คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การเกิดใหม่
“อ่า…….ปวดหัวสุดๆเลยแฮะ…คงเพราะข้ามประตูแปลกๆของพระเจ้าแน่เลย” ชายหนุ่มที่มีนามว่ายูได้บ่นออกมา
“!!!ฉิบล่ะ!!! ดันลืมถามพระเจ้าว่าตอนนี้ปีไหนวันอะไรซะสนิทเลย”
ทันทีที่สบถเรื่องสำคัญที่พึ่งนึกได้จบเขาก็ได้มองสำรวจร่างกายตัวเองและเห็นว่าร่างกายตัวเองนั้นมีผิว ผมและหางสีขาวราวหิมะ ใช่ มีหางเขาก็พึ่งนึกเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือลักษณะร่างอสูรของเขา แต่พระเจ้าเหมือนรู้ความคิดเขาว่าอยากเป็นอสูรหมาป่าเพราะจมูกและประสาทสัมผัสของเขานั้นจะดีขึ้นเหมือนหมาป่าและอีกอย่างที่พระเจ้าให้มาคือคาตานะที่ยาวเท่าตัวคนมีดาบจำเป็นสีขาว ดำและลายซากุระ พอมองรอบๆก็รู้ได้ทันทีว่าที่เขาอยู่นั้นคือป่าทึบที่มีแต่ต้นไม้และมองลงมาดูที่เครื่องแต่งกายเขาเห็นว่าตัวเองใส่ชุดยูกาตะสีแดงอยู่
‘คงเป็นชุดที่นิยมที่นี้มั้ง’
จากนั้นฉันได้ลองขยับและลองอะไรต่างๆกับร่างกายเพื่อทดสอบว่าฉันนั้นทำอะไรได้บ้างเริ่มจาก
1.ทดสอบการฟื้นฟู เขาได้ลองใช้คาตานะที่ขนาดเท่าตัวคนที่ดูน่าจะหนักมากแต่กลับเบาสุดๆมาลองสร้างบาดแผลเล็กๆเพื่อทดสอบความเร็วในการฟื้นฟู พอเห็นความเร็วในการฟื้นฟูว่าเร็วมากๆแล้วจึงได้ลองตัดแขนตัวเอง หลังจากนั้นราวๆ 30 วินาทีแขนก็งอกออกมาใหม่เหมือนไม่เคยโดนตัด
2.ความเร็ว เข้าได้ลองวิ่งดูซึ่งเขานั้นตกใจกับความเร็วเมื่อกี้มากๆขนาดตัวเข้าในตอนที่เป็นมนุษย์ความเร็วเกือบเท่าเสือชีต้าแต่ตอนนี้นั้นความเร็วคงพอๆกับรถไฟมั้งนะ
3.สภาพร่างกาย เขานั้นสามารถต่อยต้นไม้หักได้ง่ายแบบไม่ออกแรงและยังต่อยหินก้อนใหญ่ๆที่อยู่ข้างๆเขานั้นแตกแบบง่ายๆเลย “ตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้ความแข่งแกร่งของตัวเองเพราะทุกอย่างนั้นง่ายไปหมดคงต้องไปลองสู้ดูมั้ง”
4.ประสาทการรับรู้ “ข้อนี้ฉันโคตรชอบเลยตอนที่ได้รู้ว่าตัวเองนั้นประสาทการรับรู้ต่างนั้นดีมากขนาดได้กลิ่นของแม่น้ำที่ห่างออกไปตั้ง10กิโลกว่าๆ”
“เอาล่ะสำรวจร่างกายเรียบร้อย” พูดจบเขาก็ได้เริ่มออกวิ่งด้วยเร็วที่มากสุดๆเพื่อสำรวจพื้นที่ จนในที่สุดก็ได้เห็นหมู่บ้านเล็กแต่ก็ใหญ่พอที่จะรับนักท่องเที่ยว ‘เพราะดูจากที่คนเยอะสุดๆคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากๆแน่เลย’
ในตอนที่เขากำลังวิ่งเพื่อจะไปที่หมู่บ้านนั้นก็ได้นึกขึ้นมาว่า ‘เดี่ยวก่อนตูเป็นอสูรนี้หว่าท่าเข้าคงวุ่นวายแน่ท่าไม่หางเก็บหูและหางนี้ก่อน’ แล้วเขาก็พึ่งนึกอีกเรื่องสำคัญได้ว่า ‘แล้วตูจะเข้าเมืองหรือเข้าหาเสาหลักได้ไงเนี้ย’
พอเขาคิดได้อย่างงั้นก็มีเสียงหญิงสาวที่ฟังดูอ่อนโยนก็ได้ดังขั้น
