ตามล่าไข่มุกดำ ราชันหมาป่า - นิยาย ตามล่าไข่มุกดำ ราชันหมาป่า : Dek-D.com - Writer
×

    ตามล่าไข่มุกดำ ราชันหมาป่า

    หากคนรัก กับครอบครัว ตกน้ำ พวกเจ้าจะช่วยผู้ใด? ทั้งสองต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ แย่แล้ว ข้อนี้ข้าไม่ได้ท่องมา หลิวเฟย และไห่เฉียงต่างมองหน้ากัน

    ผู้เข้าชมรวม

    269

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    269

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  20 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.ค. 67 / 10:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 1 เวลา

    สิบแปดปี ผ่านไป 

    “ นับตั้งแต่ที่ข้าจำความได้  ข้าก็พเนจรไปทั่ว ไม่มีที่พักเป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่เคยได้กินอิ่ม หรือนอนหลับสบายเหมือนคนอื่น” สาวน้อยหน้าตาแสนสวย ร่างสูง ระหงส์ ผมดำขลับ ผิวขาว นามว่า “หลิวเฟย  ” 

    “ ข้าอยากมีบ้าน มีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วอบอุ่น มีพ่อแม่เหมือนคนอื่นเขา ทำไมชีวิตของข้าถึงได้เป็นเยี่ยงนี้ ข้าได้แต่เก็บของกินตามท้องถนนที่คนทิ้งขว้าง มากินเพื่อประทังชีวิตของข้าไปวันๆนึงเท่านั้น กระทั่งวันนึงก็ได้เจอกับท่านเซียน นามว่าถูเฟิงได้มาช่วยชีวิตข้าไว้ “ ข้าเรียกท่านว่าอาจารย์ ”   ท่านอาจารย์ได้บอกข้าว่านับจากนี้ไป ภูเขา หมิงชวน คือบ้านของข้า ”

    “ เจ้าเป็นเด็กที่ลำบากยากแค้นมามาก ต้องต่อสู้ตัวคนเดียวมาตลอด เจ้าจงตั้งใจฝึกวิชาและปฏิบัติตน หมั่นเรียนรู้วิชากระบี่ ฝึกบำเพ็ญตนเพื่อจะได้มีญาณวิเศษ และวิชา ต่างๆ ติดตัวเจ้าต่อไป ”

    ภูเขา หมิงชวนแห่งนี้ช่างดูสูงเสียดฟ้า มีหน้าผาที่สูงชัน สุดขอบฟ้าสุดสายตาปกคลุมไปด้วยเมฆที่หนา ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ศิษย์สำนักตู้ฟางทั้งหลายได้มาปฏิบัติและเรียนรู้พร้อมกัน

    “จิตใจแน่วแน่   ขจัดอุปสรรค รักษาคุณธรรม ”  นี่คือทำปฏิญาณตน

                    เหมยเอ๋อร์ศิษย์พี่ของสำนักตู้ฟาง ตะโกนดังขึ้นมา ! “ การทดสอบจะเริ่มขึ้นแล้ว ทำไมเจ้าไม่ตั้งใจฝึกอีก หลิวเฟย ”

    “ ศิษย์พี่ เหมยเอ๋อร์ ข้าเหนื่อยมาก แล้วก็ง่วงด้วย หิวด้วยให้ข้าได้พักหน่อยนะ ศิษย์พี่ ”

    “ เจ้าจะพักได้อย่างไรกัน ในเมื่อทุกคนที่ฝึกมาพร้อมเจ้า ต่างก็ต้องอดทน เรื่องแค่นี้ทำไมเจ้าถึงไม่อดทนเหมือนคนอื่น เจ้าขึ้นเขาหมิงชวนมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว นอกจากวิชาพื้นฐานทั่วไปแล้ว เจ้ายังจะทำอะไรได้อีก แม้แต่ญาณวิเศษใดๆ อันน้อยนิดก็ยังไม่มี ดวงตาเจ้าก็ช่างแปลกประหลาดไม่หมือนผู้ใด แถมจะยังมาทำตัวแปลกประหลาดกว่าคนอีกเข้าไปอีก ดูสิ!  กะอิแค่ดาวเลื่อนตำแหน่งประจำตัวเจ้าเองก็มีแค่ดวงเดียว เซียนคนอื่น มีห้าดวงหมดแล้ว ” !

