ตอนที่ 12 : ประตูมิติเชื่อมโยงวิญญาณ โลกแห่งความสุขจอมปลอมของลัคกี้ กาย *complete*
ในโลกที่อยู่ห่างไกลออกไป ไกล แสนไกล.... มันเป็นโลกที่ไม่มีความโหดร้าย มันเป็นโลกที่ไม่มีอะไรเลย ทะเลที่แห้งเหือด มีเพียงทรายสีขาวที่แห้งแล้ง และคฤหาสน์สีขาวล้วนตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางทะเลทราย
มันช่างเป็นโลกที่เงียบเหงาเสียจริง
"พี่อันนนน!!"
แต่ก็ไม่ได้เงียบไปซะทีเดียว ในคฤหาสน์หลังนั้น ยังมีอีกสองชีวิตที่อาศัยอยู่กันอย่างเงียบสงบ สองพี่น้องลึกลับที่ไม่เปิดเผยแม้กระทั่งชื่อของตนเอง บัดนี้ พวกเขาได้หลุดพ้นจากคำสาป กลับกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีดวงตากระดุมอีกต่อไป ร่างกายก็ไม่ใช่ตุ๊กตาขาดๆ อีกทั้งยังไม่ต้องมานั่งระแวงหลังว่าจะมีใครมาทำร้าย
"ว่าไงลัคกี้?"
ฝ่ายถูกเรียกขานรับด้วยน้ำเสียงสดใส อันลัคกี้กาย กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นอันเงียบสงบ ก่อนที่เจ้าน้องชายตัวแสบจะโผเข้ามากอดเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
"น้องหิวแล้วง่า...ทำไรให้กินหน่อยจิ"
อีกมุมหนึ่งของลัคกี้ กาย ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน มันเป็นด้านที่มีเพียงคนสำคัญจริงๆ เท่านั้นที่จะได้เห็นมัน ความจริงแล้วลัคกี้นั้นเป็นคนที่อ้อนเก่งเอาการ แต่เขาไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็นเลยเสียมากกว่า จะมีแต่พี่ชายของเขาเท่านั้นที่ได้เห็นด้านนี้
"อืมมม..น้องอยากกินอะไรล่ะ?"
ฝ่ายถูกอ้อนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ความสุขเล็กๆของสองพี่น้องนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกิน แต่ทว่าลัคกี้นั้นกลับไม่รู้ตัวเลยว่าอีกไม่นาน ความสุขเล็กๆของเขานี้กำลังจะหายไป และเขาจะถูกดึงกลับไปยังโลกที่แสนโหดร้ายดังเดิม
"เคยได้ยิน ประตูมิติเชื่อมโยงวิญญาณ ไหมล่ะ??"
หลังจากการปรากฎตัวของผู้อยู่เบื้องหลัง ทุกๆคนต่างมารวมตัวกันอยู่ในอีกเขตหนึ่งของห้องสมุด มันเป็นห้องสมุดที่มีข้อมูลทุกๆอย่างเกี่ยวกับเซอร์ไวเวิลและฮันเตอร์ เป็นข้อมูลแบบเจาะลึกสุดๆ เลยก็ว่าได้ และในนั้นยังระบุวิธีอัพเกรดความสามารถ และการซ่อมแซมไอเทมที่พังไว้ด้วยเช่นกัน
มิส ไนติงเกลเอ่ยปากจะซ่อมกุญแจมิติของฟิโอน่าให้ และอัพเกรดความสามารถในการเปิดประตูมิติเชื่อมโยงกับวิญญาณ หรือที่เรียกว่าการโทรจิต แต่ต้องแลกกับการถูกเนิฟความสามารถติดตัวบางอย่างไปเช่นกัน
การเปิดห้องสมุดแห่งนี้ต้องใช้แต้มสะสมทั้งหมดที่เล่นมาเป็นจำนวนมาก เซอร์ไวเวิลกับฮันเตอร์จึงต้องเอาแต้มทั้งหมดมารวมกันถึงจะมากพอที่จะเปิดห้องสมุดแห่งนี้ได้ แต่ก็นับว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าอยู่พอสมควร
วูบบบบบบบบบบ!!
