ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER I
MY TWIN , MY OMEGA
CHAPTER I
ในค่ำคืนเดือนมืดคืนหนึ่ง สามแม่ลูกกำลังขับรถกลับบ้านหลังจากที่ทั้งวันได้ไปเล่นสวนสนุกด้วยกัน ถึงคนเป็นแม่จะไม่ค่อยได้เล่นเครื่องเล่นอะไรมากเท่าไรนักเพราะไม่ค่อยชอบเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูกๆ ทั้งสองอย่างที่อยากจะทำในทุกๆ วัน
บรรยากาศในรถค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและดนตรีคลอเบาๆ ชวนให้น่านอน จนกระทั่ง
“แม่~ เดือนหน้าก็วันเกิดผมแล้วนะ” แฝดพี่ที่นั่งอยู่เบาะหน้าของรถยนต์คันนี้กล่าวกับแม่ของตนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ
“วันเกิดผมด้วยๆ!” แฝดคนน้องชะเง้อหน้าจากเบาะหลังมาหาเพื่อร่วมวงสนทนาด้วย
คนเป็นแม่ยิ้มให้กับการกระทำเหล่านั้นของลูกๆ ก่อนจะเอ่ย
“จะวันเกิดแล้วก็ทำตัวดีๆ ล่ะ ของขวัญที่แม่จะให้จะได้สมน้ำสมเนื้อหน่อย”
“โธ่ แม่ พูดอย่างกับจะเสียดายของขวัญที่จะให้พวกผมอย่างนั้นล่ะ” คนเป็นพี่หันมองแม่ของตน ก่อนจะหันกลับไปมองทางถนนข้างหน้าที่มีแสงสว่างส่องจากเสาไฟตามทางไว้ให้ พอให้ได้เห็นเส้นทางข้างหน้า แต่ก็ไม่มากเท่าที่ควร
คนเป็นแม่หันมองลูกชายอย่างลืมตัว ก่อนจะคลี่ยิ้มและเอ่ย
“แม่ไม่เสียดายหรอก อะไรที่ทำให้ลูกมีความสุข แม่ก็พร้อมให้เสมอแหละ”
“แม่ระวัง!!” เสียงจากคนน้องที่นั่งอยู่เบาะหลังตะโกนลั่นขึ้นจนคนเป็นแม่ต้องหันมองก่อนจะหักหลบรถยนต์คันสีดำที่โผล่มาตัดหน้าจากที่ไหนก็ไม่รู้
บทสนทนาของทั้งสามถูกตัดขาด ภาพตรงหน้าที่ต่างคนต่างเห็นต่างก็รู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีและไม่อาจคาดหวังว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่
“อ๊า!” เสียงหนึ่งร้องลั่นขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เจ้าของเสียงสะดุ้งเฮือกและดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังจากตื่นจากฝันร้ายที่ทำให้เขาเจ็บจี๊ดที่ศีรษะ มือของเจ้าตัวส่งขึ้นไปกุมส่วนที่ปวดไว้ผ่านผ้าพันแผลสีขาวสะอาด
ไม่กี่วินาทีต่อมา ใครคนหนึ่งที่ร่างกายสูงใหญ่กว่าเขาวิ่งตรงมาหาเขาก่อนจะคว้ามือข้างที่ว่างของคนบนเตียงไว้และถามไถ่อาการทันที
“ฝันถึงอีกแล้วเหรอ มิกซ์ ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกับน้องชายฝาแฝดของตน
“อื้อ เจ็บอะ” คนตัวเล็กกว่ารีบฟ้องพลางออดอ้อนให้คนตรงหน้าโอ๋ตน เขาเสพติดการกระทำเช่นนั้นกับพี่ของตนจนบางครั้งตัวเขาเองก็รู้สึกนิสัยเสียไปแล้ว