    “ ศิษย์พี่อย่าไปว่านางเลย ไม่แปลกหรอกขนาดไอเซียนธรรมดาทั่วไปนางยังไม่มี แล้วจะมีวิชาอะไรไปสู้กับคนอื่นเขาได้ ”

    “ ใช่ ๆ ” ศิษย์คนอื่นต่างพร้อมเพรียงกันพูดออกมา 

    ทันใดนั้น!!

    “ ไหนใครบอกว่าข้าทำอะไรไม่ได้เลย นี่คือกระบี่ของเจ้าใช่หรือไม่ ” ? หลิวเฟย ดึงกระบี่ออกมา แล้วกระโดดขึ้นไปยืนบนกระบี่ด้วยวิชาตัวเบา

    “ แม้ว่าข้าจะไม่มีไอเซียน แต่ข้าก็สามารถทำได้มากกว่าพวกเจ้าก็แล้วกัน ” 

    หลิวเฟยเหาะออกไปจากภูเขาหมิงชวน

    ณ หอคอยขังปีศาจ

    เปรี๊ยะ!! โอ๊ย!

    “ เจ้าหลิวเฟย ขี้ขโมย เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ” ?    ปีศาจหมู ปีศาจเสือดำ โวยวายขึ้น

    “ ข้าหิว ” 

    “ ก็นี่ไงเอาไปสิหมั่นโถวของเจ้า กินเสร็จแล้วก็ไปซะ ” เหล่าเพื่อนปีศาจของหลิวเฟย ได้ดูแลนางมาตลอด 

    ทันใดนั้น! หัวหน้าสำนักตู้ฟาง ได้เข้ามายังหอคอยขังปีศาจ

    “ แย่แล้ว ” หญิงสาวได้แอบหลบหลังปีศาจเสือดำ 

    “ เจ้าพวกไร้ประโยชน์ !  วันนี้ข้าได้จับปีศาจจิ้งจอกมา พวกเจ้าบอกข้ามาว่านางจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ หัวหน้าของพวกเจ้าไปหลบอยู่ที่ไหน ” ?

    “ พวกข้าไม่รู้ ๆ ”

     “ ถ้าพวกเจ้าไม่บอก ข้าก็จะเฆี่ยนพวกเจ้าให้ตายตรงนี้  ตีมันให้ตาย ” 

                    จัดการ !

    หลิวเฟยเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ตกใจ ถึงกับตัวสั่น 

    “ พวกข้าไม่รู้จริงๆ เจ้าสำนักตู้ฟาง อย่าตีพวกข้าเลยนะ ฮือ ๆ โอ๊ย! เจ็บเหลือเกิน ”

    “ ท่านโปรดหยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคะ  ท่านอา ! ท่านอย่าทำแบบนี้เลย ข้าข้อร้องเถอะ ถ้าทำแบบนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนะเจ้าค่ะ ”

    เจิ้งหัว หัวหน้าเจ้าสำนักตู้ฟาง ได้หันไปตามเสียงที่เอ่ยออกมา

     “ หลิวเฟย ทำไมเจ้าถึงได้มาในที่แห่งนี้ได้ เจ้ากล้ามากนะที่แอบลอบเข้ามาในหอคอยขังปีศาจ เจ้ารู้หรือไม่ว่า ความผิดฐานลักลอบเข้ามาเป็นเช่นไร ดีละ วันนี้ข้าจะจัดการให้หมดทุกคน  ” เจิ้งหัวคลี่ยิ้มมุมปาก  ฮึ !!ในลำคอ

    “ เจ้าเป็นใครหลิวเฟย ถึงกล้ามาห้ามข้า ตัวเจ้าเองยังเอาตัวเองไม่รอด อย่าริมาขวางทางข้า แล้วยังกล้าเข้าข้างพวกมันอีกรึ ” ?

    “ พวกปีศาจเหล่านี้มีความผิดอันใดถึงต้องลงโทษ ”

    “ พวกมันเป็นพวกปีศาจชั้นต่ำอย่างไรละ !  อย่าว่าแต่ใช้ไม้ตีพวกมัน ต่อให้ข้าฆ่าพวกมัน ข้าก็ทำได้ บนภูเขาแห่งนี้ไม่มีผู้ใดกล้ามาขัดขวางข้า แล้วเจ้าเป็นใคร  ถึงได้กล้ามาต่อว่าข้า ต่อหน้าพวกเหล่าปีศาจทั้งหลายพวกนี้ ” !

    “ ท่านอาเจ้าคะ สิ่งที่ท่านอาทำอยู่มันไม่ถูกต้อง ถ้าท่านอาจารย์ได้รับรู้เรื่องนี้ขึ้นมาละเจ้าคะ ” ?

    “ สำนักตู้ฟางฆ่าปีศาจ ไม่ใช่เรื่องของเจ้าที่มาตัดสินข้า ถอยไป ” !

                    อ๊ากก!!

     โอ้ย !! 

                    “ ช่วยพวกข้าด้วย ทรมานเหลือเกินแล้ว ”

                    อึก!  ปีศาจหมูได้สิ้นใจลงไป ต่อหน้าหลิวเฟย 

    “ ท่านกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร ท่านใจร้าย ฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไรกัน ” 

     “ กับพวกปีศาจ ยังกล้ามาพูด คำว่าบริสุทธิ์ได้อีกหรือ ” !!

    หลิวเฟยเบิกตาโตด้วยความหวาดกลัวและสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ นัยน์ตาแดงกล่ำทวีคูณ เหมือนเพลิงที่กำลังจะแผดเผาสิ่งตรงหน้าให้สิ้นซาก

    “ ต่อไปนี้ปีศาจที่ข้าจะฆ่า คือเจ้าปีศาจเสือดำ ”

     ย๊ากก !!!

    หลิวเฟย ดึงเจ้าปีศาจเสือดำให้มาหลบหลังตน เจิ้งหัวเจ้าสำนักตู้ฟาง ก็ได้ดึงกระบี่สังหารปีศาจออกมา เจ้าปีศาจทั้งหลายถึงกับตกใจกลัว ตัวสั่น หลิวเฟย ได้ใช้ตัวเองเป็นเกาะกำบังให้พวกเพื่อนปีศาจของตน ไม่ให้โดนกระบี่ของเจ้าสำนักตู้ฟาง 

    และแล้ว...หลิวเฟย ก็ได้ล้มลงจากการโดนกระบี่ของเจ้าสำนัก แววตาของหญิงสาวได้จ้องมองมายังเจิ้งหัว ด้วยความดุดัน และนิ่งเงียบ ไฟที่กำลังถาโถมหนักอยู่ในอกตอนนี้มันได้คุกรุ่นเต็มที่แล้ว พลันได้มีแสงแปลกประหลาดโผล่ออกมา จากตัวของหญิงสาว มันช่างดูหน้ากลัวเหลือเกิน เจ้าสำนักตู้ฟาง ตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เหตุใดหลิวเฟย จึงเป็นเช่นนี้ ทั้งสองได้ต่อสู้กัน จนกระทั้งพลังอำนาจของหลิวเฟยได้ออกมาโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวได้ผลักกระบี่ของเจ้าสำนักออกไป พลังมหาศาลเกิดขึ้นมา โดยที่หญิงสาวไม่สามารถควบคุมมันได้ พลังและแสงประหลาดได้กระจายไปทั่วหอคอยกักขังปีศาจ สั่นสะเทือนออกไปทั่วหล้า และพิภพ จนไปถึง…“แม่น้ำฉิงฉาง” อันกว้างใหญ่

    ณ กลางแม่น้ำฉิงฉาง ได้มีหนุ่มรูปงามนอนล่องลอยอยู่ในแพกลางกระแสน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดหมาย 

    ชายหนุ่มหยุดชะงัก ! และสัมผัสได้ว่ามีไอประหลาดเกิดขึ้นลอยคละคลุ้งไปทั่วแม่น้ำ ชายหนุ่มสามารถรับรู้ถึงไอมารที่แผ่ซ่านออกมา พลังมารที่รู้สึกคุ้นเคยแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง นัยน์ตาสีเขียวของชายหนุ่มก็เปล่งประกายออกมาเมื่อสัมผัสกับไอมารนั้น ... 

    ทุกคนล้มระเนระนาดกลางหอคอยปีศาจ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของสาวน้อยหลิวเฟย

     “ เจ้าไปเรียนวิชามารพวกนี้มาจากไหนกัน  เจ้าบอกข้ามา ” !

    “ นั้นสิ!จากไหนกัน ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เหตุใดข้าถึงมีพลังแบบนี้เกิดขึ้น ”

    เหล่าปีศาจที่โดนกักขังทั้งหลาย ได้โอกาสก็รีบวิ่งหนีออกสู้โลกภายนอก 

     “ เร็วเข้า ”  พวกเจ้ารีบหนีไป !

     “ ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ หลิวเฟย ” เหล่าพวกปีศาจทั้งหลายต่างขอบคุณที่หญิงสาวได้ช่วยพวกเขา

    “ หวังว่าโอกาสหน้าพวกข้าจะได้ตอบแทนน้ำใจท่านนะ ” เจ้าปีศาจเสือดำกล่าว แล้วพวกเหล่าปีศาจก็ได้วิ่งหนีออกไปจากหอคอยขังปีศาจ

    “ ทำอย่างไรดีท่านเจ้าสำนัก พวกเหล่าปีศาจได้หนีออกไปยังโลกภายนอกแล้ว ”

    เจ้าสำนักตู้ฟางโกรธแค้นมาก “ เจ้าต้องตาย ” นางได้ยกกระบี่ขึ้นมาเพื่อที่จะจัดการหลิวเฟย แล้วทุกอย่างในหอคอยก็ได้เปลี่ยนเป็นน้ำค้างแข็ง มันดูเย็นยะเยือก ขาวโพลนไปหมด แสงสว่างจ้าโผล่เข้ามาในหอคอยปีศาจ ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในหอคอยกักขัง ด้วยอิทธิฤทธิ์ของผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ 

    “ ท่านอาจารย์ ” หลิวเฟยตะโกนดังขึ้น

    ทุกคนในหอคอยต่างหยุดนิ่ง เจิ้งหัว ได้เข้ามาเพื่อรีบรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านอาจารย์รับรู้

                    “ ท่านอาจารย์เจ้าคะ หลิวเฟย ได้คบคิดกับพวกปีศาจ สร้างเรื่องไม่ดีขึ้นเจ้าคะ ”

    “ ท่านอา ” !

    “ หลิวเฟยเจ้าจงไปสำนักผิดในสิ่งที่เจ้าได้ทำลงไป  หุบเหวหมิงชวน เป็นหุบเหวไว้เพื่อสำนักผิด เจ้าจงไปที่นั้นเดี๋ยวนี้ ! แล้วค่อยมาสำนักผิดกับข้า ” 

    “ ท่านอาจารย์ ” !! 

    “ ข้า ข้า ไม่ผิดนะเจ้าคะ ”

                    เหล่าพวกเจ้าสำนักเจิ้งหัว ยิ้มอย่างสะใจ

    หลิวเฟย ได้เข้ามายังหุบเหวหมิงชวน เพื่อสำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองได้ก่อขึ้น แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าเป็นเพราะอะไรทำไมถึงได้มีวิชาแปลกๆติดตัวแบบนี้ ตัวข้าเองก็ไม่เคยได้เล่าเรียนวิชาแบบนี้มา แล้วทำไมตัวข้าถึงมีวิชาพวกนี้ มันมาจากไหนกัน

                    “ ท่านอาจารย์ ” 

                    “ เจ้าสำนึกผิดหรือยัง ว่าเจ้าได้ทำอะไรไว้ ”

                    “ ข้ารู้ ว่าข้าปล่อยเหล่าปีศาจออกไป แต่ข้าไม่ได้มีเจตนา ข้าไม่รู้ว่าข้ามีวิชาแบบนี้ได้อย่างไรกันท่านอาจารย์ ” 

    หลิวเฟยได้แต่สะอื้นและร้องไห้ 

    “ ท่านอาเจิ้งหัวได้ไล่ฆ่าพวกเหล่าปีศาจ ข้าทนไม่ได้ จริงๆ เพราะพวกเหล่าปีศาจคือเพื่อนของข้า” 

    ท่านอาจารย์ได้ปล่อยพลังบางอย่างไปยังหลิวเฟย ทำให้นางเจ็บปวดนอนดิ้นทุรนทุราย ทันใดนั้นแสงสว่างก็ได้ปรากฏมาที่ตัวของหลิวเฟยในทันที แล้วดับวูบลงในพริบตา 

    “ จากนี้ไปเจ้าไม่ใช้ศิษย์สำนักตู้ฟางอีกต่อไป เจ้าจงออกไปจากเขาหมิงชวน ณ บัดนี้ ”

    “ ท่านอาจารย์ ” ความเสียใจได้หลั่งไหลออกมาจากสีหน้าของหญิงสาว น้ำใส ๆ ได้เอ่อ ออกมาโดยไม่รู้ตัว

     หลิวเฟย ร้องไห้เสียใจสำนึกในสิ่งที่ได้กระทำไป และสุดท้ายก็ได้ก้มลงคำนับท่านอาจารย์ ที่ได้ชุบเลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก คอยสอนวิชา  ดูแลนางมาอย่างดี “ หลิวเฟยเคารพการตัดสินใจของท่านอาจารย์เจ้าค่ะ ”

                    ท้องฟ้ายามเช้าดูสดใส ลดเย็นพัดมาระลอกนึง สองข้างทางรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี   หลิวเฟยได้เดินออกจากสำนักตู้ฟาง รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้ามันแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ ใจหายที่ต้องออกจากสำนักแห่งนี้ 

    “ ตั้งสติหน่อยนะหลิวเฟย เจ้าทำดีที่สุดแล้ว เจ้าต้องออกเดินทางด้วยตัวของเจ้าเองแล้วนะ ” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วเดินลงจากเขาหมิงชวน โดยที่ยังไม่รู้จุดหมายข้างหน้าว่าจะไปที่แห่งใด

                    อาจารย์ผู้มองศิษย์รักอยู่เบื้องบนเขาหมิงชวน ...

                    หลิวเฟยได้เดินลงเขามายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และตั้งปณิธานกับตัวเองว่า “ข้าจะต้องสู้และอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ซึ่งต่อแต่นี้ไป ก็จะไม่มีอาจารย์คอยช่วยเหลืออีกแล้ว ”

    สองข้างทางรายล้อมไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยกันที่ตลาด เต็มไปด้วยของป่านานาชนิด ของกินต่าง ๆ ที่ชาวบ้านได้นำมาวางขายกันยามเช้า มันช่างส่งกลิ่นหอม เย้ายวนเหลือเกิน มันดูน่าตื่นตา ตื่นใจ ไปเสียหมด สำหรับหญิงสาว 

    “ ข้าไม่เคยได้ลงมาจากเข้าหมิงชวนเลย มันเป็นเช่นนี้เองหรอ ” ...

    โกรก !!!

                    เสียงท้องหญิงสาวบ่งบอกว่าหิว...

                    “ กลิ่นอะไรนะมันช่างหอมเหลือเกิน ”

     “ อู้ย หอมๆ ข้าหิวจังเลย ”

    หลิวเฟยให้จมูกพิสูจน์กลิ่น แล้วเดินตามกลิ่นนั้นไป เจอหมั่นโถว ถาดใหญ่วางอยู่ตรงหน้า “ เถ้าแถ่ ข้าขอซื้อหมั่นโถวหน่อย ”

     “ ได้เลย ๆ ”  เถ้าแก่กล่าว

                    หลังจากทุกอย่างตกถึงท้องหลิวเฟย ...

