ฉันนี่แหละคนที่นายตามหา

เอลฟ์                                                        

   ในตำนานของชาวเยอรมัน เอลฟ์เป็นภูตขนาดเล็กที่มีพลังวิเศษในตนเป็นตัวแทนจิตวิญญาณแห่ง ผืนดิน ทะเล และป่า เอลฟ์ประเภทนี้มีนิสัยรักดนตรี และรักสันติ เอลฟ์บางพวกมีพลังด้านมืดซึ่งคอยกลั่นแกล้งมนุษย์ เช่น ทำให้ฝันร้าย

   ซึ่งฉันก็คือเอลฟ์ที่มีพลังแห่งการรักษาถ่ายทอดมาจากท่านทวดที่เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ ท่านย่าของฉันแต่งงานกับคุณปู่ที่เป็นคนบริสจึงย้ายมาอยู่ที่บริสและกลับไปที่เยอรมันเป็นครั้งคราว พวกเราเป็นเอลฟ์ที่ไม่ค่อยต่างจากมนุษย์

   หากพิจารณาทางชีววิทยาแล้ว เอลฟ์มีอยู่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น ความแตกต่างระหว่างเอลฟ์และมนุษย์อยู่ที่เรื่องของจิตวิญญาณ มากกว่าร่างกาย กล่าวได้ว่ามีหลายวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน

   เอลฟ์มีความสูงเฉลี่ยสูงกว่ามนุษย์ หูที่ยาวและประสาทรับการได้ยินของพวกเขาไวกว่ามนุษย์หลายเท่า ร่างกายที่ปราดเปรียวว่องไวเหมาะสำหรับอาศัยอยู่ในป่าที่มีต้นไม้ขึ้นสูง ถึงแม้จะมีรูปร่างคล้ายกันมาก แต่เอลฟ์ก็มีวัฒนธรรมที่ต่างจากมนุษย์ ทำให้ในสายตามนุษย์ ชาวเอลฟ์อาจจะดูหยิ่งและไม่สนใจใคร แต่ก็มีเอลฟ์จำนวนมากที่สามารถปรับตัวเช่นเดียวกับครอบครัวของฉัน

“แอชลี่ เก็บของเสร็จหรือยังลูก!”

เสียงของแม่ตะโกนมาจากหน้าประตูห้องนอนของฉัน

“เรียบร้อยค่ะแม่”

ฉันพูดจบพลางลากกระเป๋าออกจากห้อง

“พ่อกับแม่ไปส่งลูกไม่ได้นะ พ่อกับแม่ต้องไปเปิดร้านสาขาใหม่ของเรา”

“ไม่เป็นไรค่ะปิดเทอมก็ได้เจอกันแล้ว”

“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก เชื่อฟังคุณย่าด้วยนะอย่าดื้อ”

“รับทราบค่ะ”

“พ่อกับแม่รักลูกนะ”

“หนูก็รักพ่อกับแม่ค่ะ”

พอล่ำลาพ่อกับแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน ฉันขอพ่อกับแม่ย้ายไปเรียนที่ประเทศบริส ทั้งสองท่านก็เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของฉัน