เจ้านายขาอย่าหื่นนักเลย
"นี่เธอ ป้ายยาแม่ฉันหรือเปล่าเนี้ย...วันนี้ผราญเงินแม่ฉันไปเท่าไหร่ละ เก่งนะเธอคงมาจากดาวไถละสิ "จะดาวไหนท่านรองสนใจด้วยหรือค่ะ สงบสติอารมณ์หน่อยก็ดีนะคะ เรายังจะไดเห็นหน้ากันอีกนาน อย่างเพิ่งรีบตายละ
ผู้เข้าชมรวม
137
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เจ้านายขา อย่าหื่นนักเลย
ตอนที่ 1 เลือกเลขาหรือว่าลูกสะใภ้
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่านค่ะวันนี้เพลินชีวามีนิยายโรมานซ์สนุกมาฝากนะคะ เป็นนิยายความรัก ความแสบและความหวานของท่านรองประธานหนุ่มคาสโนวาที่ตกหลุ่มรักเลขาสาวที่ มารดาเป็นคนสัมภาษณ์และเลือกให้ เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร แต่ยังไงถึงได้หลงรักเธอ นิยายเรื่องนี้จัดทำขึ้นเพื่อความสนุก ความบันเทิงไม่เน้นสาระ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับเเหล่ง้อมูลใดๆได้ทั้งสิ้น
คำเตือน
ลิขสิทธิ์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติปี พ.ศ. 2537 ไม่อนุญาตให้นำไปปรับปุงแก้ไขหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าองลิขสิทธิ์ นามปากกาเพลินชีวาโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ
เจ้านายขาอย่าหื่นนักเลย
“ตาพร้อม เห็นว่าเลขาของลูกลาออกอย่างนั้นเหรอจ๊ะ?”
“สายข่าวคุณแม่เร็วดีนะครับ...ใช่ครับ แต่ก็ประกาศรับสมัครแล้วละครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีจ๊ะ แม่จะเป็นผู้สัมภาษณ์เอง”
“ได้ยังไงกันละครับคุณแม่ ... เรื่องคุณสมบัติและไหวพริบผมต้องเลือกเองสิครับ”
“แม่ไม่สน แม่คือท่านประธานและนี่คือคำสั่ง จบนะ”
“ครับท่านประธาน”
นิลรัตน์ แต่งตัวออกจากบ้านแต่เช้า เพราะวันนี้เธอมีนัดสอบสัมภาษณ์งานตอนสิบนาฬิกา
กว่าจะออกจากห้องได้ก็หมุนตัวแล้วหมุนตัวอีก บริษัทยักษ์ใหญ่
แค่การแต่งตัวก็ไม่ผ่านแล้วไหม งานเลขาก็ต้องดูกันตั้งแต่ภายนอกจนถึงกิ๋น
แต่ก็เอาเถอะไม่ลองก็ไม่รู้เพราะเธอมั่นใจในความฉลาด เรื่องรูปร่างนั้นนะเหรอ
เธอรับรองว่าไม่เป๋นสองรองใคร การแต่งตัวถึงจะดูไม่แพง แต่ก็ตรงตามระเบียบเลขาเป๊ะ
เธอมาถึงเป็นคนที่ห้า และดูเหมือนจะเป็นคนสุดท้าย..คนแรกเข้าไป ราวสิบนาทีก็ออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
พร้อมกับบ่นอย่างอารมณ์เสีย
“บ้าหรือเปล่าวะ...เลือกเลขาหรือว่าลูกสะใภ้นี่”
คนที่สองหายเข้าไปเพียงไม่นาน ก็ออกมาด้วยอาการเดียวกัน
“หึ!! บ้าที่สุดเลย ฉันมาสมัครงานเลขานะยะไม่ได้มาสมัครเป็นแม่บ้านสักหน่อย”
เฮ้ย...เอะ..มันยังไง อะไรทำให้คนพวกนั้นออกมาด้วยอาการที่ อารมณ์บ่จอยกันเช่นนี้
แกจะรอดหรือวะนิลรัตน์ แต่ก็ถอยไม่ได้แล้วไหมล่ะ เงินเดือนสูง สวัสดิการดี ที่สำคัญพ่อแม่รออยู่
คนที่สามและสี่ก็มีอาการเดียวกัน
“เชิญคุณนิลรัตน์ค่ะ”
เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนที่จะคลี่ยิ้มอย่างมั่นใจแล้วเดินไปสู่เป้าหมายหรือแดนประหาร
ก็ไม่รู้แน่ แต่ที่แน่ๆ น่าจะเป็นอย่างหลังนี้มากกว่า
เมื่อเข้าไปในห้อง ได้มีสตรีสูงวัยแต่ดูดีภูมิฐานนั่งด้านหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ...