พิธีอัพความสามารถของฟิโอน่าได้เริ่มขึ้น ตอนนี้พวกเขาเหลือเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ความกดดันเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่เริ่มเหลือน้อยลง ผู้อยู่เบื้องหลังบอกไว้ว่า ถ้าไปช่วยลัคกี้ กาย ออกมาจากโลกหลังความตายไม่ทัน วิญญาณและจิตเชื่อมต่อกับร่างทั้งหมดจะถูกตัดขาด และเขาก็จะตายอย่างสมบูรณ์ ซึ่งโจ๊กเกอร์ไม่มีวันยอมให้มันเป็นแบบนั้น
ในคราวของอันลัคกี้ กาย ดูเหมือนว่าเบ็นจะพาเขากลับมาไม่ทัน ร่างกายของเขาจึงตัดการเชื่อมต่อกับวิญญาณทั้งหมด และตายลงโดยสมบูรณ์
ไม่นานนักพิธีก็เสร็จเรียบร้อย ประตูมิติของฟิโอน่าถูกติดตั้งลงบนพื้น คราวนี้มันแตกต่างจากที่เธอเคยใช้นิดหน่อย ประตูมิติของเธอมีออร่าสีฟ้าสว่างวูบวาบไปมา อีกทั้งยังมีแรงดูดอ่อนๆ อยู่รอบๆ ประตูมิติ ทุกคนพร้อมใจกันเปิดทางให้สไมล์ลี่ย์เฟซในทันที
ตึก...ตึก...ตึก.....
ตัวตลกนักฆ่าค่อยๆ เดินเข้าไปหาประตูมิติที่กำลังส่องแสงสีฟ้าวูบวาบไปมา พร้อมกับความหวังในจิตใจที่จะพาคนรักของตนกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง ฝ่ามือที่เป็นเพียงชุดมาสคอตค่อยๆ ยื่นไปด้านหน้า ก่อนที่ทุกๆอย่างจะกลายเป็นสีขาวโพลน
วาบบบบบบบบบบบบบบบ!!!
"ขอให้โชคดี...."
สิ้นเสียงคำอวยพรของมิสไนติงเกล ทุกๆอย่างได้ดับลงไปในที่สุด...
ร่างกายเปล่าไร้วิญญาณยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง จากที่เคยมีสีกลับค่อยๆซีดลงจนใกล้เคียงกับคำว่าสีเทา ลมเย็นๆพัดหวิวเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ดวงจันทร์ทอแสงสีขาวนวลที่ให้ความรู้สึกเงียบเหงาและว่างเปล่า หากกายเนื้อในโลกแห่งความเป็นจริงเริ่มซีดลง ณ โลกหลังความตาย วิญญาณที่เป็นเจ้าของร่างนี้จะเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
"ปล่อยข้าออกไป!!!"
แต่ภายในห้องพักผู้ป่วยก็ไม่ได้เงียบเหงาอะไรมากมาย เสียงโหลแก้วใบใหญ่ที่ขยับดังกึกกักอยู่ในห้องนั้น หากใครที่เดินเข้ามาก็ต้องมีตกใจกันบ้าง เพราะสิ่งที่อยู่ในโหลแก้วนั้นคือวิญญาณในรูปแบบควันสีดำ ดวงตาสีอำพันสวยหากแต่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธที่ไม่สามารถออกไปจากโหลแก้วผนึกวิญญาณของผู้อยู่เบื้องหลังได้
"ปล่อยข้าออกไป!!! ข้าจะไปหาฟิโอน่าของข้าาาา!!!"
แต่อนิจจัง ไม่มีใครเข้ามาในนี้เลยแม้แต่คนเดียว ปีศาจในโหลแก้วนั้นทำได้เพียงกรีดร้องต่อไป ท่ามกลางความเงียบงันในห้องนี้....
ยามเมื่อเท้าสัมผัสกับผืนทรายที่แห้งแล้ง แสงแดดอันเจิดจ้าที่ทำให้ฆาตกรอย่างเขาที่ไม่ได้เจอแดดมานานแรมปีแสบตาอย่างรุนแรง แต่ไม่นาน เขาก็ปรับสภาพได้ มองสำรวจบริเวณรอบๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความแห้งแล้งและความว่างเปล่า
ตึก...ตึก...ตึก...ตึก.....
