป็นมาตลอด  ” 



ถ้าโดนแกล้งล่ะ  โดนหมั่นไส้จะทำยังไง



“ ครูฝึกกับเพื่อนๆ จะรักนาย ไม่มีใครแกล้งหรอก ”


แล้ว ... แฟนๆ ..ถ้าฉันกลับมา แฟนๆไม่มีใครรอแล้ว .. ..จะทำยังไง .. ” 



หยาดน้ำตาเม็ดโตหยดแหมะลงมาอีกครั้ง  ภาพคอนเสิร์ตสุดท้ายที่เขาเพิ่งเล่นยังฉายซ้ำอยู่ในหัว แท่งไฟนับพันนับหมื่นที่โบกให้เขา
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทุกคน  เสียงเชียร์  ทุกอย่างกำลังจะเลือนหายไปในไม่กี่วัน  ..เขาจะทำยังไง


 “เด็กโง่  ทุกคนอยู่กับนายมาตลอด แม้แต่ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด .. ”


ยุนโฮเว้นไปนิดหนึ่ง  ช่วงเวลานั้นเรียกว่าเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ทั้งเขาและแจจุงเอง  แต่ความรักของแฟนๆทำให้ทั้งเขา และแจจุงยังยืนอยู่ตรงนี้ได้  เขาเข้าใจดี ความพยายามทั้งหมดของแจจุงมากมายกว่าเขานัก   
ไม่แปลกที่คนตรงหน้าจะอ่อนไหวเรื่องนี้มาก 


“ไม่เอาน่ะ ไม่ร้องแล้วนะ ” 


ยุนโฮใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกให้พ้นหน่วยตาใสของแจจุง แต่ทว่าหยาดน้ำตากลับท่วมท้นราวกับฝนที่ตกหนัก ยุนโฮได้แต่ยิ้มจางๆ
ให้คนตรงหน้า ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ภาพของเขาจะพร่าเลือนขนาดไหน ก่อนจะประทับรอยจูบที่หน้าผากมนเบาๆ เป็นการปลอบ  


เสียงสะอื้นฮักยังไม่ยอมหยุดง่ายๆ  จากการที่เจ้าตัวยิ่งพยายามหยุดน้ำตาที่กำลังไหลเอ่อราวกับเขื่อนแตก  


“แจจุง ฮึก ไม่อยาก ร้องแล้วเหมือนกัน ฮึก ตาช้ำ หมดแล้ว ฮึก .. นูน่า .. โคดีนูน่า ฮึก  ต้องว่าแน่ๆ ”    


“หยุดคิดสิแจจุง ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล พาลไม่ได้นอนไปเปล่าๆ ” 


“ ฮึก ..มันหยุดไม่ได้อ่ะ .. ”   


งั้นเดี๋ยวฉันหยุดให้เอง ” 


ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีปากอิ่มของแจจุง สัมผัสหนักแน่นและเนิบช้าที่ผิวบางแต่ไวต่อความรู้สึกเหมือนจะหยุดน้ำตาได้อัตโนมัติ
หัวสมองที่เคยคิดมากมาย จู่ๆก็คิดอะไรไม่ออก ความอบอุ่นยังอบอวลอยู่ที่ปลายลิ้น ลมหายใจร้อนของยุนโฮรดรินราวกับทำให้น้ำตา
ระเหยไปหมด สัมผัสนุ่มยังดำเนินต่อไปอยู่อย่างนั้น  ไออุ่นจากทั้งมือและลิ้นที่ยุนโฮส่งมอบให้เขา อบอวลจนทำให้หัวใจที่เปราะบางกลับมา
สมานกันดีอีกครั้ง เสียงลมหายใจหนักๆยังคงทำหน้าที่ส่งผ่านทั้งไอร้อนให้ทั้งคู่ 


 ภาพในหัวขาวโพลนค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนท้องฟ้าตอนกลางคืน ทุกโสตประสาทส่งไปรับสัมผัสที่ร่างกายจนไม่หลงเหลือพื้นที่
ให้ความคิดใดๆอีกแล้ว ..


ยุนโฮยังคงสัมผัสแนบชิดอยู่อย่างนั้น จนลมหายใจของแจจุงค่อยๆสม่ำเสมอขึ้น  

 

 

 

... จนเข้าสู่ห้วงนิทรา    









ฮัลโหลลลลลลลล  

แจจุงจะออกจากกรมแล้ว 


ไวมาก! 

จะว่าไวก็ไว (เพราะไม่มีตังค์เก็บเลยย) จะว่านานก็นานเนอะ 


จู่ๆก็ flash back ไปตอนก่อนนางเข้ากรม
 
โอ้โหหหหห ร้องไห้ไป สามวันแปดวัน 


แล้วดูตอนนี้ กล้ามล่ำอย่างกะยางรถบรรทุก!  

ตอนก่อนเข้ากรมนางก็พูดอ่ะ ว่าถ้าโดนแกล้งจะทำยังไง 

โอ้โห ตอนนั้นโคตรเป็นห่วง  

ละดูตอนนี้ เหล่าชะนีแฟนเกิล ควรห่วงตัวเอง 55 

เพราะพี่แกเล่นเข้าไปสร้างฐานแฟนบอยในกองทัพ !  


เอาล่ะ  เตรียมตังค์เปย์มิ๊กันได้แล้วนะคะ 

มิ๊กลับมาทวงบัลลังก์ละค่ะ  




**แนบคลิป มิ๊ร้องไห้หนักมากกกกกก นี่เรากลับมาดูก็ร้องไห้ตามนางอีกรอบอ่ะ 555** 






ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×