“โอ๋เอ๋ นอนพักนะ” คนเป็นพี่ก็โอ๋เขาไปเพียงเพราะเอ็นดูน้องชายของตน ก่อนจะจับเขาให้นอนลงกับเตียงเพื่อให้เขาได้นอนพักผ่อนอีกสักครั้ง
คนบนเตียงนอนพลิกข้างไปทางหน้าต่างที่มีม่านสีฟ้าอ่อนปิดไว้พลางข่มตาหลับลง คนเป็นพี่คว้าผ้าห่มที่ถูกถีบไปอยู่ที่ปลายเท้ามาคลุมตัวของคนที่ต้องการการพักผ่อนให้ เขาละจากน้องชายของตนมานั่งอยู่ที่โซฟาพลางอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเพื่อฆ่าเวลาไปด้วย
แกร๊ก
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับหญิงสาวและชายหนุ่มมีอายุที่ส่วนสูงห่างกันอย่างสิ้นเชิงยืนอยู่
“เชิญค่ะ” หญิงสาวผู้เป็นแม่ผายมือเชื้อเชิญอัลฟ่าตระกูลสูงศักดิ์
เขาก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องก่อนจะเหลือบตามองโอเมก้าคนหนึ่งที่เพิ่งลุกขึ้นและกล่าวทักทายเขา พวกเขาอายุห่างกันเกือบสิบปีแต่เหมือนเมื่อเทียบดูความสูงแล้ว กลับเท่ากันเสียอย่างนั้น
“หนูคงเป็น ธัส ใช่ไหม?” เสียงเข้มเอ่ยถามพลางเลื่อนสายตามองโอเมก้าตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใช่ครับ” ธัสตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง ถึงแม้เขาจะเคยพบเห็นอีกฝ่ายมาบ้างแล้วเพราะเขารู้จักกับแม่ของธัสและมิกซ์ แต่ถึงอย่างนั้น ธัสก็ไม่คุ้นเคยกับท่าทีน่าเกรงขามนี้สักเท่าไร คงเป็นเพราะชีวิตนี้เขาอยู่กับโอเมก้าด้วยกันเองมาตลอด ถ้าไม่นับกิจกรรมข้ามโรงเรียน เขาก็แทบไม่ได้ยุ่งกับพวกอัลฟ่าเลยล่ะมั้ง
“แม่ว่าธัสคงจะเคยเห็นคุณน้าเขามาบ้างแล้ว คงคุ้นเคยกันบ้างนะ” คนเป็นแม่เอ่ยกับลูกชายคนโตของตนพลางเดินเข้ามายืนข้างเขา
อัลฟ่าหนุ่มละความสนใจจากโอเมก้าทั้งสองตรงหน้า เขาเดินไปหาโอเมก้าอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เอ่ยทักทายเขาเพราะกำลังหลับพักผ่อนอยู่ อย่างน้อยเขาก็อยากจะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่อยากไปรบกวนเขาที่นอนหันข้างไปทางอีกฝั่งอยู่
“แม่ คนนี้เหรอที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้” ธัสย่อตัวลงกระซิบถามแม่ของตนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้รับคำตอบกลับมาเป็นคำพูด มีเพียงแค่เปลือกตาที่หรี่ลงและใบหน้าที่พยักขึ้นลงอย่างช้าๆ เพียงเท่านั้น
“คุณไอรีนครับ” เสียงอัลฟ่าร่างสูงเอ่ยเรียกในขณะที่เขากำลังจ้องมองร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง
“คะ” คนเป็นแม่ที่อายุมากกว่าเขาขานรับอัลฟ่า
“ลูกคุณ มิกซ์น่ะ..”