เมื่อไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาคนได้จากที่ไหน โจ๊กเกอร์จึงตัดสินใจเดินไปมั่วๆ เผื่อหวังว่าจะเจอกับอะไรบางอย่าง หรือเบาะแสอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับคนรักของเขาที่เข้ามาอยู่ในโลกหลังความตายนี้
ความแห้งแล้งนั้นทำให้เขาเริ่มท้อ มันไม่มีอะไรเลยแม้แต่น้อย เดินไปทางไหนก็เจอแต่หาดทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองถูกส่งมาถูกที่หรือเปล่า หรือบางที เวลาของลัคกี้อาจจะหมดแล้วจริงๆ
แต่ในขณะนั้นเอง....
โจ๊กเกอร์สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เมื่อลองเพ่งดูดีๆ เขาก็พบกับคฤหาสน์สีขาวหลังโตที่ตั้งอยู่ลิบๆ และเพื่อความแน่ใจ เขาจึงเปิดใช้สกิลของตัวเองพุ่งไปยังทิศทางนั้นทันทีโดยไม่ลังเล ใจของเขาเริ่มมีหวังมากขึ้น เมื่อคฤหาสน์ตรงหน้าเขาไม่ใช่ภาพลวงตา มันชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ตึงๆๆๆๆๆๆ!!!!
และแน่นอน คนที่แอบมองอยู่ด้านในนั้นถึงกับตกตะลึง ความหวาดกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจของตนเอง คนที่พรากคนสำคัญของตนไป และจะมาพรากความสุขครั้งที่สองของตนไป เขาต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อหยุดเรื่องพวกนี้
ถ้าจะให้ลงไปปิดประตูล็อกกลอนคงไม่ทันแล้วแน่นอน เพราะความเร็วในการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายนั้นเร็วมากจนน่ากลัว ลัคกี้พยายามหาอาวุธอะไรก็ได้มาป้องกันตนเอง ส่วนพี่ชายของเขานั้นกำลังทำอาหารให้เขาทานอยู่ในครัว เขาต้องทำทุกวิธีเพื่อปกป้องพี่ชายของตนเอง ไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนคราวที่แล้ว
"ลัคกี้!"
น้ำเสียงทุ้มพยายามเอ่ยเรียกชื่อของเขาซ้ำไปซ้ำมา แต่มีหรือที่เขาจะยอมออกไปหาคนที่ทำลายชีวิตพี่ชายของเขา...
50%
อันลัคกี้กายสัมผัสได้ถึงความผิดปกติมาพักนึงแล้ว แต่การที่เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารไม่ใช่ว่าเขาปล่อยปะละเลยเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกข้างหน้า แต่เขากำลังวางแผนบางอย่างในหัวอยู่ ซึ่งบางที ลัคกี้ กาย น้องชายของเขาอาจจะไม่ชอบก็ได้
อันลัคกี้เชื่อว่าน้องชายของตัวเองไม่ได้ถูกฆ่าตาย การมาเยือนที่คฤหาสน์สีขาวของเขานั้น ลัคกี้มาในรูปแบบที่เรียกได้ว่าโปร่งใสราวกับวิญญาณ แต่เมื่อเริ่มอยู่ไปได้พักหนึ่ง วิญญาณของเขาก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จากแรกๆที่โปร่งใสไม่สามารถแตะต้องได้ กายของเขาได้เริ่มชัดขึ้น และสามารถจับต้องได้ภายในเวลาอันีวดเร็ว
บางที...น้องของเขาอาจจะทำเรื่องบ้าๆ อยู่ จนกระทั่งหลุดมาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาจึงพยายามที่จะหาทางส่งน้องตัวเองกลับไป แต่ทว่าลัคกี้ก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ในฐานะพี่ชายเขายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้น้องของตัวเองตาย และมาอยู่กับเขาในโลกอันแสนอ้างว้างอันเป็นนิรันดร์แบบนี้ไม่ได้ เขาคือวิญญาณที่ถูกตัดขาดจากกายตุ๊กตาในเกมส์บ้าๆ เป็นวิญญาณที่เร่ร่อนอยู่ในที่แห่งนี้มานานมากแล้ว
การพังประตูเข้ามาเป็นวิถีปกติของคนอย่างเขา ไม่มีทางที่สไมล์ลี่ย์เฟซจะยอมยืนรอให้เจ้าบ้านมาเปิดประตูให้ ความรู้สึกแรกที่เขาเหยียบเข้ามาคือความรู้สึกสว่างจ้าและสะอาดบริสุทธิ์เสียจนเขารู้สึกแสบตา บางที มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฆาตกรที่จะทำความคุ้นชินกับสิ่งตรงกันข้าม
"คงต้องใช้กำลัง"
อาจดูเหมือนคนไม่มีสมอง แต่นี่คือวิธีเดียวที่ใช้ได้ผลที่สุดกับคนหัวรั้นอย่างลัคกี้ กาย ต่อให้มันจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ต้องทำ เขาจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับคนรักอีกครั้ง
ปั้งงงง!!!!
ปืนยิงพลุอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เขม่าควันแดงๆที่ระเบิดตู้มต่อหน้าสไมล์ลี่ย์เฟซ ทำให้เขาเริ่มหงุดหงิด ขนาดที่นี่ยังมีปืนยิงพลุที่เหล่าฆาตกรเกลียด เขาละอยากจะถล่มที่นี่ทิ้งให้ราบเป็นน่ากลองเสียจริง
ฟู่..ฟู่....
สะเก็ดไฟจากปืนยิงพลุได้เริ่มไหม้ลุกลามบนผืนพรม ก่อนจะเริ่มลามมายังข้าวของอย่างรวดเร็ว ลัคกี้กายที่ยืนตั้งหลักอยู่ไกลพอสมควร เมื่อเห็นสไมล์ลี่ย์เฟซยืนอยู่ท่ามกลางกองไฟก็ตกใจไม่น้อย ในใจของเขาหวาดกลัวที่จะทำคนตาย แต่เขาก็ลังเลที่จะเข้าไปช่วยอีกฝ่าย
โจ๊กเกอร์ที่เห็นความลังเลในสายตาของลัคกี้ก็พอเดาออก เจ้าตัวจึงเริ่มแสดงบทละครถูกไฟไหม้ทันที เสียงกรีดร้องที่เขาเลียนแบบเหยื่อที่เคยถูกเขาฆ่านั้นมันช่างเหมือนจริง เหมือนจนลัคกี้เกือบจะติดกับดักของเขา
'ไม่..ไม่....นั่นมันกับดัก!!'
ดวงตาสีส้มภายใต้หน้ากากเห็นลัคกี้สะบัดหัวไปมา พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยสายตารู้ทัน โจ๊กเกอร์จึงจำเป็นต้องหยุดการแสดงเพียงเท่านี้ ริมฝีปากภายใต้หน้ากากแสยะยิ้ม ก่อนจะปรับแต่งจรวดของตัวเองและพุ่งมาทางลัคกี้อย่างรวดเร็ว
ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!
เสียงวิ่งนี้ทำให้ใจของลัคกี้เต้นระรัวเหมือนกับตอนลงสนาม สัญชาติญาณการเอาตัวรอดบอกให้เขากระโดดฉีกไปอีกทางด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างของเขาเกือบชนเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และจรวดได้ถากลงไปที่น่องของเขาจนเลือดไหลซิบ ความเจ็บปวดที่ลัคกี้ไม่ได้สัมผัสมานาน ทำให้เจ้าตัวเริ่มเกิดอาการหวาดกลัว
"ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาดวยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องเอาด้วยกำลัง!!"
โครมมมมม!!!
เขาจงใจเอาจรวดทุบไปยังพื้นข้างที่ลัคกี้นอนอยู่ เขาไม่อยากทำร้ายอีกฝ่ายไปมากกว่านี้แล้ว และการต่อสู้ในครั้งนี้ โจ๊กเกอร์ภาวนาขาให้มันเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะทำมัน และถ้าหากเรื่องราวกลับมาสงบเหมือนเดิม เขาก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับอีกฝ่ายอีก เขาจะดูอยู่เงียบๆตรงนี้
การต่อสู้ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ในขณะที่เวลาชีวิตของลัคกี้กำลังร่อยหรอลง...