    “ เฮ้อ…  อิ่มจัง ” 

    “ เอิ่ม … แล้วข้าจะทำอย่างไรต่อดีนะ  กินอิ่มแล้ว ข้าจะต้องไปที่ไหนดี บ้านข้าก็ไม่มี เงินติดตัวข้าก็ไม่มี  ข้าจะนอนพักที่ไหนกัน เราจะต้องไปเล่นงิ้วอย่างนั้นหรือเปล่านะ ” !

    “ โอ้ย ๆ ทำอย่างไรดีละ แล้วข้าจะต้องไปหาเงินมาจากที่ไหนกัน ” ... หลิวเฟย เดินไป บ่นไปตลอดทาง ผู้คนต่างก็พลุกพล่าน เต็มไปหมด หญิงสาวได้เดินไปเรื่อย ๆ   “ ข้าว่าคงต้องหางานทำแลกกับเงินแล้ว เพราะข้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ”

    ทันใดนั้น …

     ชายหนุ่มแปลกหน้า รูปร่างสูงตระหง่าน ชุดที่สวมใส่นั้นกลับปกปิดร่างกายมิดชิด สีดำสนิท แต่ภายในผ้าผืนบางๆนั้น กลับมองเห็นหน้าตาที่หล่อเหลา จมูกที่ดูโด่งเป็นสัน ริมฝีปากที่บางกริบ สายตาที่ดูดุดัน ผมยาวดำขลับ ได้หันหลังกลับไปมองหญิงสาวที่กำลังเดินบ่นไปเรื่อย ๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวว่ามีคนแอบจ้องมองอยู่

                    แอ๊ด...เสียงหญิงสาวเปิดประตู

    “ เถ้าแก่ ข้าขอถามท่านหน่อย โรงเตี๊ยมท่านพอจะรับคนงานบ้างหรือไม่ ตอนนี้ข้าต้องการเงินข้าจะทำงานตอบแทนท่าน ”

    “ เจ้ากำลังสนใจที่จะทำงานอย่างนั้นหรือ ” ! 

                    ”ใช่ๆ ท่านพอจะมีงานให้ข้าหรือไม่ ” 

    เถ้าแก่ได้ควานหาใบปลิวที่ทางการได้นำมาฝากเอาไว้

                     “ นี่ไง ข้ามีงานให้เจ้าทำ เจ้าอยากจะทำหรือเปล่า  ”

                    “ ได้สิข้าอยากทำ มันเป็นงานอะไรหรือเถ้าแก่ ”

                    “ เจ้าลองไปดูละกันนะ ประกาศจากทางการ ตอนนี้ในหมู่บ้านของข้า มันมีปีศาจงูกำลังอาละวาด ก่อกวน ทำร้ายชาวบ้านที่ไปหาของป่าบนเขา ชาวบ้านบาดเจ็บ ล้มตายไปก็หลายคนแล้ว ถ้าใครสามารถฆ่ามันได้ หรือจับส่งทางการได้ ก็จะได้เงินรางวัลอย่างงามเชียวนะ ”

                    “จริงหรือเถ้าแก่ ! ข้าขอประกาศหน่อย ”

    “ อ๊ะ ....เจ้าเอานี่ไปนะ ” หญิงสาวได้ประกาศมา ก้มมองแผ่นประกาศ เจ้าปีศาจงูหรือนี่ ข้านี่แหละจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง 

                     “ เจ้าเก่งอยู่แล้ว เจ้าต้องทำได้ ”

    “ ลุยเลย ” ! 