“อ๋อ เขาคงหนาว เดี๋ยวฉันห่มผ้าทับให้อีกชั้นนะค—” ยังไม่ทันที่โอเมก้าสาวจะพูดจบ อัลฟ่าหนุ่มก็รีบพูดแทรกขึ้นมา
“ผมต้องการให้เขามาใช้นามสกุลเดียวกันกับผม”
“เอ่อ ขอโทษนะครับ หมายถึงลูกบุญธรรมเหรอครั—” ธัสที่กำลังเอ่ยถามถูกแทรกโดยอัลฟ่าคนเดิมอีกครั้ง
“ผ่านการแต่งงาน”
“…”
“…”
ทั้งห้องตกอยู่ภายใต้ความเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ สองแม่ลูกต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าวิตกกังวลไม่สู้ดี แต่ก็ไม่รู้จะขอโต้แย้งอย่างไร
“ผมจะเข้ามาอีกทีตอนหัวค่ำ รอให้เขาได้นอนพักผ่อนก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน” อัลฟ่าเดินออกจากห้องไป สองแม่ลูกมองตามเขาจนกระทั่งประตูห้องถูกปิดลง
ลูกชายคนโตหันมองคนเป็นแม่ของตนที่ก้มหน้ากำมือทั้งสองอยู่
“เราจะพูดให้เขาเปลี่ยนใจยังไงดี”
“แม่ไม่รู้” คนเป็นแม่หันกอดลูกชายของตนก่อนจะพูดต่อ “แต่อัลฟ่ามากอำนาจขนาดนั้น คงไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ หรอก”
“ทำเท่าที่ทำได้แล้วกันนะครับ” ธัสกอดตอบรับแม่ของตน
“อืม”
“..ผมไม่อยากแต่งงาน”
เสียงแผ่วเบาจากคนบนเตียงเอ่ยขึ้น
“ผมกลัว” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากเบ้าตามาอย่างไม่รู้ตัว เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดแม่ของตนที่โผเข้ามากอดลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรนะมิกซ์ แม่จะช่วยพูดให้เขาเปลี่ยนใจ”
“แต่ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่าง เขาเองก็ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้ผม มันไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่เหรอครับ” มิกซ์พูดพลางเช็ดน้ำตาที่หยดลงมาทั้งที่เขาก็ไม่ได้ร้องไห้
“ถ้านับเรื่องบุญคุณเป็นหลักก็ยอมแต่งไปเถอะ แต่ถ้านับเรื่องความรู้สึกรักน่ะ แม่ว่าไม่มีทั้งสองฝ่ายหรอก” คนเป็นแม่พยายามเปลี่ยนความคิดลูกชายที่กำลังคิดจะยอมแต่งงานง่ายๆ เพียงเพราะแค่บุญคุณที่เขามาช่วยเหลือเอาไว้
“ยังไง” ธัสเดินมาอยู่ข้างๆ แม่ของตนก่อนจะเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย
“แม่ว่าเขาต้องการแค่ทายาท แค่นั้นแหละ”
ตกค่ำ อัลฟ่าร่างกำยำคนเดิมถือวิสาสะเปิดประตูห้องเข้ามาอย่างไร้ซึ่งมารยาทและความเกรงใจ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเพียงแค่ลืมตัวหรือเปล่า
สามแม่ลูกอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ช่างเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการคุยกันเรื่องสำคัญๆ
“สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณไอรีน หนูธัส สวัสดีหนูมิกซ์ด้วยนะ” อัลฟ่าหนุ่มกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรผิดกับท่าทางน่าเกรงขามและสายตาที่ดุดันน่าเกรงกลัว “เข้าเรื่องกันเลยไหมครับ”
“ผมจะแต่งกับคุณครับ” มิกซ์เอ่ยขึ้นทันทีหลังจากที่เห็นอัลฟ่าคนตรงหน้าของตนเริ่มเปิดประเด็น ทั้งแม่และแฝดพี่หันมามองคนบนเตียงโดยไม่ได้นัดหมาย มิกซ์มองกลับไปที่สองคนนั้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“หืม” อัลฟ่าหนุ่มรู้สึกแปลกใจ เขาเดินตรงมายังหนูน้อยบนเตียงที่เขาหมายปองพลางมองไปที่หนูน้อยตรงหน้าด้วยสายตาที่ดุดันแต่แฝงไปด้วยความเอ็นดูและอบอุ่น
“เอ่อ มิกซ์เขาเพิ่งตื่น เขาคงเบลอๆ น่ะค่ะ” โอเมก้าสาวรีบแย้งและเดินไปอยู่ข้างเตียง
“อยากได้ลูกก็ให้ผมเป็นคนอุ้มท้องเถอะครับ” คนเป็นพี่รีบเสนอตัวปกป้องน้องชายแสนบริสุทธิ์ของตนเองให้รอดจากเงื้อมืออัลฟ่าน่าเกรงขามตรงหน้า
“ไม่ครับ เพราะผมไม่ได้แต่งเพื่อจะเอาลูก” สรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปของอัลฟ่าเพราะบทสนทนาที่ดูจริงจังมากขึ้น ทำให้โอเมก้าทั้งสามในห้องไม่กล้าปริปากอะไรใดๆ อีก
ทั้งค่ารักษาพยาบาลและการแต่งงาน สำหรับสามแม่ลูกแล้วมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรือเล็กน้อยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะอยากได้ลูก แล้วจะเป็นอะไรกันล่ะ
“…”
“…”
“…”
สามแม่ลูกเงียบลง พวกเขากำลังใช้ความคิด คิดประมวลผลอะไรบางอย่าง แต่มันคงจะไม่ทันอัลฟ่าที่ด่วนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดคนนี้หรอก
“กำหนดแต่งเมื่อไหร่ดีครับ” อัลฟ่าหนุ่มหันไปถามโอเมก้าสองคนสลับกับโอเมก้าน้อยบนเตียง
“หมั้นก่อนเถอะครับ” แฝดพี่เอ่ย เขาไม่อยากให้รีบร้อนแต่งงานกันตอนนี้ ตัวเขาเองก็ยังไม่พร้อมกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น นับประสาอะไรกับน้องชายฝาแฝดที่เขาและแม่ประคบประหงมมาตั้งแต่ยังเล็ก น้องชายที่เกิดมาพร้อมและเติบโตมาพร้อมกัน
ตัวเขาเองขอยอมรับว่าเขา ‘หวง’ น้องชายหนึ่งเดียวคนนี้ของเขามาก และในหลายครั้งหลายคราเขามักจะหวงเอาเสียเกินไปเมื่อมีอัลฟ่าสักคนเข้าใกล้ เช่นเดียวกันกับ ณ เวลานี้
อัลฟ่าหนุ่มไม่ได้พยักหน้าตอบรับเป็นการยอมรับในข้อเสนอ สำหรับอัลฟ่าอย่างเขาแล้วนั้น ไม่มีคำว่าหมั้น มีแต่คำว่าแต่งงาน
“ตระกูลผมไม่อยากให้หมั้นกันก่อนครับ แต่งคือแต่ง เพราะฉะนั้นแล้วถ้ายังไม่แต่ง..”
“ทะ ทำไมคะ” คนเป็นแม่อย่างไอรีนพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอนอย่างควบคุมไม่อยู่ ลูกชายคนโตรีบเข้าไปพยุงแม่ของตนไว้เพราะกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไปอีกคน
“ผมต้องการให้พวกคุณทำตามข้อตกลงเพียงหนึ่งเดียวของผม” ทั้งสามจ้องมองอัลฟ่าด้วยสีหน้าวิตกกังวล ร่างสูงยิ้มออกมากับท่าทางเหล่านั้นของโอเมก้าทั้งสาม ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า
“อย่าทำหน้าทำตาวิตกกังวลกันแบบนั้นสิครับ ข้อตกลงของผมมันไม่ได่น่ากลัวขนาดนั้นซะหน่อย”