ในห้องพักผู้ป่วย หนึ่งร่างไร้วิญญาณ กับปีศาจร้ายอีกหนึ่งตนที่กำลังกรีดร้องหาทางออก แต่ทว่าจู่ๆมันก็เงียบไป เพียงเพราะมีเสียงบางอย่างดังออกมาจากนอกห้อง มันดังมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ....จนกระทั่งประตูห้องได้เปิดออก เผยให้เห็นผู้มาเยือนใหม่ ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มแสยะ
"แกนี่มัน...ตัววุ่นวายจริงๆ เลยน้าาา~"
สิ่งที่น่ากลัวกว่าปีศาจ คือชายที่กำลังยืนจ้องปีศาจดวงตาสีอำพันในโหลแก้ว ไม่แม้แต่ชายตามองร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
"ถ้าฉันเสียเจ้านี่ไป...ฟิโอน่าของแกก็จะถูกทำลายน้า~"
น้ำเสียงนั้นช่างน่าขนลุก โชคร้ายที่เงานั้นได้บดบังผู้มาเยือนจนมองไม่เห็นใบหน้า แต่น่าแปลก ที่รอยยิ้มแสยะแสนชั่วร้ายนั่น กลับเปล่งประกายชัดแจ๋วในความมืด
"ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่ว่าอะไรเลย...แหม่..นายเกือบทำภรรยาฉันโกรธนะรู้มั้ย~"
เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ เขาก็เดินออกไปนอกห้อง ทิ้งไว้เพียงความเงียบงัน ความหน้าขนลุกและความงงงวยไว้ในห้องนี้ ทุกๆอย่างนั้น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
บัดนี้ จากคฤหาสน์สีขาวที่แสนสงบสุขได้ลุกเป็นเพลิง การต่อสู้กันระหว่างโจ๊กเกอร์กับลัคกี้กำลังดำเนินไป อันที่จริงลัคกี้นั้นพยายามหนีเสียมากกว่า โดยมีโจ๊กเกอร์พยายามที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
ปั้งงงงง!!!!
แฟลร์กันได้ถูกยิงใส่โจ๊กเกอร์เป็นรอบที่สอง การปรากฎตัวของอันลัคกี้ไม่ได้ทำให้โจ๊กเกอร์เบาลงเลยแม้แต่น้อย เขาเพิ่มความกระหายเลือด และความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งลัคกี้พลาดท่าเข้ามุมตัน
"ออกไปนะ!!"
สิ่งที่พอจะเป็นอาวุธให้กับเขาได้คือดาบที่ตกแต่งอยู่ภายในคฤหาสน์ ดวงตาสีฟ้าใสนั้นแน่วแน่บ่งบอกว่าจะทำมันจริงๆ ถ้าโจ๊กเกอร์เข้ามาใกล้อีกก้าวเดียว ฝ่ายไล่ต้อนจึงทำได้แค่ยืนอยู่ห่างๆ ประมาณ 5 เมตร ดวงตาสีส้มภายใต้หน้ากากจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าใสที่มีแต่ความดื้อรั้น
"นายควรกลับ..ลัคกี้!"
นี่คงเป็นการพูดแบบประณีประนอมมากที่สุดเท่าที่โจ๊กเกอร์จะทำได้ แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมแค่ประโยคเดียว
"ฉันไม่กลับไปอีกแล้ว!!! ฉันพร้อมที่จะตาย! และอยู่ที่นี่!!!"
"แต่เวลาชีวิตของนายยังไม่ถึงฆาต!!"
"ฉันไม่สน!!!"
คำพูดของเขาทำให้โจ๊กเกอร์เริ่มรู้สึกหน่วง ความรู้สึกผิดในอดีตค่อยๆชัดเจนขึ้นอีกครั้ง วันนั้นที่เขาทำพลาด ใช่ว่าจะมีแค่ลัคกี้คนเดียวที่เจ็บ เบนก็เจ็บเช่นกัน มันเป็นความผิดพลาดที่เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ทุกวันนี้เขาได้ความช่วยเหลือจากริปเปอร์ ไม่ให้โดนเบนฆ่า
"ขอโทษ...."
มันอาจจะฟังดูเป็นคำขอโทษแบบห้วนๆ แต่ทว่าถ้าไม่สังเกตุดีๆ ในคำขอโทษนั้นมีความรู้สึกผิดมากมายซ่อนอยู่ ความรู้สึกผิดต่อเพื่อน ต่อคนรัก ต่ออีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร
"........"
ไม่มีคำพูดออกมาจากใคร ทุกๆอย่างเงียบสนิท มีเพียงเสียงเพลิงที่ลุกโหมกระหน่ำ สภาพแวดล้อมรอบกายเริ่มเปลี่ยนไป ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต ทรายขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นผืนดินที่แตกระแหง
สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนไป ก็เพราะความจริงที่ว่าลัคกี้กายพยายามจะจบชีวิตของตัวเอง โดยการยกร่างให้กับปีศาจ แล้วพาวิญญาณของตัวเองมาอยู่ที่นี่
"ลัคกี้...นี่นาย...ทำอะไรกับตัวนายกันแน่!!?"