ส่วนด้านหลังของโต๊ะทำงานนั้นได้มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา
ราวกับคุณชายกลางแห่งบ้านทรายทองยังไงยังงั้น ใบหน้าเรียบเฉยค่อนข้างไปทางบึ้งตึงเล็กน้อย
ถ้าเช่นนั้นนี่คงจะเป็นคุณหญิงแม่สินะ
“สวัสดีค่ะ”
เธอไหว้ย่อ อย่างงดงาม
“สวัสดี ที่นี่กำลังต้องการเลขา ให้ท่านรองประธาน ไม่ได้ต้องการ นางงามมารยาทดีเด่น”
“ทราบค่ะ แต่การมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่นั่นคือสมบัติของผู้ดี”
เธอเชิดหน้าตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เธอชื่ออะไร?”
“ชื่อนิลรัตน์ พิมลลักษณ์ ค่ะ”
“เคยผ่านงานเลขามาบ้างไหม?”
“เคยค่ะ เพิ่งออกมายังไม่ถึงเดือน”
ตอบพร้อมกับแจ้งชื่อบริษัทที่เคยทำ
“ที่ทำงานเก่าของเธอก็ดีนี่ทำไมถึงลาออก”
“ไม่ได้ลาออกค่ะแต่ถูกไล่ออก”
“ทำไมละ?”
“เพราะดิฉันเอาแฟ้มตีหัวเจ้านายค่ะ”
คนที่นั่งหลังโต๊ะทำงานมีปฏิกิริยาเล็กน้อยกับคำตอบของเธอ
“เธอพอจะเล่าหรือบอกเหตุผลได้ไหม ในสิ่งที่เธอทำ”
“ยินดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ท่านประธานได้เรียกดิฉันเข้าไปหาแฟ้มงาน งบดุลค่ะ
และหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ท่านก็บอกว่าจำได้ว่าอยู่ชั้นบนสุด ดิฉันก็เขย่งหา แต่ก็ไม่พบอีก
มารู้สึกตัวอีกที ก็ถูกเจ้านายมายืนประชิดทางด้านหลังแล้วค่ะ มือจับสะโพกบีบเคล้น
ดิฉัน หันหน้ามาเผชิญ เขาคงคิดว่าดิฉันชอบกระมังคะ เพราะหันมาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
ก่อนที่จะยกเข่ากระแทกที่กล่องดวงใจมัน แล้วจึงคว้าแฟ้มที่ใกล้มือที่สุด ฟาดไปไม่ยั้ง
เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ละคะ”
ท่านประธานหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
“ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น บอกฉันมาซิ”
“เพราะว่าดิฉันมาทำงานเลขาค่ะ ไม่ได้มาหาผู้ชายรวยถ้าดิฉันอยากได้แบบนั้นจะมาทำงานให้เหนื่อยทำไมละค่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ!!! ดีมาก เธอผ่านการสัมภาษณ์งาน ฉันรับเธอ แล้วเรื่องการแต่งตัว
เธอควรจะใส่เสื้อผ้าที่มันส่งเสริมเจ้านายนะ
แต่จะให้เธอซื้อเอง ทำงานครึ่งปีก็คงจะยังไม่พอ เพราะฉะนั้น ตามฉันมา
ถือซะว่าเป็นสวัสดิการของบริษัทก็แล้วกัน
ท่านกด อินเตอร์คอมเรียกเลขาให้ลงมาพบท่านที่นี่
“นงลักษณ์ ขับรถพาฉันไปห้าง ซื้อเสื้อผ้าให้เลขาท่านรองประธานหน่อย”
นงลักษณ์เลขาท่านไม่ใช่สาวหวาน แต่ออกทอมๆ ทั้งการแต่งตัว ด้วย เพิ่งจะมารู้ตอนหลังว่า
เป็นทั้งการ์ดที่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ท่าน
เมื่อมาถึงท่านก็สั่ง ให้พนักงานและเลขของท่าน พาไปลอง
เมื่อออกมาให้ท่านดูแล้ว ไม่มี ชุดไหนเลยที่ท่านบอกไม่สวย... เอา ..ชุดนี้ด้วย สองชุดนั่นอีก
เมื่อพี่นงลักษณ์เอาของไปเก็บที่รถ ท่านก็พาไปซื้อ รองเท้า กระเป๋าแบรนด์เนมทั้งนั้น
“คุณท่านขา มันแพงมากเลยนะคะ แล้วคุณท่านก็หมดเงินไปตั้งมาก ดิฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ
ถ้าการที่ดิฉันเข้ามาทำงานที่นี่แล้วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งหมดยังไม่พอยังเบียดเบียนเงินท่านอีก
ดิฉันว่าดิฉันไม่เหมาะกับงานนี้แล้วละคะ
“ใครบอกเธอว่าเป็นเงินฉัน เงินบริษัททั้งนั้น ฉันบอกเธอแล้วว่า เป็นสวัสดิการของบริษัท”