“แล้วข้อตกลงที่ว่านั่นคืออะไรล่ะครับ” ธัสรีบถามอย่างร้อนใจ เขากลัวว่าจะเป็นข้อตกลงที่เลวร้ายสำหรับน้องชายของเขา ถึงแม้ว่าอัลฟ่าคนตรงหน้าจะพูดแล้วก็ตามว่าไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด
“ ผมแค่ต้องการให้มิกซ์ไปอยู่ที่บ้านของผมจนกว่าจะแต่งงาน”
“อยู่ก่อนแต่งน่ะเหรอครับ” โอเมก้าน้อยบนเตียงเอ่ยขึ้นหลังจากที่แอบหลบอยู่เงียบๆ อยู่นานสองนาน
อัลฟ่าหนุ่มมองตาโอเมก้าว่าที่ภรรยาของเขาก่อนจะพยักหน้าให้ช้าๆ แต่มิกซ์กลับหลบสายตาของเขาที่จ้องมองมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวหรืออะไรกันแน่
“แม่— แม่จะเป็นลม” ไอรีนทิ้งตัวลงไปกับอ้อมแขนของลูกชาย เขาค่อยๆ จับแม่ของเขาให้นั่งลงบนโซฟาอย่างช้าๆ ก่อนจะรีบคว้ายาดมมาและยื่นให้แม่ของตน
“สรุปว่าตกลงตามนี้ใช่ไหม” อัลฟ่าร่างสูงใหญ่รีบด่วนสรุปอย่างรีบร้อนจนน่าแปลกใจ
‘ท่าทีของเขาดูใจเย็น แต่ภายในใจก็ร้อนใช่เล่นเลย’ มิกซ์คิดแบบนั้นในขณะที่กำลังตัดสินใจเรื่องข้อตกลงที่เขาต้องปฏิบัติตามอย่างเลี่ยงไม่ได้หากคิดจะแต่งงานกับเขาแล้ว
“ไม่ครับ ผมจะแต่งเอง” ธัสรีบแย้ง ถึงแม้จะเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างน้องชายและตัวเขาเอง แต่เขาก็ไม่คิดปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
“หนูธัส อย่าให้ผมพูดซ้ำเลยจะดีกว่าว่าทำไมผมถึงอยากจะแต่งกับหนูมิกซ์เขา”
“คุณรักมิกซ์ไหมล่ะครับ พูดมาเลย” โอเมก้าแสดงท่าทีก้าวร้าวพร้อมกับแววตาที่แข็งกร้าว
เขามักจะมีท่าทางแบบนี้เสียทุกครั้งเมื่อต้องการจะปกป้องน้องรักของตน ซึ่งถึงแม้เหตุผลหรือสาเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้มันจะดีสักเพียงไหน
มันก็ไม่เคยเป็นสิ่งที่เขาควรทำเลย
“…”
“แค่นี้คุณยังตอบไม่ได้เลยนะครับ”
“ผู้ใหญ่น่ะ เขาไม่มาพูดกันหรอกว่ารักใครคนนั้นไหม” อัลฟ่าหนุ่มสามารถเลือกที่จะโกหกว่ารักไปได้เลย แต่เขากลับเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการตอบคำถามข้อสำคัญนี้เสียอย่างนั้น
“โซลเมทสามารถผูกเรากับคนที่เราไม่ได้รักได้ไหมครับ” มิกซ์เอ่ยแทรกขึ้นกลางวงสนทนาอย่างสงสัย
“ได้แหละ/ได้สิหนู” เสียงของโอเมก้าและอัลฟ่าที่พูดขึ้นพร้อมกันทำเอาเสียงตีกันไปมา แต่มิกซ์ก็พอจับใจความได้ มิกซ์พยักหน้าเงียบๆ ก่อนจะกลับสู่บริบทคอยรับฟังทั้งโอเมก้าพี่ชายแฝดและอัลฟ่าว่าที่คู่วิวาห์ของตน
“คุณครับ ยังไงผมก็ไม่ให้น้องผมไปอยู่บ้านคุณและแต่งงานกับคุณด้วย” ธัสสงบลงมาบ้าง แต่ก็ยังยืนกรานเสียงแข็งกับอัลฟ่าที่อายุมากกว่าไม่เลิกรา
ไอรีนคว้าข้อมือข้างหนึ่งของลูกชายคนโตของตนเอาไว้ พลางเงยหน้าสบตามองเขาก่อนจะส่ายหัวไปมา
คนเป็นแม่ไม่แม้แต่จะเห็นด้วยกับการที่ลูกชายของตนจะยืนเถียงต่อปากต่อคำกับอัลฟ่าตระกูลสูงศักดิ์เช่นนั้น รวมไปถึงการไม่ยอมให้น้องชายของตนแต่งงานทั้งที่เขาเองก็ไม่มีเหตุผลหรือสิทธิ์อะไรจะไปห้ามได้
“จะเอายังไงก็ให้น้องเลือกเถอะ” สิ้นเสียงของผู้มีพระคุณ ธัสโน้มตัวลงนั่งข้างๆ ไอรีนอย่างช้าๆ ไม่คิดจะต่อปากต่อคำอะไรกับอัลฟ่าอีก