นี่มันไม่ถูกต้อง อันลัคกี้ไม่คิดว่าน้องชายของตัวเองได้ทำสัญญายกร่างให้กับปีศาจ และจะเอาตัวเองมาขังไว้ที่นี่ เพื่ออยู่กับเขา ตลอดไป แต่ดูเหมือนว่าสัญญาจะเกิดข้อผิดพลาด ปีศาจกำลังจะมาทวงคำสัญญาคืน
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
ไม่มีอะไรดีทั้งนั้นหากทำสัญญากับปีศาจหรือซาตาน สิ่งชั่วร้ายไม่เคยนำพาความสุขอย่างแท้จริงและยั่งยืนมาให้ มีแต่จะพาลงนรกหุบเหวมากยิ่งกว่าเดิม และอีกอย่าง การทำสัญญากับปีศาจนั้นเป็นอะไรที่บาปอย่างหนักถึงหนักที่สุด นั่นหมายถึงเรายอมจำนนต่อความมืด และหันหน้าหนีจากแสงสว่าง
"ฉันจะไม่กลับ! ไม่กลับไปอีกแล้ว...ฉัน..ฉันยกร่างนั้นให้มันไปแล้ว!!!"
ลัคกี้กุมหัวตัวเองพลางตะโกนซ้ำไปซ้ำมาราวกับคนเสียสติ นั่นทำให้ผู้เป็นพี่ชายเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง
ยกร่างให้ไปแล้ว?
"มันหมายความว่าไง!!? นายยกร่างให้ใครไป!? ลัคกี้!!!??"
โจ๊กเกอร์ตะโกนถามกลับด้วยความร้อนรุ่มใจเขาก็ร้อนรนไม่ต่างจากอันลัคกี้เช่นกัน เขาก็รู้ในสิ่งที่อันลัคกี้รู้ การทำสัญญากับปีศาจ
"นี่มันจะครบกำหนดแล้วนะ!!"
เอมิลี่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นกังวล โจ๊กเกอร์ก็ยังไม่กลับมา ร่างที่นอนแน่นิ่งก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลยซักคราเดียว หนำซ้ำยังใกล้เคียงกับคำว่าศพมากขึ้นเรื่อยๆ คนอื่นๆ ในตอนนี้ก็มารวมตัวกันอยู่ในห้องพยาบาล เพราะมันกำลังจะครบกำหนดสามชั่วโมงแล้ว
"เจ้าตัวตลกนั่นมัวแต่ทำอะไรอยู่นะ!?"
แจ็คพึมพำออกมาพลางเอามือกุมขมับ คราวที่แล้วอันลัคกี้ก็ถูกฆ่าและพากลับมาไม่ทัน แล้วทีนี้ลัคกี้ก็กำลังจะตามไปอีกคน เผลอๆ โจ๊กเกอร์อาจจะพ่วงตามไปด้วย เพราะเจ้าตัวดันเล่นไปทั้งวิญญาณและกายหยาบ ผู้อยู่เบื้องหลังก็พึ่งมาเตือนในตอนที่โจ๊กเกอร์ก้าวผ่านประตูมิติไปแล้ว
'ถ้าหากครบสามชั่วโมงแล้ว...ลัคกี้กายยังไม่กลับมา...นั่นก็หมายถึงโจ๊กเกอร์ก็จะถูกขังอยู่ในนั้นชั่วนิรันดร์...'
ในขณะที่ทุกๆคนกำลังเป็นกังวล จู่ๆได้มีบางสิ่งบางอย่างถูกผ่าออกท่ามกลางความว่างเปล่า ไอสีดำแผ่ยะเยือกออกมา พร้อมกับบางสิ่งขนาดเท่าตัวมนุษย์กระเด็นออกมาจากช่องนั้น....
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ม่ายยยยนะลักกี้~ผัวมาตามกลับบ้านทำไมไม่กลับ¡¡¡¡¡//โดนจรวดพุ่งใส่หน้า
มาแล้ววววววววว ในที่สุดก็มา //ล้องหั้ยยยยย
งั้นเราจะรอไรท์กลับมานะค๊าาาาา เป็นกำลังใจให้นะ
จะรอต่อไปน่อ สู้ๆนะ
ปล.ขอให้ไปได้สวย:)