“แต่ว่าถึงจะเป็นเงินบริษัท ดิฉันก็ไม่ควรจะมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นๆ นะคะ งานก็ยังไม่ได้เริ่มทำเลย”
“เอาน่า อย่าคิดมาก ฉันรับเธอเข้าทำงาน เท่ากับว่าเธอคือคนในบริษัทฉัน
และฉันก็คือท่านประธาน เพราะฉะนั้น ฉันพูดคำไหนต้องคำนั้น ส่วนเจ้าพร้อมเจ้านายของเธอ
มันเป็นลูกฉันเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวมัน ไป ไปดูเครื่องสำอางกัน
เพราะงานเลขามันต้องเสริมบุคลิกเจ้านายนะ จะไปด้วยเครื่องแต่งกายธรรมดาๆ ได้ที่ไหนกัน”
เมื่อเจอแบบนี้ทำเอาเธอหน้าจ๋อยไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ถ้าเกรงใจฉัน เธอก็ต้องตั้งใจทำงาน ฉันชอบเธอ และจะส่งเสริมเรื่องงานเธอให้ดีที่สุดถ้าเธอไม่ดื้อและเชื่อฟังฉัน”
“นงลักษณ์เอาของไปเก็บอีกทีแล้วตามไปที่ร้านเดิมนะ”
“ค่ะท่านประธาน”
ท่านเดินนำเธอไปยังร้านอาหารญี่ปุ่น นั่งลงซิ แล้วดู อยากทานอะไรก็สั่งได้เลย
ไม่ต้องเกรงใจ เธอเพิ่งจะเจอฉันวันแรกก็จะมีเกร็งๆ ไปบ้าง เพราะตำแหน่งอันใหญ่โตโก้หรูของฉัน
แต่อีกสักพักเธอจะรู้จักฉันดีขึ้นว่าฉันนะ ไม่ใช่คนเรื่องมาก เจ้ายศเจ้าอย่าง เอาสั่งอาหารสิ อย่าให้ฉันต้องสั่งให้นะ”
“ค่ะคุณท่าน”
เปิดเมนูดูไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง นงลักษณ์กลับมา แล้วสั่งเป็นบ็อกเซ็ตสะเต็กหมูดำ
เธอจึงได้สั่งบ็อกเซ็ตแซลม่อนย่างทานจนเสร็จแล้วทั้งสามจึงมาที่รถ
“เอาละวันนี้ไปเตรียมตัวให้พร้อมในการทำงานวันพรุ่งนี้ บอกทางนงลักษณ์นะ ฉันจะไปส่ง”
เมื่อมาถึงปากซอยเธอจึงบอกให้นงลักษณ์หยุด
“อ้าว... จะหยุดทำไมละ ของมันเยอะ เดี๋ยวเข้าไปส่งให้จนถึงที่พัก”
“ขอบพระคุณ คุณท่านมากๆ นะคะ คือที่พักของรัตน์ ไม่เหมาะกับรถและคุณท่านจะเข้าไปหรอกค่ะ
เพราะมันเป็นห้องแถวเล็กๆ ในชุมชนค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้นคุณพรรณษาก็รู้สึกสงสารและเป็นห่วงเธออยู่ลึกๆ
“ไม่เป็นไร นี่คือคำสั่ง นงลักษณ์ เข้าไปส่งจนถึงห้อง”
เมื่อเจอแบบนี้ ทำเอาเธอเองก็ไม่กล้าขัด จนกระทั่งมาถึงห้องแถวที่เป็นปูน ไม่ได้ทาสี
มีห้องที่ติดกันเป็นห้องๆ ประตูไม้อัดดูเก่าๆ คนที่อยู่แถวนี้ เป็นคนที่ทำงานโรงงานและหาเช้ากินค่ำ
จะเรียกว่าสลัมก็คงไม่ผิด แล้วผู้หญิงสาว สวย มาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนี้ตัวคนเดียวมันจะปลอดภัยได้ยังไง
คุณพรรณษาก้าวลงจากรถตามทั้งสองที่หิ้วของพะรุงพะรังไป เมื่อเปิดห้องแล้วก็ยิ่งหดหู่ในใจ
ถึงแม้ด้านในจะสะอาดสะอ้าน แต่มันทั้งเล็กแคบและที่สำคัญมีแค่พัดลมตัวเดียว
เธอไม่พูดอะไรอีก ฉันไปก่อนนะหนู รัตน์ พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัท ปิดประตูให้ดี คุณพระคุ้มครองนะจ๊ะ
ท่านเอื้อมมือมาลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู ท่านก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รัก และสงสาร เด็กคนนี้เหลือเกิน
และที่แน่ๆ ฉันปล่อยแกอยู่แบบนี้ไม่ได้”
“แล้วคุณท่านจะทำยังไงละคะ”
คงต้องหาที่พักให้ คอนโดที่เธออยู่พอจะมีห้องว่างให้เช่าไหม?”
“น่าจะมีนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นพาฉันไปเดี๋ยวนี้เลย”
(จบตอนที่ 1 แล้วนะคะ รอพบกับตอนที่สองพรุ่งนี้ค่า)
ผลงานอื่นๆ ของ เพลินชีวา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เพลินชีวา
ความคิดเห็น