“ว่าไง หนูมิกซ์” อัลฟ่าหนุ่มหันไปถามมิกซ์ทันทีเมื่อได้โอกาส
“ค่ารักษาพยาบาลที่คุณจ่ายให้ผมไป ทั้งหมดเท่าไหร่”
“เป็นแสน” สองพยางค์สั้นๆ ทำให้โอเมก้าตัวน้อยเบิกตาโพลงพลางกลืนน้ำลายลงคอไปหนึ่งอึก เขาไม่คิดว่าค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับสมองของเขาที่ได้รับการกระทบกระเทือนจะแพงขนาดหนักเช่นนี้
“แค่ย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณและแต่งงานกับคุณใช่ไหม” มิกซ์ถามเพื่อให้แน่ใจอีกสักครั้ง เขากลัวว่าจะมีอะไรนอกจากข้อตกลงบางๆ ที่ถูกตั้งไว้
“อย่าเรียก ‘คุณ’ เลย มันดูห่างเหินนะ” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ย
“เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันก็ได้ครับ ตอบผมมาก่อน” มิกซ์ผละความสนใจกับประโยคเมื่อครู่ ก่อนจะดึงอัลฟ่าหนุ่มตรงหน้าตนให้กลับเข้าประเด็นหลักอีกครั้ง
“ก็มีแค่นั้นนั่นแหละ”
“มีงานอะไรที่ผมต้องช่วยในบ้านบ้างไหม ผมจะได้เตรียมตัวถูก” ด้วยความเคยชินที่เขามักจะช่วยแม่ทำงานบ้านและทำอาหารจึงถามออกไปอย่างนั้น
อัลฟ่าหนุ่มหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับความใสซื่อของเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ไม่มี ที่บ้านจะมีพ่อบ้านแม่บ้านคอยดูแลหนู”
“…” มิกซ์เงียบไปสักพักพลางครุ่นคิดกับคำตอบ
หากเลือกตอบแล้วคงไม่มีทางย้อนกลับและเมื่อส่งกระดาษคำตอบไปแล้ว มันคงเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาไปเลยโดยสิ้นเชิง
“ได้ครับ ผมโอเค”
อัลฟ่าหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างชอบใจพลางมองไปที่ดวงตาน้อยของมิกซ์ เขาได้รับแววตาใสซื่อที่ฉายแววกลับมา
“เรื่องวันเวลา ไว้มาคุยกันหลังจากหนูหายดีก็แล้วกัน”
“ครับ”
อัลฟ่าหนุ่มหมุนตัวไปหากับโอเมก้าอีกสองคนก่อนจะกล่าวลาทั้งคู่และกล่าวลามิกซ์ด้วยเช่นกัน ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะเดินออกจากห้องไป เขาก็ถูกว่าที่ภรรยาของตนเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวครับ แล้วคุณชื่ออะไร” มิกซ์เอ่ยถาม จะว่าไปก็มีเพียงฝ่ายของอัลฟ่าเพียงเท่านั้นที่รู้จักชื่อของเขา แต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย
“ยังไม่ต้องรู้หรอก” อัลฟ่าหนุ่มเล่นตัวนิดหน่อยก่อนจะเริ่มก้าวเท้าเดินต่อไปอีกก้าว
“ถ้างั้น ให้ผมเรียกคุณว่าอะไรครับ” เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงัก อัลฟ่าหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหมุนตัวหันมาตอบโอเมก้าตัวน้อยของตน
“เลือกเอา ระหว่าง ‘พี่’ กับ ‘ผัว’”
“คุณก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกช้อยส์ที่สอง”
“ก็ตั้งใจให้เรียกพี่นั่นแหละ จะได้สนิทกันไวๆ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น