                    หญิงสาวเดินมุ่งหน้าเพื่อออกตามหาปีศาจงู ได้เดินทางเข้าไปในป่าลึก และลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า เสียงหิ่งห้อยร้องกันระงม ประจวบกับแสงรำไร ๆ ที่ได้สอดส่องลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ เสียงเหล่านกกาโผบินกันจอแจ กลับรัง หญิงสาวเดินเข้าไปในป่าลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งมืดค่ำ

    “ข้าต้องพักก่อนดีกว่ารู้สึกว่าเดินทางมาไกลมากแล้ว ทั้งเหนื่อยและเมื่อยไปหมด ”

    หญิงสาวได้ยกกระบอกน้ำมาดื่ม.... 

                    อ่า !

    “ ค่อยยังชั่ว ” หญิงสาวได้นั่งพักที่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ และเผลอหลับไปในที่สุด  ความมืดมิดไร้ขอบเขตห้อมล้อมรอบตัวนาง 

    ทันใดนั้น!

     สวบ ๆ  หญิงสาวพลางงัวเงีย รู้สึกเหมือนว่าจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างได้คลืบคลานเข้ามาหาตน และเสียงมันก็ดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ สวบ ๆ หญิงสาวตกใจตื่น ลืมตาขึ้นมา ! 

    “ ตรงนั้น ใครน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ” ใจหญิงสาวเต้นด้วยอาการตื่นกลัวอย่างบอกไม่ถูก

    “ใจดีสู้เสือเข้าไว้หลิวเฟย ” ...

    “ ออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าจะจัดการไม่ให้เหลือซาก ”สองมือของหญิงสาวกำหมัดแน่นพร้อมรับมือกับสิ่งตรงหน้า เหงื่อผุดพรายออกมาด้วยความตระหนก อารมณ์ความกลัวมันพุ่งขึ้นมา ในสมองครุ่นคิดไม่หยุดเพื่อที่จะหาหนทางเอาตัวรอด

                    สวบ ๆ เสียงฟ่อ ๆ ได้ดังออกมาอีกครั้ง หญิงสาวกำหมัดตั้งรับอย่างเต็มที่ พลันสายตาหญิงสาวได้เบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างสุดขีด “เจ้า… เจ้าคือปีศาจงูดำ” !  ตั้งสติไว้หลิวเฟย.... 

     เจ้างูดำตัวนั้นได้ชูคอสูงชันขึ้นมา ตาดุดัน ดวงตาสีแดงที่จ้องมองมายังหญิงสาว กระโจนใส่โดยที่นางไม่ทันได้ระวังตัว  หญิงสาวเบิกตาโต ร่างที่บอบบางทรุดลงไปกองที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรอีก…

    ฉึก !!!

     ชายหนุ่มร่างสูงตระหง่าน “ราวกับต้นสน” มองหน้าหญิงสาวตรงหน้า ที่กำลังหลับไหลไม่ได้สติ พลางได้ร่ายมนต์คาถาใส่ตัวหญิงสาว

     “ สิ่งที่ข้าต้องการมันอยู่ในตัวนาง ”!

    “ แต่เพราะเหตุใดถึงไม่สามารถเอามันออกมาได้ ”

    “ อาถาอาคมของอาจารย์สำนักตู้ฟางเป็นแน่ ที่ได้ปกป้องและคุ้มครองนางไว้  ต้องเลยตามเลยไปก่อน ข้าต้องทำให้นาง ไว้ใจข้าไปก่อน ”

                    “ ท่านอาจารย์ ๆ ช่วยข้าด้วย ”

     หลิวเฟยยังไม่ได้สติ สะลึมสะลือนึกย้อนไปตอนสมัยเด็กที่มีอาจารย์คอยอุ้มชู ดูแล  “ ท่านอาจารย์ ” หญิงสาวกำลังซบหน้าอยู่บนแผ่นหลังอันแข็งแกร่ง น้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว...