“เจ้าสามารถทำได้ง่ายๆแค่รวบรวมสมาธิแล้วนึกว่าอยากซ่อนหาของเจ้าง่ายๆแค่นี้เอง”
“อ่อ…แบบนี้เองหรอขอบคุณครั-”หลังจากที่เจ้าตัวพึ่งนึกได้ว่าตัวเองอยู่คนเดียวและรอบๆตัวเขาในรัศมี 5 กิโลเมตรจะต้องไม่มีสิ่งที่พูดได้อยู่แถวนี้แน่เขาก็ตกใจขึ้นมาอย่างแรง
“อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผีหลอก!!!!!!!!!!!!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี้เจ้ากลัวผีทั้งๆที่พึ่งเจอกับพระเจ้าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี้นะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นและบอกกับเขาที่ยังมีท่าทีหวาดกลัวว่า
“อย่า….ฮ่…..กลัว…..ฮ่า…..ไปเลย ฮิฮิฮิ” หญิงสาวที่มีแต่เสียงหวานได้กล่าวขึ้นพลางหัวเราะไปด้วย พออารมณ์ขันของเธอหมดลงเธอก็กล่าวออกมาอีกว่า
“เราเป็นเทพที่ท่านโอยาจิพูดถึงตอนกำลังเชิญเจ้ามาที่โลกของเรานั้นแหละ” พออธิบายเสร็จ ยู ก็ได้หายตัวสั่นเพราะความกลัวของเขาแล้วเขาก็ต้องมาเขินอายกับท่าทีเมื่อกี้ของตัวเองก่อนจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้
“ท่านครับตอนนี้ วัน เดือน ปีอะไร” ยู ได้ถามออกมา
“ไม่ต้องห่วงเรื่องวันที่หรอกเพราะเหตุการที่เกิดขึ้นต่างๆที่เกิดในมังงะของโลกเจ้านั้นยังไม่เกิดชักอย่างข้าก็บอกเจ้าไม่ได้หรอกนะว่าวันไหนจะเกิดเหตุการไหนขึ้นแต่ที่แน่ๆตอนนี้เจ้าต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะช่วยบรรเทาทุกข์ของเสาหลักทุกคนเพื่อจบแบบ happy ending หรือจะจบตามเนื้อเรื่องจากมังงะของโลกเจ้า” หญิงสาวกล่าวขึ้น
“ก็นะผมคงต้องเลือกการจบแบบ happy end อยู่แล้วล่ะเพราะชีวิตก่อนแบบจบแบบ bad end แต่ผมขอถามหน่อยได้ไหมท่าหากผมทำไม่ได้แล้วอสูรครองโลกล่ะ”
หลังจากยูได้พูดเสร็จหญิงสาวก็ได้เอ่ยออกมาพร้อมหน้าเศร้าว่า
“เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าพระเจ้านั้นสร้างได้ก็ต้องทำลายได้และนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ข้าอยากให้เกิด”
หญิงสาวกล่าวออกมาอย่างเศร้าสร้อย
ยู ที่ได้ยินอย่างงั้นก็ทำหน้าเศร้าตามความรู้สึกของหญิงสาวที่เผยออกมา
และไม่นานนักเธอก็พูดออกมาอย่างออนโยนและหยอกล้อออกมาว่า
“อ่อข้าลืมเเนะนำตัวไปเลยข้าชื่อ ฮารุ และข้าก็ต้องไปล่ะ บ่าย บ่าย”
ยู ที่เห็นอย่างงั้นก็แอบยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วก็เก็บหูและหางตามคำแนะนำของหญิงสาวเพื่อรอเวลากลางคืนจะได้ออกไปเดินเที่ยวชมเมือง
**************************************************************************************************
จบตอนแล้วจ้า
ความคิดเห็น