    “ อาหลงเจ้าพาใครมาหน้าตาน่ารักเชียว ” ป้าหลิวเอ่ยถาม (ป้าข้างบ้าน)

     ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมา แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ทุกคนในหมู่บ้านต่างแห่กันเข้ามาดูสาวน้อย ที่ซบอยู่บนแผ่นหลังชายหนุ่ม 

    “ จัดการนางเดี๋ยวนี้ ” ! พวกหนูน้อยในหมู่บ้าน ได้นำกิ่งไม้มาขว้างปาสาวน้อยที่กำลังหลับไม่รู้สึกตัว 

     โอ๊ย! 

    “ ใครทำข้าน่ะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ สายตากวาดมองไปรอบๆบริเวณ เจ้าเด็กพวกนี้เป็นใครกัน กองฟืน กองฟาง นี่คือที่ไหนกันแน่ 

    “ ข้าอยู่ไหนกันนะ” 

    โอ้ย! “ ข้าเจ็บจังเลยเจ้าพวกเด็กบ้า หยุดเอาไม้มาปาข้าเดี๋ยวนี้นะใคร… ใคร มันกล้ามามัดมือ มัดเท้า ข้าแบบนี้  ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ”หญิงสาวตื่นมาโวยวายกับสิ่งที่ตนโดนกระทำ

    แอ๊ด....เสียงเปิดประตูดังขึ้น ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่มีกองฟาง เต็มแน่นไปด้วยฟืนของชาวบ้าน หุ่นสูงระหงส์ ดวงตาสีดำสนิท ได้จองมองมาอย่างไม่ลดละและเยือกเย็น 

    หลิวเฟย จ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ลดละเช่นกัน  ดวงตาหญิงสาวช่างเปล่งประกายผิดปกติ

    อุ๊ย !! 

    “ ทำไมใจข้ามันเต้นแรงแบบนี้นะ” หลิวเฟย บ่นพึมพำในใจ ชายหนุ่มตรงหน้าข้าเป็นใครกัน 

    “  แย่แล้ว ๆ ทำไมหัวใจของข้าถึงเป็นแบบนี้กันนะ ” หญิงสาวได้พยายามรวบรวมสติกลับมา

    “ หยุดเดี๋ยวนี้นะไม่ต้องเข้ามาใกล้ ๆ ข้า เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าต้องลักพาตัวข้ามา ข้าจำได้ว่าข้ากำลังเจอเจ้าปีศาจงูตัวใหญ่ในป่านี่ แล้วทำไมข้าถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ”

    เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ !

    ชายหนุ่มตรงหน้าได้วางตะกร้าหมั่นโถว และน้ำไว้ให้แล้วเดินจากไป 

    “ข้าบอกให้เจ้าหยุด แล้วแก้มัดให้ข้าด้วย เจ้าจะให้ข้ากินได้อย่างไร ในเมื่อมัดมือ มัดเท้าข้าไว้แบบนี้ ให้ข้ากิน เหมือนหมูหรืออย่างไร?” 

    ชายหนุ่มหันกลับมา ก้มลงป้อนหมั่นโถวให้หญิงสาวที่กำลังโวยวายอยู่เบื้องหน้า หญิงสาวได้กินหมั่นโถวจึงหยุดโวยวาย   

    “ในที่สุด วันที่ข้ารอคอยก็มาถึง ข้าจะปล่อยเจ้าไปได้อย่างไรสาวน้อย ข้ารอวันนี้มานานแสนนาน ”

    ต้าหลงได้นึกย้อนไปถึงอดีตที่แสนเจ็บปวด( เจ้าบังอาจมากเจ้าหมาป่า วันนี้ฆ่าจะทำลายเจ้า เอาไข่มุกดำเพลิงของเจ้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ )

    “ เสียงนี้มันช่างก้องอยู่ในหูข้ามานานแสนนาน เมื่อนึกย้อนไปมันมีแต่ความเจ็บปวด ที่ทำให้ข้าต้องเสียพลังไปได้ถึงเพียงนี้ ”

    ชายหนุ่ม เย็นชาและเจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาทำให้ความไว้ใจที่ข้ามีให้กับเจ้าลู่หลานมันจบสิ้นลง....

    “ เจ้าคอยดูแล้วกันสาวน้อย ว่าพรุ่งนี้ข้าจะจัดการ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น